10 จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดในจังหวัดนากาโน่
แหล่งท่องเที่ยวของญี่ปุ่นไม่ได้มีเพียงโตเกียวหรือโอซาก้าเท่านั้น ประเทศญี่ปุ่นมีทั้งหมด 47 จังหวัด และในแต่ละจังหวัดก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอีกมาก ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 'จังหวัดนากาโน่' (長野県) อีกหนึ่งจังหวัดยอดฮิตของคนญี่ปุ่นที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าไปและธรรมชาติแสนสวยงามมากมาย
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศเรียวยาว แบ่งออกเป็น 47 จังหวัด และในแต่ละจังหวัดเองก็จะมีจุดเด่นเฉพาะตัว เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงละแวกโตเกียวหรือโอซาก้า แต่แท้จริงแล้วทุกจังหวัดต่างก็มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจทั้งนั้น !
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับ นากาโน่ จังหวัดที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของเกาะญี่ปุ่น
จังหวัดนากาโน่ล้อมรอบด้วย 8 จังหวัด (กุนมะ, ไซตามะ, ยามานาชิ, ชิสึโอกะ, ไอจิ, กิฟุ, โทยามะ, และนีกาตะ) เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของญี่ปุ่น แบ่งพื้นที่แบบคร่าวๆ ออกเป็น 3 ที่คือ Hokushin, Toshin, และ Nanshin ถึงแม้จะอยู่ในจังหวัดเดียวกันแต่ภาษาถิ่นที่ใช้กลับแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่
บริเวณที่เป็นนากาโน่ในปัจจุบันนั้นในอดีตเคยเรียกว่า ชินชู (信州) สินค้าของนากาโน่จึงมักจะมีคำว่าชินชูตามหลัง นับว่าเป็นจังหวัดที่ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ของตัวเองมาก
1. Karuizawa (軽井沢)
Nao Iizuka/Flickr Kin Mun Lee/FlickrKaruizawa ตั้งอยู่ในภูมิภาค Hokushin ของนากาโน่ ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งท่องเที่ยวคลายร้อน ทั้งยังเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่าเศรษฐีที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น John Lennon ที่พาครอบครัวมาพักผ่อนระยะยาว หรือ Bill Gates ที่วางแผนจะสร้างบ้านพักตากอากาศที่นี่
เนื่องจาก Karuizawa รุ่งเรืองขึ้นมาในฐานะสถานที่พักตากอากาศของชาวต่างชาติ ภายในบริเวณจึงมีร้านค้าและสิ่งก่อสร้างสไตล์ยุโรปอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงสถานที่อย่างโบสถ์เก่าแก่และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ซึ่งจะทำให้ได้คุณสัมผัสประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่
2. ลานสกี Shigakogen (志賀高原スキー場)
koemu/Flickr peaceful-jp-scenery (busy)/FlickrShigakogen เป็นเนินเขาสูงที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวจะทับถมไปด้วยหิมะและกลายเป็นสถานที่เล่นกีฬาฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ภายในบริเวณมีลิฟต์สำหรับนักสกีให้บริการอยู่มากมาย ในปี 2023 คาดการณ์ว่าจะมีลานสกีให้เล่นถึง 18 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปรก็สามารถหาลานสกีที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างแน่นอน
3. Kamikochi (上高地)
Aya Yen/Flickr Aya Yen/FlickrKamikochi เป็นจุดชมทัศนียภาพที่ได้รับการจดทะบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรมของญี่ปุ่น มีผู้มาเยี่ยมเยียนกว่า 1 ล้าน 5 แสนคนต่อปี ตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขาฮิดะที่อยู่ทางตะวันตกของนากาโน่ และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chubu-Sangaku (中部山岳国立公園) อันกว้างใหญ่
การรณรงค์ให้อนุรักษ์พื้นที่ Kamikochi นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1909 และได้รับการสานต่ออย่างเรื่อยมา ส่งผลให้บริเวณนี้โดดเด่นไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติแบบโบราณกาล มีความสวยงามในทุกฤดูกาล และยังมีเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์สงวนหลากหลายสายพันธุ์
4. Azumino (安曇野)
Jiashiang/Flickr iyoupapa/Flickr Nya-buro HAGIWARA/FlickrAzumino เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของจังหวัดนากาโน่ บริเวณที่มีลำธารน้ำไหลลงมาจากเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ โดดเด่นด้วยทิวทัศน์แบบชนบทที่มีเทือกเขาอันน่าตื่นตาเป็นพื้นหลัง เมืองนี้ยังขึ้นชื่อในฐานะแหล่งจับปลาแซลมอนชินชูและปลาเทราต์สายรุ้ง รวมถึงเป็นแหล่งปลูกวาซาบิซึ่งเป็นพืชที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ถ้าหากน้ำไม่สะอาด
นอกจากนี้ Azumino ยังมีสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบศิลปะอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหอศิลป์ หอจดหมายเหตุ หรือร้านส่วนตัวเล็กย่อย
5. Zenkoji (善光寺)
superidoljp/Flickr inefekt69/FlickrZenkoji วัดที่สร้างขึ้นในเขต Nagano-shi ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดนากาโน่ เป็นที่เที่ยวนากาโน่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ Zenkoji มีความพิเศษในฐานะวัดของศาสนาพุทธที่ไม่สังกัดอยู่ในนิกายใดๆ ภายในเป็นที่ตั้งของมรดกทางวัฒนธรมมากมาย เช่น ซุ้มประตูซันมง (山門) และเทวรูปทองแดงของพระอมิตาพุทธะ
บริเวณด้านหน้าของวัดเป็นถนนคนเดินที่ปูนพื้นด้วยแผ่นหิน 7,777 แผ่น ทั้งสองฝั่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านของฝากมากมาย เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของวัด Zenkoji ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
6. Matsumoto-jo (松本城)
m-louis /FlickrMatsumoto-jo เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึโมโตะ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย Azuchi-Momoyama (ปี 1558-1600) ตัวปราสาทหลักได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติ ทั่วทั้งญี่ปุ่นมีปราสาทเพียง 4 แห่งเท่านั้นที่ได้รับการจดทะเบียนในตำแหน่งนี้
ปราสาทนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Matsumoto-jo Koen (松本城公園) สวนสาธารณะกว้างขวางที่มีต้นซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะอยู่กว่า 300 ต้น เป็นที่เที่ยวนากาโน่ที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง และได้รับความนิยมมากในฐานะจุดชมธรรมชาติของทั้งสี่ฤดู
7. Ueda-jo (上田城)
Takuya Oikawa/FlickrUeda-jo เป็นปราสาทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1585 โดยซานาดะ มาซากิ (真田昌幸) หัวหน้าตระกูลซานาดะผู้มีชื่อเสียงอยู่ในยุคเซ็นโกคุ ปราสาทนี้ได้ถูกทำลายลงหลังจากที่ตระกูลซานาดะพ่ายแพ้ในสงครามเซคิงาฮาระ ปราสาทที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นปราสาทที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในช่วงปีคันเอ (ปี 1624-1644) ของยุคเอโดะ
ในปัจจุบันปราสาทนี้ได้กลายส่วนหนึ่งของ Ueda Joseki Koen (上田城跡公園) สวนสาธารณะแสนร่มรื่นที่มีทั้งแนวต้นยานางิอายุกว่า 100 ปี ซากุระและไม้ดอกอื่นๆ กว่าพันต้น รวมถึงร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมาย เป็นที่เที่ยวนากาโน่ที่ได้รับความนิยมมากในฐานะจุดชมซากุระ
8. Komoro-jo (小諸城)
Takeshi KOUNO/FlickrKomoro-jo เป็นปราสาทบนเนินสูงที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 1487 เนื่องจากมีลักษณะเป็นการขุดพื้นดินให้ลึกลงไปเพื่อใช้เป็นทางเดิน จึงเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Anashiro (穴城 / ปราสาทรู) กล่าวได้เป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นสร้างขึ้นในลักษณะนี้
ปราสาทนี้ได้ถูกทำลายลงหลังจากมีการยกเลิกระบบไดเมียวในปี 1871 และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1926 ในฐานะสวนสาธารณะ Komoro Joshi Kaikoen (小諸城址懐古園) โดยฮอนดะ เซโรคุ (本多静六) ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งสวนญี่ปุ่น
Komoro Joshi Kaikoen ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 100 จุดชมซากุระและ 100 ปราสาทชื่อดังของญี่ปุ่น ภายในมีทั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะ หอจดหมายเหตุ สวนสัตว์ และสนามเด็กเล่น เป็นหนึ่งในที่เที่ยวนากาโน่ที่เหมาะมากสำหรับพาเด็กๆ มาเดินเล่น และยังอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟโดยเดินเพียง 3 นาทีอีกด้วย
นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ Otoko-wa-tsuraiyo (男はつらいよ) ซีรีย์ละครโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น บริเวณโดยรอบก็มีร้านโซบะชินชูให้เลือกรับประทานมากมายอีกด้วย
*รูป : https://pixta.jp/photo/6747617
9. Kamisuwa Onsen (上諏訪温泉)
*รูป : https://pixta.jp/photo/84280150
Kamisuwa Onsen เป็นย่านออนเซ็นในเมือง Suwa (諏訪市) ที่อยู่ทางภูมิภาค Nanshin ของนากาโน่ ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณน้ำที่มากเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ภายในบริเวณมีบ่อแช่เท้าให้ใช้บริการอยู่มากมาย โดยหลายแห่งก็สามารถใช้บริการได้อย่างฟรีๆ อีกด้วย
บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Katakura Kan (片倉館) มรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่กล่าวกันว่าเป็นสถานที่บำบัดโรคด้วยออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุด เป็นอาคารสไตล์ยุโรปที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ภายในมี Sennen-buro (千人風呂) บ่อออนเซ็นที่สามารถลงแช่ได้พร้อมกันถึง 100 คน
10. Shimosuwa Onsen (下諏訪温泉)
tetsuya yamamoto/FlickrShimosuwa Onsen เป็นย่านออนเซ็นที่อยู่ในเขต Shimosuwa (下諏訪町) บริเวณที่ในอดีตเคยเป็นแคว้นชินาโนะ (信濃国) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของญี่ปุ่น เนื่องจากเคยเป็นเมืองที่พักของเหล่านักเดินทาง ในบริเวณนี้จึงมีอาคารและที่พักสไตล์เก่าแก่อยู่มากมาย โดยเรียงรายอยู่ในลักษณที่ล้อมรอบทะเลสาบซุวาโกะ (諏訪湖) ทะเลสาบชื่อดังที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งหากมีโอกาสได้มาเที่ยวนากาโน่
นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Suwa Taisha (諏訪大社) ศาลเจ้าที่มีบทบาทสำคัญมากในตำนานเทพของญี่ปุ่น ภายในอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่มีมนต์ขลัง หากได้ลองก้าวเข้าไปจะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าหลงเข้าไปในโลกของเหล่าทวยเทพเลยทีเดียว
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่