ขับไล่ความร้อนรุ่มในหน้าร้อนออกไป! 10 เรือสำราญยอดนิยมในแถบคันโตและคันไซ
อีกไม่นานฤดูร้อนก็จะมาถึงแล้ว ในอากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้เราสามารถหาอะไรสนุกๆ ทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเล่นน้ำทะเล ตั้งแคมป์ หรือปิ้งบาร์บีคิว -- หรือถ้ายังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ปีนี้ก็มาลองล่องเรือสำราญกันดูดีกว่า! ครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 10 เรือสำราญที่ให้บริการในแถบคันโตและคันไซกัน รับรองว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ให้ความประทับใจไม่รู้ลืมกับคุณได้อย่างแน่นอน!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
5 เรือสำราญยอดนิยมของแถบคันโต
1. เรือสำราญอ่าวโตเกียว (โตเกียว)
เรือสำราญอ่าวโตเกียว เปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยผู้โดยสารจะได้ล่องเรือไปพร้อม ๆ กับเข้าชมอีเว้นท์ต่าง ๆ ที่จัดเปลี่ยนเป็นรายวัน นอกจากนี้ร้านในบริเวณท่าเรือยังมีชุดยูกาตะให้เช่าอีกด้วย แม้จะไม่ได้เตรียมชุดยูกาตะไว้ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศได้อย่างไม่ต้องกังวล
ทางเรือมี Party Plan สำหรับผู้โดยสารแบบกลุ่ม ให้สามารถเลือกเช่าเหมาห้องส่วนตัวและวางแผนการจัดเลี้ยงหรือการทานอาหารในภัตตาคารตามจำนวนคนและงบประมาณได้ โดยมีข้อควรระวังคือค่าบริการหลักจะยังไม่รวมค่าอาหาร นอกจากนี้บนเรือยังมีโปรแกรมการแสดง การเต้น และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ กันแบบจัดเต็มให้แขกทุกท่านได้สนุกไปกับค่ำคืนในฤดูร้อนกันอย่างสุดเหวี่ยงอีกด้วย
หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับอีเวนท์ โปรแกรมต่างๆ หรือต้องการจองล่วงหน้า ก็ลองตรวจสอบที่เว็บไซต์ได้เลย
2. Gozabune Atakemaru (โตเกียว)
เรือสำราญสุดหรูหราซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือรบของตระกูลโทกุกาวะ นอกจากภายนอกจะอลังการแล้ว ภายในเรือก็ยังมีทั้งการแสดงร้องรำการละเล่นต่างๆ แบบจัดเต็มอีกต่างหาก เรือให้บริการวันละ 6 ลำ โดยมีทั้งคอร์สล่องเรือชมอ่าวโตเกียว 40 นาที ไปจนถึงคอร์สรวมอาหารและการแสดง 90 นาทีให้เลือกสรรกันได้ตามชอบ
ไฮไลท์จะอยู่ที่เรือลำที่ 5 และลำที่ 6 ซึ่งจัดแสดงองค์ประกอบของละครคาบูกิเอาไว้และมีการแสดงให้ชมบนเรือ การตกแต่งภายในเรือเองก็มีกลิ่นอายของชาวอาทิตย์อุทัยอยู่ในทุกตารางนิ้ว เรือสำราญเจ้านี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น และเป็นการล่องเรือที่ไม่ว่าใครก็สนุกได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากไปใช้บริการในช่วงฤดูร้อนก็จะมีเบียร์การ์เด้นจัดไว้บนดาดฟ้าเรือพร้อมคอร์สดื่มไม่อั้นอีกด้วย มาจิบเบียร์เย็นๆ ไปพร้อมกับล่องเรือชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนกันได้ที่นี่
3. Marine Rouge (คานากาวะ)
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของ Marine Rouge จากเพลงฮิตของวง Southern All Stars และตัวเรือสำราญเองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ที่นี่จะให้บรรยากาศเรียบหรูไฮโซ ภายในมีห้องอาหารถึง 3 ห้องให้เราได้เต็มอิ่มกับดินเนอร์สุดหรูไปพร้อมล่องเรือชมทิวทัศน์โยโกฮาม่าในยามค่ำคืน ที่ฟรอนท์บริเวณชั้นหนึ่งจะมีสินค้าหายากที่หาซื้อได้เฉพาะบนเรือวางขายอยู่ด้วย ก่อนกลับก็อย่าลืมแวะไปดูสักหน่อยล่ะ
Marine Rouge มีให้บริการจัดพิธีแต่งงานบนเรือด้วย หาโอกาสมาเดทไปด้วยสำรวจสถานที่ไปด้วยก็เข้าท่าไม่น้อย
การเดินทางก็นับว่าสะดวกสุดๆ เพราะสามารถขึ้นเรือได้จากทั้งท่า Yamashita Koen, Aka Renga Mae, Minatomirai และ Yokohama Higashiguchi ภาพลักษณ์เรืออาจจะดูราคาแพงไปสักหน่อย แต่ราคาในการล่องเรือเพียงอย่างเดียวนั้นนับว่าสมเหตุสมผลพอตัว กลุ่มสาวๆ จะใช้เป็นทางผ่านไปเที่ยวโยโกฮาม่ากันชิลๆ ก็นับว่าไม่เลวเลย นอกจากนี้ยังมี Summer Night Cruising ที่มีเบียร์การ์เด้นบนเรือพร้อมบุฟเฟต์อาหารและเครื่องดื่มไม่อั้นให้บริการในช่วงฤดูร้อนด้วย ถ้าใครสนใจก็ลองเช็คล่วงหน้าสักหน่อยแล้วมาดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดเลิศหรูบนเรือแสนงามลำนี้กันดีกว่า!
4. Chiba Night Cruising (จิบะ)
Chiba Night Cruising เป็นเจ้าของคำโฆษณาสุดติดหูอย่างเสน่ห์แห่งจิบะยามค่ำคืน เรือจะเปิดให้บริการในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม และมาพร้อมกับบริการเสริมคือบุฟเฟ่ต์ดื่มไม่อั้น 90 นาที การล่องเรือยามราตรีนี้ใช้เรือสำราญที่ชื่อว่า Arumeria ซึ่งในเวลาปกติจะเปิดเป็นเรือท่องเที่ยวรอบๆ จิบะเองอยู่แล้ว สามารถไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ และชื่นชมทิวทัศน์แสนระยิบระยับยามค่ำคืนรอบๆ ท่าเรือจิบะและโรงงานต่างๆ กันได้ที่นี่
Ks Hourbour ซึ่งเป็นทั้งอาคารเอนกประสงค์และท่าของเรือ Arumeria เองก็มีรูปลักษณ์ภายนอกสุดเก๋สมกับเป็นเมืองท่า และภายในก็มีภัตตาคารและคาเฟ่อยู่มากมาย การล่องเรือกับ Chiba Night Cruising จะไม่มีบริการด้านอาหารอยู่ด้วย จึงสามารถนำอาหารขึ้นเรือได้ตามใจชอบ จะนั่งทานที่ภัตตาคารก่อนหรือหลังขึ้นเรือ หรือจะซื้อแบบกลับบ้านไปทานบนเรือก็ย่อมได้ นอกจากการล่องเรือกลางคืนแล้ว ในช่วงกลางวันที่ท่าเรือจิบะหรือที่ Makuhari Messe ก็มีโปรแกรมทัวร์อยู่มากมายให้พาเด็กๆ ไปเที่ยวชมด้วยกันได้เช่นกัน
5. Yakatabune Hamadaya (โตเกียว)
Yakatabune Hamadaya เป็นเรือสำราญที่โด่งดังเป็นพิเศษในด้านอาหาร การล่องเรือแต่ละฤดูจะให้บรรยากาศแตกต่างกันออกไป อย่างในฤดูใบไม้ผลิก็จะเป็นการล่องเรือชมซากุระ หรือหากเป็นฤดูใบไม้ร่วงก็สามารถล่องเรือชมใบไม้แดงได้ แถมยังมีอาหารรสเลิศเป็นองค์ประกอบให้ทริปของเราสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอีกด้วย! ยิ่งไปกว่านั้น ในฤดูร้อนจะมีการแสดงดอกไม้ไฟ Hanabi Yakatabune ให้เราสามารถนั่งชมดอกไม้ไฟบนเรือสำราญโดยไม่ต้องไปเบียดเสียดกับใครที่ไหน อาจจะจองยากอยู่สักหน่อย แต่การนั่งเรือสำราญชมดอกไม้ไฟจะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าความพยายามอย่างแน่นอน หากต้องการใช้บริการก็อย่าลืมหาจองกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะที่นี่น่ะความนิยมสูงปรี๊ดเลยเชียวล่ะ
นอกจากการชมดอกไม้ไฟ ที่นี่ก็มีบริการให้เช่าเหมาลำ หรือจะจองที่นั่งบนเรือแบบจำนวนคนน้อยๆ ร่วมกับลูกค้าคนอื่นๆ ก็ได้ แถมยังมีให้บริการเช่าชุดยูกาตะเสียด้วย ไม่ว่าใครก็ล้วนสนุกกับบรรยากาศกันได้อย่างเต็มที่ บนเรือเองก็มีบริการพิเศษอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเตาย่างไร้ควันสำหรับย่างเนื้อในงานฉลองต่างๆ หรือเก้าอี้และโต๊ะสำหรับนั่งพักแก้เมื่อยก็สามารถเลือกใช้บริการกันได้ตามใจชอบ
ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงอยู่สักหน่อย แต่ถ้าจะใช้สำหรับเดทหรือฉลองวันสำคัญแล้วล่ะก็ Yakatabune Hamadaya ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่หยอกทีเดียว
5 เรือสำราญยอดนิยมของแถบคันไซ
1. Osaka Duck Tour (โอซาก้า)
ไปลองรถบัสสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแห่งนครวารีโอซาก้ากันดูไหม? Osaka Duck Tour จะพาเราไปนั่งชมเมืองในรถบัสกัปปะ หรือรถบัสความสูง 3.6 เมตรหน้าตาละม้ายคลายกัปปะ เส้นทางการชมเมืองจะเริ่มจากปราสาทโอซาก้า แล้ววนไปหาสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างพิพิธภัณฑ์ศิลป์ Fujita หรือ สวน Taikaku-en ตัวรถบัสเป็นแบบเปิดโล่งไม่มีหน้าต่าง ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งและรับลมกันได้อย่างเต็มที่ ไกด์นำเที่ยวบนรถจะพูดภาษาญี่ปุ่นสำเนียงโอซาก้าแท้ๆ รับรองว่าได้มีเสียงหัวเราะครื้นเครงกันตลอดทริปอย่างแน่นอน
เสน่ห์ของทัวร์นี้คือเมื่อเดินทางไปถึงสวนสาธารณะ Sakuranomiya Koen แล้ว ก็จะเริ่มเตรียมการล่องแม่น้ำทันที และการเตรียมการนี้ก็คือรถบัสจะพุ่งตัวลงแม่น้ำ ตูมมมม! แบบไม่มีลังเลกันเลย! บางทีก็จะมีน้ำกระเด็นเข้ามาให้ชื่นใจบ้างด้วยตัวรถไม่มีหน้าต่าง แล้วเราก็จะได้เที่ยวชมเมืองกันต่อจากเหนือผิวน้ำแบบชิวๆ
นอกจากนี้ สีสันที่ขาดไม่ได้ของการท่องเที่ยวโอซาก้าก็คือการพูดของไกด์ทัวร์นั่นเอง ต้องมีมุกตลกๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโอซาก้าอยู่เพียบแน่นอน อย่าลืมเงี่ยหูฟังกันให้ดีล่ะ!
2. Ofune Kamome (โอซาก้า)
เรือสำราญขนาดเล็กที่รองรับผู้โดยสารได้มากที่สุด 10 คน เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นครอบครัว ตัวเรือเคยใช้ในการประกอบกิจการฟาร์มหอยมุกมาก่อน จากนั้นจึงรีโนเวทใหม่ให้สัมผัสได้ถึงความบอบอุ่นของแมกไม้และให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน เส้นทางเรือจะล่องชมรอบเมืองโอซาก้า ทางเรือมีให้บริการทั้งแบบเช่าเหมาลำและแบบซื้อตั๋วขึ้นเรือรวมกับลูกค้ารายอื่นๆ รวมถึงแพคเกจต่างๆ อีกหลายรูปแบบ โดยทั่วไปสามารถนำอาหารจากภายนอกเข้ามารับประทานได้อย่างอิสระ มีน้ำชาให้บริการฟรีทุกเที่ยว และมีห้องน้ำในตัวด้วย ล่องเรือกันได้อย่างสบายใจแน่นอน
Ofune Kamome มีทั้งคอร์สล่องเรือพร้อมอาหารเช้า คอร์สล่องเรือชมสถาปัตยกรรมที่จะวิ่งลอดใต้สะพานให้เราได้เห็นโครงสร้างต่างๆ ไปจนถึงคอร์สล่องเรือบาร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่จะพาเราไปสัมผัสกับแสงสีในแหล่งท่องเที่ยวที่ดังที่สุดของโอซาก้าอย่าง Dotonbori หรือถ้าใครอยากลองอะไรแปลกๆ ก็มีคอร์ส Kikisake Cruise ซึ่งจะเสิร์ฟเหล้าญี่ปุ่น 3 ชนิดพร้อมกับแกล้มให้เราลองดื่มเปรียบเทียบ และมีเตาสำหรับย่างอาหารบนโต๊ะด้วย หากได้ล่องเรือในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินก็จะยิ่งเป็นเวลาที่วิเศษมากทีเดียว แม้จะเป็นเรือสำราญเล็กๆ แต่ก็มีแพ็คเกจมากมายให้เลือกอย่างจุใจ ถ้ามีโอกาสก็ลองไปดื่มด่ำบรรยากาศการท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ Ofune Kamome กันดูสิ!
3. Kobe Concerto (เฮียวโกะ)
Kobe Concerto เป็นเรือสำราญที่วิ่งเข้าออกเมืองท่าสุดชิคอย่างท่าเรือโกเบ ที่นี่เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดหรูหราของเรือสำราญขนาดมหึมาที่มีภัตตาคารในตัว บนเรือมีทั้งอาหารคอร์สแบบฟูลเซ็ตและดนตรีแจ็ส คลาสสิคคลอเบาๆ เหมาะกับโอกาสพิเศษอย่างการไปเดทและฉลองวันสำคัญต่างๆ เป็นที่สุด นอกจากนี้เรายังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของโกเบยามค่ำคืนที่ว่ากันว่าเป็นทัศนียภาพยามราตรีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์อีกด้วย
ในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมทางเรือจะเปิดให้บริการ "เบียร์การ์เด้นบนทะเล" โดยแบ่งออกเป็น 3 คอร์ส ได้แก่ Lunch, Twilight และ Night สามารถเลือกเข้าใช้บริการกันได้ตามชอบ แถมยังราคายังย่อมเยาเสียด้วย พอเรือเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กับสะพาน Akashi Ohashi ซึ่งประดับประดาไฟสวยงามก็มักจะมีคนส่งเสียงเชียร์กัอย่างครึกครื้น ถ้าอยากมีค่ำคืนสุดพิเศษก็ต้องที่ Kobe Concerto แห่งนี้เลย
4. Kobe Seabus Cafe Cruising Fantasy (เฮียวโกะ)
เรือสำราญที่เราจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศสบายๆ ในแบบคาเฟ่ ตัวเรือแล่นจากท่าเรือโกเบและใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการวนรอบเมือง นอกจากจะได้เห็นทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองแล้ว เรายังสามารถชื่นชมทัศนียภาพแบบที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากที่อื่นนอกจากบนผืนทะเลอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเรือดำน้ำหรือเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เข้าเทียบท่า การลอดด้านล่างสะพานเชื่อมสนามบินโกเบ หรือการชมเครื่องบินบินขึ้นลงจากรันเวย์ในระยะแค่ปลายจมูกก็เช่นกัน
ในคาเฟ่บนเรือ เราก็จะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศดีๆ พร้อมกับเครื่องดื่มและขนมหวานอร่อยๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้สั่งได้อีกด้วยด้วย หากได้ดื่มไปพลางมองดูท้องทะเลก็คงได้อารมณ์ไปอีกแบบ นอกจากนี้ราคาก็ไม่ได้เวอร์วังมาก รวมทั้งสามารถเช่าเหมาลำได้หากมีจำนวนคนมากกว่า 30 คนขึ้นไป จะใช้จัดงานปาร์ตี้หรือพิธีแต่งงานก็ไม่เลวเลย หากจะให้โฆษณาก็คงต้องบอกว่า ในวันร้อนๆ ก็มาล่องเรือสัมผัสสายลมอันแสนสดชื่นกันเถอะ!
5. ล่องแม่น้ำ Ujikawa Kanko Yuransen (เกียวโต)
แม่น้ำ Ujikawa นั้นเป็นฉากหลังในตำนานปรัมปรา Genji Monogatari และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังที่มีแลนด์มาร์คอย่างวิหาร Ho-o-do แห่งวัด Byodo-in รวมไปถึงชาชื่อดังอย่าง Uji Matcha และแน่นอนว่า Ujikawa Kanko Yuransen ก็คือการล่องเรือผ่านแม่น้ำ Ujikawa อันสวยสดงดงามแห่งนี้นั่นเอง ที่แม่น้ำแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มีซากุระโปรยปราย ฤดูร้อนก็เต็มไปด้วยแมกไม้เขียวขจี ฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้แดงให้ได้เห็น เรียกได้ว่าสวยงามในทุกฤดูกาลเลยทีเดียว โดยจะมีทั้งแพ็คเกจแบบทานอาหารบนเรือ 40 นาที และแบบทานอาหารว่าง 20 นาทีให้เลือกใช้บริการกันได้ตามสะดวก
ในฤดูร้อนหรือช่วง 1 กรกฎาคม - 30 กันยายนของทุกปีจะมีคอร์สล่องเรือกลางคืนสำหรับรับชม Ukai หรือการจับปลาของนกกาน้ำ โดยทั่วไปจะมีสุภาพสตรีควบคุมฝูงนกอยู่ด้วยคนหนึ่ง เราจึงสามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด หากเป็นวันเสาร์อาทิตย์ก็มักจะมีนักท่องเที่ยวจองเข้ามาดูหนาแน่นจนหาเวลาว่างกันไม่ได้เลยทีเดียว การดู Ukai ในคันไซอาจจะแปลกอยู่สักหน่อย แต่การลองเที่ยวเล่นยามราตรีเลียนแบบเหล่าชนชั้นสูงในสมัยเฮอันกันดูก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวเลย คุณอาจจะลืมความรุ่มร้อนในราตรีฤดูร้อนของเกียวโตไปเลยก็ได้!
มาเพลิดเพลินเจริญใจไปกับการล่องเรือยามฤดูร้อนกัน!
เรือสำราญเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกกล่าวถึงในบทนิราศกวี Fubutsu-shi ช่วงฤดูร้อน และที่เราแนะนำไปวันนี้ก็มีทั้งเรือสำราญสุดหรู เรือโบราณติดหลังคา ไปจนถึงเรือสำราญทั่วๆ ไปให้ได้เลือกสรร แถมยังมีคอร์สล่องเรือหลากหลายรูปแบบ หากอยากดื่มสังสรรค์ก็มีเบียร์การ์เด้น หรือจะออกไปใช้เวลาสุดโรแมนติกกับคู่เดทก็ย่อมได้ ใครที่กำลังหาวิธีหนีร้อนในปีนี้ก็ลองรับเรือเหล่านี้เข้าไปพิจารณาดูสักหน่อย รับรองว่ามันจะกลายเป็นหน้าร้อนที่ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
บทความนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการแปลและเผยแพร่จาก SPIRA (ในอดีตคือ Relux Magazine)
คุณสามารถจองโรงแรมผ่าน Relux (บริหารจัดการโดย SPIRA) ได้ ที่นี่!!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่