10 โรงแรมและเรียวกังสำหรับชมวิวเมืองเก่าในนารา

10 โรงแรมและเรียวกังสำหรับชมวิวเมืองเก่าในนารา

1. Ando Hotel Nara Wakakusayama

ที่พักแห่งแรกที่เราขอแนะนำก็คือ Ando Hotel Nara Wakakusayama ที่อยู่ครึ่งทางก่อนถึงยอดเขาวาคาคุซะ (若草山) ภูเขาที่อยู่สุดขอบตะวันออกของสวนสาธารณะนารา สามารถกวาดสายตามองทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมของมรดกโลกที่กระจัดกระจายอยู่ในธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นวัดโทไดจิ เจดีย์ห้าชั้นของวัดโคฟุคุจิ หรือแม้แต่ป่าโบราณคาซุงะยามะ (春日山原始林) แดนศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าคาซุงะไดชะที่ได้รับการอนุรักษ์มากว่าพันปี โรงแรมนี้ตั้งคอนเซ็ปต์ไว้ว่า "ความสบายใจที่เกิดจากการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ" และมุ่งแสวงหาการดูแลต้อนรับที่มีคุณภาพสูง รับรองว่าจะช่วยมอบช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย และปลดปล่อยคุณจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน

ห้องพักมีอยู่ทั้งหมด 6 แบบ ทุกแบบมีบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลาย ออกแบบโดยให้ความสำคัญกับวัสดุ เช่น ผ้าผิวสัมผัสอ่อนโยนที่เป็นผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของนารา ดินที่สัมผัสได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และกลิ่นหอมของไม้ที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ห้องที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษก็คือ Penthouse Suite ที่มีระเบียงซึ่งมาพร้อมกับเตาไฟและบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง และ Panoramic View Twin ที่จากตัวห้องสามารถมองทิวทัศน์เมืองเก่าได้อย่างกว้างขวาง

บนด่านฟ้าก็มีบ่ออาบน้ำกลางแจ้งแบบเช่าเหมาอยู่เช่นกัน สามารถจองและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาอันหรูหราของการแช่น้ำและชื่นชมทิวทัศน์อย่างไม่มีใครรบกวน สำหรับที่ห้องอาหารหลัก คุณจะได้ลิ้มรสเมนูมากมายที่สืบทอดวัฒนธรรมอาหารของนารา ในขณะเดียวกันก็ได้นำวัตถุดิบและเทคนิคการปรุงแบบฝรั่งเศสเข้ามาผสมไว้ด้วย ในเช้าวันรุ่งขึ้น คุณจะได้เริ่มต้นวันใหม่ที่แสนวิเศษด้วยมื้อเช้าแบบชุดอาหารญี่ปุ่น ปรุงขึ้นโดยวัตถุดิบตามฤดูกาลที่หาได้ในท้องถิ่น

2. Miroku Nara by The Share Hotels

อีกหนึ่งที่พักที่เราขอแนะนำก็คือ Miroku Nara by The Share Hotels ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป่าโบราณคาซุงะยามะ ฝั่งตะวันออกของโรงแรมแผ่กว้างไปด้วยสวนสาธารณะนารา ส่วนฝั่งตะวันตกก็เป็นมารามาจิ (ならまち) ที่มีทัวทัศน์บ้านเมืองเก่าแก่หลงเหลืออยู่ โรงแรมนี้มีคอนเซ็ปต์ว่า "อยู่ร่วมกับท้องถิ่น" เป็นโรงแรมที่สัมผัสได้ถึง "ปัจจุบัน" ของนารา ที่ได้ยอมรับสิ่งที่ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เช่น ของเก่ากับของใหม่ เมืองกับธรรมชาติ

ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 7 แบบ รองรับได้ทั้งทริปคนเดียวและทริปหมู่คณะ ห้องที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษก็คือ ห้องญี่ปุ่นผสมตะวันตกแบบเตียงสองเตียงติดกัน ซึ่งมีชื่อว่า Superior with Japanese-style and Mountain View สามารถผ่อนคลายได้อย่างสบายๆ พลางชมเจดีย์ห้าชั้นของวัดโคฟุคุจิและป่าโบราณคาซุงะยามะผ่านทางหน้าต่าง

คาเฟ่ที่เชื่อมต่ออยู่กับโรงแรมนั้นควบคุมดูแลโดย Kurumi no Ki (くるみの木) คาเฟ่ชื่อดังของนาราที่มีแฟนอยู่ทั่วญี่ปุ่น มีระเบียงเปิดโล่งที่หันหน้าเข้าบ่อน้ำ โดยจะมีกวางแวะมาเยี่ยมชมเป็นครั้งคราว ร้านนี้แบ่งเวลาทำการออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วง Breakfast ที่เสิร์ฟมื้อเช้าแนวญี่ปุ่นผสมตะวันตกที่เต็มไปด้วยสารอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่น และช่วง Cafe & Bar ที่สามารถลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งผสมผสานของดองดั้งเดิมและขนมหวาน เข้ากับเครื่องดื่มต่างๆ อย่างชายามาโตะ (大和茶) เบียร์ท้องถิ่น และไวน์ผลไม้โฮมเมด นอกจากนี้ โรงแรมแห่งนี้ยังสามารถรองรับภาษาอังกฤษได้ด้วย

3. Hotel New Wakasa (ホテルニューわかさ)

Hotel New Wakasa เป็นอีกหนึ่งที่พักที่ควรเช็คข้อมูลไว้ ตั้งอยู่ในจุดที่เดิน 5 นาทีก็ถึงอาคารไดบุตสึเด็น (大仏殿) ของวัดโทไดจิ จากตัวห้องและระเบียงบนด่านฟ้าสามารถกวาดสายตาชมทิวทัศน์ที่โดดเด่นของนารา เช่น สวนสาธารณะนาราและภูเขาวาคาคุซะ เป็นเรียวกังที่ฝั่งตะวันตกสามารถชมภูเขาอิโคมะ (生駒山) ที่ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างเส้นแบ่งเขตจังหวัดของนาราและโอซาก้า

หากต้องการเพลิดเพลินกับวิวเมืองเก่าอย่างเต็มที่ ก็ขอแนะนำให้จองห้องที่มาพร้อมกับบ่อาบน้ำกลางแจ้ง คุณจะได้สัมผัสช่วงเวลาที่หรูหรา โดยแช่บ่อกลางแจ้งพลางชมทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาและฤดูกาล ห้องแต่ละห้องที่ดีไซน์ที่ต่างกัน สามารถเลือกได้ตามความชอบของคุณเอง บริเวณด่านฟ้าของเรียวกังมีสวนสำหรับแขกที่มาเข้าพักโดยเฉพาะ สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามเย็นและวิวสวยๆ จากไฟไลท์อัพ

นอกจากนี้ยังมีบ่ออาบน้ำชมวิวแบบเช่าเหมา มาพร้อมกับบ่อจากไม้ฮิโนกิที่สามารถลงแช่โดยเหยียดแข้งขาได้อย่างสบายๆ สามารถใช้บริการได้ในราคา 3,850 เยนต่อ 50 นาที ในส่วนของมื้อค่ำ จะเสิร์ฟเป็นอาหารไคเซกิ (ชุดอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เสิร์ฟพร้อมน้ำชา) ที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาลและของขึ้นชื่อของนารา สำหรับมื้อเช้านั้น คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับเสน่ห์ของอาหารเฉพาะตัวของพื้นที่นี้ และอาหารแนวญี่ปุ่นที่เสิร์ฟพร้อมกับข้าวต้มชายามาโตะ ซึ่งเป็นเมนูพื้นเมืองของนารา เป็นโรงแรมที่สามารถรองรับได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

4. Wakasa Bettei (和鹿彩 別邸)

Wakasa Bettei เป็นเรียวกังในเครือเดียวกับ Hotel New Wakasa ที่อยู่ติดกัน ภายในอาคารอบอวลไปด้วยบรรยากาศราวกับบ้านอยู่อาศัยที่เรียงรายอยู่ในนารามาจิ แฝงไปด้วยความสวยงามที่ประณีตบรรจงซึ่งสืบทอดมาจากขนมธรรมเนียมของเมืองเก่านารา

ห้องพักเน้นเป็นห้องญี่ปุ่นที่มีระแนงแบบนารา ช่วยให้มีบรรยากาศแนวบ้านเรือนโบราณ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของหญ้าอิคุซะ เป็นพื้นที่ที่ชวนให้อยากนอนกลิ้งไปกับธรรมชาติ นอกจากนี้ ห้องแบบญี่ปุ่นผสมตะวันตกก็มีอยู่เช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนเตียง

ที่ชั้นบนสุดของอาคารมีโรงอาบน้ำชมวิว เป็นโรงอาบน้ำเพียงแห่งเดียวในนาราที่จากบ่อแช่น้ำสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างขวางของภูเขาวาคาคุซะ และหลังคาหลักของอาคารไดบุตสึเด็นของวัดโทไดจิ คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาแสนพิเศษ ปล่อยตัวไปกับน้ำที่อ่อนโยน พลางจินตนาการถึงเมืองหลวงในอดีตกาล นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการบ่อชมวิวแบบเช่าเหมาของ Hotel New Wakasa ได้ด้วย เป็นโรงแรมที่สามารถรองรับภาษาอังกฤษและภาษาจีน

5. Asukasou (飛鳥荘)

เรียวกังกึ่งร้านอาหาร Asukasou ตั้งอยู่ในโลเคชั่นยอดเยี่ยมที่ด้านหน้ามีทิวทัศน์เจดีย์ห้าชั้นของวัดโคฟุคุจิ ห้องพักมีบรรยากาศกว้างขวางชวนผ่อนคลาย สัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมและบรรยากาศของเมืองเก่านารา ฝั่งเจดีย์ห้าชั้นมีห้องพักแนวญี่ปุ่นดั้งเดิม และห้องพักแนวญี่ปุ่นผสมตะวันตกที่มาพร้อมกับเตียง เนื่องจากมีห้องแบบเชื่อมต่อที่สามารถเข้าพักได้สูงสุดถึง 8 คน จึงเหมาะมากสำหรับทริปครอบครัวและทริปหมู่คณะ

ชั้นบนสุดมีบ่ออาบน้ำกลางแจ้งชมวิวที่สามารถมองเห็นวัดโคฟุคุจิและบ้านเมืองของนารา ในช่วงกลางคืนจะสามารถดื่มด่ำไปกับวิวเจดีย์ห้าชั้นที่จะถูกเปิดไฟไลท์อัพอย่างสวยงาม ทั้งยังมีบ่อกลางแจ้งแบบเช่าเหมาในราคา 3,300 เยนต่อ 40 นาที หากใช้บริการแล้วจะสามารถชมวิวสวยๆ อย่างเป็นส่วนตัว เนื่องจากสามารถแช่น้ำโดยไม่ต้องกังวลถึงคนรอบข้าง จึงเหมาะมากสำหรับคู่รักหรือผู้ที่มีเด็กเล็กๆ มาด้วย

อาหารคุณภาพสูงก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเรียวกังกึ่งร้านอาหาร คุณจะได้ลิ้มรสเมนูตามฤดูกาลที่จะเปลี่ยนไปทุกเดือน ปรุงขึ้นโดยเชฟยอดฝีมือ และเสิร์ฟให้รับประทานอย่างสบายๆ ที่ห้องพัก ทั้งยังครบครันไปด้วยเบียร์ท้องถิ่นและสาเกของนารา ดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของเซชู รวมถึงสาเกจากโรงกลั่นในท้องถิ่นที่เข้ากันได้ดีมากกับอาหารไคเซกิที่ทำขึ้นจากวัตถุดิบในพื้นที่ สำหรับมื้อเช้า จะเสิร์ฟเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ปรุงขึ้นอย่างประณีตบรรจง เช่น ข้าวต้มจากชาโฮจิกลิ่นหอม และไข่หวานที่ทำขึ้นใหม่ๆ เป็นโรงแรมที่สามารถรองรับภาษาอังกฤษได้

6. Mikasa Ryokan (奈良 万葉若草の宿 三笠)

Mikasa Ryokan ตั้งอยู่ก่อนถึงยอดเขาวาคาคุซะ เป็นเรียวกังที่สามารถสัมผัสช่วงเวลาแสนพิเศษภายใต้อ้อมกอดที่อ่อนโยนของธรรมชาติ ไม่ว่าจะมาเข้าพักในฤดูกาลไหน ก็จะได้พบกับทิวทัศน์สวยงามที่ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน บริเวณล็อบบี้มีผนังที่ปูด้วยกระจก สามารถชมวิวบ้านเมืองนาราที่แผ่กว้างอยู่อีกฝากหนึ่งของพื้นที่สีเขียวของภูเขาวาคาคุซะ ในช่วงกลางคืนจะมีการหรี่ไฟลง ช่วยให้สามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ดูงดงามมากยิ่งขึ้น

ห้องพักมีให้เลือกหลากหลาย เช่น ห้องดีลักซ์แบบญี่ปุ่นผสมตะวันตก ห้องที่มาพร้อมบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง ห้องที่มองเห็นอาหารไดบุตสึเด็นของวัดโทไดจิ และห้องชั้นลอยที่ให้บรรยากาศแบบรีสอร์ท สำหรับผู้ที่อยากชมวิวจากห้องของตัวเอง ก็ขอแนะนำให้จอง Japanese-Style Room with View (眺望和風客室) ของอาคาร Kaze no To (風の棟) และ Tsuki no To (月の棟)

บ่ออาบน้ำกลางแจ้งของที่นี่มีความกว้างขวาง สามารถลงแช่เพื่อฟื้นฟูร่างกายที่เหนื่อยล้า พลางสัมผัสสายลมที่เย็นสบาย หลังจากแช่เสร็จแล้ว ก็สามารถอิ่มทั้งกายและใจไปกับอาหารไคเซกิสีสันสดใส การันตีว่าจะเป็นการเข้าพักที่แสนวิเศษอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นโรงแรมที่สามารถรองรับภาษาอังกฤษได้ด้วย

7. Setre Naramachi (セトレならまち)

Setre Naramachi ตั้งอยู่ริมบ่อน้ำซารุซาวะ (猿沢池) เป็นตำแหน่งที่ใกล้กับเจดีย์ห้าชั้นของวัดโคฟุคุจิ และสามารถสัมผัสถึงความเป็นนาราได้อย่างเต็มที่ ภายในอาคารโดดเด่นด้วยเทคนิคดั้งเดิมและวัสดุที่ใช้เวลาสั่งสมขึ้นมาอย่างยาวนานในนารา เช่น ไม้ฮิโนกิและซุงิของโยชิโนะ (吉野) แหล่งผลิตไม้คุณภาพดีของญี่ปุ่น นอกจากตัวอาคารแล้ว เฟอร์นิเจอร์ออริจินัลของโรงแรมก็ทำขึ้นจากไม้ของโยชิโนะเช่นกัน

สิ่งแรกที่จะคอยต้อนรับคุณก็คือ การดูแลต้อนรับที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอม สามารถนำอโรม่าที่แนะนำของวันนั้นๆ ไปใช้กับดิฟฟิวเซอร์ที่ทำจากไม้ซุงิของโยชนิโนะ และนำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ของห้อง เช่น ในตู้เสื้อผ้าและข้างหัวเตียง ห้องพักมีทั้งหมดอยู่ 5 แบบ แบบที่ขอแนะนำเป็นพิเศษก็คือ Machiya Room (まちやルーム) ที่สามารถสัมผัสความเป็นนาราได้มากยิ่งขึ้น เป็นห้องพร้อมสวนภายในที่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับบ้านเรือนในอดีต

ภายในอาคารมีจุดให้ผ่อนคลายมากมาย เช่น ห้องหนังสือและแผ่นเสียง ระเบียงที่มีเจดีย์ห้าชั้นอยู่ด้านหน้า และเลานจ์ลิมิเต็ดสำหรับแขกที่มาเข้าพัก ซึ่งสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่ม พลางรับสายลมที่เย็นสบาย ทั้งยังมีจักรยานให้ยืมฟรี เหมาะมากสำหรับปั่นเที่ยวให้ทั่วนารา เป็นโรงแรมที่รองรับภาษาอังกฤษ

8. Sarusawaike Yoshidaya (さるさわ池 よしだや)

Sarusawaike Yoshidaya ได้ต้อนรับแขกอย่างอบอุ่นมาตั้งแต่เปิดกิจการเมื่อปี 1868 ในเวลา 6 โมงเช้า เที่ยงตรง และ 6 โมงเย็นของทุกวันจะได้ยินเสียงระฆังที่ดังกึกก้องของวัดโคฟุคุจิ ช่วยสร้างความสงบให้กับจิตใจ ห้องพักทุกห้องมีสไตล์ที่แตกต่างกัน เป็นพื้นที่แนวญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่จัดวางไว้ด้วยเตียงสไตล์ Duvet ในส่วนของห้องฝั่งตะวันตกนั้น จะสามารถชมทิวทัศน์ของบ่อซารุซาวะได้อย่างกว้างขวาง

ก่อนรับประทานมื้อค่ำ คุณสามารถไปเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้ที่บ่ออาบน้ำขนาดใหญ่ ทางเดินไปโรงอาบน้ำนั้นปูพื้นด้วยหิน แค่เดินเฉยๆ ก็รู้สึกราวกับได้ไปท่องเที่ยวแล้ว มีบ่อเช่าเหมาพร้อมวิวท้องฟ้าและเจดีย์ห้าชั้นของวัดโคฟุคุจิที่สามารถใช้บริการได้อย่างฟรีๆ ในช่วงกลางคืนเจดีย์ห้าชั้นจะเปิดไฟไลท์อัพ เกิดเป็นทิวทัศน์น่าหลงใหลที่ลอยอยู่ท่ามกลางความมืด

หลังจากแช่น้ำเสร็จแล้ว คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับอาหารไคเซกิที่ปรุงขึ้นอย่างสุดฝีมือ เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ทั้งในด้านวัตถุดิบตามฤดูกาลและภาชนะที่ใช้ ในเช้าวันรุ่งขึ้น คุณจะได้เติมพลังด้วยมื้อเช้าสไตล์ญี่ปุ่น เช่น ปลาย่าง ซุปมิโซะ และข้าวที่หุงอย่างนุ่มฟูด้วยเตาคามาโดะ (เตาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น) เป็นที่พักที่สามารถรองรับภาษาอังกฤษได้

9. An-Grande Hotel Nara

An-Grande Hotel Nara อยู่ใกล้กับสถานีนาราของรถไฟ Kintetsu ซึ่งเปรียบเสมือนประตูหน้าสู่สวนสาธารณะนารา เป็นตำแหน่งที่สะดวกต่อการท่องเที่ยวมากๆ ได้รับคำชื่นชมจากบริการที่เต็มไปด้วยความดูแลเอาใจใส่ของพนักงาน ช่วยซัพพอร์ตให้การเข้าพักในนาราของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น

ห้องพักหรูหราและกว้างขวาง ใช้เตียงเกรดสูงของแบรนด์ Simmons จากหน้าต่างของห้องส่วนใหญ่สามารถมองเห็นวัดโคฟุคุจิ สวนสาธารณะนารา และภูเขาวาคาคุซะ ห้องพักมีทั้งหมด 5 แบบ ห้องที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษก็คือ View Bath Junior Suite ที่สามารถพักผ่อนได้อย่างหรูหรา และ Panoramic View Superior Twin ที่มีหน้าต่างอยู่ถึง 2 ฝั่ง

คุณจะได้รับประทานมื้อเช้าที่ร้านอาหารที่มีที่นั่งระเบียงไม้ มีให้เลือกระหว่างอาหารญี่ปุ่นกับอาหารตะวันตก สามารถเริ่มต้นวันใหม่ด้วยรสชาติที่อ่อนโยนจากวัตถุดิบที่หาได้เฉพาะในพื้นที่นี้ เป็นโรงแรมที่รองรับภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี

10. Hotel Tenpyo Naramachi (ホテル天平ならまち)

Hotel Tenpyo Naramachi ตั้งอยู่ริมบ่อน้ำซารุซาวะ ในตำแหน่งที่เดิน 7 นาทีจากสถานีนาราของรถไฟ Kintetsu เป็นคอนเซ็ปต์โฮเทลที่มีธีม "ศาสตร์การเขียนอักษร" และมีผลงานของนักเขียนอักษรชื่อดังแสดงอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในอาคาร บริเวณล็อบบี้จะคอยต้อนรับแขกด้วยห้องชาที่ทำจาก "นาราซาราชิ" (奈良晒) ผ้าป่านชั้นยอดที่ทำขึ้นจากเทคนิคถักทอซึ่งถูกระบุให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของนาราที่เคยถูกยกให้เป็น "สุดยอดของป่าน" จากคุณภาพที่สูงและสีขาวที่งดงามของมัน

หากเข้าพักที่ห้องฝั่งบ่อน้ำซารุซาวะ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่ถักทอขึ้นจากเจดีย์ห้าชั้นของวัดโฟุดุจิและบ่อน้ำ อ่างล้างหน้าทำขึ้นจากอาคาฮาดะยากิ (赤膚焼) เครื่องเผาสีนมอ่อนโยนที่สวยงามด้วยลวดลายแบบนารา สามารถผ่อนคลายไปกับบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่โชจิ (บานเลื่อนไม้ปูด้วยกระดาษ) วอลเปเปอร์ และโคมไฟ ทำขึ้นจากกระดาษแฮนด์เมดนานาชนิด เช่น อุดะกามิ (宇陀紙) ที่เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของโยชิโนะ

โรงแรมแห่งนี้ยังมีระเบียงให้คุณผ่อนคลายไปกับทิวทัศน์ของบ่อน้ำซารุซาวะ แขกที่มาเข้าพักสามารถซื้อเครื่องดื่มจาก Starbucks Coffee ที่ชั้น 1 ของโรงแรมมาดื่มได้ในบริเวณนี้ มีบรรยากาศเปิดโล่งที่สัมผัสได้ถึงสายลมอ่อนๆ เหมาะมากสำหรับดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ของเมืองเก่านารา

ส่งท้าย

มีที่พักที่คุณอยากลองเข้าพักดูบ้างไหม? ช่วงเวลาที่ใช้ในโรงแรมหรือเรียวกังนั้นนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการเดินทาง ลองใช้บทความนี้เป็นตัวช่วย แล้วค้นหาห้องพักที่เหมาะกับรสนิยมและจุดประสงค์ในการใช้งานของคุณดูสิ