ร้านเทมปุระแนะนำ 10 แห่งในย่านอาซากุสะ
"เทมปุระ" คือของทะเลหรือผักที่ถูกนำมาทอดในแป้งสาลี เป็นอาหารแบบดั้งเดิมที่กลุ่มชาวบ้านคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยเอโดะ (江戸) ที่ย่าน "อาซากุสะ (浅草)" ซึ่งเป็นใจกลางแห่งวัฒนธรรมชาวเมืองเอโดะนั้นมีร้านเทมปุระอยู่มากมาย ในบทความนี้เราจะแนะนำร้านเทมปุระ 10 แห่งใน "อาซากุสะ" ให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้รู้จักไปด้วยกัน
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Asakusa Tempura Aoi Marushin (浅草天麩羅 葵丸進) [อาซากุสะ]
"Aoi Marushin" เป็นร้านเทมปุระที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานีอาซากุสะและวัดเซ็นโซจิ แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในอาซากุสะ นอกจากเทมปุระแล้วที่นี่ก็ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างซูชิ ซาชิมิ และพวกของดองอยู่ด้วย เป็นร้านแสนสะดวกที่จะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นในคราวเดียว
ของขึ้นชื่อของร้านนี้ ได้แก่ คาคิอาเกะที่มีขนาดใหญ่จนแทบล้นออกมาจากจาน คาคิอาเกะคือผักหรือพวกกุ้งหอยปูปลาที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ชุบแป้งสาลีแล้วนำมาทอด อีกทั้งปลาที่ใช้ทำซูชิหรือเทมปุระของร้านก็เป็นของสดใหม่ที่สั่งเข้ามาทุกวัน ที่สำคัญทางร้านจะเริ่มทำอาหารหลังจากได้รับออเดอร์จากลูกค้าเท่านั้น ทำให้ได้ลูกค้าทุกท่านสามารถรับประทานอาหารในสภาพที่ดีที่สุดและกรุบกรอบที่สุด
เทนด้ง (ข้าวหน้าเทมปุระ) ของที่นี่ไม่ว่าจะเมนูไหนก็เปี่ยมด้วยปริมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนู "Oanago Ten-don (2,005 เยนไม่รวมภาษี)" นั้นมีปลาไหลทะเล (อานาโกะ) ที่มีรสสัมผัสอ่อนนุ่ม ไขมันต่ำ และรับประทานง่ายใส่อยู่เต็มตัว ทว่าเมนูนี้จำกัดจำนวน 30 ที่ต่อวันเท่านั้น ใครที่อยากมาลิ้มลองก็แนะนำให้รีบมาที่ร้านแต่เนิ่นๆ เลย
2. Asakusa Nakasei (浅草 中清) [อาซากุสะ]
"Nakasei" เป็นร้านเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานราวๆ 150 ปี โดยก่อตั้งขึ้นในสมัยเมจิ (明治) ตอนต้น เห็นว่าเมื่อก่อนมีนักประพันธ์มือเอกของญี่ปุ่นเคยมาใช้บริการบ่อยๆ ด้วยนะ ที่ร้านแห่งนี้ท่านจะได้นั่งพักทานอาหารในบรรยากาศสบายๆ ขณะที่ได้ชมสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ถูกตกแต่งอย่างงดงาม
"ไรจินอาเกะ (雷神揚げ)" หรือเมนูที่มีรูปทรงคล้ายกับกลองไทโกะของเทพเจ้าสายฟ้าไรจิน (雷神) นั้นเป็นเมนูเด็ดของที่นี่ มันถูกทอดในน้ำมันงากลิ่นหอม เมื่อได้นำเข้าปาก กลิ่นของน้ำมันงาก็จะคลุ้งไปทั่วทั้งปากและจมูก เป็นความอร่อยที่วางไม่ลงเลยทีเดียว
สำหรับอาหารชุด ท่านจะได้รับประทาน "เทนฉะ (天茶)" หรือเมนูที่วางเทมปุระไว้บนข้าวแล้วราดด้วยชา ชารสอ่อนๆ แทนซอสรสหวานๆ เค็มๆ จะทำให้เราดื่มด่ำไปกับรสชาติที่แท้จริงของเทมปุระได้มากยิ่งขึ้น
3. Daikokuya Tempura Main Branch (大黒家天麩羅 本店) [อาซากุสะ]
"Daikokuya Tempura" เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องซอสทาเระในเทนด้งที่เข้มข้นมากๆ มันมีรสชาติอันล้ำลึก ชวนให้นึกถึงเรื่องในอดีตจนทำให้หลายคนอยากกลับมารับประทานอีกครั้งเลยทีเดียว ด้วยความที่ใส่ซอสทาเระรสหวานๆ เค็มๆ มาให้อย่างเต็มที่ ทำให้สีของเทมปุระกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม นอกจากเทมปุระแล้ว ข้าวที่ชุ่มไปด้วยซอสทาเระก็ยังเป็นอะไรที่สุดยอดเช่นกัน
สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยชอบการปรุงรสที่เข้มข้นหรืออยากมาลิ้มลองรสสัมผัสที่กรุบกรอบของเทมปุระมากกว่า เราขอแนะนำเมนูชุดเทมปุระ ซึ่งท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติที่ท่านโปรดปราน ไม่ว่าจะใส่เกลือ หรือว่ารับประทานกับเทนสึยุ (น้ำจิ้มเทมปุระ) และหัวไชเท้าขูดที่เสิร์ฟมาให้คู่กัน
นอกจากนี้ ยังมีเมนูเครื่องเคียงอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น "Nasu no Shigiyaki (680 เยนรวมภาษี)" ที่ปรุงรสมะเขือม่วงทอดด้วยมิโซะ หรือ "Kyurimomi (580 เยนรวมภาษี)" ที่เป็นกุ้งและแตงกวาดองน้ำส้มสายชู เป็นต้น เมนูที่เหมาะสำหรับนำมาเป็นกับแกล้มเหล้าก็มีอยู่หลายเมนูเลยนะ
4. Kaminarimon Sansada (雷門 三定) [อาซากุสะ]
"Sansada" เป็นร้านเทมปุระที่ไม่น่าเชื่อว่าจะก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) ซึ่งเป็นเวลา 180 ปีก่อนนับจากปัจจุบันนี้ ถึงขนาดที่ว่าถูกบันทึกชื่ออยู่ในภาพพิมพ์ที่ติดอยู่รอบๆ ประตูเมืองอาซากุสะในสมัยนั้นเลย ว่ากันว่าร้านนี้เป็นร้านเทมปุระที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นสถานที่ที่เทนด้งถือกำเนิดขึ้นมาด้วย อีกทั้งด้วยความที่ตั้งอยู่ในทำเลดีข้างๆ "ประตูคามินาริมง (雷門)" ที่นี่จึงเป็นร้านยอดนิยมโดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยว
เทมปุระสไตล์เอโดะที่ปรุงรสด้วยน้ำมันงานั้นมีรสสัมผัสที่กรุบกรอบและบางเบาเป็นจุดเด่น ร้านนี้มีเมนูที่หลากหลายตั้งแต่เมนูที่มีราคาย่อมเยาอย่างเช่นเทมปุระหรือเทนด้ง (ประมาณ 1,000 เยน) ไปจนถึงเมนูสุดหรูอย่าง "Ebi Tokujo-don (ข้าวหน้ากุ้งชามใหญ่พิเศษ)" ที่มีราคา 3,000 เยนขึ้นไป ซึ่งผักและพวกกุ้งหอยปูปลาที่ใช้ทำก็แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นขอให้เลือกรับประทานเมนูที่ชื่นชอบโดยปรึกษากับเงินในกระเป๋าของท่านให้ดีเสียก่อนนะ
สำหรับคนที่รับประทานไม่เยอะ เราขอแนะนำเมนูอาหารกล่อง ซึ่งในกล่องจะมีเทมปุระ ซาชิมิ ไข่ม้วนย่าง ฯลฯ อยู่อย่างละนิดละหน่อย ทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่หลากหลายได้ในปริมาณที่ไม่เยอะ อีกทั้งเมนูนี้ยังเป็นเมนูที่มีสีสันสวยงามด้วย
5. Tempura Seikou (天麩羅 晴光) [อาซากุสะ]
"Seikou" เป็นร้านเทมปุระที่ได้รับรางวัล "Bib Gourmand" ถึง 3 ปีซ้อน ซึ่งรางวัลนี้เป็นรางวัลที่มอบให้ร้านชื่อดังที่มีคุณภาพคุ้มราคาจากมิชลินไกด์ โตเกียว อาหารจานเดียวส่วนใหญ่จะมีราคาไม่เกิน 2,000 เยน ส่วนเทมปุระของร้านนี้นอกจากน้ำจิ้มแล้วยังมีเกลือสูตรพิเศษ 5 แบบให้ได้ลิ้มลอง ท่านจะได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติที่แท้จริงของแต่ละส่วนประกอบอาหารได้อย่างเต็มที่
แม้ว่าร้านเทมปุระหลายร้านมักจะใส่ส่วนประกอบอาหารซ้อนทับกันเยอะๆ แต่ร้านนี้กลับปรุงแต่งให้เทมปุระดูโดดเด่นขึ้นมา ซึ่งการพิถีพิถันใส่ใจทั้งในรูปร่างหน้าตาของอาหารและรสชาตินั้นถือว่าเป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมาก การปรุงรสแบบอ่อนๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ดูดีมีรสนิยมเช่นกัน
ภายในร้านมีเพียง 11 ที่นั่งซึ่งถือว่าเป็นร้านที่ค่อนข้างเล็ก รูปลักษณ์ภายนอกของร้านก็เรียบง่าย จะเรียกว่าเป็นร้านเทมปุระลับๆ ที่มีชื่อเสียงเลื่องลื่อก็ว่าได้ ในช่วงมื้อเย็นที่นี่จะเปิดให้บริการเฉพาะผู้ที่สำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้นและจะมีการเสิร์ฟไวน์ด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากมาใช้เวลาแบบเรื่อยๆ สบายๆ เป็นอย่างยิ่ง
6. Shitamachi Tendon Akimitsu (下町天丼 秋光) [อาซากุสะ]
"Akimitsu" เป็นร้านเทมปุระที่ค่อนข้างใหม่ในย่านเทมปุระของอาซากุสะ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อปี 2015 เทนด้งของร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การตกแต่งที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจเพราะใส่ปลาไหลทะเลอานาโกะตัวใหญ่มาเต็มๆ ทั้งตัว อานาโกะไร้กลิ่นเหม็นที่เลือกเฟ้นมาจากทั่วประเทศนั้นเป็นอะไรที่ท่านควรหาโอกาสมาลิ้มลองกันด้วยตัวเอง
"Godaime Ten-don (五代目天丼 หรือเทนด้งรุ่นที่ห้า)" ที่มีปริมาณมากที่สุดในบรรดาเมนูทั้งหลายนั้นใส่ผัก กุ้ง อานาโกะ ฯลฯ มาให้เยอะจนไม่น่าเชื่อ ขนาดที่ว่าเทนด้งชามใหญ่ของร้านไหนๆ ในย่านอาซากุสะก็ยังไม่มีปริมาณมากเท่านี้ ขอแนะนำให้สั่งเมนูนี้มาแบ่งกันรับประทานหลายๆ คน
ด้วยความที่เปิดทำการได้ไม่นาน ทางร้านจึงมีเมนูที่เปี่ยมไปด้วยลักษณะเฉพาะออกมาเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นก็คือ "เทนด้งเย็น" ที่เสิร์ฟพร้อมดาชิ (น้ำซุปปลาแห้งและสาหร่ายคอมบุ) แช่แข็งและซุปดาชิเหลวเย็น อย่างไรก็ตามเมนูที่มีเอกลักษณ์เหล่านี้มักจะขายเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น ดังนั้นมาเพลิดเพลินไปกับพวกมันสักครั้งหนึ่งในชีวิตกันเถอะ
7. Tempura Kappo Kinsen (天ぷら 割烹 金泉) [อาซากุสะ]
"Kinsen" เป็นร้านเทมปุระและอาหารญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี ช่วงอาหารกลางวันในวันธรรมดา ท่านจะได้รับประทานอาหารชุดเทมปุระ เทนด้ง ไคเซนด้ง (ข้าวหน้าอาหารทะเล) ฯลฯ ในราคาย่อมเยาประมาณ 1,000 เยน
เทนด้งที่ทำขึ้นมาอย่างประณีตของที่นี่ถูกปรุงรสอย่างลงตัวให้ไม่เข้มข้นหรือจืดจางจนเกินไป ใส่ข้าวที่แยกเม็ดชัดเจนและขึ้นชื่อว่าอร่อยมาก "คาคิอาเกะด้งหรือข้าวหน้าผักรวมชุบแป้งทอด (2,200 เยน)" ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อนั้นใส่ทั้งกุ้ง ปลาหมึก เอ็นหอย และรากบัว อีกทั้งยังมีไซซ์มินิ (1,600 เยน) ด้วย คนที่รับประทานน้อยก็วางใจได้
ด้วยความที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ที่นี่จึงมีอาหารญี่ปุ่นอยู่หลายเมนู เช่น ชุดซาชิมิที่เลือกใช้ปลาเกรดดีอย่างปลาไทและปลามากุโระ และหอยเม่นนั้น เป็นซาชิมิชิ้นหนาๆ ที่แทบจะละลายในปากได้เลย เมนูที่เหมาะกับเหล้าก็มีอยู่มากมายเช่นกัน
·ที่นี่ได้ปิดทำการแล้วเมื่อเดือน 5 ปี 2563
8. Asakusa Juroku (浅草じゅうろく) [อาซากุสะ]
"Asakusa Juroku" เป็นร้านโซบะที่ได้รับความนิยมสูงมากในย่านรอบๆ อาซากุสะ เคล็ดลับความนิยมของร้านนี้คือ การเสิร์ฟอาหารที่มีคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล อย่างเช่นเส้นโซบะชั้นยอดของร้านก็เป็นของที่ถูกทำขึ้นโดยหญิงเจ้าของร้านอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟพร้อมเทมปุระหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเทมปุระผักอย่างพวกหน่อไม้ฝรั่ง ผักหนามญี่ปุ่น หรือเทมปุระทะเลอย่างอานาโกะและปลาคิซุ
เทมปุระทอดเสร็จใหม่ๆ ของที่นี่นั้นมีรสสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน ทั้งยังเสิร์ฟมาบนฟางอย่างสวยงาม ทำให้สัมผัสได้ถึงความหรูหราราวกับภัตตาคารญี่ปุ่นเลย รสสัมผัสเบาๆ ที่ไม่มีความมันเลี่ยนทำให้มันสามารถรับประทานคู่กับโซบะได้สบายๆ
หากมาร้านนี้ ขอให้ลองสั่งโซบะพร้อมกับเทมปุระดู เพราะท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับโซบะดำรสชาติเข้มข้นและเคี้ยวได้เต็มปากเต็มคำกับโซบะขาวที่มีรสสัมผัสนุ่มนวลในจานเดียว ยังไงก็ลองหาโอกาสมาเทียบรสชาติกันดูนะ
9. Nihonryori Mochizuki (日本料理もちづき) [อาซากุสะ]
ย่านอาซากุสะมีตึกที่มีรูปทรงเป็นแก้วเบียร์สีทองที่มีเอกลักษณ์ตั้งอยู่ โดย "Nihonryori Mochizuki" ก็คือร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนชั้น 21 ของอาคารนั้นนั่นเอง แม้ว่าจะตกแต่งภายในอย่างเลิศหรู แต่ในช่วงอาหารกลางวันของวันธรรมดา ท่านสามารถรับประทานเทนด้งได้ในราคาประมาณ 1,000 เยนและอาหารชุดเทมปุระหรืออาหารชุดเทมปุระ-ซาชิมิในราคาประมาณ 2,000 เยนเท่านั้น
ในช่วงอาหารเย็นและช่วงอาหารกลางวันของวันหยุดนั้น ขอให้ลองมาเพลิดเพลินไปกับอาหารชุดแบบหรูๆ กันดู เพราะเป็นอาหารชุดที่ใช้วัตถุดิบทำเทมปุระที่สดใหม่ตามฤดูกาล ทั้งยังถูกตกแต่งให้มีหลากหลายสีสันจนแค่มองเฉยๆ ก็สุขใจแล้ว
ด้วยความที่ตั้งอยู่บนตึกชั้น 21 วิวจากหน้าต่างจึงยอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืน แสงสว่างจากตึก สถานีรถไฟและตึก Tokyo Skytree ก็เป็นอะไรที่โรแมนติกที่สุด เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่น่ามาใช้บริการเพื่อสร้างความทรงจำในการเดินทางอย่างยิ่ง
10. Asakusa Yakatabune Amisei (浅草屋形船 あみ清) [อาซากุสะ]
Yakatabune หมายถึง เรือสไตล์ญี่ปุ่นที่ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับงานเลี้ยงบนเรือได้ ด้วยความที่อาซากุสะเป็นย่านที่มีแม่น้ำสุมิดะ (隅田川) ไหลผ่าน ทำให้มีหลายๆ บริษัทเปิดให้บริการเดินเรือ Yakatabune ซึ่ง "Amisei (あみ清)" ก็เป็นหนึ่งในนั้น อาหารชุดของ Amisei เสิร์ฟให้ลูกค้าตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป ในชุดอาหารดังกล่าวท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นจำพวกเทมปุระ นิกิริซูชิ และซุปมิโซะ รวมถึงเหล้าแบบดื่มได้ไม่อั้นเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
นอกจากนี้ท่านยังสามารถรับประทานเทมปุระทอดเสร็จใหม่ๆ ได้แบบไม่อั้น โดยปกติแล้วเรือเหล่านี้จะรองรับเฉพาะที่นั่งบนพื้น แต่ปัจจุบันก็มีเรือหลายลำที่มีที่นั่งแบบโต๊ะเพื่อคอยต้อนรับลูกค้าจากต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อได้ขึ้นเรือ Yakatabune นอกจากเอร็ดอร่อยกับอาหารแล้วก็ขอให้จับตามองทิวทัศน์ด้วย เรือที่แล่นจากอาซากุสะลงไปทางใต้นั้นจะแล่นไปถึงโอไดบะ (お台場) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามชายฝั่งเลียบอ่าว แล้วแล่นกลับมา การล่องเรือตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงกลางคืน ท่านจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกและทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่แสนงดงามอย่างเต็มที่
แม้ว่าแรกเริ่มเดิมทีเทมปุระจะเป็นอาหารของชาวบ้าน แต่ในปัจจุบันร้านเทมปุระก็มีหลากหลายมากขึ้นตั้งแต่ร้านสุดหรูไปจนถึงร้านที่มีราคาย่อมเยา ซึ่งรสชาติและส่วนประกอบก็จะต่างกันออกไป ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันของแต่ละร้าน ในการเดินทางมา "อาซากุสะ" ถ้าท่านได้เจอร้านเทมปุระที่ถูกใจก็คงจะดีไม่น้อยเลย
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่