10 เรียวกังหรูหราในเกียวโตที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

เกียวโตเป็นบริเวณที่มีทั้งพระพุทธรูปและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ที่เหลือรอดจากไฟสงคราม ทิวทัศน์บ้านเรือนที่สัมผัสได้ถึงการใช้ชีวิตของผู้คน รวมถึงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อย่างภูเขาและทะเลที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ในแต่ละฤดูกาล เกียวโตจะเผยโฉมหน้าที่แตกต่างกันให้เราได้รับชม มีความล้ำลึกและมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ทุกครั้งที่แวะมา ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเรียวกังหรูที่มีการต้อนรับดูแลอันยอดเยี่ยมในแบบของญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะเคยมาเกียวโตหรือไม่ ก็จะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของเมืองเก่าแห่งนี้อย่างแน่นอน

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

10 เรียวกังหรูหราในเกียวโตที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายประวัติศาสตร์

1. Kyoto Tagasegawa Bettei (京都 高瀬川別邸)

Kyoto Tagasegawa Bettei ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบริมแม่น้ำทาเซกาวะที่อยู่ใจกลางเกียวโต เป็นเรียวกังแนวเกียวโตที่คงเสน่ห์แบบเกียวมาจิยะ (บ้านแบบเกียวโต) เอาไว้ เนื่องจากอยู่ลึกเข้าไปในตรอกเล็กๆ จึงตัดขาดจากความคึกคักของโลกภายนอก สามารถสัมผัสช่วงเวลาที่เงียบสงบราวกับบ้านพักตากอากาศ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ซากุระที่เรียงรายอยู่ริมแม่น้ำทาเซกาวะจะพากันเปลี่ยนสี และออกดอกสวยงามต้อนรับผู้ที่มาเยี่ยมชม

ห้องพักมีการคงไว้ซึ่งความอบอุ่นของเสื่อทาทามิ ในขณะเดียวกันก็มุ่งเพิ่มความสบายด้วยวิธีต่างๆ เช่น ใช้เตียงคุณภาพสูงของบริษัท Simmons ทั้งยังใช้ถ้วยกาแฟและจานที่เป็นเครื่องเผาคิโยมิซุ (清水焼) ส่วนที่ล้างหน้าก็เป็นเครื่องเผาชิงารากิ (信楽焼) ของจังหวัดชิงะที่ติดกับเกียวโต ช่วยให้สามารถสัมผัสกับเสน่ห์งานฝีมือดั้งเดิมของเกียวโตและย่านชานเมืองได้โดยตรง ทุกห้องมาพร้อมกับบ่ออาบน้ำจากไม้ฮิโนกิ 100% เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่หรูหราของที่นี่ คุณจะได้เยียวยาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปกับกลิ่นหอมสดชื่นและความอบอุ่นของไม้ นอกจากนี้ยังมีสวนส่วนในซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกียวมาจิยะ สามารถชื่นชมและผ่อนคลายไปอย่างสบายๆ

ด้านมื้ออาหารก็มีความเอาใจใส่เช่นกัน มื้อเช้าเป็นอาหารตะวันตกที่สามารถเลือกเมนูมังสวิรัติได้ด้วย แม้แต่ผู้ที่เป็นมังสวิรัติหรือผู้ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพก็สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ

2. Kyoyado Usagi (京宿 うさぎ)

Kyoyado Usagi ตั้งอยู่ข้างปราสาทนิโจ (二条城) ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ถือกำเนิดขึ้นจากการรีโนเวทเกียวมาจิยะที่มีอายุเกือบ 100 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ต้องการให้ผู้ที่แวะมาเยี่ยมชมได้ "เข้าพักราวกับอยู่อาศัยในเกียวมาจิยะ"

ห้องพักของที่นี่มีเพียง 6 ห้อง ทุกห้องเป็นแบบ Suite Room มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์จากการนำสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมผสมผสานเข้ากับรูปแบบตะวันตกที่ดูเก๋ไก๋ มีให้เลือกทั้งแบบพื้นเรียบที่สมกับเป็นเกียวมาจิยะ และแบบชั้นลอยที่ทำให้รู้สึกราวกับอยู่บ้านของตัวเอง แม้ภายนอกอาคารจะดูเรียบง่าย แต่ภายในก็แผ่กว้างไปด้วยบรรยากาศโมเดิร์นที่คุณคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน

จุดเด่นของที่นี่คือ ห้องพักแต่ละห้องจะมีความเป็นเกียวโตแฝงอยู่ตามจุดต่างๆ เช่น รอยบนท่อนซุงที่มีอยู่ตั้งแต่ตอนสร้างอาคาร สวยภายในห้องที่เป็นสัญลักษณ์ของเกียวมาจิยะ และสวนชมดอกไม้ตามฤดูกาลที่สร้างโดยช่างหินที่ถูกรับรองให้เป็นช่างฝีมือดั้งเดิมของเกียวโต รับรองว่าห้องที่ชวนผ่อนคลายอย่างไม่มีใครเหมือน และอุปกรณ์ที่มีอยู่อย่างครบครัน จะทำให้คุณพึงพอใจได้อย่างแน่นอน

3. Kyokoyado Yasaka Yutone (京小宿 八坂 ゆとね)

Kyokoyado Yasaka Yutone ที่พักลับๆ ที่ตั้งอยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่กี่ก้าวจากย่านพื้นปูหินใกล้ๆ กับเจดีย์ห้าชั้นของวัดโฮคันจิ (法観寺) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "หอคอยแห่งยาซากะ" (八坂の塔) เป็นที่พักที่ได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกในทุกด้าน ทั้งบรรยากาศ อาหาร และการต้อนรับดูแล

ห้องพักมาพร้อมกับเตียงของ Simmons และอ่างน้ำจากไม้ฮิโนกิ เนื่องจากมีเพียง 7 ห้อง จึงสามารถพักผ่อนได้อย่างเงียบสงบ ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เป็นลักษณะเด่นของบ้านแบบญี่ปุ่นก็มีให้เลือกอยู่ด้วย แต่ละห้องได้รับการตั้งชื่อตามสีดั้งเดิมของญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจเช่นกัน

เมื่อพูดถึงไฮไลท์ของเกียวโต หนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นอาหารเกียวโตอย่างแน่นอน ที่พักแห่งนี้จะเสิร์ฟอาหารไคเซกิที่ทั้งอร่อยและดีต่อร่างกาย ปรุงขึ้นโดยหัวหน้าพ่อครัวรุ่นใหม่ไฟแรง โดยใช้วัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ของเกียวโต เช่น เต้าหู้ ยุบะ (แผ่นเต้าหู้) และนามาฟุ (ของนึ่งที่ทำจากแป้งโมจิกับกลูเตนจากแป้งสาลี) ด้านภาชนะและการจัดแต่งตามฤดูกาลก็สามารถสัมผัสได้ถึงสไตล์และคติความงามของเกียวโต นอกจากรสชาติที่ละเอียดอ่อนแล้ว ยังเป็นอาหารเกียวโตมีหน้าตาที่สวยงามอีกด้วย

4. Kuraya Kiyomizu Gojo (藏や清水五条)

เรียวกังสไตล์มาจิยะที่รีโนเวทมาจากร้านค้าของตระกูลโอกาวะ ตระกูลช่างปั้นเครื่องเผาเกียวยากิ ในช่วงปลายยุคเมจิ (ปี 1868-1912) ตัวอาคารได้ใช้ประโยชน์ได้ประตูและเสาเก่าเพื่อคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของมาจิยะ สามารถจินตนาการได้ถึงภาพในอดีตที่คึกคักไปด้วยช่างฝีมือและลูกค้ามากมาย นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีงานศิลปะจากเครื่องเผาเกียวยากิให้ชื่นชมอีกด้วย

มีการใช้ไฟที่สว่างน้อยลงเพื่อช่วยให้รู้สึกน่าอยู่มากขึ้น เนื่องจากมาพร้อมครัว จึงเหมาะที่จะลองทำอาหารง่ายๆ และสัมผัสประสบการณ์อยู่อาศัยในเกียวโต ในกรณีที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับอาหารเกียวโตอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก็สามารถสั่งอาหารไคเซกิจากภัตตาคารเก่าแก่ Izusen (泉仙) ให้มาส่งได้เช่นกัน

เนื่องจากตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ ซึ่งเป็นศูนย์รวมโรงปั้นเกียวยากิและคิโยมิซุยากิ ที่พักแห่งนี้จึงมีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ความเอาใจใส่ที่มีต่อชาและข้าวของเครื่องใช้ คุณจะได้ดื่มชาที่ห้องนั่งเล่นโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมของเกียวโต เช่น กาน้ำชาที่เป็นเกียวยากิ, กระป๋องใส่ชาทำจากดีบุกของร้าน Seikado (清課堂), และชามัทฉะของร้าน Ippodo (一保堂) เหมาะสำหรับเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่เชื่องช้าพลางชมสวนที่สวยงาม

5. Seikoro (晴鴨楼)

Seikoro อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่สง่างาม ชื่อของที่พักมีความหมายว่า "อาคารหลายชั้นที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคาโมกาวะที่ใสสะอาด" เปิดกิจการขึ้นเมื่อปี 1831 (ปีเทนโปที่ 2) มีประวัติศาสตรที่ยาวนาน ได้เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของเกียวโตมาแล้วกว่า 200 ปี มีห้องแบบญี่ปุ่นขนานแท้ในทรงโชอินซึคุริ (ทรงบ้านที่มีห้องหนังสือเป็นศูนย์กลาง) จากห้องดังกล่าวนี้สามารถมองเห็นสวนที่จะแปลงโฉมไปตามฤดูกาล มีทั้งซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสี และดอกสึสึจิให้เราได้ชื่นชม เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ ภายในอาคารแนวโมเดิร์นที่สัมผัสได้ถึงความโรแมนติกแบบยุคเก่าๆ อย่างเมจิและไทโช ซึ่งทำให้รู้สึกหอมหวานอย่างน่าประหลาดใจ

จิตวิญญาณการดูแลและให้บริการที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ได้กลายมาเป็นการต้อนรับดูแลแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริงที่คู่มือไม่สามารถเลียนแบบได้ และทำให้เหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้สัมผัสกับความสะดวกสบายที่ลืมไม่ลง นอกจากนี้ "การสัมผัสประสบการณ์สวมชุดกิโมโนสิบสองชั้น" ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกราวกับเป็นชนชั้นสูงในยุคโบราณ

หลังจากเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่บ่ออาบน้ำแบบเช่าเหมาแล้ว คุณก็จะได้รับประทานอาหารไคเซกิแบบเกียวโตที่ทางที่พักภาคภูมิใจ รสชาติที่ประณีต หรูหรา และไม่ประดับประดาจนเกินไป จะทำให้สัมผัสได้ถึงความล้ำลึกของเกียวโตอย่างแน่นอน

Klook.com

6. Kyoto Nanzenji Yachiyo (京都 南禅寺 八千代)

Kyoto Nanzenji Yachiyo ตั้งอยู่ในเชิงเขาฮิกาชิยามะ บริเวณที่แม้จะอยู่ใจกลางเมือง แต่วัฒนธรรมเกียวโตเก่าแก่ก็ยังคงได้รับการสืบสานมาจนถึงยุคปัจจุบัน โดดเด่นด้วยโคมไฟกระดาษขนาดใหญ่บริเวณทางเข้าด้านหน้า ในขณะเดียวกันก็ดูสง่างามอย่างเรียบง่าย คล้ายกับบ้านน้ำชามุงจากที่ไม่โอ่อ่ามากมาย สามารถสัมผัสได้ถึงการมองโลกที่สอดคล้องกับศาสตร์การชงชา ทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบจนเกือบลืมไปเลยว่าอยู่ในตัวเมือง รับรองว่าจะทำให้คุณประหลาดใจอย่างแน่นอน

นอกจากการเข้าพักกับคนรักหรือกลุ่มเพื่อนแล้ว เนื่องจากมี Family Room ที่มาพร้อมกับซาวน่าอยู่ด้วย จึงเป็นที่พักที่เหมาะสำหรับทริปครอบครัวด้วยเช่นกัน

เนื่องจากประวัติศาสตร์ของที่นี่เริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหาร อาหารของที่นี่จึงมีชื่อเสียงมาก อาหารเกียวโตของ Yachiyo ที่เหล่าผู้มีรสนิยมของเกียวโตซึ่งเข้มงวดเรื่องรสชาติได้มาใช้บริการอยู่บ่อยครั้งนี้ มีรสชาติแบบดั้งเดิมที่ถ่ายทอดวัตถุดิบตามฤดูกาลและบรรยากาศของฤดูกาลนั้นๆ ให้อยู่ในจานเดียว สามารถรับประทานเต้าหู้ต้มที่เป็นของขึ้นชื่อของวัดนันเซนจิได้ที่ร้านอาหารที่มีวิวสวน เป็นสวนที่สร้างขึ้นโดยโอกาวะ จิเบ (小川治兵衛) นักทำสวนที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกการทำสวนญี่ปุ่นสไตล์ร่วมสมัย นอกจากนี้ยังมีอาหารไคเซกิสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ เป็นความเอาใจใส่ที่น่าชื่นใจมาก

7. Sowaka (そわか)

Sowaka มีเสน่ห์ที่เด่นชัดที่สุดคือ บรรยากาศหรูหราที่ผสมผสานเก่าและใหม่ไว้ด้วยกัน ตัวอาคารรีโนเวทมาจากภัตตาคารเก่าแก่ทรงซุ้มน้ำชาที่มีประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี แต่ละห้องมีวัสดุและดีไซน์ที่ต่างกันตามจุดต่างๆ เช่น หน้าต่างเล็กและรันมะ (คานแนวขวาง) เป็นสิ่งก่อสร้างทรงคุณค่าที่สัมผัสได้ถึงความขี้เล่นและทักษะระดับสูงของช่างฝีมือ มีการคงเสน่ห์ของเดิมไว้ ในขณะเดียวกันก็ดัดแปลงให้มีความโมเดิร์น เช่น ห้องที่มีชั้นลอยและห้องที่มาพร้อมกับสวนส่วนตัว

เลานจ์บริเวณล็อบบี้สวยงามด้วยการตัดกันระหว่างกำแพงปูนปลาสเตอร์กับเสื่อทาทามิที่ทำจากกระดาษญี่ปุ่นสีดำ เป็นบริเวณที่สามารถเพลิดเพลินได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มต้อนรับ หรือหยิบหนังสือจากห้องสมุดที่อยู่ติดกันมานั่งอ่าน

ร้านอาหารจะเสิร์ฟเมนูแปลกใหม่ที่เกิดจากการดัดแปลงก้าวข้ามนิยามอย่างท้าทาย ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญต่อขนบธรรมเนียมของอาหารญี่ปุ่น หลังจากที่ได้ดื่มด่ำกับอาหารแล้ว ก็ขอแนะนำให้ไปที่บาร์เคาน์เตอร์ปูเสื่อทาทามิ ซึ่งรีโนเวทมาจากห้องเสื่อทาทามิที่เป็นผลงานของช่างชื่อดังของเกียวโต นอกจากสาเกแล้ว โชจูและวิสกี้ของญี่ปุ่นก็มีให้เพลิดเพลินอยู่เช่นกัน กล่าวได้ว่าเป็นที่พักที่สัมผัสได้ถึงคติความงามแบบญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันก็มีสไตล์ที่ไม่ยึดติดอยู่กับกรอบใดๆ

8. Momijiya Honkan Takao Sanso (もみぢ家本館 高雄山荘)

ทาคาโอะ (高雄) ถูกเรียกว่าเป็นส่วนลึกของเกียวโต อยู่เหนือขึ้นไปจากอาราชิยามะและซากาโนะ เป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี Momijiya Honkan Takao Sanso เปิดกิจการเมื่อปี 1907 (ปีเมจิที่ 40) เป็นที่พักที่เหมาะมากสำหรับการเพลิดเพลินไปกับทาคาโอะดังกล่าวนี้

เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินสูงที่มองเห็นช่องเขาเบื้องล่าง จากห้องพักจึงสามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นสนคิตะยามะ รับรองว่าจะทำให้คุณชื่นใจอย่างแน่นอน บริเวณสวนมีดอกไม้ตามฤดูกาลบานสะพรั่งอยู่อย่างสวยงาม ช่วยตอกย้ำว่าได้เดินทางมาถึงส่วนเหนือของเกียวโตแล้ว ความภาคภูมิใจอันดับหนึ่งของที่นี่คือ บ่ออาบน้ำกลางแจ้งที่ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งที่ตั้งอย่างเต็มที่ โดยมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ แบบหินและแบบไม้ฮิโนกิ คุณจะได้ผ่อนคลายพลางเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่จะแตกต่างไปตามช่วงเวลาและฤดูกาล

นอกจากนี้ ในตอนต้นของฤดูร้อนจะมีติดตั้งคาวาโดโกะ (ชั้นลอยบนแม่น้ำ) ไว้ที่แม่น้ำคิโยทากิกาวะที่ไหลผ่านช่องเขาลึก สามารถดื่มด่ำไปกับสไตล์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใครของเกียวโต พลางถูกโอบกอดไปด้วยเสียงสายน้ำและทิวทัศน์ที่น่าชื่นใจของใบโมมิจิสีเขียว บริเวณเดียวกันนี้ก็มีทิวทัศน์โลกสีเงินให้รับชมในช่วงฤดูหนาวด้วยเช่นกัน คุณจะได้เพลิดเพลินอย่างสุดหัวใจไปกับทิวทัศน์ป่าเขาที่กลมกลืนไปกับฤดูกาลทั้งสี่ ซึ่งแตกต่างไปจากทิวทัศน์ที่สามารถสัมผัสได้ตามตัวเมือง

9. Kamishichiken Oku (上七軒 億)

Kamishichiken Oku ตั้งอยู่ในตำแหน่งแสนสะดวกที่สามารถเดินไปศาลเจ้าคิตาโนะเทนมังกู (北野天満宮) และวัดคินคาคุจิ (金閣寺) เป็นเรียวกังที่นำเสนอแนวคิดใหม่ "Luxury Travel Style"

ห้องพักทั้ง 6 ห้องเป็นแบบ Suite Room ในสไตล์ที่หลากหลาย เช่น ห้องปลอดโปร่งที่มีบ่อแช่น้ำแบบไหวางอยู่นอกระเบียงที่ดูโมเดิร์น ห้องที่สัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของบ้านน้ำชา และห้องที่ดัดแปลงให้มีความโมเดิร์นด้วยคานเหล็ก ชวนให้อยากแวะมาเข้าพักหลายๆ ครั้ง โดยปกติแล้วจะเป็นแบบเตียง แต่ก็สามารถขอเปลี่ยนเป็นแบบฟุตอน (เซ็ตที่นอนและผ้าห่มแบบญี่ปุ่น) ได้เช่นกัน เหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสสไตล์ที่เป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มที่

มื้ออาหารเป็นอาหารไคเซกิที่รังสรรค์ขึ้นจากเต้าหู้ที่ทางที่พักภาคภูมิใจ โดยทำขึ้นจากน้ำชื่อดังของเกียวโตและวัตถุดิบตามฤดูกาล สามารถรับประทานได้ทั้งที่ห้องอาหารและที่ห้องของตัวเอง ทั้งยังมีบาร์อยู่ภายในอาคารให้ได้ไปผ่อนคลายหลังอาหารอีกด้วย

นอกจากนี้ ทางที่พักยังมีบริการแนะนำร้านน้ำชาที่น่าไป และสามารถเรียกเกอิชาและไมโกะมาจัดงานเลี้ยงได้ เป็นค่ำคืนแสนพิเศษของเกียวโตที่หาโอกาสสัมผัสได้ยากมาก

10. Monjusou (文珠荘)

อามาโนะฮาชิดาเตะ (天橋立) เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในอ่าวมิยาซึของทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือของเกียวโต เป็นรูปทรงน่าหลงใหลที่ธรรมชาติใช้เวลาสร้างหลายพันปี ควรค่าแก่การไปชมให้ได้สักครั้ง Monjusou เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ราวกับเคียงไหล่อยู่กับอามาโนะฮาชิดาเตะดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นจาก Kanshichi Chaya (勘七茶屋) ร้านชาที่วางจำหน่าย Chie no Mochi (智恵の餅) ที่เป็นของขึ้นชื่อของอามาโนะฮาชิดาเตะ เป็นร้านเก่าแก่ที่ปัจจุบันมีเจ้าของเป็นรุ่นที่ 13

ห้องพักทุกห้องได้รับการออกแบบอย่างละเอียดอ่อนให้ดูเหมือนว่าพื้นที่ภายในห้องกลมกลืนไปกับอามาโนะฮาชิตาเดะ เพื่อให้สามารถชมทิวทัศน์ของคลองและอามาโนะฮาชิดาเตะได้ในสภาพที่ดีที่สุด

อามาโนะฮาชิดาเตะออนเซ็น (天橋立温泉) ผุดขึ้นจากใต้ดินลึก 1,500 เมตร เป็นต้นน้ำคุณภาพดีที่เหมาะสำหรับการแช่น้ำรักษาโรค อ่อนโยนต่อผิวถึงขนาดที่ถูกเรียกว่า "น้ำพุของคนงาม" ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นไปถึงแก่นกลาง หลังจากแช่แล้วจะทำให้ผิวชุ่มชื้นอย่างน่าตกใจ ในส่วนของมื้ออาหาร คุณจะได้รับประทานที่ร้านอาหารที่มองเห็นคูคลองของอามาโนะฮาชิดาเตะผ่านกระจกที่ใหญ่เต็มผนัง สามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูอิชิคามะ (เมนูอบเตาหิน) ที่ใช้เตาหินแบบพิเศษ โดยเน้นไปที่อาหารไคเซกิแบบเกียวโตจากวัตถุดิบตามฤดูกาล

รับรองว่าคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับความสบายราวกับบ้านพักตากอากาศ จากการบริการและความเอาใจใส่ที่ละเอียดอ่อนของเหล่าพนักงาน

ส่งท้าย

หากต้องการสัมผัสเสน่ห์ของเกียวโต เรียวกังก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากรีโนเวทสิ่งก่อสร้างที่มีประวัติศาสตร์อย่างพิถีพิถัน ประกอบกับมีการดูแลและบริการในระดับที่ไม่ต่างจากโรงแรมใหม่ๆ จึงสามารถเข้าพักได้อย่างสบายใจ การันตีได้ว่าเรียวกังที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถดื่มด่ำไปกับทริปที่มีความเป็นเกียวโตอย่างเต็ม

มนต์เสน่ห์คันไซ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu japan_af
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร