10 ร้านอาหารสำหรับครอบครัวยอดนิยมที่สุดในญี่ปุ่น

ร้านอาหารสำหรับครอบครัว (famiresu: ฟามิเรสุ ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นร้านอาหารทั่วไปที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เป็นที่ที่สามารถรับประทานอาหารหลากหลายได้ในราคาไม่แพงจนเกินไป รวมทั้งมีบาร์เครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์แบบบุฟเฟ่ต์ให้บริการด้วย นอกจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวแล้ว ร้านเหล่านี้ยังเหมาะกับการใช้เวลาคนเดียวหรือกับกลุ่มเพื่อน เพราะบางร้านเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และยังเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายอีกทางหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะมีสาขามากมาย มีเมนูภาษาอังกฤษ และเมนูสำหรับเด็กด้วย และนี่คือ 10 ร้านอาหารสำหรับครอบครัวยอดนิยมที่สุดในญี่ปุ่น!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. Gusto

Gusto เป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัวที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยจำนวนกว่า 1,300 สาขาทั่วประเทศ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยหากจะสามารถพบร้านนี้ได้ทุกที่ที่ไป เมนูอาหารของที่นี่มีให้เลือกเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สเต็กแฮมเบิร์ก เนื้อย่าง เมนูไก่ เมนูอาหารญี่ปุ่น บะหมี่ เมนูข้าวต่างๆ และของหวาน อาหารเกือบทุกจานนั้นมีราคาถูกกว่า 1,000 เยน!

อาหารบางเมนูมีให้บริการตามเวลาที่กำหนด เช่น เมนูอาหารเช้าที่ให้บริการตั้งแต่ 6:00 - 10:30 น. มีทั้งอาหารเช้าแบบตะวันตกพร้อมไข่คนและแพนเค้ก เมนูอาหารแบบญี่ปุ่นมีทั้งปลาย่าง อูด้ง และขนมปังปิ้งกับถั่วแดงหวาน อาหารเช้าแบบตะวันตกทุกจานมาพร้อมกับซุป และบุฟเฟ่ต์เครื่องดื่ม (บาร์เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์แบบบริการตัวเอง) ส่วนอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นจะเสิร์ฟพร้อมข้าว ซุปมิโซะ ผักดองต่างๆ และรวมบาร์เครื่องดื่มเช่นกัน อะไรจะดีไปกว่าการได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทานอาหารเช้าที่มีคุณค่าพร้อมสารอาหารครบถ้วนล่ะ!

สามารถเลือกเพิ่มบุฟเฟ่ต์เครื่องดื่ม ท็อปปิ้ง เครื่องเคียง หรือเซตอาหารเที่ยงและอาหารเย็นได้ด้วย และอย่าลืมปิดท้ายมื้ออาหารด้วยเมนูของหวานผสมมัทฉะ (ชาเขียวแบบผง) เช่น อูจิมัทฉะพาร์เฟ่ต์ (649 เยน) ไอศกรีมซอฟต์ครีม "อันมิสึ" (อูจิมัทฉะซอส) (499 เยน) และอูจิมัทฉะซันเดย์ (399 เยน)

2. Royal Host

Royal Host เป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัวที่บริหารงานโดยบริษัทเดียวกันกับที่บริหารร้าน HUB ผับสไตล์อังกฤษยอดนิยมในญี่ปุ่น แม้จะมีจำนวนสาขาน้อยกว่า Gusto แต่ก็กระจายตัวอยู่กว่า 200 แห่ง ในเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ 

สามารถสั่งเมนูอาหารเช้าและบรันช์ได้จนถึง 11:00 น. เมนูอาหารกลางวันตั้งแต่ 11.00 น. จนถึง 15.00 น. และแกรนด์เมนูได้ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป เมนูอาหารเช้ามีข้าวพร้อมซุปมิโซะ ผักดอง สลัด และเลือกอาหารจานหลักเป็นสเต็กแฮมเบิร์ก กุ้งและหอยเชลล์ย่าง แซลมอนและไข่ดาว หรือไข่และเบคอน ถ้าอยากรับประทานอาหารเช้าสไตล์ตะวันตกมีตัวเลือกเมนูแพนเค้กหรือขนมปังปิ้งพร้อมเครื่องเคียงเป็น ไข่ เบคอน ไส้กรอก สลัด หรือแฮชบราวน์ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งข้าวแกงกะหรี่ได้ด้วย!

สำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ สามารถสั่งเป็นสลัด แซนด์วิช สเต็กเนื้อจานร้อน หรือแม้แต่พาสต้า! บางสาขามีเมนูพิเศษ เช่น สาขา Royal Host ในเมืองนางาซากิมี ข้าวตุรกี (1,630 เยน) และซาเซโบะเบอร์เกอร์ (เบอร์เกอร์ที่ได้รับอิทธิพลจากชาวอเมริกาที่มาตั้งฐานทัพในญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2) (1,180 เยน) รวมถึงอาหารพื้นเมือง เช่น นางาซากินาระอูด้งและเกี๊ยวซ่า (1,530 เยน) และก๋วยเตี๋ยวนางาซากิจัมปงและคาคูนิ (1,580 เยน) ถ้าไปแถวนางาซากิลองมองหาเมนูพิเศษเหล่านี้ดู!

3. Bikkuri Donkey

Bikkuri Donkey ตกแต่งภายในร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และบรรยากาศแบบแสงสลัว เมนูอาหารขึ้นชื่อคือสเต็กแฮมเบิร์ก เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเมนูเนื้อรสชาติชุ่มฉ่ำ!

ถ้าเลือกสั่งจากเมนูอาหาร สเต็กแฮมเบิร์กจะเสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวและสลัด แต่สามารถสั่งเป็นสเต็กแฮมเบิร์กโดยไม่เอาข้าวได้ ทางร้านจะเสิร์ฟมาพร้อมกับแฮชบราวน์ 2 ชิ้นและสลัดมันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกหลากหลายสไตล์ให้ลองตั้งแต่ เมนูสไตล์ญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับหัวไชเท้า แรดิช ใบงาม้อน หรือจะเลือกเป็นสไตล์ตะวันตกที่มีชีสอยู่ด้านในหรือด้านบนชิ้นเนื้อ สามารถเปลี่ยนขนาดเนื้อได้ตามความต้องการตั้งแต่ปริมาณ 150 ถึง 450 กรัม

หนึ่งในเมนูยอดนิยมที่สุดของร้านคือ คือ Cheese-Burg สำหรับคนรักชีสโดยฉพาะ เป็นเมนูที่เสิร์ฟสเต็กแฮมเบิร์กที่มีชีสวางทับกันเป็นรูปกากบาทอยู่ด้านบน สำหรับคนรักชีสไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง! สามารถเพิ่มปริมาณเนื้อได้มากสุดถึง 450 กรัม ซึ่งจะมาในรูปของสเต็กชิ้นใหญ่โปะด้วยเสต็กชิ้นเล็กอีกหนึ่งชิ้นด้านบน หรือจะเลือกเพิ่มท็อปปิ้ง เช่น ชีส ไข่ สับปะรด หรือไชเท้าขูดก็ได้ และสามารถสั่งเครื่องเคียงเป็นซุปข้าวโพดหรือซุปมิโซะเพิ่มได้ด้วย 

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. Big Boy

แม้ Big Boy จะเป็นร้านที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนสาขาของ Big Boy มากกว่าในประเทศบ้านเกิดของร้านเสียอีก ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในโลกมีสาขา Big Boy นอกจากในสหรัฐอเมริกา และมีจำนวนร้านมากกว่า 250 แห่งทั่วประเทศ นับเป็นการขยายสาขาในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก!

หากกำลังเดินอยู่ตามถนนทั่วไป รับรองว่าจะต้องสะดุดตากับมาสค็อตรูปเด็กผู้ชายในผ้ากันเปื้อนลายตารางสีขาวแดงที่กำลังถือจานสเต็กแฮมเบิร์กชูขึ้นข้างตัว ซึ่งเป็นมาสค็อตของร้าน Big Boy นั่นเอง ในเวอร์ชันอเมริกันอาหารในจานจะเปลี่ยนจากสเต็กแฮมเบิร์กเป็นแฮมเบอร์เกอร์แทน!

ในขณะที่ร้านต้นตำรับที่อเมริกามีเมนูสไตล์อเมริกันอย่าง แฮมเบอร์เกอร์ วาฟเฟิลเบลเยียม และพายสตรอว์เบอร์รี สาขาในญี่ปุ่นไม่มีแฮมเบอร์เกอร์แต่เป็นเมนูที่ปรับให้เข้ากับความเป็นญี่ปุ่นแทน เช่น สเต็กแฮมเบิร์ก ไก่ย่าง และไอศกรีมมัทฉะ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ (รวมข้าวแกงกะหรี่ สลัด และซุป) และบาร์เครื่องดื่ม ให้สามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่ในบรรยากาศร้านอาหารสไตล์อเมริกันแท้ๆ

Klook.com

5. Denny's

Denny's เป็นร้านสาขาของอเมริกาอีกร้านที่เข้ามาสร้างตลาดในญี่ปุ่นมาเนิ่นนาน ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับร้าน Big Boy ที่ได้มีการปรับปรุงเมนูให้เข้ากับความเป็นญี่ปุ่นและเหมาะกับร้านอาหารสำหรับครอบครัว ดังนั้นอาจจะได้เจอเมนูที่แตกต่างหากไปรับประทานร้าน Denny's ที่สาขาอื่นๆ ในต่างประเทศ 

ช่วง 6:00 น. - 11:00 น. มีเมนูอาหารเช้าสไตล์ตะวันตกที่มาพร้อมไข่ แพนเค้ก และขนมปังปิ้ง หรือสไตล์ญี่ปุ่นที่เสิร์ฟแซลม่อนย่างและนัตโตะ (ถั่วหมัก) ส่วนช่วง 11.00 น. - 15.00 น. เป็นเวลาของเมนูอาหารกลางวัน ได้แก่ ชาบูหมู เสต็กแฮมเบิร์ก และสลัดชามโต 

หรือจะเลือกสั่งเป็นแกรนด์เมนูจานพิเศษที่ทำจากวัตถุดิบชั้นดี มีตัวเลือกหลายหลายและมากมายเพียงพอต่อความต้องการของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเมนูข้าว เมนูเส้น (พาสต้าหรือบะหมี่แบบญี่ปุ่น) และเมนูเนื้อ ถ้าอยากลองอะไรที่พิเศษหน่อยสามารถสั่ง Rare Beef Rib Fillet (1,564 เยน) หรือสเต็กเนื้อสันนอก (1,996 เยนสำหรับ 160 กรัม) มารับประทานคู่กับไวน์ก็ยังได้

6. Bamiyan

Bamiyan เป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัวสไตล์จีนขนาดใหญ่ที่มีสาขามากกว่า 300 แห่งทั่วญี่ปุ่น มีตัวเลือกเมนูไม่เหมือนร้านอื่นเพราะเน้นไปที่เมนูอาหารจีนหลากหลายและบุฟเฟ่ต์ชาบู (เนื้อวัวและหมูราคา 1,699 เยน และหมูอย่างเดียวราคา1,399 เยน) หากสั่งบุฟเฟ่ต์ชาบูสามารถเลือกเพิ่มบุฟเฟ่ต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในราคา 999 เยนด้วย!

ที่นี่มีเมนูอาหารจีนรสชาติดีให้เลือกมากมาย เช่น อาหารเรียกน้ำย่อยอย่างเกี๊ยวซ่า (6 ชิ้น 239 เยน) และขนมจีบ (5 ชิ้น 299 เยน) และเมนูอาหารจีนที่คุ้นเคย เช่น เต้าหู้เสฉวน (499 เยน) และข้าวผัดผักโขมโปะด้วยไข่นุ่มด้านบน (799 เยน รวมบาร์ซุป)

อีกเมนูที่ขาดไม่ได้ในร้านอาหารจีนก็คือ เมนูเส้น! แนะนำให้ลองเมนูราเมงเบาๆ ได้แก่ Kitakata Ramen (น้ำซุปซอสถั่วเหลือง 699 เยน) หรืออีกเมนูรสชาติจัดจ้าน ได้แก่ Sichuan Pepper and Chili Oil Tantanmen  (699 เยน) 

7. Joyfull

Joyfull เป็นอีกร้านอาหารสำหรับครอบครัวยอดนิยม ที่มีสาขากว่า 800 แห่งทั่วญี่ปุ่น ส่วนมากอยู่ในภูมิภาคคิวชูเนื่องจากเป็นภูมิภาคที่เปิดทำการครั้งแรก Joyfull ก็คล้ายกับร้านอาหารสำหรับครอบครัวอื่นๆ ที่มีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้งเมนูแบบญี่ปุ่นและตะวันตก โดยแบ่งออกเป็น แกรนด์เมนู เมนูอาหารเที่ยง เมนูอาหารเช้า เมนูเบาๆ และเมนูสำหรับเด็ก 

Joyfull ไม่ได้จำกัดเวลาการสั่งอาหารตามช่วงเวลา ดังนั้นหากรู้สึกอยากรับประทาน Morning Egg Plate (495 เยน พร้อมบาร์เครื่องดื่ม) ซึ่งมาพร้อมกับไข่ เบคอน สลัดและขนมปัง ก็สามารถสั่งได้ตลอดทั้งวัน! และสามารถเลือกเปลี่ยนขนมปังเป็นข้าวได้ด้วย สำหรับเมนูอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น แนะนำให้ลอง Japanese Meal Plate with Grilled Salmon (603 เยน พร้อมบาร์เครื่องดื่ม) เป็นเมนูหน้าตาน่ารับประทานที่มีข้าวพร้อมซุปมิโซะและเครื่องเคียงมากมายอย่าง สลัด ปลาแซลม่อนย่าง และไข่เสิร์ฟมาในจานเดียวกัน

สามารถเลือกเมนูอาหารหลากหลายในราคาพิเศษได้จากโปรโมชั่นอาหารชุดของทางร้าน เช่น หากสั่งอาหารจานเดียวราคามากกว่า 299 เยน ขึ้นไปรับสิทธิสั่งเค้กเซตเพิ่มได้ในราคา 199 เยน (ปกติ 299 เยน)! พาร์เฟ่ต์ของที่นี่หน้าตาน่าอร่อยและราคาดีทีเดียวเพียงถ้วยละ 538 เยน เท่านั้น

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. Jonathan's

Jonathan's เป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัวที่มีสาขาส่วนใหญ่อยู่ในโตเกียวและเมืองข้างเคียงโดยรอบ นอกจากเมนูอาหารมาตรฐานของร้านสำหรับครอบครัวแล้วที่นี่ยังมีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น Hot and Sour Noodle Soup (799 เยน)

หรือจะสั่งเมนูข้าว เช่น Tandoori Chicken and Mexican Pilaf (949 เยน) Tomato and Chicken Healthy Multi-Grain Curry (899 เยน) เมนูอาหารกลางวันในวันธรรมดาสามารถเพิ่มข้าวได้ฟรีด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพลังงานสำหรับมื้อกลางวันมากขึ้น!

เมนูของหวานของที่นี่เป็นอีกจุดดึงดูดลูกค้าเช่นกัน เพราะว่ามีเมนูที่เปลี่ยนตามฤดูกาลอยู่อย่างเสมอ เช่น Pudding และ Amao Strawberry Sundae และ Belgian Pudding Chocolate and Ripe Mango Sundae (649 เยน)!

9. Saizeriya

Saizeriya เป็นร้านอาหารครอบครัวสไตล์อิตาเลียนที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในญี่ปุ่นรองจาก Gusto เปิดทำการครั้งแรกในจังหวัดชิบะ และเพียงไม่กี่ปีต่อมาได้ขยายสาขาเพิ่มเติมในภูมิภาคคิวชูและฮอกไกโด รวมทั้งมีสาขาที่ประเทศจีนด้วย! สามารถเลือกเริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูอาหารรับประทานเล่นที่หลากหลาย เช่น ปีกไก่ย่าง (299 เยน) และถั่วลันเตาพร้อมเบคอนและไข่ (199 เยน)

เมนูอาหารรับประทานเล่นอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ คือ Grilled Escargot (399 เยน) หรือหอยทากย่าง! สามารถสั่งขนมปังเพิ่มมารับประทานคู่กันได้ในราคา 79 เยน จานนี้เป็นเมนูหายากที่นำหอยทากมาแช่ในส่วนผสมของกระเทียมที่ทำให้มีรสเค็มและน้ำมักมะกอก ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวเมื่อรับประทานคู่กับขนมปัง

นอกเหนือจากเมนูอาหารเส้นและเนื้อที่หลากหลายแล้ว สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Saizeriya คือ มีพิซซ่าสำหรับรับประทานคนเดียว! ราคาตั้งแต่ 399 - 499 เยน เหมาะสำหรับคนที่อยากรับประทานอาหารหลายชนิดอย่างละนิดอย่างละหน่อย สามารถเลือกสั่งพิซซ่าและเมนูน่าสนใจอื่นๆ มาลองได้โดยไม่รบกวนเงินในกระเป๋ามากนัก

10. COCO'S

COCO'S มีสาขามากกว่า 500 แห่ง ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น เมนูอาหารเช้ามีให้เลือกทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก หรือหากรู้สึกว่าต้องการพลังงานมากเป็นพิเศษสามารถเลือกเป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ (วันธรรมดา 680 เยน วันหยุดสุดสัปดาห์ 780 เยน) ก็ได้

หรือหากอยากเก็บท้องไว้รอรับประทานมื้อหนักในช่วงอื่นของวัน อาจจะสั่ง Double Beef Hamburg Steak Cheese & Garlic Butter (1,390 เยน) พร้อมเลือกซอสเป็น ซอสสเต็กกระเทียม ซอสเดมิกลาส (ซอสสีน้ำตาลทำจากกระดูกวัว เนื้อวัว และผักต่างๆ) หรือซอสถั่วเหลืองมายองเนสวาซาบิ หากรู้สึกว่ายังไม่อิ่มจะสั่งอาหารรับประทานเล่น เช่น เฟรนช์ฟรายส์ (330 เยน พร้อมซอสบาร์บีคิวและมายองเนส) หรือ Shrimp and Broccoli Ajillo (490 เยน) มารับประทานเพิ่มก็ได้

สำหรับคนที่ชอบเมนูอาหารพิเศษและดีต่อสุขภาพ แนะนำให้สั่ง Garlic Butter Sirloin Steak (1,590 เยน) ซึ่งมาพร้อมกับมันฝรั่งอบทั้งลูก! เพียงเพราะว่าอยู่ในร้านอาหารสำหรับครอบครัวไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถสั่งอาหารดีๆ รสเลิศได้ แวะไปที่ร้านแล้วสั่งดูได้เลย!

ตามชื่อแล้วประเภทของร้านอาจจะเหมาะสำหรับการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นครอบครัว แต่ความจริงร้านอาหารประเภทนี้เป็นที่นิยมสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เพราะคุณภาพอาหารที่ดี ราคาไม่แพง และสามารถหารับประทานได้ง่ายแทบจะทุกที่ ร้านส่วนใหญ่จะเปิดทำการตลอดทั้งวันและมักมีบริการบุฟเฟ่ต์เครื่องดื่มด้วย จึงเป็นที่ที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่ใช้เวลารับประทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน ลองแวะไปดูสักครั้งหากพบร้านที่เราแนะนำ!

 

หากต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ มีไอเดียที่อยากทำให้เป็นจริงขึ้นมา หรือเพียงแค่มีคำถามเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เชิญชวนแวะมาทักทายเราได้เสมอที่ Facebook หรือ Twitter!

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan
นี่คือแอ็คเคาท์ทางการของ tsunagu japan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร