แนะนำ 11 ที่ชมอุโมงค์ดอกวิสทีเรียในญี่ปุ่น เมษานี้ห้ามพลาด !
ดอกวิสทีเรียของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในดอกไม้วิเศษสำหรับชาวญี่ปุ่นที่ใครต่อใครต่างหลงใหลในความสวยงามและกลิ่นหอมน่าค้นหา การได้ชมดอกไม้หลากสีสันเรียงรายไปสุดลูกหูลูกตาถือเป็นสิ่งที่จะช่วยจรรโลงทั้งสายตาและจิตใจของคุณได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ชมในสถานที่ที่ชอบกับคนที่ใช่ ในบทความนี้ได้รวบรวมสถานที่ชมอุโมงค์ดอกวิสทีเรียชื่อดังในราคาที่สมเหตุสมผลมาไว้ให้คุณแล้ว หากคุณมีโอกาสได้เดือนทางมาที่ญี่ปุ่นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม การไปชทดอกวิสทีเรียบานสะพรั่งเป็นอะไรที่คุณไม่ควรพลาดด้วยกระการทั้งปวง
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. สวน Ashikaga Flower Park [โทชิกิ]
สวนดอกไม้ Ashikaga Flower Park ในจังหวัดโทะชิกิ (Tochigi) เป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกวิสทีเรียที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สวนแห่งนี้ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันจากดอกไม้นานาพันธุ์ตลอดทั้งปี และต้นวิสทีเรียกว่า 350 ต้นที่ออกดอกบานสะพรั่งพร้อมกันถือเป็นไฮไลท์ของสวนในช่วงตั้งแต่กลางเดือนเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ที่สวนนี้คุณจะได้ชมการจัดเรียงต้นไม้และดอกไม้สุดตระการตา ซึ่งรวมไปถึงต้นวิสทีเรียเก่าแก่อายุกว่า 130 ปี หรืออุโมงดอกไม้ขาวยาว 80 เมตร สวนยังตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางมาได้ง่าย เพียง 90 นาทีโดยรถยนต์หรือรถไฟจากตัวเมือง 13 นาทีโดนการเดินจากสถานี JR Tomita ทำให้สวนแห่งนี้มักเนืองแน่นไปด้วยผู้คนในช่วงไฮซีซั่น
เว็บไซต์: www.ashikaga.co.jp/english/index.html
ตำแหน่ง: 607 Hasama-cho, Ashikaga-shi, Tochigi (Google Map)
2. ศาลเจ้า Kameido-tenjin [โตเกียว]
ศาลเจ้า Kameido ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตัวเมือง ทำให้สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก ศาลเจ้านี้เป็นสถานที่ชมดอกวิสทีเรียที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ในช่วงปลายเดือนเมษายน ดอกไม้จากกว่า 100 ต้นในสวนที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรีจะบานสะพรั่งพร้อมกัน และในช่วงเทศกาลดอกวิสทีเรียนี้ จะมีการจัดฉายไฟ night illumination ในช่วงกลางคืน พร้อมทั้งมีการตั้งซุ้มต่างๆ ให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลิน ศาลเจ้า Kameido อยู่ห่างจากสถานี JR Kameido บนสาย Sobu และสถานี Kinshicho บนสาย Hanzomon เพียง 15 นาทีโดยการเดิน
เว็บไซต์: kameidotenjin.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ตำแหน่ง: 3-6-1 Kameido, Koto-ku, Tokyo (Google Map)
3. สวน Yokosuka Shobu-en [คานากาวะ]
หากคุณต้องการใช้เวลาเดินชมสวนดอกไม้แบบสงบๆ สวน Yokosuka Soobu-en นี้คือที่สำหรับคุณ สวนนี้ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง และจากโยโกฮาม่าประมาณ 1 ชั่วโมง ในเดือนพฤษภาคม คุณสามารถเข้าชมดอกวิสเทเรียจากกว่า 250 ต้น 11 สายพันธุ์ที่บานสะพรั่ง ในเดือนมิถุนายนมีการจัดทางเดินที่เรียงรายไปด้วยออกไอริซหรือ Shobu ในภาษาญี่ปุ่น อุโมงค์ดอกไม่ของที่นี่ไม่มีโครงบังตาทำให้คนสามารถเพลิดเพลินไปกับดอกไม้ได้แบบที่ไม่มีอะไรมารบกวนสายตา คุณสามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยการนั่งรถไฟสาย JR Yokosuka มาลงที่สถานี Kinugasa และนั่งรถบัส Keihin express bus มาลงที่ป้าย Shobu-en แล้วเดินต่อเพียงสองนาที
เว็บไซต์: www.ryokukazouen.jp/iris/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ตำแหน่ง: 18-1 Abekura, Yokosuka-shi, Kanagawa (Google Map)
4. วัด Mandara-ji [ไอจิ]
วัดธรรมดาๆ ในจังหวัดไอจิ (Aichi) ทางตอนเหนือของนาโกย่าแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่ชมดอกไม้สุดอัศจรรย์ ด้วยดอกวิสทีเรียจากกว่า 60 ต้น 12 สายพันธุ์ที่จะบานสะพรั่งพร้อมกันในช่วงปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม ด้วยสวนดอกไม้ที่ถูกดูแลรักษาเป็นอย่างดี การฉายไฟในตอนกลางคืน ซุ้มต่างๆ และดอกไม้อื่นๆ อีกหลากหลายสายพันธุ์ ทำให้สวนดอกไม้ในวัดแห่งนี้ดึงดูดนึกท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศให้มารวมตัวกัน คุณสามารถเดินทางมาจากสถานี Meitetsu Nagoya ได้ด้วยการนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Konan โดยจะใช้เวลาประมาณ 25 นาที จากนั้นคุณสามารถต่อรถบัสจากสถานี Konan มาลงที่ Mandara-ji และเดินต่อมาเพียงสองนาทีก็จะถึงตัววัด
เว็บไซต์: www.aichi-now.jp/spots/detail?spot_id=180
ตำแหน่ง: 202 Tera-machi, Maehibo-cho, Konan-shi, Aichi (Google Map)
5. สวน Tenno-gawa Park [ไอจิ]
สวน Tenno-gawa ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองนาโกย่า ถือเป็นหนึ่งในจุดชมดอกวิสทีเรียชื่อดัง ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือระย้าดอกวิสทีเรียจากกว่า 114 ต้น 12 สายพันธุ์ที่ทอดยาวเหนือคลองเป็นระยะทางกว่า 275 เมตร ความยาวของแต่ละพุ่มมีตั้งแต่ 15 เซนติเมตรไปจนถึงพุ่มที่ยาว 200 เซนติเมตร แม้ว่าอาจจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนไปสักหน่อยเพราะด้วยทำเลของสวนที่สะดวกสบาย แต่ช่วงที่ดีที่สุดที่เราแนะนำในการมาชมสวนแห่งนี้คือตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม การเดินทางจากสถานี Meitetsu Nagoya ทำได้ด้วยการนั่งรถไฟประมาณ 25 นาทีมาลงที่สถานี Tsuhsima แล้วเดินต่อจากสถานีประมาณ 15 นาทีก็จะถึงที่สวน
เว็บไซต์: www.aichi-now.jp/spots/detail?spot_id=208
ตำแหน่ง: 1 Miyagawa-cho, tsushima-shi, Aichi (Google Map)
6. สวน Miyama-no-sato [วากายามะ]
สวน Miyama-no-sato Park ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนที่เป็นภูเขาในจังหวัดวากายามะ (Wakayama) ที่นี่มีอุโมงค์ระย้าดอกวิสทีเรียที่ยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่ความยาวถึง 1,646 เมตร และมีการจัดเทศกาลดอกวิสทีเรียในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ทางเดินของสวนนี้ค่อนข้างเป็นทางไต่ระดับขึ้นภูเขาจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงสามารถเดินไต่ระดับได้แบบไม่มีปัญหา รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวก็สามารถมาเพลิดเพลินกับการปีนเขาและชมสวนดอกไม้ได้เช่นกัน การเดินทางมาด้วยรถยนต์เป็นวิธีที่เราแนะนำ
เว็บไซต์: kanko.hidakagawa.jp/eng/
ตำแหน่ง: 202 Ubuyugawa Hidakagawa-cho, Hidaka-gun, Wakayama (Google Map)
7. วัด Byodoin [เกียวโต]
วัด Byodoin เดิมถูกสร้างขึ้นโดยนักการเมืองการทหารคนสำคัญอย่าง Michinaha Fujiwara วัดแห่งนี้เป็นที่โด่งดังจากสวนอันสวยงามและสถาปัตยกรรมของอาคารหลักของวัดที่ถูกสร้างขึ้นแบบสมมาตร ว่ากันว่าดอกวิสทีเรียในสวนของวัดนี้มีอายุกว่า 250 ปีและในปัจจุบันก็ยังอยู่ในระยะฟื้นตัวจากการตัดเล็มครั้งล่าสุด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ลดทอนความสวยงามของสวนดอกวิสทีเรียที่นี่ลงแต่อย่างใด คุณยังจะสามารถมองเห็นวิสทีเรียขึ้นเป็นพุ่มๆ ในบริเวณรอบๆ วัดระหว่างที่คุณเดินทางมาที่นี่ได้อีกด้วย สวนนี้อยู่ห่างจากสถานี JR หรือ Keihan Uji เป็นระยะ 15 นาทีโดยการเดิน
เว็บไซต์: www.byodoin.or.jp/ja/index.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ตำแหน่ง: 116 Ujirenge, Uji-shi, Kyoto (Google Map)
8. ศาลเจ้า Kasuga Taisha [นารา]
วิสทีเรียถือเป็นสัญลักษณ์ประจำศาลเจ้าประจำตระกูล Fujiwara และที่นี่คุณจะมองเห็นดอกวิสทีเรียอยู่ทุกที่ในศาลเจ้า สวนพฤกษศาสตร์ Man’yo Botanical Garden ภายในศาลเจ้าแห่งนี้มีวิสทีเรียกว่า 200 ต้นจาก 20 สายพันธุ์ให้คุณได้ชม และจากวิสทีเรียทั้งหมดในศาลเจ้า พันธุ์ Sunazuri-no-Fuji ที่อยู่ข้างอาคารหลักของศาลเจ้าเป็นสายพันธุ์ที่โด่งดังที่สุดจากความโอ่อ่าของตัวดอกที่ห้อยระย้าลงมายาวกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
เว็บไซต์: www.kasugataisha.or.jp/about/index_en.html
ตำแหน่ง: 160 kasugano-cho, Nara-shi, Nara (Google Map)
9. สวน Shirai Omachi Fuji Koen Park [เฮียวโกะ]
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงขอบรอยต่อระหว่างจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) และจังหวัดเกียวโต โดยเป็นสวนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมดอกวิสทีเรียโดยเฉพาะ ภายในอาณาบริเวณกว่า 7,000 ตารางเมตร มีอุโมงวิสทีเรียความยาวรวม 500 เมตรที่ทั้งหมดจะถูกจัดแสดงไฟ light-up ในช่วงเทศกาลวิสเทเรียในเดือนพฤษภาคม เวลาเปิดปิดของสวนแตกต่างกันไปขึ้นกับสภาพของดอกไม้ และคุณสามารถเดินทางโดยการนั่งแท็กซี่มาจากสถานี JR Wakayama เป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร
เว็บไซต์: www.oomachi.info/flowering/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ตำแหน่ง: 1008 Shirai, Wadayama-cho, Asago-shi, Hyogo (Google Map)
10. วัด Byakugo-ji [เฮียวโกะ]
สวนนี้เป็นอีกสวนหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่รอยต่อระหว่างจังหวัดเฮียวโกะและเกียวโต และเป็นสวนที่มีชื่อเสียงจากทัศนียภาพตระการตาที่มีให้ชมได้ตลอดทั้งปี พุ่มระย้ายาวกว่า 100 เซนติเมตรของวิสทีเรียสีม่วงสดพันธุ์ “Kyushaku Fuji” ที่เรียงรายเป็นระยะทางกว่า 120 เมตรจะเป็นภาพที่จะทำให้คุณต้องสะกดลมหายใจ ดอกวิสทีเรียที่นี่จะบานในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม และจะถูกจัดแสดงไฟในช่วงเทศกาลวิสทีเรีย คุณสามารถเดินทางมาได้โดยนั่งแท็กซี่จากสถานี JR Ichijima สาย Fukuchiyama
เว็บไซต์: www.byakugouji.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ตำแหน่ง: 709 Ichijima-cho Byakugoji, Tamba-shi, Hyogo (Google Map)
11. สวน Kawachi Fujien [ฟุกุโอกะ]
Kawachi-Fuji เป็นสวนวิสทีเรียส่วนตัวที่เจ้าของจะเปิดให้คนภายนอกเข้าชมได้เฉพาะในช่วงที่ดอกวิสทีเรียบานในปลายเดือนเมษายน และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น สวนแห่งนี้ขึ้นชื่อจากการจัดแสดงดอกวิสทีเรียในแบบฉบับที่เป็นอักลักษณ์ โดยมีวิสทีเรียกว่า 150 ต้นจาก 22 สายพันธุ์ภายในอาณาบริเวณ 10,000 ตารางเมตร ที่นี่มีจุดชมวิวและจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย รวมไปถึงอุโมงค์วิสทีเรียหลากสีความยาว 80 เมตร และ 220 เมตร คุณยังสามารถเดินชมชิลๆ หรือจะมีปิกนิกกันในสวนก็ได้ แม้ว่าการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะจะไม่สะดวกเท่าใดนัก แต่เชื่อว่าคุณจะไม่รู้สึกเสียดายอย่างแน่นอน!
ตำแหน่ง: 2-2-48 Kawachi, Yahatahigashi-ku, Kitakyushu-shi, Fukuoka (Google Map)
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่