ถ่ายให้หมด เก็บให้ครบ! รวม 10 จุดถ่ายรูปรอบอุเอโนะ

1. ด้านในสถานี JR Ueno [Ueno Station]

สถานีอุเอโนะเป็นสถานีใหญ่ มีรถไฟผ่านหลายสายทั้งรถไฟสาย Yamanote และรถชินคันเซ็น จึงมีนักท่องเที่ยว พนักงานบริษัท และ คนมาซื้อของ อยู่เต็มแน่นสถานีตลอดวันค่ะ รับรองได้เลยว่า ภาพที่ถ่ายได้ให้ความรู้สึกเมืองของโตเกียวแน่นอนค่ะ 

ตัวสถานีก็ใหญ่เหมือนกับเขาวงกตเลยล่ะค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ ถ้าเดินตามป้ายไม่หลงแน่นอนค่ะ โดยที่บริเวณชานชาลาสองชั้นจะเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ถ้ามาช่วงเวลาดีๆ ก็สามารถถ่ายรูปวิวรถไฟเรียงกันสวยๆ ได้ด้วยนะคะ 

ย่านอุเอโนะขึ้นชื่อว่าเป็นย่านแห่งศิลปะ มีทั้งหอศิลปะและพิพิธภัณฑ์ สถานี Ueno จึงเป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้เลยค่ะ บริเวณภายในสถานีเต็มไปด้วยรูปภาพบนกำแพงและรูปปั้นต่างๆ มากมาย โดยรูปภาพที่ขึ้นชื่อเป็นพิเศษ อยู่บนกำแพงบริเวณทางออกกลางของสถานี รูปภาพนี้เป็นผลงานของศิลปิน Seiichiro Inokuma ดูแล้วจะสัมผัสได้ว่าเป็นภาพที่เต็มไปด้วยพลังจริงๆ ค่ะ 

2. Ueno zoo (上野動物園) [Ueno Station]

สวนสาธารณะอุเอโนะ (ชื่อเต็ม: สวนสาธารณะอุเอโนะองชิ) ตั้งอยู่ติดกับทางออก Kouen-guchi ของสถานี Ueno JR  ซึ่งถ้าไม่ได้มาที่นี่ ก็เรียกได้ว่ายังไม่มาถึงอุเอโนะเลยล่ะค่ะ ภายในสวนแห่งนี้ มีสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่ในประเทศญี่ปุ่นอยู่ ด้วยสัตว์ต่างๆ กว่า 500 ชนิด ทำให้มีผู้มาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย โดยสัตว์ที่ได้รับความนิยมที่สุดของสวนนี้ก็คือ หมีแพนด้านั่นเองค่ะ แค่ได้เห็นหมีแพนด้าสุดน่ารัก ก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ

สวนสัตว์อุเอโนะเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น สัตว์อย่าง สิงโต, ช้างและหมีแพนด้าก็มีอยู่ที่สวนสัตว์นี้ค่ะ นอกจากนี้ สัตว์หายากอย่าง Okapi ขาลายหรือ ลิงที่อาศัยอยู่แค่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้นอย่าง Nihonsaru ก็มีให้ชมด้วยค่ะ 

จุดถ่ายรูปยอดนิยมของสวนนี้อยู่ที่รูปปั้นหมีแพนด้าหน้าทางเข้าสวน และบริเวณรถโมโนเรลค่ะ นอกจากนี้ดอกไม้ต่างๆ ก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะมาเมื่อไหร่ก็ได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอนค่ะ

3. Shinobasu Well (不忍池) [Ueno Station]

บ่อ Shinobazu ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะอุเอโนะ  ที่นี่เป็นสถานีชมดอกบัวตั้งแต่สมัย Edo โดยตัวดอกบัวบานช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม จุดถ่ายรูปยอดนิยมคือศาลา Bentoudou บริเวณกลางบ่อ จะถ่ายคู่กับดอกบัวก็ยิ่งสวยเลยล่ะค่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าดอกบัวบานเฉพาะช่วงเช้านะคะ ถ้ามาช่วงกลางวันดอกบัวจะหุบ เพราะฉะนั้นถ้าอยากชมดอกบัวสวยๆ ละก็ตื่นเช้าแล้วรีบไปกันนะคะ

ส่วนบริเวณที่ไม่มีดอกบัว ก็สามารถใช้บริการปั่นเรือเป็ดได้ค่ะ ตัวเรือมีสีสันสวยงาม รูปเรือเป็ดลอยไปตามกระแสน้ำในบ่อหรือ รูปเรือเป็ดทอดสมอจอดอยู่ ไม่ว่ามุมไหนก็สวยแน่นอนค่ะ 

นอกจากนี้บริเวณ Shinobazu ก็สามารถชมซากุระสวยๆ ได้ด้วยนะคะ แต่สวนอุเอโนะหน้าซากุระจะมีคนเยอะมากๆ ถ้ายากได้ภาพถ่ายสวยๆ ล่ะก็แนะนำให้ไปเช้าหน่อยนะคะ 

4. Kiyomizu Kannon-dō (寛永寺清水観音堂) [Ueno Station]

Kiyomizu Kannon-do ตั้งอยู่บนเนินเหนือบ่อ Shinobazu ตัววัดถูกทาด้วยสีแดง vermilion (朱色) สวยโดดเด่น โดยตัววัดสร้างเลียนแบบมาจากวัด Kiyomizu ที่เกียวโต จุดถ่ายรูปยอดนิยมของวัดนี้อยู่ที่ “Tsuki no Matsu”(月の松) ค่ะ 「月」อ่านว่า “Tsuki” แปลว่าพระจันทร์ ส่วน 「松」อ่านว่า “Matsu” แปลว่า ต้นสน ดังนั้น「月の松」 คือต้นสนที่มีกิ่งงอเป็นวงกลมคล้ายพระจันทร์นั่นเอง ต้นสนต้นนี้อยู่ที่ ด้านล่างเวทีของวัด Kannon นะคะ 

เพื่อนๆ รู้จักภาพเขียนในรูปข้างบนไหมคะ ภาพเขียนข้างบนคือภาพเขียนของศิลปินชาวญี่ปุ่น Utagawa Hiroshige นั่นเองค่ะ สังเกตได้ว่าองค์ประกอบของภาพนี้แตกต่างจากภาพอื่นๆ ในสมัยเดียวกัน โดยเชื่อกันว่า Utagawa วาดภาพนี้โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปิน โพส-อิมเพรสชั่นนิสม์ เช่น แวนโก๊ะ  ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ไปชมวิวผ่านตั้นสน แบบเดียวกันกับในภาพข้างบนดูนะคะ 

นอกจากนี้ในหน้าดอกซากุระ ก็มี Light up ด้วยนะคะ ไม่ว่าจะถ่ายรูปจากเนินลงไปที่สวน หรือ จากสวนขึ้นมาที่วัดก็ได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอนค่ะ

5. Ueno Toshogu (上野東照宮) [Ueno Station]

Nikko Toshogu คือวัดที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อโชกุนในสมัย Edo แม้ตัววัดจะตั้งอยู่ที่จังหวัด Tochiki แต่ที่ Ueno ก็มีวัด Toshogu เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งก็คือวัด “Ueno-Toshogu” นี้นั่นเอง วัด Ueno-Toshogu ตกแต่งด้วยสีทองสง่าเหมือนวัดที่ Nikko สวยงามน่าถ่ายรูปมากๆ ค่ะ

ด้วยสีทองสง่าของวัด จึงสามารถชมได้จากระยะไกลด้วยค่ะ แต่อยากให้ทุกคนเข้าไปสังเกตดูใกล้ๆ เพราะจะสามารถสัมผัสได้ถึงฝีมือของช่างญี่ปุ่น ผ่านงานแกะสลักอันละเอียดอ่อน และที่ Ueno Toshogu นี้ก็มีคนน้อยกว่าที่ Nikko มากๆ จึงค่อยๆ เดินชมได้สบายๆ เลยค่ะ 

อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดนิยมอยู่ที่โคมไฟหินบริเวณทางเดินไปวัดค่ะ โคมไฟหินขนาดใหญ่กว่าตัวคนกว่า 200 โคมวางเรียงกันตลอดทางเดิน ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และต้นมอสที่ขึ้นบนตัวโคมไฟแสดงให้เห็นถึงประวัติอันยาวนานของสถานที่แห่งนี้

6. Shitamachi Museum (下町風俗資料館) [Keisei Ueno]

พิพิธภัณฑ์ Shitamachi คือพิพิธภัณฑ์ที่จำลองสภาพหมู่บ้านสมัยก่อนเกิดแผ่นดินไหวเมื่อศตวรรษที่ 20 และสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไว้ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้คุณสามารถเข้าไปเดินเล่นในบรรยากาศเมืองสมัย Edo ได้ค่ะ  เนื่องจากในปัจจุบันโตเกียวแทบไม่หลงเหลืออะไรเกี่ยวกับ Edo ให้เห็นแล้ว จึงนับว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่น่าลองไป นอกจากนี้ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของชาวบ้านในสมัยก่อนก็มีจัดแสดงไว้อีกด้วย สามารถไปลองสัมผัสหรือถ่ายรูปสวยๆ ก็ได้ค่ะ 

พิพิธภัณฑ์นี้เมื่อเข้าไปแล้ว จะรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในฉากหนังเลยล่ะค่ะ รับประกันได้เลยว่าเพื่อนๆ จะได้รูปสวยๆ ชิคๆ กลับไปแน่นอน ของที่จัดแสดงต่างๆ ก็เปลี่ยนไปในทุกฤดู และนอกจากนี้ยังมีการสาธิตงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่เปิดให้บริการเป็นช่วงๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเพลิดเพลินได้ทุกครั้งที่ไปแน่นอนค่ะ 

งานนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีอยู่มากมาย เช่น “Dagashi” (駄菓子) งานแสดงขนมราคาถูกที่เป็นที่นิยมของเด็กในสมัยก่อน ขนมแต่ละชิ้นราคาต่ำกว่า 100 เยน ทั้งยังมีแพคเกจสีสันสดใส นอกจากนี้ยังมีงานแสดงของเล่นเด็กต่างๆ อีกด้วยค่ะ แน่นอนว่าสามารถลองเล่นได้ จึงได้เห็นภาพเด็กๆและผู้ใหญ่ต่างเล่นกันของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เหมือนได้ย้อนกลับไปวัยเด็กเลยล่ะค่ะ

7. National Museum of Nature and Science (国立科学博物館) [Ueno Station]

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาตินี้ตั้งอยู่ข้างในสวนอุเอโนะ อาการหลักของพิพิธภัณฑ์หรือ Nihon-kan สร้างมาตั้งแต่ 100 ปีก่อน โดยในปี 2004 อาคารได้รับการปรับปรุงใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังรู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์ที่เอ่อล้นออกมาจากตัวอาคารที่สง่างาม

สัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือรูปปั้นปลาวาฬสีฟ้าขนาด 30 เมตร ที่ถึงจะเป็นแค่รูปปั้นหินก็ตาม แต่ลักษณะท่าทางของปลาวาฬให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าปลาวาฬกำลังว่ายน้ำอยู่จริงๆ ไม่ว่าจะถ่ายรูปจากใกล้หรือไกลก็ได้ภาพสวยๆ แน่นอนค่ะ

ข้างในตัวอาคารสามารถถ่ายรูปได้ด้วยนะคะ แต่ห้ามใช้ขาตั้งกล้อง ไม้เซลฟี่ และแฟลช ส่วนจัดแสดงมีอยู่มากมาย ตั้งแต่สัตว์สตาฟ, โครงกระดูกของสัตว์ต่างๆ ไปจนถึง เทคโนโลยีอวกาศ นอกจากจะสนุกแล้วยังได้ความรู้อีกด้วยนะคะเนี่ย

8. Shitaya Shrine (下谷神社) [Inarichou]

ศาลเจ้า Shitaya อยู่ห่างจากสถานี Ueno เพียงแค่ 6 นาทีเท่านั รูปถ่ายข้างบนคือ รูปประตูของศาลเจ้าผ่านตึกที่เรียงรายในละแวกนั้นค่ะ 

จุดที่น่าสนใจของศาลเจ้านี้คือ เป็ดที่เลี้ยงและปล่อยไว้ในศาลเจ้านั่นเองค่ะ เป็ดน้อยตัวเล็กๆ น่ารัก เดินไปมาไม่กลัวคน และถ้าเป็ดน้อยอารมณ์ดีล่ะก็เข้าไปลูบเล่นได้ด้วยนะคะ 

ในศาลเจ้า Inari ทั้งหมด ศาลเจ้านี้มีประวัติยาวนานที่สุดในโตเกียว โดยสร้างเมื่อ 730 ปีก่อน แน่นอนว่าจำนวนเสาประตูศาลเจ้านั้นอาจจะสู้ศาลเจ้า Fujimoto Inari ที่เกียวโตไม่ได้ แต่ที่ศาลเจ้านี้ก็มีทางเดินสวยๆ ใต้เสาเช่นเดียวกันค่ะ ที่ศาลเจ้าหลักมีภาพเขียนรูปมังกรของ Oya, Yokoyama Taikan อยู่ด้วย และแม้ตัวศาลเจ้าอาจจะเล็กสักหน่อย แต่ก็มีจุดให้ถ่ายรูปเต็มไปหมดเลยค่ะ 

9. Ameya-Yokocho (アメヤ横丁) [Ueno Station]

Ameya-Yokocho คือชื่อเต็มของซอย Ameyoko ที่ทุกคนคุ้นเคยกันนั่นเองค่ะ เป็นซอยยาว 500 เมตร ตั้งแต่สถานี Ueno ไปจนถึงสถานี Okachimachi ระหว่างทางมีร้านค้ามากกว่า 400 ร้าน และเป็นสถานที่ที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนที่มาหาซื้อของมากมาย

ที่ Ameyoko มีเสื้อผ้าและอาหารต่างๆ ขายในราคาที่ถูกจนไม่อยากจะเชื่อ และยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากมายหลายชนิด แค่ถ่ายรูปบรรยากาศอันครึกครื้นในซอยระหว่างเดินเล่นก็สนุกแล้วค่ะ

ที่ Ameyoko มีประวัติยาวนานกว่า 70 ปี ร้านเหล้าต่างๆ ก็อยู่คู่กับซอยนี้มานาน ลองจินตนาการภาพของคนที่นั่งหลังพิงเก้าอี้ ดื่มเหล้าในมือใต้แสงตะเกียง ถ้าอยากถ่ายภาพของจริงละก็ต้องมาที่นี่แล้วนะคะ ! 

10. Kyu-Iwasaki-tei Garden (旧岩崎邸庭園) [Yushima Station]

สวน Kyu-Iwasaki-tei ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Ueno เพียงแค่ 13 นาทีเท่านั้น โดยพื้นที่นี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ของตระกูล Mitsubishi Zaibatsu Iwasaki ตัวสวนและอาคารปรับปรุงมากจากอาคารเก่าของ Kayamachi  ภายในบริเวณนั้นมีทั้งอาคารสไตล์ญี่ปุ่น, อาคารสไตล์ตะวันตกและห้องบอลรูม อาคารสไตล์ตะวันตกได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษนาย Josiah Condor และตัวอาคารนี้ถูกยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ 

ในตัวอาคารสามารถถ่ายรูปได้ แต่สามารถถ่ายได้เฉพาะในช่วงวันธรรมดาเท่านั้นนะคะ แต่ห้ามใช้ขาตั้งกล้องและแฟลชค่ะ ข้างในอาคารขอบอกว่าสวยตะลึงจนลืมหายใจแน่นอนค่ะ เป็นห้องที่ทั้งหรูหรา ทั้งสง่างาม ขอเชิญชวนให้ทุกคนเข้าไปถ่ายรูปกันให้เต็มที่เลยนะคะ 

ที่สวน Kyu-Iwasaki-tei ไม่ได้มีแค่อาคารตะวันตกเท่านั้น แต่ยังมีเรือนญี่ปุ่นอีกด้วย ดีไซน์ก็เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ และมีลานนั่งยาวไว้นั่งชมสวนญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญคือขอแนะนำให้ไปตอนเช้า ซึ่งคนไม่ค่อยเยอะ ได้รูปถ่ายสวยๆ กลับไปแน่นอนค่ะ

 

จบไปแล้วนะคะสำหรับสถานที่ถ่ายรูปรอบเมืองอุเอโนะ วันนี้เราได้นำเสนอสถานที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่ที่ๆ ทุกคนแวะไป ไปจนถึงจุดที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ขอเชิญชวนให้เพื่อนๆ ทุกคน ไปถ่ายรูปเก็บความทรงจำดีๆ กันนะคะ