จุดถ่ายรูปธรรมชาติ 11 แห่ง ณ เกาะ Yakushima (คิวชู) ที่สายเล่นกล้องห้ามพลาด!
เกาะ Yakushima (屋久島) ตั้งอยู่ในจังหวัดคาโกชิม่า ภูมิภาคคิวชู เป็นมรดกโลกที่ขึ้นชื่อด้านความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งยังเป็นที่นิยมมากในหมู่ช่างภาพจนถึงขั้นได้ลงข่าวใน The Guardian และ The New York Times กันเลยทีเดียว และเราก็ได้รวบรวมพิกัดของแหล่งรูปชั้นดีบนเกาะมาไว้ที่นี่แล้ว! แต่อยากชมของสวยๆ งามๆ ก็ต้องลงแรงเป็นธรรมดา จุดถ่ายรูปเหล่านี้ส่วนใหญ่จะต้องปีนเขากันสักนิดก่อนจะหาเจอ ดังนั้นก็อย่าลืมเตรียมตัวกันดีๆ ล่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Jomon Sugi Trekking Course
ของดีของเกาะ Yakushima ก็คือ Jomon Sugi หรือต้นซีดาร์ญี่ปุ่นสีแดงที่มีขนาดใหญ่และมีอายุเก่าแก่ที่สุดบนเกาะ โดยอายุของเจ้า Jomon Sugi นี้ถูกประมาณไว้ที่ 2,000 - 7,200 ปีเลยทีเดียว! ตัวต้นตั้งตระหง่านอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของเกาะ ใครที่อยากได้ภาพจึงต้องปีนเขาขึ้นไปเท่านั้น เวลาปีนโดยประมาณอยู่ที่ 10 ชั่วโมง และระยะทางก็มากถึง 22 กิโลเมตรเลยทีเดียว
แค่ฟังก็อาจจะรู้สึกท้อใจ แต่รับรองได้เลยว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าเหนื่อยแน่ๆ เพราะนอกจากตัวต้นซีดาร์ที่ปลายทางแล้วทิวทัศน์ระหว่างทางก็สวยงามไม่แพ้กัน ป่าก็เขียวขจีเหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย แถมถ้าโชคดีก็อาจจะได้มีกวางป่าหลงมาให้ได้เห็นกันด้วย! นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายจุดระหว่างทางที่น่าสนใจ และเราก็ได้เขียนไว้ด้านล่างนี้แล้ว
Wilson's Stump
สป็อตหนึ่งที่ห้ามพลาดเลยก็คือตอไม้มีช่องเปิดเป็นรูปหัวใจ และยังมีขนาดใหญ่จนสามารถเดินเข้าไปข้างในได้ด้วย หามุมถ่ายรูปกันได้แบบไม่ซ้ำใครแน่นอน
Daio Sugi
หนึ่งในต้นไม้ขนาดยักษ์ระหว่างทางที่ไม่ต้องตั้งใจมองหาก็เห็นได้ทันที
Meoto Sugi
ต้นซีดาร์ 2 ต้นที่ลำต้นเชื่อมติดกัน จึงได้ชื่อว่า Meoto Sugi หรือต้นซีดาร์คู่รัก
Kuguri Sugi
อายุนับว่ายังไม่มากเมื่อเทียบกับ Jomon Sugi แต่ก็มีชื่อเสียงอยู่พอตัว เส้นทางปีนเขาจะลอดใต้ตัวต้นไม้ไป จึงเป็นจุดถ่ายรูปที่ดีมากอีกจุดหนึ่ง
Jomon Sugi
และนี่ก็คือ Jomon Sugi พระเอกของเรานั่นเอง
2. Kigen Sugi
สำหรับใครที่คิดว่าฮึดสู้ไปหา Jomon Sugi ไม่ไหวก็ไม่ต้องกังวลไป ในเกาะยังมี Kigen Sugi อยู่อีกต้นหนึ่งที่ถ่ายรูปได้สวยไม่แพ้กัน ที่สำคัญคือเจ้าต้นนี้ยังเป็นต้นซีดาร์ญี่ปุ่นสีแดงขนาดใหญ่ต้นเดียวเพียงในเกาะที่เดินไปหาได้ง่ายๆ ไม่ต้องลำบากปีนเขาขึ้นไปอีกด้วย
3. Shiratani Unsuikyo
Shiratani Unsuikyo ป่าที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับป่าในอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Princess Mononoke พื้นป่าและหินปกคลุมด้วยมอสเขียวๆ ให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา เป็นทิวทัศน์ธรรมชาติที่จัดว่าสวยเป็นอันดับต้นๆ ของเกาะเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเส้นทางปีนเขาหลายทางให้เลือกชมกันได้ตามชอบอีกด้วย
Yayoi Sugi Course
เส้นทางปีนเขายอดนิยมด้วยระยะเพียง 2 กิโลเมตรและเวลาปีนเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อเดินไปได้สัก 20 นาทีก็จะพบกับ Yayoi Sugi ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ได้แล้ว
Bugyo Sugi Course
เส้นทางระยะ 4 กิโลเมตร ยาวกว่าอันก่อนหน้านี้เล็กน้อย และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อเดินให้จบ ว่ากันว่าต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเส้นทางนี้นั้นถูกค้นพบเมื่อสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) โดยนักปกครอง (bugyo ในภาษาญี่ปุ่น) ในตอนที่แวะพักระหว่างที่กำลังตามหาแหล่งตัดไม้แหล่งใหม่อยู่ เจ้าต้นไม้ต้นนี้เลยได้ชื่อว่า Bugyo Sugi นั่นเอง
Taiko Iwa Course
Taiko Iwa เป็นหินขนาดมหึมาที่เราสามารถขึ้นไปยืนเพื่อมองวิวสุดตระการตาของป่าและภูเขาโดยยรอบได้ เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับ Princess Mononoke เส้นทางปีนเขามาที่หินนี้มีระยะ 5.6 กิโลเมตร และใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการเดินทาง แต่ขอรับประกันว่ามาแล้วไม่เสียใจแน่นอน!
4. Yakusugi Land
อีกหนึ่งตัวเลือกที่เป็นมิตรกับนักปีนเขามือใหม่ เป็นอุทยานธรรมชาติที่เราจะมีโอกาสได้เห็นต้นไม้ที่ล้มกระจัดกระจาย อย่างเจ้า Jamon Sugi กิ่งก้านของต้นไม้เหล่านี้จะโค้งงอ เกิดเป็นรูปร่างประหลาดๆ มองไปมองมาก็เหมือนกับงานศิลปะสักชิ้นหนึ่งเลยล่ะ
5. Seibu Rindo
ถึงเราก่อนหน้านี้เราจะพูดถึงแต่ต้นซีดาร์ แต่ก็อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเกาะ Yakushima จะมีของดีแค่ต้นซีดาร์อย่างเดียวล่ะ นอกจากป่าสวยๆ แล้วทีนี่ก็ยังมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เต็มไปหมด ใครที่อยากจับภาพกวางป่าหรือลิงป่าก็ลองมาสังเกตการณ์กันที่เส้นทางเดินป่า Seibu Rindo ได้เลย
6. Shitogo Gajumaru Park
Shitogo Gajumaru Park เป็นสวนสาธารณะที่มีทัศนียภาพแปลกประหลาดทว่าน่าสนใจ ที่นี่เป็นสวนต้นบันยันซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีรากแบบพิเศษที่เรียกว่ารากอากาศ โดยตัวรากจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นดินเกิดเป็นรูปร่างที่ดูแปลกตา รูปที่ถ่ายออกมาก็สวยมากๆ ใครที่อยากได้ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ก็ต้องที่นี่เลย
7. น้ำตก Sempiro
น้ำตก Sempiro เป็นน้ำตกที่สวยงามทรงพลังและอยู่ในภูมิทัศน์ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปสุดๆ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวให้ได้ชมทิวทัศน์โดยรอบกันแบบเต็มๆ ตาอีกด้วย
8. น้ำตก Oko
หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุด 100 แห่งในญี่ปุ่น เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะด้วยความสูงถึง 88 เมตร แน่นอนว่าถ่ายรูปออกมาก็ต้องสวยอย่างไม่ต้องสงสัย
9. เทือกเขา Miyanoura
Miyanoura เทือกเขาที่สูงที่สุดในคิวชู และเป็นหนึ่งในเทือกเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น แค่ฟังดูก็คงพอจะเดาได้ว่าเส้นทางในการปีนนั้นค่อนข้างยากลำบาก แต่ด้วยความสวยงามของทิวทัศน์ด้านบนก็นับว่าคุ้มค่า
นอกจากบนยอดแล้วเส้นทางปีนเขาเองก็ลากผ่านภูมิประเทศที่น่าสนใจอยู่หลายจุด เป็นโอกาสที่ดีในการเก็บภาพเช่นเดียวกัน
ระหว่างทางหากโชคดีก็อาจได้เห็นสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่บนภูเขาด้วย แต่ก็อย่าเผลอเดินเข้าไปใกล้เชียวล่ะ
10. Nagata Inakahama
น้ำทะเลใสๆ และหาดทรายยาวสุดลูกหูลูกตา แค่มีสองอย่างนี้ก็ควรค่าแก่การเก็บภาพแล้ว!
หาดทรายนี้เป็นจุดวางไข่ของเต่าทะเล ดังนั้นถ้าโชคดีมาถูกช่วงก็อาจจะได้เห็นลูกเต่าตัวเล็กตัวน้อยค่อยๆ ฟักออกจากไข่แล้วเดินเตาะแตะลงทะเล แต่ถึงจะน่ารักขนาดไหนก็อย่าเผลอไปหยิบติดมือมาล่ะ ปล่อยให้น้องเต่าได้อยู่กับธรรมชาติกันดีกว่า
11. ดำน้ำชมทิวทัศน์ใต้น้ำสุดตระการตา
นอกจากป่าเขาลำเนาไพรบนผืนดินแล้ว โลกใต้ผืนน้ำของเกาะ Yakushima ก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน ที่นี่มีทั้งแนวปะการังสีสันสดใสและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลสวยๆ หากล้องกันน้ำดีๆ สักตัวแล้วลองไปดำน้ำกันได้เลย!
เกาะ Yakushima มีที่ให้ถ่ายรูปเยอะแยะขนาดนี้ก็คงพลาดไม่ได้แล้ว! แต่อย่างที่เห็นว่าถ้าอยากได้ภาพดีๆ ก็อาจจะต้องลงทุนปีนเขากันสักหน่อย ดังนั้นใครที่ตั้งใจจะไปก็ฝึกฝนเตรียมร่างกายให้พร้อมล่วงหน้าไว้สักหน่อยล่ะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่