ความทรงจำที่ดีที่สุดกับภาพที่ดีที่สุด ! จุดถ่ายภาพแนะนำของ “อาซากุสะ” (Asakusa) 10 แห่ง

1. ประตู Kaminarimon (雷門) [อาซากุสะ]

ถ้าพูดถึง “อาซากุสะ” หลายคนอาจจินตนาการถึงโคมไฟขนาดใหญ่ ที่ประตู “คามินาริมง" ทางเข้า "วัดอาซากุสะ (浅草寺)"

นี่คือจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โคมไฟที่มีความสูง 3.9 เมตรและเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.3 เมตร จะทำให้คุณอดทึ่งไม่ได้เมื่อได้เห็นของจริงอยู่ตรงหน้า

ขณะที่เดินลอดใต้คามินาริมง ลองหยุดเดินแล้วเงยหน้าขึ้นมองที่ใต้โคมไฟดูสิ หลายคนเดินผ่านประตูไปอย่างน่าเสียดาย โดยไม่ทันได้สังเกตว่าที่ใต้โคมไฟนั้น มีงานแกะสลักรูปมังกรอันอ่อนช้อยน่าประทับใจแอบซ่อนตัวอยู่!

“วัดอาซากุสะ” เป็นสถานที่ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่แทบทุกคนที่ผ่านเขตอาซากุสะต้องแวะมา ทำให้มีผู้คนจำนวนมากอยู่เสมอ ถ้าคุณต้องการถ่ายภาพแบบสบาย ๆ เราขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมในตอนเช้าหรือตอนเย็น โดยเฉพาะในเวลากลางคืนคุณจะสามารถถ่ายภาพที่น่าอัศจรรย์ใจได้

2. สะพาน Azumabashi (吾妻橋) [อาซากุสะ]

มีสะพานหลายแห่งสำหรับข้ามแม่น้ำสุมิดะ (Sumidagawa) ในเขตอาซากุสะมีสะพานอยู่ 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือสะพาน “Azumabashi” ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมในการถ่ายภาพ เพราะสามารถเก็บภาพของสิ่งก่อสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งสามแห่งไว้ได้ในภาพเดียว ได้แก่ Tokyo Sky Tree อาคารสำนักงานใหญ่ของอาซาฮี (アサヒビール本社ビル) ที่ออกแบบให้มีหน้าตาเหมือนแก้วเบียร์ และ Super Dry hall (スーパードライホール) ที่มีรูปปั้นสีเหลืองทองคล้ายเปลวเพลิงอยู่ด้านบน สุดยอดไปเลย

ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม ก็สามารถถ่ายภาพที่สวยงามได้ที่นี่ แต่ที่สวยเป็นพิเศษคือยามเช้าตรู่ แสงเรืองรองยามเช้าที่สวยงามประกอบกับเงา Tokyo Sky Tree และอาคารอื่นๆ ที่สะท้อนบนผิวน้ำ รับรองว่าคุ้มค่าการตื่นเช้ามาถ่ายภาพอย่างแน่นอน

เทศกาล “ลอยโคมไฟ (とうろう流し)” ที่จัดขึ้นในเดือนสิงหาคมของทุกปี ผู้ร่วมงานจะเขียนคำขอพร หรือข้อความที่อยากส่งไปยังผู้ล่วงลับลงในโคมไฟ และนำไปลอยแม่น้ำตั้งแต่สะพาน Azumabashi ถึงสะพาน Kototoibashi ในเทศกาลนี้คุณสามารถถ่ายภาพแสงไฟเรืองรองของโคมไฟที่สะท้อนในแม่น้ำ พร้อมฉากหลังอันน่าอัศจรรย์ของสะพาน Azumabashi

3. สะพาน Genmoribashi (源森橋) [อาซากุสะ]

“สะพาน Genmoribashi” เป็นที่นิยมในหมู่คนชอบรถไฟ ถึงแม้จะเป็นสะพานข้ามคลองเล็ก ๆ ที่แยกมาจากแม่น้ำสุมิดะ (Sumidagawa) ก็ตาม แต่เป็นที่รู้จักว่า เป็นสถานที่ที่สามารถถ่ายภาพ Tokyo Sky Tree และรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านไว้ในภาพเดียวกันได้

“Tokyo Sky Tree” ที่สะท้อนให้เห็นบนผิวน้ำถูกเรียกว่า "Tokyo Sky Tree แบบกลับหัว" ในวันที่แดดออก ผิวน้ำวาวราวกระจกจะสะท้อนภาพ Tokyo Sky Tree ชัดเจนเป็นพิเศษ ให้คุณสามารถถ่ายภาพบรรยากาศอันมีมนต์ขลังนี้ได้

ที่สะพาน Genmoribashi มีรูปปั้นคนสองคนต่อกันเป็น “รถเข็นด้วยมือ” หรือที่ไทยจะเรียกว่า ท่าไถนา แต่จริง ๆ แล้วนี่คือม้านั่ง คุณสามารถนั่งลงที่หลังของรูปปั้นพร้อมชมทิวทัศน์ของ Tokyo Sky Tree ได้อย่างสบายใจ หรือจะลองชวนเพื่อนมาถ่ายรูปเลียนแบบท่าทางรูปปั้นก็ไม่ว่ากัน

4. สวนสนุก Asakusa Hanayashiki (浅草花やしき) [อาซากุสะ]

“สวนสนุก Asakusa Hanayashiki” เป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานมากว่า 150 ปี ภายในสวนสนุกจะมีเครื่องเล่นที่มีสีสันรวมกันอยู่ เป็นสไตล์ย้อนยุค ไม่ว่าคุณจะกดชัตเตอร์ที่มุมไหนก็สวยงามเหมือนกับเป็นภาพวาด

“สวนสนุก Hanayashiki” จะมีการประดับไฟตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิจะเป็นโทนสีชมพูแทนสีของดอกซากุระ ทำให้บรรยากาศแสนจะโรแมนติก

ก่อนเข้าสวนสนุก Hanayashiki จะเป็นจุดถ่ายภาพ จะมีรูปปั้นแพนด้าที่เป็นเครื่องเล่นในสวนสนุกอยู่บนตู้ไปรษณีย์ลายดอกไม้ ซึ่งตู้ไปรษณีย์นี้จะใช้งานตามปกติ ดังนั้นลองส่งจดหมายให้กับครอบครัวและเพื่อนของคุณจากที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึกดูไหมคะ?

5. เรือโดยสาร Tokyo cruise (水上バス 東京クルーズ) [อาซากุสะ]

ที่แม่น้ำสุมิดะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือ เรือโดยสาร “Tokyo Cruise” โดยเรือจะออกจาก Asakusa ไปแถวตลาด Tsukiji (築地市場) และ Odaiba (お台場)

คุณสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของเมืองที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตลอดเส้นทางจากบนเรือ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองจากใต้สะพานหรือสองฟากฝั่ง นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศพิเศษด้วยการล่องเรือในยามพระอาทิตย์ตกดินและยามค่ำคืนได้อีกด้วย

สำหรับเรือโดยสารก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท ปัจจุบันเรือโดยสาร “Hotaluna (ホタルナ)” (โฮตารุแปลว่าหิ่งห้อย ส่วนลูน่าหมายถึงดวงจันทร์ ดังนั้นเรือนี้มีชื่อว่าหิ่งห้อยแสงจันทร์นั่นเองค่ะ โรแมนติกสุดๆ - กองบรรณาธิการ) และ “Himiko (ヒミコ)” กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีเสน่ห์ที่มีหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้สะดวกในการถ่ายภาพจากภายในเรือ

6. ศูนย์การท่องเที่ยววัฒนธรรมอาซากุสะ (浅草文化観光センター) [อาซากุสะ]

ศูนย์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาซากุสะ ตั้งอยู่ติดกับ Kaminarimon เป็นสถานที่ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการเที่ยวชมเมืองอาซากุสะ อาคารนี้จะมีระเบียงให้ขึ้นไปชมวิวฟรีได้ที่ชั้น 8 ถึงจะฟรีแต่วิวคุณภาพดีนะคะ สามารถมองเห็น Tokyo Sky Tree และบริเวณโดยรอบของวัดอาซากุสะได้ค่ะ

บนระเบียงชมวิวคุณสามารถถ่ายภาพเก๋ๆ ได้ง่ายดาย เนื่องจากที่กั้นทำจากกระจกสูงถึงแค่ระดับอก และถ้ามองจากด้านบนคุณจะต้องแปลกใจอีกครั้งกับจำนวนผู้คนที่มากมายบนถนน “Nakamise-dori” จากประตู Kanemon ถึงวัด Asakusa

ถัดจากระเบียงชมวิวมีคาเฟ่เล็กๆ อยู่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพ พร้อมกับจิบกาแฟ น้ำผลไม้ หรือเบียร์ไปด้วยได้ ลองไปพักกายใจดื่มเครื่องดื่มอร่อยๆ เคล้ากับทิวทัศน์ที่สวยงามดูนะคะ

7. ถนน Asakusa Hoppy-dori (浅草ホッピー通り) [อาซากุสะ]

“ถนน Hoppy-dori” อยู่ทางฝั่งตะวันตกของวัดอาซากุสะ มีชื่อเสียงด้านร้านรวงยามค่ำคืน จำพวกอิซากายะ หรือร้านเหล้าของญี่ปุ่น สามารถดื่มได้ตั้งแต่เที่ยงวัน ที่นั่งจะจัดวางอยู่นอกร้านค้า ให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ของอาซากุสะยามค่ำคืนได้

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน โคมไฟที่เรียงรายอยู่ตามร้านรวงจะทอแสงเรืองรอง บนถนน Hoppy-dori คุณสามารถถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงามของอาซากุสะที่ยังคงสไตส์ดั้งเดิมเอาไว้ได้

ถ้ามาที่ถนน Hoppy-dori แค่ถ่ายภาพอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ อย่าลืมลองดื่มแอลกอฮอล์ดูด้วยนะคะ ทีร้านจะมีพนักงานที่เป็นมิตร และมีลูกค้าในท้องถิ่นมากมาย ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินได้แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็ตาม

8. ย่านชอปปิง Shin-Nakamise (新仲見世商店街) [อาซากุสะ]

“ย่านชอปปิง Shin-Nakamise” เป็นย่านชอปปิงที่ใหญ่ที่สุดใน Asakusa คุณสามารถเห็น Tokyo Sky Tree ได้ชัดเจนที่นอกบริเวณหลังคาของพื้นที่ชอปปิง เป็นจุดถ่ายภาพที่สามารถ่าย Tokyo Sky Tree ที่เป็นสัญลักษณ์ของศตวรรษใหม่และทิวทัศน์แบบดั้งเดิมไว้ในภาพเดียว

นอกจากย่านชอปปิง Shin-Nakamise จะมีร้านค้าต่าง ๆ มากมาย เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้าและร้านขายยาตั้งอยู่ ยังมีร้านขายร่มและชุดกิโมโน ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเดินหาของที่ระลึกอีกด้วย

ห่างจากถนนชอปปิงเพียงเล็กน้อย มีอีกบริเวณหนึ่งที่เหมาะกับการถ่ายภาพ ซึ่งในตอนเย็นจะมีการประดับไฟที่ตัวอักษรคำว่า “Shin (新)” แปลว่า ใหม่ ซึ่งจะสามารถมองเห็น Tokyo Sky Tree อยู่เหนือตัวอักษรคันจิที่ส่องสว่างนี้ได้

9. ถนน Bouin-dori (法院通り) [อาซากุสะ]

ถนน Bouin-dori ตั้งอยู่ทางใต้ของวัดอาซากุสะ ถูกสร้างขึ้นใหม่ให้เป็นเมืองที่มีกลิ่นอายของเอโดะ (เป็นชื่อเดิมของโตเกียว, สมัยเอโดะ (1603-1867) เป็นที่ตั้งของรัฐบาลโชกุน) ถนนทอดยาวประมาณ 200 เมตร มีทั้งร้านงานฝีมือแบบดั้งเดิมชื่อ “Edo Kiriko” ผลิตแก้วที่ละเอียดอ่อนที่เป็นตัวแทนของโตเกียว และร้านขายดังโกะ (団子屋) ตั้งเรียงรายอยู่ คุณสามารถถ่ายรูปในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการชอปปิงและเดินไปกินไปได้

ไม่ว่าจะเป็นเสาที่ทำจากไม้หรือหลังคากระเบื้อง ก็ดูเหมือนคุณย้อนเวลากลับไปในอดีต เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับกิโมโน และรถลากแบบดั้งเดิม

ในตอนกลางคืน บริเวณนี้จะไม่พลุกพล่าน คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแบบสมัยเอโดะ แม้ร้านรวงจะปิดทำการแล้ว แต่การเดินชมภาพวาดบนประตูกระดาษของร้านก็ทำให้เพลิดเพลินได้เช่นกัน

10. ศาลเจ้า Imado (今戸神社) [อาซากุสะ]

ในประเทศญี่ปุ่นจะมีของประดับที่เป็นรูปแมว เรียกว่า “แมวนำโชค (招き猫)” ที่กล่าวว่า จะช่วยดึงดูดความสุข “ ศาลเจ้า Imado” เป็นศาลเจ้าที่มีตำนานต้นกำเนิดของแมวนำโชคนี้ ภายในศาลเจ้าจะมึรูปปั้นแมววางอยู่ในทุกที่กลายเป็นภาพที่รับรองว่าผู้ชื่นชอบแมวจะต้องอดใจไม่ไหว

แม้แต่แผ่นป้ายไม้ที่เรียกว่า “Ema (絵馬)” ที่ใช้เขียนคำอธิฐาน ก็มีการวาดรูปแมวบนแผ่นป้ายไม้เช่นกัน ศาลเจ้าส่วนใหญ่ แผ่นป้ายไม้ Ema จะมีรูปร่างห้าเหลี่ยม แต่แผ่นป้ายไม้ Ema ของศาลเจ้า Imado มีรูปร่างกลมดูน่ารัก อย่าลืมเขียนคำอธิฐานดูนะคะ

ถ้าโชคดีคุณอาจจะได้เจอแมวตัวจริงในบริเวณศาลเจ้าด้วยล่ะ ให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับแมวที่ทำตัวดูสบาย ๆ แบบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

 

“Asakusa” เป็นเมืองที่มีจุดถ่ายรูปหลายแห่ง ซึ่งเราได้แนะนำสถานที่ที่คุณสามารถถ่ายภาพที่น่าสนใจโดยเฉพาะ อย่าลืมแชร์ภาพถ่ายวิวที่สุดยอด ที่ถ่ายโดยกล้อง และแบ่งปันความทรงจำของการเดินทางกับครอบครัวและเพื่อน ๆ กันนะคะ