สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นจาก 10 สถานที่ในอาซากุสะ
อาซากุสะ (浅草) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอันดับหนึ่งของโตเกียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประตู Kaminarimon และถนน Nakamise ของวัดอาซากุสะที่โด่งดังเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าการยืนทานของกินและดูของฝากที่ถนน Nakamise จะฟังดูน่าสนุกไม่น้อย แต่คุณรู้ไหมว่าที่รอบๆ อาซากุสะนั้น ยังมีสถานที่ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอยู่อีกมากมายด้วยเช่นกัน
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
อาซากุสะ (浅草) เป็นย่านชานเมืองที่พัฒนาขึ้นจากการเป็นจุดรวมตัวกันของพ่อค้าและซามูไรจำนวนมากในยุคเอโดะ (1603-1868) แม้ว่าจะเคยได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่สองจนทำให้ความรุ่งเรืองถดถอยไปช่วงเวลาหนึ่ง แต่หลังจากที่สงครามจบลง ก็ได้ฟื้นตัวขึ้นมา เป็นย่านที่คงไว้ซึ่งบรรยากาศแบบในอดีตแม้แต่ในปัจจุบัน เราจะขอแนะนำสถานที่ที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับอาซากุสะได้อย่างเต็มที่
１．ลองใส่กิโมโน : Kyoto Kimono Rental wargo
เมื่อได้มาญี่ปุ่นแล้ว แน่นอนว่าทุกคนจะต้องอยากลองสวมใส่กิโมโนดูสักครั้ง ที่ร้านเช่ากิโมโน Wargo (京都きものレンタルwargo) นี้มีชุดกิโมโนหลากหลายสไตล์ จึงรับรองได้ว่าคุณจะต้องพบกิโมโนที่เหมาะกับตัวเองอย่างแน่นอน กิโมโนสำหรับผู้ชายก็มีให้เช่าเช่นกัน เมื่อได้สวมกิโมโนและคาดโอบิที่เอวแล้ว อากัปกิริยาของคุณจะดูเหมือนคนญี่ปุ่นไปโดยปริยาย
เวลาทำการ: 9:00 - 18:00 (คืนกิโมโนได้ถึง 17:30)
HP：http://kyotokimono-rental.com/en/
HP：http://kyotokimono-rental.com/tw/ (ภาษาจีน)
ที่ตั้ง: Atelier Building, 1-41-8 Asakusa, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
２．นั่งรถลาก : EBISUYA (えびす屋)
การใช้บริการรถลาก หรือจินริกิชิ (人力車) ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่เหนื่อยจากการท่องเที่ยวติดต่อกันหลายๆ วัน รถลากประเภทนี้ถูกใช้เป็นพาหนะเพื่อการเดินทางในญี่ปุ่นสมัยเมจิ (1868-1912), ไทโช (1912-1926), และโชวะตอนต้น (1926-1989) ในปัจจุบันรถลากส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้เพื่อการท่องเที่ยว เมื่อพูดถึงสเน่ห์ของรถลากแล้ว แน่นอนว่าจะต้องเป็นการที่ไม่ต้องเดินให้เมื่อย! นอกจากนี้ ยังมีหลัังคาที่ช่วยบังแดดในฤดูร้อน และมีผ้าคลุมตักให้สำหรับฤดูหนาว คุณจึงสามารถนั่งชมวิวได้อย่างสบายใจ อีกทั้งคนลากรถจะคอยถ่ายรูปและแนะนำสถานที่ลับที่ไม่ค่อยพบได้ในหนังสือนำเที่ยวให้คุณอีกด้วย
เวลาทำการ: 9:30 - พระอาทิตย์ตกดิน (อาจเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล)
HP：http://ebisuya.com/sc/ (ภาษาจีนตัวเต็ม)
HP：http://ebisuya.com/tc/ (ภาษาจีนตัวย่อ)
ที่ตั้ง: East Building 3F, 1-20-4 Asakusa, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
３．ซุมิดะเอโดะคิริโกะคัง (すみだ江戸切子館)
สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่ดูเป็นเอโดะและมีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เราขอแนะนำให้ลองสัมผัสประการณ์ทำแก้วเอโดะคิริโกะ (江戸切子) ที่นี่ เอโดะคิริโกะคือ ภาชนะแก้วหลากสีสันที่ได้รับการตัดให้มีลวดลายสีใสปรากฎขึ้น ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยเอโดะ (1603-1868) ตอนปลาย และได้รับการสืบทอดโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นกิจกรรมที่แม้แต่เด็กประถมหรือเด็กมัธยมก็สามารถทำได้ และเนื่องจากวันอาทิตย์มักจะมีคนหนาแน่น จึงขอแนะนำให้ทำการจองไว้ล่วงหน้า
ค่าใช้จ่าย: 4,320 เยน (ค่ายกเลิกการจอง 4,320 เยน)
เวลาทำการ: 10:00-18:00 (ปิดวันเสาร์และวันหยุดราชการ)
HP：http://www.edokiriko.net/index.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 2-10-9 Taihei, Sumida-ku, Tokyo (Google Map)
４．นวดเส้นโซบะ : เมนโคโบ (めん公望)
เคียงคู่ไปกับราเมนและอุด้ง โซบะ (蕎麦) เป็นหนึ่งในเมนูเส้นที่เป็นที่คุ้นเคยมากที่สุดของญี่ปุ่น โซบะได้รับการสืบทอดกันมาในญี่ปุ่นกว่า 1,000 ปี นิยมทานกันในหลากหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ ว่ากันว่าเส้นโซบะที่นวดขึ้นใหม่ๆ นั้นจะอร่อยที่สุด การสัมผัสประสบการณ์นวดเส้นโซบะจึงกล่าวได้ว่าเป็นกิจกรรมที่จะทำให้คุณได้ทานโซบะที่อร่อยที่สุด ที่ร้าน "เมนโคโบ" แห่งนี้ ไม่ใช่แค่คุณจะได้สนุกไปกับการนวดโซบะเท่านั้น แต่คุณยังได้ทานโซบะแสนอร่อยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรตวรจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้มีอาการแพ้โซบะ
สิ่งที่ต้องเตรียมไป: ผ้ากันเปื้อน, ผ้าเช็ดมือหรือผ้าขนหนู (สำหรับใช้เช็ดมือหลังจากล้างมือ)
ค่าใช้จ่าย: 3,500 เยน (อาจมีคนเยอะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)
ที่ัตั้ง: 2-2-3 Asakusa, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
５．เขียนอักษรเอโดะ : โอชิมายะอนดะ (大嶋屋恩田)
อักษรเอโดะ หมายถึงสไตล์การเขียนที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในยุคเอโดะ (1603-1808) มีจุดเด่นคือใช้พู่กันในการเขียน และมักนำไปเขียนบนโคมไฟญี่ปุ่นและป้ายของซูโม่, คาบูกิ, หรือโรงละครต่างๆ ที่ร้านแห่งนี้คุณจะมีโอกาสได้เขียนคำที่ตัวเองชื่นชอบลงบนโคมไฟญี่ปุ่น นอกจากลองเขียนอักษรเอโดะแล้ว ลองซื้อโคมไฟกลับไปเป็นของฝากดูหน่อยไหมคะ?
สิ่งที่ต้องเตรียมไป:
(1) ชุดที่ถึงจะเปื้อนก็ไม่เป็นไร เนื่องจากใช้หมึกในการเขียน
(2) เนื่องจากขั้นตอนการร่างเส้นมักใช้เวลามากที่สุด จึงขอแนะนำให้คิดลวดลาย (อักษรหรือภาพ) ที่ต้องการจะเขียนไว้ล่วงหน้า
(3) เนื่องจากมือต้องเปื้อนแน่ๆ จึงขอให้เตรียมทิชชู่เปียกไปด้วย (สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา)
ค่าใช้จ่าย: 3,000 เยน (รวมภาษี)
จำนวนคน: 3-10 ท่าน (ในกรณีที่มา 1-2 ท่าน อาจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้หากจ่ายค่าใช้จ่ายในราคา 3 ท่าน (9,000 เยน))
เวลา: ช่วงเช้า (9:30-11:00), ช่วงบ่าย (14:00-15:30)
HP：http://www.chochin-ya.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 2-2-6 Komagata, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
６．ทำถุงเครื่องหอม : ASAKUSA ZANMAI 99 TIMES
ถุงเครื่องหอม หรือนิโอยบุคุโระ (匂い袋) ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า Sachet ของตะวันตก ภายในถุงเล็กๆลวดลายญี่ปุ่นนี้จะมีผงที่ส่งกลิ่นแบบญี่ปุ่น อาทิเช่น ไม้จันทร์, กานพลู, หรืออบเชยใส่เอาไว้ ประวัติศาสตร์ของถุงเครื่องหอมเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อ 1,400 ที่แล้ว โดยนักบวชท่านหนึ่งได้นำเอาไม้ที่ส่งกลิ่นหอมกลับมาจากประเทศจีนเพื่อใช้เป็นเครื่องกันแมลงให้กับยาและเสื้อผ้าในสมัยนั้น หลังจากนั้นก็ได้กลายเป็นที่นิยมของชนชั้นสูงในยุคเฮอัน (794-1185) และมีอยู่เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ที่ร้านแห่งนี้ คุณจะมีโอกาสได้ทำถุงเครื่องหอมกลิ่นที่ตัวเองชื่นชอบได้ ลองมาสัมผัสกลิ่นหอมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณของญี่ปุ่นดูหน่อยไหมคะ? หรือจะซื้อไปเป็นของฝากก็ดูเข้าท่าเหมือนกันนะ
ค่าใช้จ่าย: 6,000 เยน
วันและเวลา: วันอังคารเวลา 14:30-16:00
HP：http://asakusa-i.tokyo/e/lesson/
ที่ตั้ง: Aoki Building 2F, 2-7-8 Hanakawado, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
７．ทำสมุดจากกระดาษญี่ปุ่น : ASAKUSA ZANMAI 99 TIMES
คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับกระดาษญี่ปุ่น หรือวาชิ (和紙) บ้างไหมคะ? จุดเด่นของมันคือเป็นกระดาษที่เบาและบาง แต่ก็แข็งแรงและเสียหายจากน้ำได้ยากกว่ากระดาษจากตะวันตก หนึ่งในหลักฐานที่เห็นได้ชัดก็คือ ในประเทศญี่ปุ่นมีเอกสารทางประวัติศาสตร์จำนวนมากที่เขียนขึ้นเมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้วด้วยกระดาษญี่ปุ่นและยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงทุกวันนี้ กระดาษมิโนะวาชิ (美濃和紙) ที่ร้านแห่งนี้นำมาใช้นั้น เป็นกระดาษญี่ปุ่นที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ โดยมีประวัติศาสตร์มากว่า 1,300 ปี และได้รับการระบุให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของญี่ปุ่นเมื่อปี 1969 อีกด้วย ลองมาทำสมุดโน๊ตด้วยกระดาษดังกล่าวนี้ดูไหมคะ? ถ้าได้ใส่ความทรงจำระหว่างการเดินทางของคุณลงไปแล้ว รับรองได้ว่ามันจะคงอยู่กับคุณไปอย่างยาวนานแน่นอน
ค่าใช้จ่าย: 5,000 เยน
วันและเวลา: วันพุธเวลา 14:30-16:00
HP：http://asakusa-i.tokyo/e/lesson/
ที่ตั้ง: Aoki Building 2F, 2-7-8 Hanakawado, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
８．สัมผัสประสบการณ์เคนโด้ : ASAKUSA ZANMAI 99 TIMES
ประเทศญี่ปุ่นมีศิลปะป้องกันตัวอยู่อย่างหลากหลาย อาทิเช่น จูโดและคิวโด(การยิงธนู) ในส่วนของสถานที่แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์เคนโด้ (剣道) ที่ใช้ดาบสั้นเป็นอาวุธ เคนโด้ที่ใช้ดาบสั้นและรวมไปถึงเคนโด้อื่นๆ จะตัดสินกันด้วยการแข่งขันแบบ 1 ต่อ 1 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการเอาแต่ตีเพื่อล้มอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอ การแข่งขันเคนโด้จะตัดสินโดยดูจาก 3 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ "จิต" (มีความมุ่งมั่นในการต่อสู้หรือไม่), "ดาบ" (ดาบตีถูกจุดที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องหรือไม่), และ "ร่างกาย" (มีการวางตัวที่ดีหรือไม่ หลังจากที่โจมตีเสร็จแล้วเตรียมตัวรับการโจมตีได้หรือไม่) ลองมาสัมผัสกับเคนโด้ ศิลปะป้องกันตัวของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดดูหน่อยไหมคะ? ถ้าหากวางแผนที่จะไปแล้ว อย่าลืมสวมใส่เสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวได้สะดวกด้วยนะคะ!
ค่าใช้จ่าย: 5,000 เยน
วันและเวลา: วันจันทร์เวลา 14:30-16:00
HP：http://asakusa-i.tokyo/e/lesson/
ที่ตั้ง: Aoki Building 2F, 2-7-8 Hanakawado, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
９．สัมผัสประสบการณ์เขียนอักษร : ASAKUSA ZANMAI 99 TIMES
คุณเคยได้ลองเขียนอักษรด้วยพู่กันดูบ้างไหมคะ? อักษรคันจินี้แต่เดิมแล้วเป็นอักษรของจีนโบราณ ภายหลังได้มีการนำเข้ามาในญี่ปุ่นและกลายมาเป็นรากฐานของอักษรฮิรางานะและคาตาคานะ แม้ว่าในญี่ปุ่นปัจจุบัน ตามกฎแล้วชื่อของชาวต่างชาติจะถูกเขียนแทนด้วยอักษรคาตาคานะ แต่ในที่นี่ คุณจะมีโอกาสได้เขียนชื่อของตัวเองเป็นอักษรคันจิ เนื่องจากตัวอักษรคันจิแต่ละตัวมีความหมายอยู่ในตัวเอง การเลือกว่าจะใช้อักษรคันจิตัวไหนมาเขียนจึงน่าสนุกไม่ใช่น้อย
ค่าใช้จ่าย: 5,000 เยน
วันและเวลา: วันเสาร์เวลา 17:00-18:30, 19:00-21:30
HP：http://asakusa-i.tokyo/e/lesson/
ที่ตั้ง: Aoki Building 2F, 2-7-8 Hanakawado, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
１０．สัมผัสกับวิถีแห่งชา : ASAKUSA ZANMAI 99 TIMES
วิถีแห่งชา หรือชาโด (茶道) ก็เป็นอีกหนึ่งในวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นปัจจุบัน วิถีแห่งชาไม่ใช่แค่การดื่มชาเพียงอย่างเดียว แต่ยังอัดแน่นไปด้วยความเอาใจใส่ที่ต้องการให้แขกรู้สึกเพลิดเพลินและผ่อนคลาย อาทิเช่น การเลือกภาชนะที่ใส่ชา, ดอกไม้ที่ใช้ประดับ, และขนมที่เสิร์ฟพร้อมกับชา ที่นี่คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับชาสองประเภท ได้แก่ อุซุชะ(ชาชงจาง) และโคอิชะ(ชาชงเข้ม) ที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงหัวใจแห่งการเอาใจใส่ของญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
ค่าใช้จ่าย: 5,000 เยน
วันและเวลา: วันอาทิตย์เวลา 17:00-18:30, 19:00-21:30
HP：http://asakusa-i.tokyo/e/lesson/
ที่ตั้ง: Aoki Building 2F, 2-7-8 Hanakawado, Taito-ku, Tokyo (Google Map)
เห็นแล้วใช่ไหมว่าการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการกิน, ดู, หรือช็อปปิ้งเพียงเท่านั้น แต่ยังมีอีเว้นท์อีกมากมายที่ไม่สามารถสัมผัสได้ในที่อื่นนอกจากญี่ปุ่น ลองมาทำให้การพักผ่อนในญี่ปุ่นของคุณนั้นเติมเต็มกว่านี้ดูหน่อยไหมคะ?
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
เกี่ยวกับนักเขียน
