10 ถนนช็อปปิ้งในโตเกียวที่คุณไม่ควรพลาด [ฉบับปี 2019]
คุณเคยไปเที่ยวถนนช็อปปิ้ง (โชเทนไก ในภาษาญี่ปุ่น) กันบ้างไหม? โชเทนไกเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการช็อปและกินอย่างคนในพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายของวิถีชีวิตประจำวันของคนในพื้นที่ให้คุณได้สัมผัส เชิญพบกับ 10 โชเทนไกที่คุณควรแวะไปให้ได้ในปี 2019!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
โชเทนไกคืออะไร?
โชเทนไก เมื่อแปลตรงๆ แล้วจะมีความหมายว่า "ถนนของร้านค้า" แต่ในความเป็นจริง คำๆ นี้มีนัยยะทางวัฒนธรรมและสังคมที่ลึกซึ้งกว่านั้น กล่าวกันว่าโชเทนไกที่จุดเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณช่วงท้ายของศตวรรษที่ 15 โดยเริ่มต้นขึ้นในฐานะสถานที่รวมตัวของเหล่าพ่อค้าขายปลีกที่ในภายหลังได้สร้างองค์กรของตัวเองขึ้นมา ปัจจุบันคำๆ นี้ถูกใช้เรียกย่านช็อปปิ้งที่มักอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ร้านค้าที่มีนั้นมักจะประกอบไปด้วยร้านวัตถุดิบ ร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านทำผม ร้านปาจิงโกะ และร้านค้าเล็กๆ อื่นๆ อีกมากมาย โชเทนไกมักตั้งอยู่ห่างจากย่านที่อยู่อาศัย และมีบรรยากาศที่คึกคักสดใส เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมเก่าใหม่ของญี่ปุ่น
โชเทนไก ยังถูกใช้เป็นคำเรียกองค์กรหรือสหภาพของเหล่าผู้ค้าขายปลีก องค์กรส่งเสริมการค้าของโชเทนไกจะวางแผนและจัดอีเว้นต์เพื่อสนับสนุนสังคมในท้องที่ในช่วงเทศกาลหรือโอกาสพิเศษอื่นๆ ตลอดทั้งปี สามารถกล่าวได้ว่า โชเทนไกไม่เพียงแต่จำหน่ายสินค้าในชีวิตประจำวันให้กับผู้คนในท้องถิ่น แต่ยังช่วยรักษาวัฒนธรรมประเพณีในท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไปอีกด้วย
เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้น ด้านล่างนี้คือคู่มือเล็กๆ น้อยเกี่ยวกับการช็อปปิ้งในญี่ปุ่น รับรองได้ว่าพ่อค้าแม่ค้าจะต้องดีใจอย่างแน่นอนเมื่อได้ยินคุณพูดภาษาญี่ปุ่น!
ด้านล่างนี้คือ 10 โชเทนไกชื่อดังในโตเกียว หากคุณเป็นผู้ที่ต้องการสัมผัสกับอาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปให้ได้!
1. Ameya Yokocho (อุเอโนะ)
อะเมยะโยโกะโจ (Ameya Yokocho) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ อะเมโยโกะ (Ameyoko) ตั้งอยู่ติดๆ กับสถานีอุเอโนะ เป็นสถานที่คึกคักอยู่ตลอดเวลา เหล่าพ่อค้าจะทำการเชียร์สินค้ากันอย่างแข็งขัน ในขณะที่ลูกค้าเองก็พยายามต่อรองราคา เนื่องจากพ่อค้าในละแวกนี้ขายของกันเก่งมาก หากคุณโชคดี คุณอาจจะได้รับส่วนลดและของแถมอีกด้วย ประสบการณ์การช็อปปิ้งที่นี่มีคุณค่ามากพอๆ กับสินค้าดีๆ ที่วางขายอยู่ตามร้านค้าแผงลอย ซึ่งอัดแน่นอยู่ทั่วทุกมุมของถนนสายนี้
อะเมโยโกะเป็นถนนช็อปปิ้งไม่กี่แห่งที่พัฒนามาจากตลาดมืดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และยังคงเหลืออยู่ในทุกวันนี้ สถานที่นี้เริ่มต้นมาจากการเป็นตลาดขายสินค้าอเมริกัน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้แม้แต่ในทุกวันนี้ คุณก็ยังสามารถเห็นร้านที่วางขายแบบจำลองและเครื่องแต่งกายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ทหารอเมริกัน
คุณยังจะได้พบกับอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิดวางขายอยู่ ร้านส่วนใหญ่มักจะมอบสินค้าชิ้นเล็กๆ ให้คุณได้ลองชิม นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น!
อะเมโยโกะเป็นสถานที่ซื้อของฝากที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางสายประหยัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซื้อเป็นจำนวนมากๆ อย่างไรก็ตาม ถนนช็อปปิ้งสายนี้ก็ยังมีร้านค้าปลีกที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าหรูหราและหายาก เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินค้าที่ไม่ธรรมดา
หากมีโอกาสได้มาแถวนี้แล้ว ไม่ควรลืมที่จะแวะไปสถานที่อันมีเอกลักษณ์ในอุเอโนะเหล่านี้!
2. Yanaka Ginza Shotengai (นิปโปริ)
ยานากะกินซ่าโชเทนไก (Yanaka Ginza Shotengai) ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เดินเพียงไม่กี่นาทีจากสถานีนิปโปริ เมื่อออกมาจากสถานีนิปโปริ คุณจะถูกรายล้อมไปด้วยบรรยากาศแบบย่านวัดในสมัยก่อน เมื่อเดินต่อจากถนนที่มีเสน่ห์นี้ไป คุณจะพบกับจุดชมวิวชื่อดังที่ผู้คนในพื้นที่เรียกมันว่า "ยูยาเคะดันดัน" (Yuyake Dandan ขั้นบันไดพระอาทิตย์ตกดิน) คุณจะสามารถเห็นยานากะกินซ่าโชเทนไกได้จากด้านบนสุดของจุดชมวิวนี้ หากมาในช่วงสายๆ แล้วล่ะก็ คุณยังอาจได้รับชมพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วย ทิวทัศน์ของบ้านเมืองที่ถูกย้อมด้วยสีส้มอ่อนๆ นั้นคุ้มค่าแก่การรับชมจริงๆ
ด้วยความยาวกว่า 170 เมตร โชเทนไกแห่งนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 60 ร้าน ประเภทของสินค้าที่ขายมีอยู่อย่างหลากหลาย และส่วนใหญ่แล้วเป็นร้านที่บริหารงานกันเองภายในครอบครัว ถนนช็อปปิ้งสายนี้ค่อนข้างเงียบสงบเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ และยังมีบรรยากาศแบบสมัยก่อนในยุคโชวะ (1926-1989) บรรยากาศโดยทั่วไปของโชเทนไกแห่งนี้คือสงบและเป็นกันเอง และมีขนาดที่กะทัดรัด เหมาะแก่การเดินชมตลาดญี่ปุ่นสมัยก่อนพลางแวะชิมอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ
3. Sunamachi Ginza Shotengai (นิชิโอจิมะ)
สุนะมาจิกินซ่าโชเทนไก (Sunamachi Ginza Shotengai) ตั้งอยู่ห่างจากสถานีที่ใกล้ที่สุดอยู่เล็กน้อย แต่ก็มีร้านค้าที่น่าสนใจและสตรีทฟู้ดอร่อยๆ อยู่มากมาย รับรองได้ว่ามันจะเป็นทริปที่คุ้มค่าแน่ๆ! สุนะมาจิกินซ่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปีค.ศ. 1963 มีร้านค้าขายปลีกกว่า 180 ร้านเรียงรายอยู่บนถนนที่ยาวประมาณ 670 เมตร มีสิ่งที่ภาคภูมิใจเป็นบรรยากาศแบบ ชิตะมาจิ หรือย่านชานเมืองในสมัยก่อน ที่เกิดขึ้นจากการเรียงรายกันของร้านธุรกิจครอบครัวที่ขายอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ และของฝาก ภายใต้ผ้าใบบังแดดและป้ายร้านสีสันสดใส
ของที่ขายในโชเทนไกนี้มีราคาที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล อีกทั้งในวันที่ 10 ของทุกเดือนยังมีกิจกรรมลดแหลกที่เรียกว่า บากะเนะอิจิ (Baka-ne Ichi) ซึ่งแปลตรงตัวว่า "ตลาดราคาโง่ๆ" แค่ชื่อก็พอที่จะรู้แล้วว่ามันเป็นอีเวนต์แบบไหน มีแขกจำนวนมหาศาลจากทั้งใกล้และไกลมาเข้าร่วมกิจกรรมนี้ อีกหนึ่งอีเวนต์ชื่อดังของที่นี่คือ ทานาบาตะมัตสึริ (Tanabata Matsuri เทศกาลแห่งดาว) ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ ปีในช่วงต้นเดือนสิงหาคม
4. Sugamo Jizo-Dori Shotengai (สุกาโมะ)
สุกาโมะจิโซโดริโชเทนไก (Sugamo Jizo-Dori Shotengai) เป็นถนนช็อปปิ้งในสุกาโมะที่มีชื่อเล่นว่า "ฮาราจูกุของคุณยาย" เนื่องจากร้านค้ากว่า 180 ร้านบนถนนสายนี้มักจะเป็นร้านที่เจาะกลุ่มลูกค้าวัยสูงอายุ สุกาโมะเป็นเมืองเก่าแก่ที่เคยเฟื่องฟูในสมัยเอโดะ (1603-1867) ในฐานะ ทาเตะบะ (จุดพักรถ) โดยเปิดให้บริการที่พักแก่นักเดินทางที่จะไปทางหลวงนากะเซนโด (เส้นทางเก่าที่เชื่อมระหว่างโตเกียวกับเกียวโต) นอกจากนี้ ถนนสายนี้ยังโด่งดังจากรูปปั้นจิโซ (เทพคุ้มครองเด็ก) 2 รูป ได้แก่ โทเกนุคิจิโซ (Togenuki Jizo) ของวัดโคกันจิ และ โรคุจิโซซง (Roku Jizoson) ที่เป็น 1 ใน 6 รูปปั้นจิโซที่สร้างขึ้นในโตเกียวเมื่อประมาณศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจของผู้คนที่แวะเวียนมา ประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของสุกาโมะได้ทำให้ถนนสายนี้มีบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ทั้งในด้านตัวเมืองและผู้คนที่อาศัยอยู่
ในระหว่างที่คุณอยู่ในสุกาโมะ ขอแนะนำให้แวะ มิซุโนะ (Mizuno) ร้านขนมญี่ปุ่นที่เป็นผู้คิดค้น ชิโอะไดฟุกุ (shio daifuku ขนมปังโมจิที่มีรสเค็มเล็กน้อยสอดไส้ถั่วแดง) ไส้ถั่วแดงกับโมจิที่เหนียวนุ่มนั้นเข้ากันได้ดีอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ไดฟุกุยังเป็นขนมยอดนิยมที่ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนแก่ ก็ล้วนชื่นชอบ
อย่างลืมแวะไปทักทาย สุกาม่อน (Sugamon) มาสคอตของโชเทนไกแห่งนี้ กล่าวกันว่าหากคุณได้สัมผัสหางของมันแล้วล่ะก็ คุณจะมีโชคดีด้านความรัก
สุกาโมะอยู่ห่างจากอิเคะบุคุโระ ศูนย์กลางความคึกคักของโตเกียว โดยนั่งรถไฟเพียงไม่กี่นาที หากต้องการหาที่ผ่อนคลายหลังจากช็อปปิ้งแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้เช็คบทความด้านล่าง!
5. Nakano Sun Mall Shotengai (นาคาโน่)
นาคาโน่ซันมอลล์โชเทนไก (Nakano Sun Mall Shotengai) เป็นถนนช็อปปิ้งภายในร่มที่ยาว 224 เมตร เริ่มต้นจากทางออกทิศเหนือของสถานีนาคาโน่ ไปสิ้นสุดที่ศูนย์การค้า Nakano Broadway อีกหนึ่งแลนด์ชื่อดังและศูนย์กลางวัฒนธรรมโอตาคุ สิ่งที่น่าสนใจของถนนสายนี้คือ จะมีการเปิดดนตรีที่หลากหลายเพื่อสร้างบรรยากาศอยู่ตลอดทั้งวัน ทั้งยังมีการตกแต่งและการติดไฟ LED ตามฤดูกาลที่จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งปี สร้างความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรในชีวิตประจำวัน
ถนนในร่มที่มีไฟสว่างไสวแห่งนี้เรียงรายไปด้วยร้าน 110 ร้านที่มีทั้งร้านสาขาและร้านค้าอิสระ ตอบสนองความต้องการของคนทุกช่วงวัยในนาคาโน่ เมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีร้านและสถานที่ลับๆ อยู่ตามตรอกเล็กๆ ของสายนี้ กลายเป็นมินิโชเทนไกจำนวนมาก ราวกับว่ามีเขาวงกตร้านค้าคอยให้คุณได้สำรวจอยู่!
ภาพด้านบนนี้คือภาพจากเทศกาลศาลเจ้าฮิคาวะ (Hikawa Shrine Festival) ที่จัดขึ้นในเดือนกันยายนของทุกปี โดยมิโกะชิ (Mikoshi ศาลเจ้าเคลื่อนที่) จะถูกหามไปตาม Sun Mall และโชเทนไกแห่งนี้เพื่อทำการเฉลิมฉลอง
6. Togoshi Ginza Shotengai (โทโกชิ)
โทโกชิกินซ่าโชเทนไก (Togoshi Ginza Shotengai) ไม่เพียงแค่เป็นถนนช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวเท่านั้น แต่ยังใหญ่ที่สุดในภูมภาคคันโตอีกด้วย มีความยาวทั้งสิ้น 1.3 กิโลเมตร บริหารโดยองค์กรส่งเสริมการค้า 3 แห่ง อัดแน่นไปด้วยร้านค้ากว่า 400 ร้านที่จำหน่ายสินค้าเกือบทุกชนิด สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างแน่นอน
กลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลจากทั่วทุกมุมของโชเทนไกนี้จะทำให้คุณรู้ว่ามันเป็นสวรรค์ของอาหารทอด! เลือกซื้อโคร็อกเกะ คาราอาเกะ (ไก่ทอด) ที่มีอยู่อย่างหลากหลาย รวมไปถึงอาหารทอดอร่อยๆ อีกมากมาย หากเลือกไม่ได้ การลองซื้อชิมให้หมดทุกอย่างก็น่าสนใจเช่นกัน! คุณสามารถซื้ออาหารชิ้นเล็กๆ เพื่อเป็นเสบียงระหว่างเดินไปจุดหมายต่อไปได้
เชิญพบกับ โทโกชิ กินจิโร่ (Togoshi Ginjiro) หรือ กินจัง มาสคอตแมวจรจัดของโทโกชิกินซ่า กินจังมีของโปรดเป็นโคร็อกเกะ และยังเป็นนักช็อปตัวยง กินจังได้ปรากฏตัวในสื่อและงานอีเวนต์ต่างๆ เพื่อโปรโมทโทโกชิกินซ่า กล่าวกันว่าหากได้สัมผัสอุ้งมือหรือสัญลักษณ์รูปดาวบนหน้าผากของกินจังแล้วล่ะก็ จะทำให้คุณมีความสุข
7. Happy Road Ohyama Shotengai (โอยามะ)
Happy Road Ohyama เป็นถนนช็อปปิ้งภายในร่มแห่งแรกของเขตอิตะบาชิ (Itabashi-ku) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1978 นับแต่นั้นมาก็มุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นกันเองให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนในทุกช่วงวัย
หนึ่งในจุดเด่นของที่นี่คือ Toretate Mura ร้านขายผักผลไม้สดใหม่และสินค้าเฉพาะถิ่น ซึ่งส่งตรงมาจาก 15 เมืองและหมู่บ้านที่ร่วมธุรกิจกับทางร้าน ร้านนี้จะทำการโปรโมทสถานที่ดังกล่าวตามงานอีเวนต์ในพื้นที่ต่างๆ โดยมีจุดประสงค์เป็นการสร้างระบบที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งโชเทนไก ผู้ผลิต และเขตอิตะบาชิ
เกิดอยากช็อปปิ้งขึ้นมาในขณะที่อยู่ในโอซาก้า? ไม่ต้องห่วงไป ลองแวะไปที่จุดช็อปปิ้งในอุเมดะเหล่านี้ดูสิ!
8. Musashi Koyama Shotengai Palm (มุซาชิโคยามะ)
Palm เต็มไปด้วยด้วยผู้คนที่ชอบงานรื่นเริง! ถนนช็อปปิ้งภายในร่มแห่งนี้ตั้งอยู่นอกสถานีมุซาชิโคยามะ (Musashi-koyama) เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่จัดเทศกาลและอีเวนต์มากมายตลอดทั้งปี ตัวอย่างเช่น ริวโฮมัตสึริ (Ryuhyo Matsuri เทศกาลน้ำแข็ง), โนเรียวอิจิ (Noryo-ichi ตลาดฤดูร้อน), Samba Carnival, ชินชุนวะไดโกะ (Shinshun Wadaiko การแสดงกลองญี่ปุ่นฉลองปีใหม่), และเรียวฉะไซ (Ryoujya-sai เทศกาลระหว่าง 2 ศาลเจ้า)
ภาพด้านบนคือพาเหรดมิโกะชิของเรียวจะไซ เทศกาลที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง 2 ศาลเจ้าในพื้นที่ ศาลเจ้าซันยะฮาจิมัง (Sanya Hachiman) และศาลเจ้าโคยามะฮาจิมัง (Koyama Hachiman) Palm ยังได้ส่งมิโกะชิของตัวเองไปเข้าร่วมขบวนพาเหรดมิโกะชิ ซึ่งมีมิโกะชิอื่นๆ อยู่แล้วถึง 6 หลัง
9. Ju-jo Ginza (จูโจ)
จูโจกินซ่า (Ju-jo Ginza) ตั้งอยู่ในสถานที่แสนสะดวกที่เดินไม่ถึงนาทีจากสถานีจูโจ (Ju-jo station) สถานีที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 10 นาทีจากชินจูกุ เมื่อมาถึงแล้วคุณจะพบกับหลังคาโค้งที่ปกคลุมถนนอยู่ ทำให้แม้ว่าในวันที่ฟ้าครึ้มหรือมีฝนตก ก็สามารถช็อปได้อย่างสบายใจ
จูโจกินซ่าเป็น 1 ใน 3 สุดยอดโชเทนไกของกินซ่า ควบคู่ไปกับโทโกชิกินซ่าและสุนะมาจิกินซ่า สถานที่ที่เราได้พูดถึงไปแล้วข้างต้น นอกจากนี้ มันยังเป็นถนนช็อปปิ้งภายในร่มที่ใหญ่ที่สุดในเขตคิตะ (Kita-ku) ซึ่งมีร้านค้าทั้งหมดอยู่ถึงกว่า 200 ร้าน
เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแสนสดใสและเป็นกันเอง พลางสำรวจร้านค้าที่มีตั้งแต่ร้านธุรกิจในครอบครัว ไปจนถึงร้านนำเข้าแสนอร่อย รับรองได้ว่าคุณจะพบกับอาหาร ของใช้ประจำวัน เสื้อผ้า และของฝากน่ารักๆ ซึ่งมีให้เลือกอยู่มากมาย และยังมีราคาที่สบายกระเป๋าอีกด้วย
10. Asagaya Pearl Center Shopping Street (อาซากายะ)
ประวัติศาสตร์ของโชเทนไกในอาซากายะแห่งนี้มีมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มต้นขึ้นในยุคไทโช (1912-1926) ภายหลังแผ่นดินไหวใหญ่ในปีค.ศ.1923 เหล่าพ่อค้าได้มารวมตัวและตั้งร้านค้าขึ้นตามถนนสายนี้ ชื่อ Pearl Center เป็นชื่อที่ได้รับคัดเลือกมาจากการประกวดตั้งชื่อ เป็นชื่อที่บ่งบอกถึงความผูกพันที่เชื่อมผู้คนในโชเทนไว้ด้วยกัน เหมือนดั่งสร้อยไข่มุกที่จะสวยงามได้ก็ต่อเมื่อเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกัน
Pearl Center เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่จัดงานอีเวนต์หลายงานตลอดทั้งปี ตัวอย่างเช่น อีเวนต์ฮาโลวีนและงานแสดงดนตรีแจ๊ส แต่งานที่ใหญ่และสำคัญที่สุดจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจาก เทศกาลทานาบาตะ (Tanabata Festival) ซึ่งมีการจัดเรื่อยมาตั้งแต่ปีค.ศ.1954 ในเดือนสิงหาคมของทุกๆ ปี เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี ถนนภายในร่มสายนี้จะถูกประดับประดาไปด้วยเครื่องประดับสีสันสดใส และเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่ทำจากกระดาษ ซึ่งจะทำเป็นรูปตัวละครอนิเมะชื่อดัง สัตว์น่ารักๆ และเหล่าดาราดัง
ฮาโลวีนก็เป็นอีกหนึ่งอีเวนต์ของ Pearl Center ที่คึกคักอย่างมาก รางวัลที่ 1 สำหรับการประกวดเครื่องแต่งกายคือ บัตรกำนัลที่มีมูลค่า 50,000 เยน (ในปี 2017)! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บางคนถึงกับเรียกได้ว่าเป็นการบุกเบิกมิติใหม่ของการคอสเพลย์เลยทีเดียว
หากคุณช็อปปิ้งจนกระเป๋าแฟบ โรงแรมเหล่านี้อาจช่วยคุณได้
เมื่อพูดถึงการช็อปปิ้งในโตเกียว ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะต้องเป็นศูนย์การค้าสุดหรูที่ขายเสื้อผ้าแฟชั่นและอาหารตามเทรนด์ล่าสุด หากคุณต้องการสัมผัสกับชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ สถานที่ที่เหมาะแก่การเริ่มต้นที่สุดคือโชเทนไกในบริเวณใกล้เคียง การสำรวจถนนช็อปปิ้งเพื่อตามหาสิ่งใหม่ๆ และน่าตื่นเต้นนั้น เป็นการผจญภัยที่น่าสนุกเอามากๆ ทั้งยังดีต่อกระเป๋าเงินของคุณอีกด้วย! มันอาจดูน่าประหม่าในตอนแรก เคล็ดลับที่สามารถช่วยได้ก็คือ ควรให้ความเคารพพ่อค้าและลูกค้ารายอื่นๆ อยู่เสมอ เนื่องจากมีโอกาสสูงที่คุณจะได้ใกล้ชิดกับผู้คนในพื้นที่
หากคุณต้องการส่งฟีดแบคให้กับบทความใดๆ ของเรา หรือมีไอเดียอะไรที่อยากให้เราทำ หรือเพียงแค่อยากถามคำถามเกี่ยวกับญี่ปุ่น คุณสามารถติดต่อเราได้ทาง Facebook และ Twitter หรือเขียนบอกเราผ่านทาง Google Form!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่