เหตุผล 10 ข้อ ทำไมถึงควรมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ??
ท่านเคยคิดที่อยากจะมาเรียนต่อต่างประเทศหรือไม่? ในการมาเรียนต่อต่างประเทศที่ญี่ปุ่นนั้นมีเสน่ห์มากมายที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่น หากท่านได้อ่านเหตุผลเหล่านี้แล้วอาจจะทำให้ท่านอยากมาเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นขึ้นมาก็เป็นได้ (สนับสนุนโดยมหาวิทยาลัยเคโอ)
1. ท่านจะได้รับการศึกษาในระดับชั้นนำของโลก
ในประเทศญี่ปุ่นมีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หลากหลายสาขาที่ท่านจะได้รับการศึกษาแบบระดับชั้นนำของโลก และที่เหล่านี้ได้มีการผลิตบุคลากรออกไปสู่ระดับโลก ยกตัวอย่างเช่นมีบุคลากรที่ได้รับรางวัลโนเบลจากกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่ประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในยุโรปถึง 22 คน และมี 17 คนที่ได้รับรางวัลจากสาขาฟิสิกส์ เคมีและการแพทย์
ไม่เพียงแค่แต่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ยังมีวิทยาลัยและโรงเรียนสายอาชีพ ฯลฯ หลายแห่ง เป็นตัวเลือกให้ท่านสามารถเลือกศึกษาวิชาและสาขาที่ตัวท่านเองสนใจได้อย่างกว้างขวางและมากมาย
และเป็นที่แน่นอนสำหรับคนที่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้น การเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นก็จะถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
2. ค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อไม่แพงอย่างที่คิด
สำหรับนักศึกษาในกลุ่มประเทศเอเชียแล้ว เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อในประเทศทางยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้วนั้นถูกกว่า และนักศึกษาต่างชาติจะสามารถทำงานพิเศษในประเทศญี่ปุ่นเพื่อใช้เป็นค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตได้ อีกทั้งประเภทของงานพิเศษก็มีมากมาย ซึ่งถ้าหากท่านเลือกงานพิเศษในสิ่งที่ท่านสนใจแล้วก็สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการทำงานในอนาคตได้
3. สามารถมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นได้
นักศึกษาชาวญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นมิตรกับนักศึกษาต่างชาติ และทางมหาวิทยาลัยเองก็อยากให้นักศึกษาต่างชาติชินกับชีวิตนักศึกษาได้โดยเร็ว จึงมีการจัดทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์และอื่นๆ กับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นอย่างมากมายเป็นประจำอยู่เสมอ
โดยทางมหาวิทยาลัยเคโอนั้นไม่ได้ทำการแยกคณะหรือสาขาให้สำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่ให้นักศึกษาต่างชาติร่วมเรียนในคณะหรือสาขาร่วมกันกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่น และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์กับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นมากกว่าแห่งอื่น ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับคนที่ชอบเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน
4.รับประสบการณ์วัฒนธรรม “เซอร์เคิล” ของญี่ปุ่นได้
มหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นนั้นมีวัฒนธรรมที่เรียกว่า “เซอร์เคิล” ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาที่มีความสนใจอย่างเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับชมรมโดยทั่วไปแล้ว เซอร์เคิลจะให้ความสำคัญเรื่องความสัมพันธ์และการสื่อสารระหว่างนักศึกษาด้วยกันมากกว่า
เซอร์เคิลนี้จะแยกเป็นด้านกีฬา เช่น เทนนิส ฟุตบอล คาราเต้ และด้านวัฒนธรรม เช่น ดนตรี ถ่ายภาพ ภาษา ในด้านวัฒนธรรมนี้ยังมีกลุ่มพวกอนิเม คาบุกิ รถไฟ ที่เป็นของญี่ปุ่นด้วย ในมหาวิทยาลัยเคโอมีเซอร์เคิลและชมรมที่มหาวิทยาลัยยอมรับถึง 474 กลุ่ม ซึ่งจะทำให้ท่านสามารถค้นพบสิ่งที่ท่านสนใจได้อย่างแน่แท้
และสำหรับมหาวิทยาลัยที่อยู่ในชุมชนเมือง จะมีเซอร์เคิลแบบ “ระหว่างมหาวิทยาลัย”ที่นักศึกษามหาวิทยาลัยอื่นสามารถเข้าร่วมได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำให้แลกเปลี่ยนความสัมพันธ์กับนักศึกษาต่างมหาวิทยาลัยได้
เราจึงอยากให้ท่านเข้าร่วมกับเซอร์เคิลดังกล่าว โดยที่ท่านจะสามารถสนุกไปกับการสื่อสัมพันธ์กับคนญี่ปุ่นและพัฒนาสิ่งที่ท่านสนใจได้มากขึ้นไปอีกด้วย
5. โรงอาหารที่มีอาหารหลากหลาย นอกจากราคาถูกแล้วยังมีโภชนาการสมดุลอย่างยอดเยี่ยม
ในมหาวิทยาลัยมีโรงอาหารสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ นอกจากอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยแล้วก็ยังมีอาหารฝรั่งและอาหารจีนที่นำมาบริการในราคาถูก และยังมีโรงอาหารของมหาวิทยาลัยที่สามารถทานอาหารเช้าในราคา 100 เยนได้ด้วย อีกทั้งมีการคำนึงถึงความสมดุลทางโภชนาการอีกด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพมากสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่รับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบ
และเมื่อไม่นานนี้ มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้เสริมสร้างความพร้อมสำหรับโรงอาหารในมหาวิทยาลัย เช่น มีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมาเปิดร้าน มีอาหารเป็นคอร์ส และมีอาหารฮาลาลอีกด้วย
6. เครือข่ายของนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วสัมพันธ์แน่นแฟ้น และยังเชื่อมต่อหลังจากที่ทำงานแล้ว
เครือข่ายนักศึกษาที่จบไปแล้วนั้นแน่นแฟ้นมาก ถึงแม้จะจบการศึกษาไปแล้ว ความสัมพันธ์ในการทำงาน เรื่องส่วนตัวก็ยังเกิดขึ้นต่อได้ง่าย
ในช่วงกิจกรรมหางานนั้น มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นคือการเยี่ยมเยียนรุ่นพี่ ซึ่งถึงแม้จะไปเคยพบเห็นหน้ากันก็ตาม แต่ถ้าเป็นการไปเยี่ยมเยียนรุ่นพี่ที่จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันแล้ว รุ่นพี่นั้นก็จะให้คำปรึกษาในการหางานอย่างจริงใจ และในบางกรณีเมื่อไปเยี่ยมเยียนบริษัทที่รุ่นพี่ทำงานอยู่ก็อาจจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับฝ่ายบุคคลของบริษัทได้
และสำหรับมหาวิทยาลัยเคโอนั้น ทางนิตยสาร Fortune500 ได้เลือกให้เป็นสถาบันที่ผลิต CEO ของกิจการมากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก และผลิตผู้บริหารของบริษัทมหาชนมากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศญี่ปุ่น ในรุ่นพี่ที่มีบทบาทในโลกธุรกิจกับเครือข่ายนั้นเพียบพร้อมถือเป็นจุดเด่นเลยทีเดียว
7. ประเทศญี่ปุ่นมีความปลอดภัย เมืองสะอาด สิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิตเพียบพร้อม
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยดีมากในระดับโลก และเป็นเมืองที่มีความสะอาด สามารถอาศัยอยู่ได้ง่าย
ในเขตเมืองหลวงถ้าเป็นสถานที่ห่างจากสถานีไปเกิน 10 นาทีโดยการเดินแล้ว ค่าเช่าบ้านก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร
และส่วนใหญ่ ภายในระยะใกล้ๆ ก็มีร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมง และยังมีตู้ขายของอัตโนมัติอยู่ทั่วไป ซึ่งถ้าเป็นการซื้อของเพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ลำบากเลย
8. เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ง่าย และได้รับการรักษาในราคาถูก
ประเทศญี่ปุ่นสามารถเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ได้ง่าย อีกทั้งยังมีระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ (มีกฎบังคับว่าต้องทำกรณีที่อาศัยเกิน 1 ปีขึ้นไป) เมื่อทำประกันนี้แล้ว จะทำให้เสียค่ารักษาทางการแพทย์ที่ต้องจ่ายเองแค่ 30% ซึ่งเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาหรือที่อื่นแล้วถือว่าไม่แพงเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยเคโอมีศูนย์อำนวยการสุขภาพอยู่ในแคมปัส ซึ่งสามารถทำการรักษาเบื้องต้น หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพ และทำการตรวจอาการได้ฟรี ซึ่งจะสามารถทำให้นักศึกษาต่างชาติรู้สึกอุ่นใจได้
9. สามารถสนุกไปกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น และฤดูทั้งสี่ได้
นักศึกษาที่มาศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่มีความสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่นที่อร่อย และฤดูที่สวยงามทั้งสี่นี้มีอยู่มาก เมื่อมาศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นแล้ว ในชีวิตประจำวันนั้นก็จะสามารถสนุกไปกับสิ่งเหล่านี้ได้
และแน่นอน เมื่ออยู่ในญี่ปุ่นแล้ว เราก็จะสามารถท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ ในประเทศได้ง่ายขึ้น
10. สามารถรับประสบการณ์วัฒนธรรมล้ำหน้าในระดับโลกได้
โดยเฉพาะในโตเกียวนั้นอาหาร แฟชั่น ศิลปะ ซับคัลเจอร์ต่างๆ ที่เป็นล้ำหน้าในระดับโลกนั้นรวมกันอยู่ที่นี่ ท่านจะสามารถรับถึงประสบการณ์ล้ำหน้าเหล่านี้ได้เต็มที่ และอีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงธุรกิจของโลกแต่ก็ยังมีธรรมชาติมากมาย มีวัด ศาลเจ้าที่เป็นทิวทัศน์ทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายเช่น สกายทรี โตเกียวทาวเวอร์ ฯลฯ
มหาวิทยาลัยเคโอมีแคมปัสที่อยู่ในใจกลางเมืองโตเกียว เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้โตเกียวทาวเวอร์มากที่สุด เมื่อท่านมีเวลาว่างหรือในวันหยุด ท่านจะสามารถสนุกไปกับวัฒนธรรมที่ล้ำหน้าและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้
และทั้งหมดที่กล่าวไปนี้ ท่านคิดว่าอย่างไร
ในการมาศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นนี้ แน่นอนในด้านการศึกษาซึ่งมีเพียบพร้อมแล้วยังเหมาะสมกับคนที่อยากมาสัมผัสการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยแท้จริง และคนที่กำลังคิดที่จะทำงานในบริษัทญี่ปุ่นอีกด้วย
ในบทความแนะนำมหาวิทยาลัยเคโอนี้ เราได้เตรียมโปรแกรมการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษทั้ง 4 ปีด้วย 2 โปรแกรม คือโปรแกรม “PEARL” ของคณะเศรษฐศาสตร์และโปรแกรม “GIGA” ของคณะสิ่งแวดล้อมกับการศึกษาข้อมูล รวมทั้งคณะการจัดการนโยบาย
ในการเรียนรู้และเข้าใจถึงวัฒนะธรรมและสังคมของญี่ปุ่น รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการทำงานที่ญี่ปุ่นนั้น เราได้เตรียมวิชาภาษาญี่ปุ่นไว้ให้ท่านด้วย สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูข้อมูลในเว็บไซต์ที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะได้
[โปรแกรมที่สามารถศึกษาโดยใช้เพียงแค่ภาษาอังกฤษ]
PEARL (คณะเศรษฐศาสตร์)
Official Site: http://pearl.keio.ac.jp/
GIGA (คณะสิ่งแวดล้อมกับการศึกษาข้อมูล, คณะการจัดการนโยบาย)
Official Site: http://ic.sfc.keio.ac.jp/the-giga-program/giga-courses/
มหาวิทยาลัยเคโอและมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งจะมารวมกันในงานแนะแนวการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2558 (เนื่องด้วยสถานการณ์และปัจจัยหลายๆ อย่าง จึงต้องขอเลื่อนวันจัดไป รายละเอียดยังไม่แน่ชัด) ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย สำหรับคนที่กำลังพิจารณาเรื่องการศึกษาต่อต่างประเทศอยู่นั้น ท่านจะสามารถสอบถามถึงค่าเล่าเรียน ทุนการศึกษา หอพัก วิชาและคำถามอื่นๆ ได้อย่างแท้จริง ขอเชิญทุกท่านให้ไปที่งานนี้กันเถอะ
ดูรายละเอียดงานแนะแนวการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น!!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่