ศาลเจ้า 10 แห่งในโตเกียวที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด
ในกรุงโตเกียวเองก็มีศาลเจ้าจำนวนมากตั้งอยู่ใจกลางเมืองเช่นกันค่ะ ไม่แน่ท่านอาจจะพบเนื้อคู่โดยไม่คาดคิดท่ามกลางบรรยากาศดีๆ เช่นนี้ก็ได้นะคะ วันนี้เราจะมาแนะนำศาลเจ้าบรรยากาศดีๆ ที่ว่าในโตเกียวกันค่ะ สนใจมาลองแวะเยี่ยมชมระหว่างเดินช็อปปิ้งไหมคะ?
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Atago Shrine (愛宕神社)
Kentaro Ohno / Flickrศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโตเกียวทาวเวอร์ค่ะ แถมยังอยู่บนยอดเขา Atago ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโตเกียวเขต 23 (ความสูง 25.7 เมตร) ทำให้มีวิวดีมาก ๆ เลยค่ะ หากต้องการเดินเข้าไปในวัด จะต้องขึ้นบันไดหินที่สูงจนต้องแหงนคอมองเลยล่ะค่ะ ในอดีตเคยมีคนขี่ม้าขึ้นบันไดหินนี้และได้รับคำชมเชยจากเจ้านาย ทำให้ผู้คนต่างเรียกบันไดดังกล่าวว่า "บันไดหินแห่งความก้าวหน้า" ค่ะ หากท่านมุ่งหวังความก้าวหน้าก็อย่าลืมจับราวบันไดหรือโซ่ระหว่างเดินขึ้นลงนะคะ นอกจากนี้ยังมีบันไดที่ไม่สูงชันด้วยค่ะ ท่านใดที่กลัวความสูงเองก็สามารถใช้บันไดนี้ได้เช่นกันค่ะ
ศาลเจ้าแห่งนี้มีซากุระสวยมาก ทำให้สามารถเพลิดเพลินทิวทัศน์แบบญี่ปุ่นอย่างซากุระและตึกสูงในฤดูใบไม้ผลิได้ด้วยค่ะ
เว็บไซต์: http://www.atago-jinja.com/
ที่ตั้ง: 1-5-3 Atago, Minato-ku, Tokyo (Google Map)
2.Anamori Inari Shrine (穴守稲荷神社)
Haya_BS / Flickrศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสนามบินฮาเนดะค่ะ ศาลเจ้าที่มีคำว่า "Inari" อยู่ในชื่อนั้นจะมีจุดเด่นเป็นรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกซึ่งเป็นข้ารับใช้ของเทพเจ้าหรือทางเดินโทริอิ (เสาประตูศาลเจ้า ลักษณะคล้ายเสาชิงช้า) แน่นอนว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีทางเดินโทริอิ ทำให้ท่านสามารถสัมผัสบรรยากาศพิศวงคล้ายกับ Fushimi Inari-taisha ในเกียวโตได้ค่ะ เมื่อเดินทางโทริอิจะพบกับอารามส่วนใน ที่นั่นจะมีทรายซึ่งว่ากันว่าจะนำพาโชคลาภมาให้ค่ะ ท่านสามารถนำทรายกลับบ้านโดยใส่ถุงที่ทางวัดเตรียมให้ เมื่อนำไปโปรยในบ้านเองก็จะได้รับผลบุญต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ สถานที่ในการโปรยจะแตกต่างกันไปตามประเภทของคำขอ ท่านสามารถศึกษาวิธีการโปรยจากถุงได้ค่ะ
เว็บไซต์: http://anamori.jp/
ที่ตั้ง: Haneda 5-2-7, Ota-ku, Tokyo(Google Map)
3. Hanazono Jinja Shrine (花園神社)
jun560 / Filckrศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ เขต 3 ซึ่งอยู่ใกล้กับย่าน Kabukicho หนึ่งในย่านคึกคักที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ หากท่านจะมาเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายนล่ะก็ห้ามพลาดวัน "Tori No Ichi" (酉の市) เด็ดขาดเลยค่ะ Tori No Ichi จะมีงานเทศกาลซึ่งจัดในศาลเจ้าทั่วประเทศเนื่องในโอกาสระลึกครบรอบวันเสียชีวิตของวีรบุรุษญี่ปุ่น ที่ Hanazono Jinja Shrine เองก็มีผู้มาเยี่ยมชมกว่า 600,000 คนเลยล่ะค่ะ ภายในศาลเจ้าเต็มไปด้วยร้านแผงลอยซึ่งขายคราดสีสันสดใสซึ่งช่วยนำพาความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขายและคุ้มครองความปลอดภัยของครอบครัวหรือลูกศรซึ่งช่วยขจัดภัยพาล ทำให้ Hanazono Jinja Shrine ซึ่งมักจะเงียบสงบนั้นคึกคักขึ้นมามากเลยทีเดียวค่ะ ท่านสามารถสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยตนเองได้ที่นี่ค่ะ วัน Tori No Ichi จะแตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่โดยปกติแล้วจะมี 2-3 ครั้งในเดือนพฤศจิกายนค่ะ
เว็บไซต์: www.hanazono-jinja.or.jp/mt/top/
ที่ตั้ง: 5-17-3 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo(Google Map)
4. Kanda Shrine (神田明神)
ja.wikipedia.orgศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับย่านอากิฮาบาระ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งกลุ่มวัฒนธรรมย่อยค่ะ ศาลเจ้าซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปีนี้ทาด้วยสีแดงและสีทองสดใสแสนสะดุดตาค่ะ โดยเฉพาะประตูซุยชินมง (ประตูกันมิให้ความชั่วร้ายเข้ามาในศาลเจ้า) ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเข้านั้นนอกจากจะมีสีสันสะดุดตาแล้วยังแกะสลักละเอียดราวกับเป็นงานแกะสลักเลยล่ะค่ะ สิงโตหินซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองเทพเจ้าเองก็ยังมีขนาดใหญ่ยักษ์ แถมเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออีกค่ะ เวลาไปยืนใกล้ๆ จะรู้สึกเหมือนโดนกดดันมากๆ เลยทีเดียวค่ะ
เอกลักษณ์ของศาลเจ้าแห่งนี้ยังไม่จบเพียงเท่านี้นะคะ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเคยโผล่ไปมีบทบาทในอนิเมะชื่อดังด้วยล่ะค่ะ นอกจากนี้ ท่านยังสามารถซื้อเครื่องรางคุ้มครอง IT (ป้องกันภัยคุกคามด้าน IT) ซึ่งหายากมากในญี่ปุ่นได้ด้วยเช่นกันค่ะ
เรียกได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่ แต่ก็ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้อย่างน่าสนใจเลยล่ะค่ะ
เว็บไซต์: http://www.kandamyoujin.or.jp/what/
ที่ตั้ง: 2-16-2 Sotokanda, Chiyoda-ku, Tokyo(Google Map)
5. Namiyoke Inari Shrine (波除神社)
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู๋ในย่านตลาดชื่อดังเรื่องซูชิค่ะ ศาลสนาชินโตกล่าวไว้ว่าเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ในทุกสิ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นหินหรือต้นไม้ ทว่าศาลเจ้าแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยป้ายหินซึ่งเป็นการทำบุญระลึกถึงวัตถุดิบซูชิอย่างกุ้ง ปลาอังโค หรือไข่ซะอย่างนั้นค่ะ ว่ากันว่าคนที่ทำงานอยู่ในตลาดต่างซาบซึ้งบุญคุณและมาเยี่ยมเยี่ยนที่นี่อยู่บ่อยๆ ค่ะ
"Namiyoke" (波除) หมายถึงการหลีกเลี่ยงคลื่นค่ะ เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ช่วยป้องกันคลื่นลมและฟันฝ่าภัยพิบัติต่างๆ ภายในศาลเจ้ายังประดับไปด้วยหัวสิงโตขนาดใหญ่ซึ่งสามารถข่มขู่ทุกสิ่งได้ด้วยการคำรามครั้งเดียวค่ะ ที่นี่ถือว่าเป็นวัดขนาดเล็กก็จริง แต่ก็มีที่ให้เยี่ยมมชมอยู่มากมายเลยล่ะค่ะ
เว็บไซต์: http://www.namiyoke.or.jp/
ที่ตั้ง: Tsukiji, Chuo-ku, Tokyo 6-20-37(Google Map)
6. Akagi Shrine (赤城神社)
othree / Flickrศาลเจ้าซึ่งมีบรรยากาศประณีตและทันสมัยแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Kagurazaka เขตชินจูกุ ศาลเจ้าแห่งนี้มีจุดประหลาดคือการมีแมนชั่นหรือคาเฟ่ในเขตอารามค่ะ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับมื้อกลางวันและชาพร้อมกับชมวิวศาลเจ้าได้ที่ "Akagi Cafe" (あかぎカフェ) ค่ะ ที่นี่บริการเมนูเครื่องดื่มมากมาย ทว่าเมนูที่เราขอแนะนำคือ "เจลาโต้สาเกศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งผลิตจากสาเกที่ใช้ในการสักการะเทพเจ้าค่ะ รสชาตินุ่มนวลหวานนิดหน่อยนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ แอลกอฮอล์เองก็ถูกละออกไปทั้งหมด ดังนั้นท่านที่คอไม่แข็งมากนักก็สามารถรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อยค่ะ การนำสาเกถวายเทพเจ้ามาทำเป็นเจลาโตถือว่าหายากมากๆ ทุกท่านเองก็อย่าลืมลองกันนะคะ
เว็บไซต์: www.akagi-jinja.jp
ที่ตั้ง: 1-10 Akagihara-cho, Shinjuku-ku, Tokyo(Google Map)
7. Ueno Tosho-gu (上野東照宮)
Wei-Te Wong / Flickrศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนอุเอโนะชื่อดังซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะหรือสวนสัตว์ค่ะ ศาลเจ้าที่มีคำว่า "Tosho-gu" อยู่ในชื่อนั้นจะสักการะบูชา Tokugawa Ieyasu โชกุนในยุคเอโดะค่ะ Nikko Tosho-gu เองก็เช่นเดียวค่ะ หากไปศาลเจ้าแห่งนี้ก็อย่าลืมลองมองหาสัญลักษณ์วงกลมใบไม้ 3 ใบกันดูนะคะ นั่นเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูล Tokugawa ค่ะ
ศาลเจ้าสีทองงดงามนี้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 ค่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะสามารถชมสถาปัตยกรรมยุคเอโดะแบบใกล้ๆ ได้ ทำให้มีผู้มาสักการะทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวนมากค่ะ ศาลเจ้าสามารถเข้าชมได้ฟรี แต่หากจ่าย 500 เยนจะสามารถชมศาลเจ้าจากระยะใกล้ๆ ได้ค่ะ
เว็บไซต์: http://www.uenotoshogu.com/en/
ที่ตั้ง: Taito-ku, Tokyo Ueno Park 9-88(Google Map)
8. Imado Shrine (今戸神社)
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต Asakusa ย่านท่องเที่ยวยอดนิยมค่ะ ที่นี่สักการะคู่สามีภรรยาในตำนานเทพเจ้า ทำให้เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ช่วยในการผูกดวงเนื้อคู่ค่ะ รูปปั้นแมวซึ่งยกขาหน้าขึ้นนั้นมีชื่อว่า "มาเนกิเนโกะ (แมวกวัก)" มีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีตในฐานะแมวที่คอยนำพาโชคลาภค่ะ ย่านที่ Imado Shrine ตั้งอยู่นั้นผลิตมาเนกิเนโกะนี้เป็นครั้งแรกในยุคเอโดะ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เต็มไปด้วยแมวกวักจำนวนมากเลยค่ะ! แผ่นป้าย รูปปั้นหิน เครื่องราง หรือแม้กระทั่งแผ่นไม้อธิษฐานทั้งหมดทั้งมวลเป็นรูปแมวกวักทั้งนั้นเลยค่ะ โดยเฉพาะแผ่นไม้อธิษฐานยังมีลักษณะพิเศษเป็นทรงวงกลมแตกต่างจากปกติที่เป็นทรงเหลี่ยมค่ะ แผ่นไม้อธิษฐานทรงวงกลมนี้ยังแฝงความหมายว่า "ความสัมพันธ์ราบลื่นปรองดอง" อีกด้วยค่ะ เชื่อกันว่าหลังจากลูบหัวรูปปั้นหินแมวกวักคู่แสนน่ารักภายในเขตอารามแล้ว หากถ่ายรูปแล้วตั้งเป็นรูปหน้าจอจะช่วยทำให้คำอธิษฐานเป็นจริงด้วยล่ะค่ะ
เว็บไซต์: http://members2.jcom.home.ne.jp/imadojinja/T1.htm
ที่ตั้ง: 1-5-22 Imado, Taito-ku, Tokyo(Google Map)
9. Koami Shrine (小網神社)
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณสะพาน Nihonbashi ใกล้ๆ สถานีโตเกียวค่ะ แม้ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีขนาดเล็กในช่องว่างระหว่างตึกก็จริง แต่เชื่อกันอย่างมากว่าช่วยบันดาลโชคลาภด้านเงินทองได้ ทำให้มีผู้มาสักการะหนาไม่ขาดสายค่ะ รูปปั้นเล็กๆ ด้านหน้าแท่นบูชาคือเทพเจ้า Zeniarai (銭洗弁天) ค่ะ ว่ากันว่าหากใส่เหรียญหรือธนบัตรในตะกร้าและนำไปลอยน้ำรอบๆ ท่าน Zeniarai เงินนั้นจะช่วยเรียกเงินอื่นๆ มาจนเป็นเศรษฐีค่ะ
แผ่นเซียมซีของที่นี่ยังนับว่าแปลกประหลาดเพราะเป็นแผ่นเซียมซีที่ใส่อยู่ในขนมโมจิของจริงค่ะ ขนมโมจิยังสามารถนำกลับบ้านได้ด้วยค่ะ แถมยังมีเชือกผูกไว้ ทำให้สามารถนำไปผูกกับกระเป๋าน่ารักกิ๊บเก๋ได้อีกด้วยค่ะ
เว็บไซต์: www.koamijinja.or.jp/history.html
ที่ตั้ง: Nihonbashi, Chuo-ku, Tokyo Koamicho 16-23 (Google Map)
10. Musashi Mitake Shrine (武蔵御嶽神社)
Hajime NAKANO / Flickrท่านชอบเดินป่าไหมคะ หรือไม่ก็ชอบหมาป่าไหมคะ แล้วอยากศึกษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นไหมคะ หากท่านตอบใช่อย่างน้อยหนึ่งข้อ เราขอแนะนำให้ท่านมา Musashi Mitake Shrine ค่ะ นั่ง JR หรือเคเบิ้ลคาร์จากใจกลางกรุงโตเกียวมากว่า 1 ชั่วโมงแล้วเดินขึ้นเขากว่าอีก 30 นาทีจะพบกับศาลเจ้านี้ค่ะ จุดน่าสนใจของศาลเจ้านี้คือนอกจากรูปปั้นสิงโต สุนัขจิ้งจอกแล้วยังมีรูปปั้นหมาป่าวางอยู่ด้วยค่ะ ศาลเจ้าที่ถือว่าหมาป่าเป็นสัตว์รับใช้ของเทพเจ้านั้นมีเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นเท่านั้นเองค่ะ
นอกจากนี้ เราอยากให้แนะนำลองค้างคืนในศาลเจ้าดูค่ะ ที่พักในศาลเจ้าเป็นที่พักสำหรับผู้มาสักการะและมีอยู่หลายแห่งรอบๆ ศาลเจ้า Musashi Mitake Shrine ค่ะ ศาลเจ้าที่สามารถนอนพักแล้วตื่นมาเยี่ยมชมในตอนเช้าได้ถือว่าหายากมากๆ เลย นอกจากนี้ยังมีศาลาที่สามารถนั่งสมาธิหรือตั้งสมาธิใต้น้ำตกได้อีกด้วยค่ะ ท่านใดที่สนใจเองก็อย่าลืมมาลองกันนะคะ
เว็บไซต์: musashimitakejinja.jp
ที่ตั้ง: Tokyo Ome City Otakeyama 176 (Google Map)
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่