10 เกาะกลางทะเลญี่ปุ่น เปี่ยมด้วยมนต์สะกดชวนให้ไปสัมผัส!
ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นประกอบไปด้วยบรรดาเกาะน้อยใหญ่กว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ แน่นอนว่าแต่ละเกาะก็มีเสน่ห์ที่ชวนให้ค้นหาแตกต่างกันออกไป ในวันนี้เราได้คัดสรร 10 เกาะที่ไม่เพียงแต่เหมาะกับการไปท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้สัมผัสกับแง่มุมต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นในแบบที่ลึกยิ่งขึ้นอีกด้วย อย่ามัวรอช้า เก็บกระเป๋าแล้วตามเรามาเลยค่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. โอคุโนะชิมะ เกาะที่รายล้อมไปด้วยกระต่าย (ฮิโรชิม่า)
นั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือ Tadanoumi เพียง 12 นาที ก็นำท่านมาถึงเกาะโอคุโนะชิมะ (Okunoshima) ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฮิโรชิม่า เมือง Takehara แห่งนี้ได้ แม้เกาะขนาดเล็กนี้จะมีความกว้างเพียง 4.3 กิโลเมตร แต่กลับมีเหล่ากระต่ายตัวเล็กตัวน้อยอาศัยอยู่มากกว่า 700 ตัว! เพื่อที่จะเล่นกับน้องกระต่ายได้อย่างสนุกสนานและใกล้ชิดมากขึ้น เราขอแนะนำให้นำผัก เช่น กะหล่ำปลีหรือแครอทติดไม้ติดมือไปด้วยนะคะ
นอกจากความน่ารักของเจ้าขนปุยเหล่านี้แล้ว เกาะโอคุโนะชิมะยังมีอีกชื่อว่า "เกาะก๊าซพิษ" เพราะเคยเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตก๊าซพิษในช่วงที่ประเทศมีสงคราม ซึ่งท่านสามารถแวะเยี่ยมชมโรงงานเหล่านี้บนเกาะได้อีกด้วย
ที่ตั้ง: Okunoshima, Tadanoumi-cho, Takehara-shi, Hiroshima 〒729-2311 (Google Map)
2. สัมผัสประสบการณ์บนเรือทาราอิที่ เกาะซาโดกะชิมะ (นีงาตะ)
เกาะซาโดกะชิมะ (Sadogashima) เกาะขนาดใหญ่ด้วยพื้นที่กว่า 262.7 กิโลเมตร ที่ตั้งอยู่ในด้านตะวันตกของจังหวัดนีงาตะ (Niigata) แห่งนี้ มีสถานที่น่าแวะไปเยี่ยมเยียนมากมาย ทั้งเหมืองทองคำซาโดะคินซัง (佐渡金山) และสวนสาธารณะ Toki no Mori ทว่าไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยของเกาะนี้คือ การนั่งเรือทาราอิ (たらい舟) เรือไม้ทรงคล้ายกะละมังซักผ้า ที่ท่านสามารถเข้าไปนั่งและรับชมการสาธิตวิธีพายจากช่างพายสาวได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถลงมือพายเองได้อีกด้วย แม้จะเป็นทักษะที่อาศัยความเชี่ยวชาญอย่างมาก แต่รับรองได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานอย่างแน่นอนค่ะ
เว็บไซต์: park19.wakwak.com/~rikiyakankou/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 184 Ogi-machi, Sado-shi, Niigata 〒952-0604 (Google Map)
3. แวะทานกุ้งขาวและเล่นกับน้องเหมียวที่เกาะมานาเบะชิมะ (โอคายาม่า)
rahen z / Flickrเกาะมานาเบะชิมะ (Manabeshima) ที่มีพื้นที่ขนาด 7.6 กิโลเมตรแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมือง Kasaoka จังหวัดโอคายาม่า (Okayama) ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เกาะมานาเบะชิมะได้รับความสนใจอย่างมาก และถูกขนานนามว่าเป็น "เกาะแมวเหมียว" เพราะมีน้องแมวอาศัยอยู่ทั่วเกาะ และพบได้เยอะเป็นพิเศษบริเวณใกล้ท่าเรือ อีกทั้งยังมีร้านอาหารชาวประมงชื่อ "เรียวกะ" (漁火 Ryouka) ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ อย่างกุ้งขาวแสนอร่อยและปลาหมึกยักษ์ให้ท่านได้ลิ้มลองอีกด้วย (สำหรับมื้ออาหารคอร์ส ต้องจองไว้ล่วงหน้าค่ะ)
เว็บไซต์: tabelog.com/okayama/A3302/A330204/33001180/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 4236-1 Motoura, Manabe-shima, Kasaoka-shi, Okayama (Google Map)
4. พายเรือคายัคชมป่าชายเลน ณ เกาะอิริโอะโมะเตะ (โอกินาว่า)
เกาะอิริโอะโมะเตะ (Iriomote) ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Taketomi จังหวัดโอกินาว่าแห่งนี้ นอกจากจะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะ Yaeyama ด้วยพื้นที่กว่า 130 กิโลเมตรแล้ว ยังเป็นดั่งสวรรค์ของคนรักกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำอีกด้วย ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมอันหลากหลาย อย่างการดำน้ำดูปะการัง และปล่อยกายและใจให้ธรรมชาติได้โอบอุ้มอย่างเต็มที่ กับคอร์สพายเรือคายัคเที่ยวชมป่าโกงกางที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแห่งนี้
เว็บไซต์: www.ne.jp/asahi/iriomote/tideline/index.htm (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 339-1 Uehara, Taketomi-cho, Yaeyama-gun, Okinawa 〒907-1541 (Google Map)
5. ว่ายน้ำกับฝูงโลมา ณ แหล่งมรดกโลก หมู่เกาะโอกะสะวะระ (โตเกียว)
หมู่เกาะโอกะสะวะระ (Ogasawara Islands) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "หมู่เกาะกาลาปากอสแห่งโลกตะวันออก" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโตเกียว ด้วยระยะห่างราว 1,000 กิโลเมตร ประกอบด้วยนานาเกาะน้อยใหญ่กว่า 30 เกาะ ท่านสามารถเดินทางมายังเกาะชิชิจิมะ (Chichijima) อันเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของหมู่เกาะแห่งนี้ได้ โดยการนั่งเรือเฟอร์รี่จากโตเกียวเป็นระยะเวลา 25.5 ชั่วโมง แม้ระยะทางจะค่อนข้างไกล แต่หากแลกกับการได้ชื่นชมทัศนียภาพของทะเลสีฟ้าสดใส ได้ดำน้ำดูปะการัง และแหวกว่ายในน้ำทะเลพร้อมเหล่าโลมานั้น ย่อมคุ้มค่าแน่นอนค่ะ
เว็บไซต์: www.ogasawarakanko.com/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 31 Higashimachi, Chichijima, Ogasawara-mura, Tokyo 〒100-2101 (Google Map)
6. บ่อน้ำพุร้อนสไตล์วิหารพาร์เธนอน ที่เกาะนีจิมะ (โตเกียว)
เกาะนีจิมะ (Niijima) มีพื้นที่รอบเกาะ 41.6 กิโลเมตร และเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอิซุ (Izu Islands) ซึ่งอยู่ห่างจากโตเกียวตอนใต้มาประมาณ 160 กิโลเมตร ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นน้ำทะเลและเล่นเซิร์ฟ ทว่าไฮไลท์สำคัญของเกาะอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง "ยูโนะฮะมะ โรเต็น ออนเซ็น" (Yunohama Roten Onsen) ที่โดดเด่นดึงดูดสายตา ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามของวิหารพาร์เธนอนจำลอง ท่านสามารถลงแช่ในชุดว่ายน้ำ และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของท้องทะเลผืนกว้างตรงหน้าได้อย่างไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลยค่ะ
ที่ตั้ง: Honson Mamashita, Niijima-mura, Tokyo 〒100-0400 (Google Map)
7. ทัวร์เกาะกุนคัง อนาคตมรดกโลกแห่งใหม่ของญี่ปุ่น (นางาซากิ)
ด้วยรูปร่างของตัวเกาะที่ชวนให้นึกถึงเรือรบขนาดใหญ่ จึงไม่แปลกที่เกาะฮะชิมะ (Hashima Island) ในจังหวัดนางาซากิจะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อเกาะกุนคัง (Gunkanjima) เกาะแห่งนี้แม้จะเคยเจริญรุ่งเรืองมากระหว่างยุคเมจิจนถึงยุคโชวะ ในฐานะที่เป็นเหมืองถ่านหินสำคัญ ทว่าในปัจจุบันได้กลายมาเป็นเกาะรกร้างที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ซึ่งสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ผ่านทัวร์เกาะกุนคังเท่านั้น นอกจากนี้ เกาะกุนคังแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ญี่ปุ่นฟอร์มยักษ์ ที่สร้างจากหนังสือมังงะยอดนิยมอย่างเรื่อง Attack on Titan อีกด้วยค่ะ
เว็บไซต์: www.gunkanjima-concierge.com/en/index.html
ที่ตั้ง: Hashima, Takashima-cho, Nishisonogi-gun, Nagasaki (Google Map)
8. ข้ามสะพานยักษ์และชื่นชมวิวบนยอดประภาคาร ที่เกาะสึโนะชิมะ (ยามากุจิ Yamaguchi)
inazakira / Flickrสะพานสึโนะชิมะที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2000 ทอดยาวจากเกาะญี่ปุ่นหลัก และเชื่อมตรงสู่เกาะสึโนะชิมะ (Tsunoshima Island) ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากุจิแห่งนี้ ทิวทัศน์ของสะพานที่ทอดยาวผ่านทะเลสีครามในวันที่อากาศแจ่มใสนั้นงดงามอย่าบอกใคร! นอกจากนี้แล้ว ที่ญี่ปุ่นมีประภาคารที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนได้เพียง 15 แห่งทั่วประเทศเท่านั้น และที่เกาะสึโนะชิมะนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยค่ะ โดยตัวอาคารเป็นประภาคารหินที่สวยงาม ไร้ซึ่งการถูกทาสีหรือแต่งแต้มใดๆ รับรองว่าต้องถูกใจทุกท่านที่ได้แวะมาชมอย่างแน่นอนค่ะ
ที่ตั้ง: Tsunoshima, Hohoku-cho, Shimonoseki-shi, Yamaguchi (Google Map)
9. ซึมซับโลกผ่านปลายปากกาของนักเขียนชื่อดัง Yukio Mishima บนเกาะคามิชิมะ (มิเอะ Mie)
เกาะคามิชิมะ (Kamishima Island) ที่ตั้งอยู่ในเมือง Toba จังหวัดมิเอะแห่งนี้ มีดีกรีเป็นถึงสถานที่สำคัญในนวนิยายญี่ปุ่นเรื่อง Shiosai (潮騒 'The Sound of Waves') ที่ถูกเขียนขึ้นโดย Yukio Mishima นักเขียนนิยายสงครามชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งแม้เกาะคามิชิมะจะมีพื้นที่เพียง 3.9 กิโลเมตร ทว่าลักษณะพื้นที่โดยรอบแบบคาร์สต์ก็ทำให้เกาะแห่งนี้เปรียบได้กับสวรรค์ของนักปีนเขาเลยทีเดียว
หลังจากสนุกสนานกับการผจญภัยภายในเกาะแล้ว ขอแนะนำให้แวะเติมพลังที่ร้าน "ซัปปะ" (潮波 Sappa) ที่อยู่ใกล้บริเวณท่าเรือ กับข้าวหน้าปลาหมึกทาโกะเมะชิ เมนูจานเด็ดของทางร้านที่พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาดค่ะ
เว็บไซต์: tabelog.com/mie/A2403/A240302/24010471/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Kamishima-cho, Toba-shi, Mie (Google Map)
10. เยือนสถานที่แสวงบุญใจกลางทะเลสาบบิวาโกะ ณ เกาะชิคุบุชิมะ (ชิกะ)
มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณว่า เกาะชิคุบุชิมะ (Chikubushima Island) ในจังหวัดชิกะ (Shiga) ที่ไร้ผู้คนอาศัยอยู่และลอยอยู่ทางเหนือของทะเลสาบบิวา (Biwa Lake) แห่งนี้ เป็นที่สถิตอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า จึงไม่แปลกที่บนเกาะจะมีทั้งศาลเจ้าชิคุบุสุมะ (Chikubusuma Shrine) และวัดโฮกงจิ (Hogon-ji) ซึ่งให้บรรยากาศศักดิ์สิทธิ์แก่เกาะแห่งนี้เป็นที่สุดค่ะ
ณ บริเวณยอดแหลมที่ยื่นออกไปสู่ทะเลสาบบิวาโกะ มีความเชื่อเกี่ยวกับการ "โยนกระเบื้อง" ที่ว่า หากสามารถโยนแผ่นกระเบื้องให้ลอดผ่านโทริอิ (เสาประตูศาลเจ้า) ที่อยู่ภายใต้หน้าผาไปได้ ความปรารถนาของท่านจะเป็นจริงค่ะ
ที่ตั้ง: 1821 Hayasaki-cho, Nagahama-shi, Shiga (Google Map)
หากรู้สึกเบื่อหน่ายการท่องเที่ยวในตัวเมืองเพียงอย่างเดียว ลองออกไปสัมผัสธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศญี่ปุ่น ผ่านทิวทัศน์ตระการตาของเกาะน้อยใหญ่ดูก็เป็นความคิดที่ดีไม่น้อยเลยนะคะ รับรองได้ว่าท่านจะได้ทั้งความประทับใจและประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่อาจหาได้ในเมืองใหญ่เลยล่ะค่ะ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่