12 ที่ท่องเที่ยวจังหวัดชิกะคัดสรรมาอย่างดีเพื่อคุณ!

หากพูดถึงจังหวัดชิกะแล้วทุกคนคงจะนึกถึงทะเลสาบบิวะซึ่งมีพื้นที่มากที่สุดและเป็นแหล่งเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีเทศกาลดอกไม้ไฟหรือการเที่ยวเล่นอื่นๆ ตามฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือ การตั้งแคมป์บาร์บีคิวอีกมากมายให้เพลิดเพลินกัน สำหรับครั้งนี้เราจะมาแนะนำจุดท่องเที่ยวอื่นๆ นอกเหนือจากทะเลสาบบิวะให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดแห่งนี้ให้มากขึ้นครับ!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1.วัด Enryakuji ภูเขา Hieizan

หุบเขา Hieizan เป็นที่ตั้งของวัด Enryakuji และยังเป็นหุบเขาที่ได้รับการเคารพบูชามาตั้งแต่ครั้งอดีตคู่กันกับภูเขา Takanozan ส่วนวัด Enryakuji ซึ่งได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกสาขาศิลปะวัฒนธรรมนั้นถูกสร้างขึ้นในในปีค.ศ. 788 (รัชสมัยเอ็นเรียคุที่ 7) โดยนักพรต Saicho และดำรงสถานะเป็นมหาวิหารของนิกาย Tendaishu ให้ผู้คนเดินทางมาสักการะโดยตลอดถึงปัจจุบัน

วัด Enryakuji ยังเป็นสถานที่โด่งดังในการบำเพ็ญภาวนาซึ่งในปัจจุบันยังมีนักบวชที่เดินทางมาทั้งการนั่งสมาธิตั้งจิตภาวนาและเดินจงกรมรอบเขาอีกด้วย ในอดีตยังมีนักบวชผู้โด่งดังมากมายไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์ Hozen ผู้ก่อตั้งนิกาย Jotoshu หรือ พระอาจารย์ Shinran ผู้ก่อตั้งนิกาย Jotoshinshu ก็ล้วนแล้วแต่เคยมาบำเพ็ญภาวนาฝึกตนที่นี่อีกด้วย

นอกจากนี้ วัด Enryakuji ผ่านประวัติศาสตร์การเมืองมากมายจนแทบจะถูกบุกรุกเผาทำลายอยู่หลายครั้ง ในส่วนของอารามหลักและโบสถ์ยังคงเป็นอาคารเดิมที่ท่าน Saicho ได้ตั้งประดิษฐานพระพุทธรูปตถาคตสิทธัตถะ (Shaka Nyorai) เอาไว้ตั้งแต่ 1200 ปีที่แล้ว ซึ่งหากได้เดินทางมาเยี่ยมชมก็จะพบกับต้นกำเนิดของศาสนาพุทธ ณ แดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้อย่างแน่นอนครับ

2.MIHO MUSEUM

ที่ MIHO MUSEUM นั้นคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเสมือนกับอยู่ต่างโลกซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ "Togenkyo" ที่ถือเป็นแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดชิกะ โดยที่นี่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกตัวแทนศตวรรษที่ 20 ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน I.M.Pei และมีการนำผลงานทางศิลปะจากอียิปต์โบราณ กรีก โรมัน เอเชียต่าง ๆ มากมายมาจัดแสดงในพื้นที่กว้างขวางภายในกว่า 2000 รายการ ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลป์เอกชนที่มีของสะสมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

ในบรรดาผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงยังมีผลงานของ Jakuchu Ito  ที่ชื่อว่า "Zo to Kujira zu Heifu" หรือผลงานปั้นจากศตวรรษที่ 13 "เทพฮอรัส" อีกด้วย ถึงจะเป็นผู้ที่ไม่สันทัดเรื่องงานศิลปะแต่ที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ต่องานศิลป์ของคุณอีกด้วย

3.ปราสาท Hikonejo

ปราสาท Hikonejo นั้นอยู่ใกล้กับสตูดิโอถ่ายทำของ Toei Kyoto และ Kyoto Film ทำให้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครทีวีและภาพยนตร์อยู่บ่อยๆ จึงกลายเป็นจุดท่องเที่ยวและแคแร็คเตอร์ท้องถิ่นที่ผู้คนนิยมชมชอบกัน

ปราสาทแห่งนี้นั้นเคยเป็นที่อยู่อาศัยของ Iishi ในช่วงต้นรัชสมัยเอโดะแรกถูกสร้างขึ้นในชื่อปราสาท Konkijo ภายในปราสาทเก็บรักษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของตระกูล Iishi ไว้มากมายตั้งแต่สมัยของ Naosuke Iishi ไปจนถึงผู้อาวุโสอื่นๆ ในตระกูลอีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีอาคารที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมประจำชาติอย่างคอกม้าที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณปราสาทอีกด้วย ส่วนอาคารที่ Naosuke Iishi เคยอาศัยอยู่นั้นมีชื่อว่า "Umoregi no Ya" ซึ่งยังคงสภาพเดิมเอาไว้จนถึงปัจจุบัน

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4.ภูเขา Ibukisan

Ibukisan เป็นภูเขาที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลที่ 1377 เมตร ซึ่งสามารถเดินทางได้จากทั้งแถบคันไซและโตไก เป็นหนึ่งใน 100 ของสุดยอดภูเขาประจำประเทศซึ่งนักบวชสมัยก่อนใช้เป็นเส้นทางเดินธุดงค์เพื่อฝึกบำเพ็ญภาวนาอีกด้วย ในตำนาน "Nippon Shoki" ก็กล่าวถึง Ibukisan ว่าเป็นสถานที่ที่ Takeru Yamato ได้พยายามเข้าโจมตีเทพเจ้าแต่กลับพลาดท่าเสียทีซะเอง ปัจจุบันที่ยอดเขามีรูปจำลองหินบอกเล่าถึงตำนานนี้อยู่อีกด้วย

ภูเขาลูกนี้เป็นเสมือนโรงเก็บสมุนไพรและพืชพรรณต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยยอดเขานั้นเป็นพื้นราบที่มีดอกไม้บานสะพรั่งตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงตลอดปี นอกจากนี้จากยอดเขายังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกลไปจนถึงทะเลสาบบิวะอีกด้วย เหมาะสำหรับเหล่านักผจญภัยที่อยากจะปีนเขาแบบไปเช้าเย็นกลับด้วยนะครับ

Klook.com

5.โบราณสถานปราสาท Azuchi

ปราสาท Azuchi เป็นปราสาทยุคบุคเบิกซึ่งสร้างอาคารหลักไว้ท่ามกลางอาคารบริวารแบบที่เรียกว่า Tenshu ซึ่งเป็นต้นแบบให้กับปราสาทในยุคหลังๆ ได้ออกแบบทำตามกันมา โดยเริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1576 (รัชสมัยเท็นโชที่ 4) ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปีตามคำสั่งของ Nobunaga Oda หลังจากเหตุการณ์ที่วัด Honnoji ก็ได้ถูกเผาทำลายจนเสียหายไปพร้อมกัน ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงซากปราสาทและฐานหินของปราสาทเอาไว้ แต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงฝีมือของช่างสมัยก่อนที่สามารถสร้างปราสาทเพื่อตอบสนองต่อฝันอันทะเยอทะยานที่จะรวมศูนย์กลางอำนาจญี่ปุ่นเอาไว้ที่เดียวของยอดขุนพลผู้เกรียงไกรอย่าง Nobunaga บริเวณฐาน Tenshu นั้นสามารถชื่นชมกับวิวของทะเลสาบบิวะได้ หากเป็นนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์หรือประวัติของขุนพลต่างๆ แล้วที่นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาดครับ

6.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเลสาบบิวะประจำจังหวัดชิกะ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเลสาบบิวะประจำจังหวัดชิกะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยมีหัวข้อ "ทะเลสาบ" เป็นตัวชูโรงชัดเจน โดยหัวข้อหลักๆ ที่จัดแสดงคือ "ทะเลสาบกับมนุษย์" ซึ่งบอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ชีวิตของผู้คนในอดีตกับทะเลสาบบิวะมาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันให้เราได้เรียนรู้

นอกจากนี้ยังมีจัดแสดงสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบบิวะอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่เด็กๆ ที่ดูเพลินแต่ยังมีการวางแผนให้ผู้ใหญ่ก็มาเที่ยวเล่นได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย ตัวพิพิธภัณฑ์อยู่ใกล้กับทะเลสาบบิวะ ราคาค่าเข้าก็ไม่ได้แพงจนเกินไปที่จะไปกันทั้งครอบครัวอีกด้วยครับ  ตอนเดินผ่านอุโมงค์ใต้น้ำยังสามารถชมเหล่าปลาที่อาศัยอยู่ก้นทะเลสาบบิวะที่กำลังแหวกว่ายกันอยู่ได้อีกด้วย

7.พิพิธภัณฑ์ศิลป์ Sagawa

พิพิธภัณฑ์ศิลป์ Sagawa นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกการก่อตั้งกิจการขนส่ง Sagawa ครบรอบ 40 ปี โดยเริ่มเปิดให้บริการในปี 1998 (รัชสมัยเฮย์เซย์ที่ 10) ผลงานศิลป์ที่นำมาจัดแสดงภายในส่วนใหญ่เป็นของนักวาดภาพญี่ปุ่น Ikuo Hirayama นักแกะสลักศิลปะร่วมสมัย Tadayoshi Sato และช่างปั้นดินเผา Kichizaemon Raku นอกจากผลงานสะสมของศิลปินเหล่านี้แล้วยังมีงานศิลปะจากกระดาษลังและนิทรรศการต่างๆ ที่หมุนเวียนกันมาจัดงานที่นี่อีกด้วย บางนิทรรศการก็เหมาะที่จะพาเด็กๆ ไปร่วมสนุกเพื่อเรียนรู้งานศิลปะร่วมกับพ่อแม่นะครับ

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดที่เรียกว่า "พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ลอยบนผิวน้ำ" ซึ่งเป็นจุดที่ภาพตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สะท้อนลงไปบนผิวน้ำ เป็นจุดขวัญใจช่างภาพให้เราได้เก็บทิวทัศน์สวยๆ อีกด้วยนะครับ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8.จัตุรัส Kurokabe Square

ที่จัตุรัส Kurokabe Square มีเส้นทางเมืองเก่าที่ยังคงเค้าโครงของอาคารดั้งเดิมในอดีตของอำเภอนากาฮามะ จังหวัดชิกะ โดยตัวอาคารแถบนี้นั้นยังคงสภาพความรุ่งเรืองในอดีตช่วงรัชสมัยเอโดะไปจนถึงเมย์จิ เมื่อเดินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนหลงเข้ามาในอีกยุคหนึ่งยังไงยังงั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใช้อาคารดั้งเดิมเสมือนตอนก่อสร้างเริ่มแรกมาปรับปรุงเฉพาะภายใน และยังมีแกลอรี่ โรงเป่าเครื่องแก้วต่างๆ ตั้งเรียงรายกันอยู่อีกด้วย ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมศิลปะเครื่องแก้วของที่นี่กว่า 3 ล้านคน ถือเป็นจำนวนที่เยอะเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ผลงานที่จัดแสดงนั้นมีทั้งงานของศิลปินและงานประดิษฐ์ของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งมีเค้าแววของประวัติศาสตร์ในแถบนี้ให้เราได้ชื่นชม บางชิ้นงานก็มีรูปร่างแปลกประหลาดจนทำให้สงสัยว่าแก้วใช้ทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ แค่ดูก็เพลินแล้วล่ะครับ

9.หมู่บ้าน Koga หมู่บ้านวิชานินจา

ที่หมู่บ้าน Koga หมู่บ้านวิชานินจานั้นเป็นสวนสนุกที่ใช้ "วิชานินจา" เป็นหัวข้อในการเล่นฐานเครื่องเล่นต่างๆ ในสายโคงะ โดยภายในหมู่บ้านนั้นจะมีเอกสารที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับวิชานินจาต่างๆ มากมายรวมเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์และมีกลไกต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นและซ่อนไว้ภายในอาคาร นอกจากนี้ยังมีลานทดลองดาวกระจาย รองเท้าวิ่งบนน้ำที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อยากจะลองเล่นกันดูสักครั้ง ที่นี่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาในชุดนินจาซึ่งทำให้ทุกคนไม่เคอะเขินที่จะย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กน้อยเที่ยวเล่นได้อย่างเต็มที่ นอกจากชาวญี่ปุ่นแล้วสำหรับชาวต่างชาติที่มีความสนใจทางด้านนินจาก็สามารถเข้ามาให้เพื่อนคนญี่ปุ่นพาเที่ยวชมได้อีกด้วย

10.พิพิธภัณฑ์ Kaiyodo Figure museum Kurokabe Ryuyukan

หากจะพูดถึงหุ่นจำลองก็ต้องนึกถึง Kaiyodo ซึ่งโด่งดังในเรื่องการทำของเล่นที่แถมมากับซองขนมต่างๆ Kaiyodo ได้สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นจำลองของเล่นแห่งแรกของโลกขึ้นที่อำเภอนากาฮามะ จังหวัดชิกะ บริเวณจัตุรัส Kurokabe Square ภายในพิพิธภัณฑ์อัดแน่นไปด้วยของเล่นจากซองขนมไปจนถึงหัวไดโนเสาร์ขนาดมหึมาที่เปิดให้เข้าชม นอกจากนี้ยังมีแบบจำลองพื้นที่หรือสถานที่ในตำนานต่างๆ ให้เดินชมอีกด้วย สำหรับเหล่าคนที่เป็นแฟนๆ ฟิกเกอร์หุ่นจำลองหรือเด็กๆ ก็สามารถเข้ามาเดินดูได้อย่างเพลินตา นอกจากนี้ยังสามารถซื้อหุ่นจำลองไปเป็นของฝากได้อีกด้วย Kaiyodo จะไม่ทำให้คุณผิดหวังกับคุณภาพของหุ่นจำลองแน่นอนครับ

11.สวนสัตว์เปิด Pieri Moriyama

Pieri Moriyama นั้นจริงๆ แล้วเป็นศูนย์การค้าสำหรับช็อปปิ้งที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของจังหวัดชิกะ แต่จากพิษเศรษฐกิจฟองสบู่ครั้งนั้นทำให้ศูนย์การค้าที่เคยมีร้านค้ากว่า 200 ร้านต้องปิดตัวลงจนกระทั่งเหลือจำนวนร้านน้อยที่สุดคือ 4 ร้านเท่านั้น ในส่วนของสื่อต่างๆ ก็ให้สมญาว่า "ปิดตัวอย่างร่าเริง" อีกด้วย ปัจจุบันเป็นศูนย์การค้าที่รวมแบรนด์ดังต่างๆ ที่ไม่เคยเปิดที่จังหวัดชิกะมาก่อนเช่น ZARA อีกด้วย จึงถือได้ว่าเป็นชัยชนะที่เหนือกว่าครั้งอดีตในการรวบรวมลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง

ตอนนี้สิ่งที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของ Pieri Moriyama ก็คือสวนสัตว์เปิดที่เรียกว่า "Meccha Sawareru Doubutsuen" ซึ่งมีทั้งสัตว์เล็กๆ อย่างลูกเจี๊ยบหรือกระต่าย ไปจนถึงสัตว์ใหญ่อย่างสิงโต นกกระสาปากพลั่วที่ดูทรงพลังมาจัดแสดงกันภายใน ที่นี่นั้นจัดแสดงสัตว์เหล่านี้ในร่มจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ จะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ มากันทั้งครอบครัวหรือคู่รักก็สามารถเดินช็อปปิ้งซื้อของและเที่ยวชมสัตว์น้อยใหญ่เหล่านี้ได้

Klook.com

12.สะพาน Biwako Ohashi

หากได้ไปเยือนทะเลสาบบิวะแล้วล่ะก็ จะได้พบกับสะพานใหญ่แห่งนี้ซึ่งถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่อยู่คู่กับทะเลสาบมาอย่างช้านาน ตัวสะพาน Biwako Ohashi จะเชื่อมทิศตะวันออกและตะวันตกของสะพานเอาไว้ด้วยกันโดยมีทางขึ้นความยาว 1400 เมตร และทางลงความยาว 1350 เมตร หากเดินเท้าหรือขับจักรยานจะไม่มีค่าผ่านทาง ทำให้นักปั่นหรือนักเดินป่ามักชื่นชอบจะไปเดินชมทิวทัศน์รอบๆ กัน ในกรณีที่ขับรถข้ามนั้นเมื่อล้อรถบดลงบนถนนจะเกิดเสียงคล้ายดนตรีขึ้น เป็นหนึ่งในของแปลกประจำประเทศญี่ปุ่นที่เรียกว่าเมโลดี้โร้ด

นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถบัสข้ามสะพานแห่งนี้ได้โดยลงรถไฟที่สถานี Moriyama สาย Biwako หรือสถานี Katata สาย JR Kosai หากพูดถึงจังหวัดชิกะแล้วล่ะก็ใครๆ ก็ต้องนึกถึงทะเลสาบบิวะ ลองไปสัมผัสกับสายลมที่สดชื่นบนสะพานแห่งนี้กันดูนะครับ

จุดท่องเที่ยวแนะนำเลียบทะเลสาบจังหวัดชิกะ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ?
ในจังหวัดชิกะมีจุดท่องเที่ยวมากมายเลยใช่ไหมล่ะครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือจุดศูนย์กลางที่ใครๆ ก็รู้จักอย่างทะเลสาบบิวะนี่เองครับ หากได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวจังหวัดชิกะแล้วล่ะก็อย่าลืมแวะมาชมการใช้ชีวิตผู้คนแถบนี้ที่ "ทะเลสาบบิวะ" กันนะครับ!

 

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก  ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

 


บทความนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการแปลและเผยแพร่จาก SPIRA (ในอดีตคือ Relux Magazine)
คุณสามารถจองโรงแรมผ่าน Relux (บริหารจัดการโดย SPIRA) ได้ ที่นี่!!
มนต์เสน่ห์คันไซ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

HANYU
HANYU HSU
ดิฉันเป็นชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในโตเกียวค่ะ ดิฉันอยากจะนำเสนอญี่ปุ่นในมุมมองของชาวไต้หวันให้ทั่วโลกได้ทราบค่ะ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร