9 โรงแรมและเรียวกังในชูโกคุที่มีอาหารอร่อยให้ลิ้มลอง
ภูมิภาคชูโกคุประกอบขึ้นด้วย 5 จังหวัดทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดทตโตริ ชิมาเนะ โอคายาม่า ฮิโรชิม่า และยามากุจินั้น เนื่องจากอยู่ติดกับทะเลญี่ปุ่นและทะเลในเซโตะ ที่พักหลายแห่งในภูมิภาคนี้จึงมีเมนูอร่อยๆ จากอาหารทะเลสดใหม่ให้ลิ้มรสอย่างเต็มที่ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำที่พัก 9 แห่งที่มีอาหารอร่อยดังกล่าว
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
9 โรงแรมและเรียวกังในชูโกคุที่มีอาหารอร่อยให้ลิ้มลอง
1. ANA Crowne Plaza Hotel Okayama (ANAクラウンプラザホテル岡山)
ANA Crown Plaza Hotel Okayama โรงแรมแสนสะดวกที่เชื่อมต่ออยู่กับสถานีรถไฟ ใช้เวลาเดินจากจากสถานีโอคายาม่าของรถไฟ JR ประมาณ 2 นาที
ห้องพักแบ่งออกกว้างๆ เป็น 4 แบบ ได้แก่ Standard, Premium, Suite, และ Universal ตกแต่งภายในในแนวโมเดิร์นที่ดูเรียบง่าย เป็นโครงสร้างที่เน้นการใช้งานและคำนึงถึงความสะดวกสบาย ห้องที่กว้างขวางนี้มีหน้าต่างบานใหญ่ที่ดูปลอดโปร่ง สามารถรับชมทิวทัศน์ของโอคายาม่าที่สวยงามราวกับภาพวาด
มื้ออาหารเป็นไคเซกิ (เซ็ตอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เสิร์ฟหร้อมน้ำชา) หรูหราที่เสิร์ฟให้รับประทานที่ Washoku Dining Kuriyasen (和食ダイニング 廚洊) คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับวัตถุดิบตามฤดูกาลของโอคายาม่า ในรูปแบบคอร์สที่ใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบหรูหราตามฤดูกาลที่คัดสรรมาโดยสายตาอันแหลมคมของหัวหน้าเชฟ เช่น เนื้อวากิวที่โดดเด่นของโอคายาม่า และหมึกทาโกะของทะเลในเชโตะ อีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดก็คือ การแสดงทำอาหารที่มุมเทปปังยากิ ซึ่งเนื้อวากิว อาหารทะเลตามฤดูกาล และผักต่างๆ จะถูกปรุงให้เห็นกันต่อหน้าต่อตา
นอกจากนี้ บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าของที่นี่ก็มีเสียงตอบรับที่ดีเช่นกัน สามารถลิ้มรสเมนูญี่ปุ่นจากปลาตามฤดูกาล และเมนูตะวันตกที่ให้ความสำคัญกับไข่สดใหม่และน้ำผลไม้โฮมเมด
2. Ryori Ryokan Tsurugata (料理旅館 鶴形)
Ryori Ryokan Tsurugata ที่พักที่สะดวกต่อการเที่ยวคุราชิกิ (倉敷) ตั้งอยู่ใจกลางย่านประวัติศาสตร์คุราชิกิบิคัง (倉敷美観地区) รีโนเวทมาจากบ้านพ่อค้ายุคเอโดะ (ปี 1603-1868) เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของคุราชิกิ มีอายุไล่เลี่ยกับคฤหาสน์โอฮาระ (大原邸) และคฤหาสน์โอฮาชิ (大橋邸) ที่ถูกระบุให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า
ทุกจุดภายในอาคารสามารถสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีห้องพักทั้งหมด 11 ห้อง ยกตัวอย่างเช่น ห้องที่ดัดแปลงมาจากโรงเก็บของ และห้องที่สามารถชมสวนส่วนในและสวนกว้างๆ ที่ล้อมรอบต้นสนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี
มื้ออาหารเป็นอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับที่ใช้ประโยชน์จากผลผลิตท้องถิ่นของโอคายาม่า และของอร่อยตามฤดูกาลจากภูเขาและท้องทะเล ร้านอาหารที่เชื่อมต่ออยู่กับที่พักมีเมนูขึ้นชื่อเป็น ชาสึเคะ (ข้าวราดน้ำชา) หน้าปลาไท มีเนื้อปลาไทชุ่มซอสงา วาซาบิที่มีกลิ่นหอม และสาหร่ายญี่ปุ่น หลังจากเทชาร้อนๆ ลงไป ก็จะอบทิ้งไว้สักพักหนึ่งก่อนรับประทาน เป็นชาสึเคะรสชาติละเอียดอ่อนที่สามารถลิ้มรสได้ที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ อีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมก็คือ อาหารไคเซกิหน้าตาสวยงามที่ประกอบไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ซาชิมิ ซุป ของต้ม ของย่าง ของทอด และของดองน้ำส้มสายชู
3. Hotel Ofutei (ホテル鴎風亭)
Hotel Ofutei อยู่ในโทโมะโนะอุระ (鞆の浦) ที่สามารถสัมผัสทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลในเชโตะ และวิวบ้านเมืองทางประวัติศาสตร์ที่มีอ่าวซึ่งหลงเหลือมาตั้งแต่ยุคเอโดะ เป็นที่พักที่ได้รับความนิยมจากบ่ออาบน้ำกลางแจ้งบนด่านฟ้า ให้ความรู้สึกราวกับได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้า
ห้องพักมีบรรยากาศแนวญี่ปุ่นสมัยใหม่ มีห้องที่โดดเด่นให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น ห้อง Suite พร้อมอ่างกุซซี่, ห้อง Semi Suite พร้อมห้องอาบน้ำชมวิว, และห้อง Premium Twin ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคาร ทั้งยังมีพรีเมี่ยมเลานจ์ที่ให้บริการเฉพาะแขกที่เข้าพักในห้องบางประเภท สามารถเพลิดเพลินไปกับเบียร์สด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นานาชนิด กาแฟ ซอฟท์ดริงค์ และขนมหวาน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
มื้ออาหารสามารถเลือกรับประทานได้หลายที่ ได้แก่ Shokujidokoro Kairi (食事処 海浬) ที่เป็นแบบห้องส่วนตัว, Dining Gen (ダイニング舷) ที่มีบรรยากาศน่าผ่อนคลาย, และรับประทานอย่างสบายๆ ที่ห้องของตัวเองพลางชมวิวของทะเลในเชโตะ ส่วนเมนูนั้นก็จะเรียงรายไปด้วยเมนูจากปลาของทะเลในเชโตะ เช่น อานาโงะ เมบารุ ฮาโมะ และชิมะอาจิ รวมถึงปลาซากุระไทที่เป็นของขึ้นชื่อรสชาติยอดเยี่ยมของโทโมะโนะอุระ โดยจะมีให้เห็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น คุณจะได้ลิ้มรสปลาซากุระไทในหลากหลายรูปแบบ เช่น ชาสึเคะหน้าปลาไท ต้มหัวปลาไท ชาบูปลาไท และข้าวหน้าปลาไท
4. Miyajima Kinsuikan (宮島 錦水館)
Miyajima Kinsuikan ที่พักเก่าแก่ประวัติศาสตร์กว่า 120 ปีที่เปิดกิจการขึ้นเมื่อปี 1920 อยู่ในตำแหน่งที่เดิน 5 นาทีจากท่าเรือมิยาจิมะที่เป็นจุดจอดเรือข้ามฟาก สะดวกต่อการท่องเที่ยว เดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (嚴島神社) มีโลเคชั่นที่ด้านหน้าแผ่กว้างไปด้วยทะเลในเซโตะที่สวยงาม และสามารถชมโอโทริอิ (大鳥居) ซุ้มโทริอิใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของมิยาจิมะ ได้จากระเบียงบนด่านฟ้า คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของมิยาจิมะ เช่น พระอาทิตย์ตกดินสวยๆ น้ำขึ้นน้ำลงจากคลื่นทะเลที่แผ่วเบา และโอโทริอิที่เปิดไฟไลท์อัพในช่วงกลางคืน
ห้องพักมีอยู่ 9 แบบ หนึ่งในนั้นก็คือห้องพิเศษพร้อมออนเซ็นกึ่งกลางแจ้ง สามารถสัมผัสช่วงเวลาหรูหราของการแช่น้ำไปพร้อมๆ กับชมวิวของทะเลในเซโตะ
ออนเซ็นของที่นี่มีต้นน้ำเป็นของตัวเองอย่าง 100% เป็นออนเซ็นธรรมชาติจากใต้บาดาลที่มีส่วนผสมของน้ำทะเล มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และให้ความอบอุ่นอย่างยาวนาน
ในส่วนของมื้ออาหารนั้น มีการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นอย่างไม่หวง เช่น ผักท้องถิ่นของฮิโรชิม่า เนื้อวัวฮิโรชิม่ากิว และอาหารทะเลสดใหม่จากทะเลในเซโตะ มีอาหารไคเซกิให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น Bimi-Niku (美味肉編) ที่มีเนื้อฮิโรชิม่ากิวให้ลิ้มลอง, Bimi-Sakana (美味魚編) ที่สามารถลิ้มรสปลาตามฤดูกาลของทะเลในเซโตะในวิธีการปรุงที่อร่อยที่สุด, และ Bimi-Kyoen (美味饗宴) ที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากรับประทานทั้งเนื้อและปลาเป็นอาหารจานหลักอย่างหรูหรา
5. Kasuien Minami (佳翠苑 皆美)
Kasuien Minami ตั้งอยู่ในทามะสึคุริออนเซ็น (玉造温泉) ที่ผุดขึ้นริมทะเลสาบชินจิ (宍道湖) ของเมืองมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ กล่าวกันว่าทามะสึคุริออนเซ็นเป็นหนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงไปทั่วญี่ปุ่นมาแต่โบราณในฐานะออนเซ็นผิวงาม บริเวณใจกลางของย่านออนเซ็นแห่งนี้เรียงรายไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร และร้านของฝาก มีเสน่ห์เป็นทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของแม่น้ำทามายุกาวะ (玉湯川) ที่ไหลเข้าสู่ทะเลสาบชินจิ
ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ เช่น ห้องญี่ปุ่น ห้องญี่ปุ่นผสมตะวันตกแบบมีเตียง ห้องที่มาพร้อมกับบ่ออาบน้ำที่ปล่อยน้ำไหลมาจากต้นน้ำ และห้องพิเศษสุดหรูหรา มีห้องกว่า 100 ห้องที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง รับรองว่าจะพบกับห้องที่ตรงกับความต้องการของคุณอย่างแน่นอน
มื้ออาหารของที่นี่เรียงรายไปด้วยเมนูที่สามารถหาได้ตามร้านเก่าแก่เท่านั้น เช่น สเต็กหอยอาวาบิ สเต็กเนื้อวัวชิมาเนะ และปลาซุซุกิย่างโฮโชยากิ (鱸の奉書焼き) อาหารพื้นเมืองที่นำปลาซุซุกิของทะเลสาบชินจิไปห่อด้วยกระดาษโฮโช (กระดาษญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง) แล้วนำไปย่างแบบอบไอน้ำ ช่วยกักเก็บรสอูมามิไว้ภายใน
ในส่วนของมื้อเช้านั้น เป็นบุฟเฟ่ต์สุดอลังการของอาหารญี่ปุ่นผสมตะวันตกกว่า 50 เมนู โดยเน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดี เช่น ซุปหอยชิจิมิของทะเลสาบชินจิ และข้าวนิตะที่หุงขึ้นใหม่ๆ
6. Ryotei Yamanoi (旅亭 山の井)
Ryotei Yamanoi เป็นที่พักในทามะสึคุริออนเซ็นเช่นเดียวกับที่พักในข้อที่แล้ว
ภายในอาคารและห้องพักมีบรรยากาศแนวญี่ปุ่นที่น่าผ่อนคลาย
ในส่วนของออนเซ็น บ่อกลางแจ้งสำหรับผู้ชายมีเสียงน้ำตกให้เพลิดเพลิน ส่วนบ่อกลางแจ้งสำหรับผู้หญิงก็มีบรรยากาศที่ห้อมล้อมไปด้วยดงไผ่
มื้อเช้าได้รับความนิยมจากไคเซกิที่เรียงรายไปด้วยเมนูอร่อยมากมาย เช่น ชาบูปลาโนโดกุโระ เนื้อท้องถิ่น 3 ชนิด หอยอาวาบิสดนึ่งสาเก และเนื้อวัวชิมาเนะ ในฤดูหนาวจะมีปูมัตสึบะที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อเน้นๆ สามารถดื่มด่ำไปกับไคเซกิปูสดที่มีปูมัตสึบะรสหวานหรูหราให้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่ สาเกท้องถิ่นของชิมาเนะก็มีอยู่หลากหลายเช่นกัน ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชอบสาเกญี่ปุ่น
7. Kansuitei Kozeniya (観水庭こぜにや)
Kansuitei Kozeniya เรียวกังเก่าแก่ใจกลางตัวเมืองทตโตริ อยู่ห่างจากสถานีทตโตริโดยเดินประมาณ 10 นาที
ภายในพื้นที่มีต้นน้ำออนเซ็นที่เป็นน้ำพุเกลือซัลเฟต สามารถเพลิดเพลินไปกับออนเซ็นที่ปล่อยไหลมาจากต้นน้ำ มีให้เลือกทั้งแบบบ่อกลางแจ้งในสวน บ่อจากไม้ฮิโนกิ และบ่อหิน ทางเดินไปโรงอาบน้ำนั้นเบ่งบานไปด้วยดอกไม้ต่างๆ เช่น ดอกบ๊วยและดอกท้อ สามารถสัมผัสถึงบรรยากาศเฉพาะตัวของฤดูกาลทั้งสี่
ห้องพักเป็นห้องญี่ปุ่นที่น่าผ่อนคลาย สามารถพักผ่อนไปกับช่วงเวลาแสนพิเศษ
ความภาคภูมิใจของโรงแรมแห่งนี้คือ อาหารที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบจากภูเขาและทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ของทตโตริ เมนูสั่งเพิ่มเติมก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ชาบูเนื้อวากิว สเต็กเนื้อสันคุโรเกะวากิว และหอยอาวาบิย่าง ในกรณีที่มาเข้าพักในฤดูหนาว ก็ไม่ควรพลาดปูมัตสึบะที่สดใหม่และหรูหราเป็นอย่างมาก
8. Mansuirou (万翆楼)
Mansuirou เป็นเรียวกังเก่าแก่ในมิซาซะออนเซ็น (三朝温泉) ของจังหวัดทตโตริ ชื่อ "มิซาซะ (สามเช้า)" ของออนเซ็นนี้มีที่มาจากเรื่องเล่าว่า "หากมาเข้าพักสามคืนและพบกับยามเช้าสามครั้ง ก็จะทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง" เป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงจากน้ำพุเรดอนชั้นแนวหน้าของโลก
ห้องพักมีห้อง Suite 3 แบบ ได้แก่ Misasa Luxury Suite, Misasa Universal Suite, และ Misasa Suite ห้องที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษก็คือ Misasa Luxury Suite ซึ่งมาพร้อมกับบ่ออาบน้ำกลางแจ้งส่วนตัว สามารถเพลิดเพลินไปกับสุดยอดทิวทัศน์ของแนวภูเขาสีเขียวจากชั้นบนสุดของอาคาร
มื้ออาหารเป็นไคเซกิที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น Kihon Kaiseki (基本会席) แบบมาตรฐานที่มีเมนู 12 รายการ, Ryohikaeme Kaiseki (量控えめ会席) ที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ, และ Kiwami Kaiseki (極み会席) ที่เป็นคอร์สคุณภาพสูงที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นชั้นเลิศของทตโตริอย่างไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นปลาโนโดกุโระ ปู เนื้อวัวทตโตริ หรือกุ้งโมซะ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูยอดฮิตอื่นๆ อย่างครีมซุปจากปูและกุ้งโมซะ ซึ่งชนะเลิศการแข่งขันอาหารขึ้นชื่อประจำจังหวัดทตโตริ และไคเซ็นอิชิยากิ (海鮮石焼) ที่นำหมึกยาริ กุ้งคุรุมะ หอยอาวาบิ และอาหารทะเลอื่นๆ ไปย่างด้วยหินร้อนๆ
9. Hagi no Yado Tomoe (萩の宿 常茂恵)
Hagi no Yado Tomoe อยู่ในเมืองฮางิ (萩市) ของจังหวัดยามากุจิ เป็นที่พักที่สร้างขึ้นในบรรยากาศเมืองชานปราสาท มีพื้นที่กว้างขวาง กว่า 1 ใน 3 เป็นสวนญี่ปุ่นสวยๆ ที่ได้รับการดูแลอย่างดี และสามารถรับชมได้จากห้องพักทุกห้อง ทั้งยังมีการเปิดไฟไลท์อัพในช่วงกลางคืนอีกด้วย
ห้องพักมีทั้งหมด 25 ห้อง โดยพื้นฐานแล้วเป็นห้องแบบญี่ปุ่น แต่ห้องญี่ปุ่นผสมตะวันตกในแนวโมเดิร์นก็มีให้บริการอยู่เช่นกัน มีโครงสร้างกว้างขวางและสามารถผ่อนคลายได้อย่างสบายๆ
มื้ออาหารให้ความสำคัญทั้งด้านรสชาติ หน้าตา และสีสัน ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และเสิร์ฟในวิธีการปรุงที่ดีที่สุด ฤดูใบไม้ผลิมีปลาอามาไดที่ส่งตรงมาจากทะเลเปิดมิชิมะ (見島沖) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ส่วนฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวก็มีโมโดริคัตสึโอะ (ปลาคัตสึโอะที่กลับมาจากหลบอากาศร้อน) ปลาอันโค รวมถึงปลาปักเป้าที่เป็นของขึ้นชื่อของฮางิ
ส่งท้าย
ทั้งหมดนี้เป็นที่พักพร้อมอาหารอร่อยที่เราได้คัดสรรมาแนะนำให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นแห่งไหนก็มีเมนูที่น่าอร่อย สมกับที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่ หากมีโอกาสก็ไม่ควรพลาดที่จะลองลิ้มรสดูสักครั้ง
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่