คลิปสอนวิธีแต่งหน้าสไตล์ญี่ปุ่นทั้ง 12 ลุค ที่สาวๆ ไม่ควรพลาด !!
หากคุณกำลังเบื่อกับลุคการแต่งหน้าเดิมๆ หรือกำลังมองหาอะไรที่ต่างออกไปสักนิดอยู่ เราขอแนะนำให้ลองดูวิธีการแต่งหน้าสไตล์ญี่ปุ่นทั้ง 12 ลุคนี้ แต่ละลุคมีวิดีโอสอนแต่งหน้าจากยูทูปให้ดูประกอบด้วย รับรองว่าทำตามได้ไม่ยาก! สาวๆ คนไหนอยากลองเปลี่ยนแนวการแต่งหน้าในแต่ละวัน ห้ามพลาด !
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Everyday Look ลุคธรรมชาติใสๆ ในชีวิตประจำวัน
เบสิกของลุคนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากลุคอื่นๆ เท่าไรเพราะใช้มาสคาร่า อายไลเนอร์ ที่เขียนคิ้วเหมือนกัน แต่ทว่าคนญี่ปุ่นจะเน้นการแต่งตาโดยใช้อายแชโดว์กับขนตาปลอมเป็นหลัก ส่วนริมฝีปากจะทาเป็นโทนชมพูธรรมชาติ
2. Everyday Office Look ลุคสาวออฟฟิศไปทำงาน
อย่างที่เราได้บอกไป การแต่งหน้าสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นไปที่ดวงตา แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำงานอยู่ในแวดวงที่จำเป็นต้องแต่งหน้าหนาๆ คนส่วนใหญ่ก็จะแต่งหน้าเบาลงเวลาไปทำงาน โดยจะไม่ติดขนตาปลอมและทาริมฝีปากเป็นสีชมพูเบจกลางๆ ซึ่งใครก็ทำตามได้ง่ายๆ แถมวิดีโอสอนนี้ยังใช้เครื่องสำอางญี่ปุ่นที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปอีกด้วย
3. No Makeup Look ลุคสวยใสเหมือนไร้เมคอัพ
ลุคนี้มักถูกเรียกกันว่าซุปปิงเมค (すっぴんメイク) โดย ซุปปิง แปลว่าใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางหรือพูดง่ายๆ ว่า "หน้าสด" ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง ลุคซุปปิงเป็นที่นิยมมากสำหรับคนที่อยากแต่งหน้าแบบไม่มากจนคนอื่นสังเกตเห็น เหมาะสำหรับการไปทำงานและไปโรงเรียน
4. Schoolgirl Look ลุคแต่งหน้าใสๆ ไปโรงเรียน
โรงเรียนส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นมีกฎระเบียบเรื่องการแต่งหน้า ทำให้นักเรียนหาวิธีแหกกฎโดยการสร้างลุคที่เหมือนไม่ได้แต่งหน้า (เหมือนลุคซุปปิงที่พูดถึงด้านบน) หรือแต่งหน้าหลังจากโรงเรียนเลิกแทน ลุคนี้จะเน้นตรงหัวตาซึ่งเป็นเคล็ดลับการแต่งหน้าที่นิยมมากในญี่ปุ่น โดยว่ากันว่าการลงอายแชโดว์หรือใช้อายแชโดว์แบบดินสอโดยเฉพาะแบบที่มีกลิตเตอร์สีขาวหรือสีชมพูนั้นจะช่วยเน้นให้ดวงตาดูโตขึ้น
5. Idol Look ลุคไอดอล
ที่ญี่ปุ่น คำว่า "ไอดอล" ไม่ได้มีความหมายเดียวกันกับในภาษาอังกฤษ ไอดอลคือผู้หญิง (แต่ก็มีไอดอลชายด้วย) ที่มักจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรืออายุน้อยกว่ายี่สิบปีที่ร้องเพลงและเต้นบนเวที ซึ่งส่วนใหญ่จะพูดคุยกับแฟนคลับผ่านทางโซเชียลมีเดียหรือตามงานอีเวนต์ต่างๆ เช่น งานจับมือหรือถ่ายรูป ลุคไอดอลจะเน้นความใสซื่อ ดังนั้นจึงใช้อายไลเนอร์กับมาสคาร่าเยอะขึ้น และลงอายแชโดว์สีๆ น้อยลง
6. Gyaru Look ลุคสาวแกล
สาวแกล (ギャル) เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของผู้หญิงญี่ปุ่น ตอนหลังได้กลายเป็นคำที่มีความหมายครอบคลุมในวงกว้าง แต่โดยพื้นฐานแล้วจะหมายถึงสไตล์แฟชั่นที่หลงใหลในตุ๊กตาบาร์บี้ ลุคแต่งหน้าแบบนี้จึงเน้นการแต่งหน้าโดยใช้มาสคาร่ากับอายไลเนอร์เยอะๆ
7. Seiso Gyaru Look ลุคเซอิโซะ (เบารองลงมาจากลุคสาวแกล)
เซอิโซะ (清楚) หมายถึงเรียบร้อยและสะอาด ลุคเซอิโซะนี้จะดูไม่หนาเท่าลุคสาวแกล เหมาะกับการแต่งไปโรงเรียนหรือทำงาน การแต่งหน้าแบบซุปปิงก็ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างเด่นๆ ของเซอิโซะ ในวิดีโอด้านบนคุณจะได้ชมวิธีการแต่งหน้าแบบสาวแกลแต่เบาลงจนเป็นเซอิโซะโดยใช้อายไลเนอร์สีน้ำตาลแทนสีดำ ซึ่งจะทำให้ลุคโดยรวมดูนุ่มนวลขึ้น
8. Hime Gyaru Look ลุคฮิเมะแกล
ฮิเมะ แกล (姫ギャル) คือประเภทของวัฒนธรรมสาวแกลที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมโลลิต้า (วัฒนธรรมการแต่งกายที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น) ลุคนี้จะดูหรูหราขึ้น เน้นไปทางโทนสีพาสเทลสไตล์เจ้าหญิงมากกว่าลุคสาวแกล แต่ไม่มากจนเป็นลุคโลลิต้า
9. Lolita Look ลุคโลลิต้า
โลลิต้าเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่เน้นให้ดูใสซื่อบริสุทธิ์ ชุดโลลิต้าจึงแทบจะไม่โชว์เนื้อหนังเลยและมักจะถูกประดับตกแต่งด้วยการจับจีบและโบว์จำนวนมาก แต่ถึงอย่างนั้นลุคโลลิต้าก็แต่งตาหนามากเช่นกัน ส่วนรองพื้นจะสว่างกว่าผิวธรรมชาติ โดยรวมแล้วต้องการให้ออกมาเป็นลุคที่ดูน่ารัก
10. Gothic Lolita Look ลุคโกธิคโลลิต้า
โกธิคโลลิต้า คือโลลิต้าที่ได้รับอิทธิพลมาจากพังก์ ซึ่งจะเน้นการแต่งตาหนักๆ แบบโลลิต้าโดยใช้อายไลเนอร์สีดำกับอายแชโดว์สีเทาหรือฟ้าแต่แต่งแก้มให้เบาลง
11. Harajuku Look ลุคฮาราจูกุ
ลุคฮาราจูกุจะใช้สีสว่างๆ อย่างเช่นสีชมพู ฟ้า เหลืองและติดสติ๊กเกอร์หรือกลิตเตอร์บนหน้า นอกจากนี้ยังแต่งตาหนักๆ โดยใช้อายไลเนอร์แบบเต็มๆ และติดขนตาปลอม โดยมีคอนเซปต์คือต้องให้เห็นแล้วปัง
12. Kimono Look ลุคกิโมโน
ลุคนี้อ้างอิงมาจากการแต่งหน้าฉบับดั้งเดิมของโออิรัน (花魁) หรือนางคณิกาชั้นสูงในสมัยเอโดะ ซึ่งโออิรันจะทาหน้าด้วยสีขาวและเน้นดวงตาด้วยการใช้แป้งสีแดงที่เรียกว่าเบนิ (紅)
Cover photo: PresenPic
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่