12 ที่เที่ยวกิฟุ จังหวัดที่ไม่ได้มีดีแค่ชิราคาวาโกะ!

มรดกโลก : หมู่บ้านทรงกัชโชสึคุริในชิราคาวาโกะ (白川郷合掌造り集落)

ชิราคาวาโกะ (白川郷) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1995 ในฐานะสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กับทัศนียภาพที่งดงาม บริเวณใจกลางของชิราคาวาโกะเป็นที่ตั้งของจุดไฮไลท์ที่ชื่อว่า "หมู่บ้านทรงกัชโชสึคุริ" (合掌造り หมายถึง บ้านที่มีหลังคารูปทรงเหมือนพนมมือไหว้ เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น)

แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 300 ปี นับตั้งแต่มันถูกสร้างขึ้นจนถึงปัจจุบัน บ้านหลังคามุงจากเหล่านี้ก็ยังคงถูกใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่ เนื่องจากที่นี่เปิดให้คนเข้าชมและมาเข้าพักได้ เราจึงขอแนะนำให้ลองมาสัมผัสกับประสบการณ์นี้ดู บ้านที่ใหญ่ที่สุดในที่แห่งนี้ คือ "บ้านตระกูลวาดะ" (和田家) ซึ่งเราอยากแนะนำให้ไปให้ได้สักครั้ง 

นอกจากนี้ ทางตอนใต้ของชิราคาวาโกะยังมีพื้นที่ "ฮิราเซะออนเซ็น" (平瀬温泉) อยู่ด้วย ซึ่งคุณสามารถไปเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ได้

เขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างทางวัฒธรรม : ซันมาจิ (三町)

ซันมาจิ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันอย่างง่ายๆ ว่า "เขตเมืองเก่า" (古い町並) เป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองทาคายามะ ภูมิภาคฮิดะ (บริเวณตอนเหนือของจังหวัดกิฟุ) ซันมาจิเป็นย่านการค้าที่เคยรุ่งเรืองอยู่ในอดีต มีลักษณะเป็นตรอกซอยแคบๆ เรียงรายไปด้วยด้วยตึกรามบ้านช่องที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเก่าแก่ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายในอดีตราวกับเดินทางข้ามกาลเวลาไปยังเมืองปราสาทโบราณ จะแวะเที่ยวตามร้านขายของที่ระลึก หรือจะดื่มด่ำไปกับอาหารท้องถิ่นอย่าง "เนื้อวัวฮิดะ" (飛騨牛) ก็แล้วแต่คุณเลย

เกโระออนเซ็น (下呂温泉)

เกโระออนเซ็น เป็นออนเซ็นมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่ผุดขึ้นบนริมฝั่งแม่น้ำฮิดะเมื่อราว 1,000 ปีก่อน ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 น้ำพุร้อนขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกับ "อาริมะออนเซ็น" (有馬温泉) และ "คุซัตสึออนเซ็น" (草津温泉)

นอกจากที่อาบน้ำกลางแจ้งทั้ง 3 แห่งแล้ว ในย่านออนเซ็นนี้ยังมีบ่อแช่เท้าที่เข้าไปใช้บริการกันได้ฟรีๆ กระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการแช่ออนเซ็นเท้าได้ในระหว่างที่ออกไปเดินเล่น นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนแบบเปิดที่ไม่มีรั้วกั้นซึ่งให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เกโระออนเซ็นยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "บ่อน้ำพุร้อนของคนงาม" (美人の湯) มาแช่น้ำให้ผิวสวยเปล่งปลั่งแล้วไปดื่มด่ำกับความมีชีวิตชีวาของย่านออนเซ็นแห่งนี้ให้เต็มที่กันเถอะ

ชินโฮตากะโรปเวย์ (新穂高ロープウェイ)

โรปเวย์กระเช้าลอยฟ้าสไตล์เรือกอนโดล่า 2 ชั้นที่เดียวในประเทศญี่ปุ่น คุณจะได้พบกับสุดยอดวิวธรรมชาติอันกว้างใหญ่ที่อยู่รอบเทือกเขาแอลป์ซึ่งมีความสูงเกิน 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล คุณสามารถเห็นทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ไม่ว่าคุณจะเคยมาเที่ยวกิฟุแล้วกี่ครั้ง ชินโฮตากะโรปเวย์ ก็สามารถมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับคุณได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ หากคุณไปที่หอชมวิวบนยอดเขาซึ่งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของ "สถานีนิชิโฮตากะกุจิ" (西穂高口駅) คุณก็จะได้เห็นวิวแบบพาโนรามาที่น่าประทับใจ สามารถรับชมได้ 360 องศา และคุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับสถานที่ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก, อาหาร, ออนเซ็น ฯลฯ

การประมงแบบอุไก (鵜飼) ที่แม่น้ำนางาระ (長良川)

การประมงแบบอุไก (การเลี้ยงนกกาน้ำให้จับปลา โดยจะมัดเชือกไว้ที่คอนกเพื่อไม่ให้กลืนปลาลงไป) ที่แม่น้ำนางาระเป็นประเพณีหน้าร้อนของกิฟุที่มีประวัติความเป็นมานานกว่า 1,300 ปี โดยจะมีผู้ที่ถูกเรียกว่า "อุโจ" (鵜匠 หมายถึง ชาวประมงแบบอุไก) ที่สวมชุดแบบดั้งเดิมออกไปจับปลา เรือชมวิวจะแล่นเทียบเคียงไปกับ "เรืออุบุเนะ" (鵜船 หมายถึง เรือที่ใช้ทำการประมงแบบอุไก)

คุณจะได้ชมเทคนิคการประมงดั้งเดิมแบบอุไกอันยอดเยี่ยมในรูปแบบเรียลไทม์ ดึงดูดคุณเข้าสู่โลกอันลึกล้ำน่าพิศวงด้วยภาพของคบไฟที่ลุกไหม้และเสียงร้อง "โฮ่โฮ่" ของอุโจที่ตัดผ่านความเงียบสงัดในยามค่ำคืน

ทาคายามะจินยะ (高山陣屋)

จินยะ (陣屋) คือ สถานที่บริหารการเมืองการปกครองในสมัยเอโดะ (江戸時代 ค.ศ. 1603 - 1868) เป็นชื่อเรียกโดยรวมของหน่วยงานราชการ, บ้านพักประจำตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ในต่างจังหวัด ฯลฯ ทาคายามะจินยะ ถูกก่อตั้งขึ้นในฐานะสถานที่ราชการที่เป็นฐานการปกครองนับตั้งแต่ฮิดะเข้ามาอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของรัฐบาลโชกุนโดยตรง

ที่นี่เป็นที่เก็บรวบรวมส่วย ภาษีที่ดินต่างๆ และยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่บริหารราชการในสมัยเอโดะที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่แฟนประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

สวนสาธารณะริมน้ำไอคาวะ (相川水辺公園)

สวนสาธารณะริมน้ำไอคาวะ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของศูนย์ราชการย่านทารุอิโจ เป็นสวนสาธารณะที่มีแม่น้ำไอคาวะทอดผ่านอยู่กึ่งกลาง ภายในมีทั้งสนามหญ้า เครื่องเล่นสำหรับเด็ก และสนามกอล์ฟขนาดจิ๋ว เหมาะมากสำหรับพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นพลางสูดอากาศที่แสนบริสุทธิ์ รอบนอกของสวนรายล้อมไปด้วยต้นซากุระพันธุ์ "โซเมอิโยชิโนะ" (ソメイヨシノ) ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ราว 200 ต้น ซึ่งจะออกดอกให้รับชมกันในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน

นอกจากนี้ สวนสาธารณะริมน้ำไอคาวะยังมีชื่อเสียงจากงานจัดแสดงธงปลาคาร์พที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่า 30 ปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ธงปลาคาร์พที่ได้รับบริจาคมากว่า 350 ตัว จะแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้าอย่างตระการตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีซากุระเบ่งบานนั้น ท้องฟ้าสีคราม ธงปลาคาร์พ และดอกซากุระจะให้สีสันที่ตัดกันอย่างสวยงาม เป็นหนึ่งในที่เที่ยวกิฟุที่เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง

ปราสาทกิฟุ (岐阜城)

ในสมัยเซนโกคุ (戦国時代 ค.ศ. 1467 - 1590) ปราสาทกิฟุเคยถูกเรียกว่า "ปราสาทอินาบะยามะ" (稲葉山城) และยังเคยเป็นที่อยู่อาศัยของ "ไซโต โดซัน" (斎藤道三) หัวหน้ารุ่นแรกของตระกูลไซโตอีกด้วย

ปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นพิเศษหลังจากถูก "โอดะ โนบุนากะ" (織田信長) เข้ายึดครองและกลายเป็นฐานสำคัญในการรวบรวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่ง นี่เป็นสถานที่ที่แฟนๆ ประวัติศาสตร์ควรแวะมาเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ลานชมวิวบนหอคอยปราสาทกิฟุที่ตั้งอยู่บนยอดเขา "คินกะซัง" (金華山) ยังมีสุดยอดทัศนียภาพให้คุณได้รับชมกันอย่างเต็มตาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น, อ่าวอิเสะ ฯลฯ

น้ำตกโยโร (養老の滝)

น้ำตกโยโร ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 น้ำตกเลื่องชื่อของประเทศญี่ปุ่น น้ำตกนี้อยู่ในสวนสาธารณะโยโร (養老公園) มีความสูง 30 เมตร กว้างประมาณ 4 เมตร ภาพของสายน้ำที่ตกลงมากระทบก้อนหินดูงดงามและทรงพลังเอามากๆ

ในสวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีสะพานที่พาดจากน้ำตกไปยังลำธารที่ไหลผ่านถึง 7 แห่ง เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดนิยม เหมาะมากสำหรับมาเดินผ่อนคลายพลางชมธรรมชาติอันสวยงามซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาล

สมรภูมิเก่าเซกิกาฮาระ (関ケ原古戦場)

"ศึกที่เซกิกาฮาระ" (関ケ原の戦い) เป็นชื่อของสงครามที่ไม่มีคนญี่ปุ่นคนไหนไม่รู้จัก ว่ากันว่าเป็นศึกแบ่งแยกแผ่นดินที่ใหญ่ที่สุดในสมัยเซนโกคุ กองทัพตะวันตกที่นำโดย "อิชิดะ มิตสึนาริ" (石田三成) ได้เข้าปะทะกับทัพทางตะวันออกที่นำโดย "โทคุกาว่า อิเอยาสุ" (徳川家康)

ที่ "พื้นที่ศึกตัดสิน" (決戦地) มีศิลาจารึกขนาดใหญ่กับธงที่มีสัญลักษณ์ประจำตระกูลอิชิดะ (石田) และโทคุกาว่า (徳川) ปักอยู่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "เศษซากค่ายทหารของอิชิดะ มิตสึนาริ" (石田三成陣跡) หรือ "เศษซากค่ายทหารครั้งสุดท้ายของโทคุกาว่า อิเอยาสุ" (徳川家康最後陣跡) เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

มาโกเมะจูกุ (馬籠宿)

ในสมัยเอโดะ มาโกเมะจูกุ เป็นย่านที่รุ่งเรืองในฐานะย่านโรงเตี๊ยมที่อยู่ทางใต้สุดของบรรดา 11 โรงเตี๊ยมในคิโซะ (木曽) โดยอยู่ลำดับที่ 43 บนถนนนากะเซ็นโด (中山道) ที่มีผู้คนสัญจรไปมามากมายซึ่งเป็นผลมาจากนโยบาย "ซันคินโคไท" (参勤交代) หรือ ระบบควบคุมไดเมียวโดยจะให้ไดเมียวทุกแคว้นสร้างที่พำนักภายในนครเอโดะ แล้วพำนักอยู่ในนครเอโดะเป็นเวลา 1 ปี สลับกับการกลับไปพำนักที่แคว้นของตนอีก 1 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าไดเมียวสั่งสมอำนาจจนมากเกินไป

ย่านเมืองเก่าและทางลาดปูแผ่นหินที่สวยงามเหล่านี้ยังคงมีกลิ่นอายจากสมัยเอโดะหลงเหลืออยู่ เป็นบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตที่แสนวิเศษ และที่นี่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของนักเขียนชื่อดัง "ชิมาซากิ โทซอง" (島崎藤村) ในเมืองจึงมี "หออนุสรณ์โทซอง" (藤村記念館) ตั้งอยู่ด้วย นอกจากนี้ มาโกเมะจูกุยังมีร้านอาหาร ร้านของฝาก และโรงเตี๊ยมอยู่มากมาย จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวกิฟุในแบบสัมผัสประวัติศาสตร์อย่างครบวงจร

สวนสาธารณะกิฟุ (岐阜公園)

สวนสาธารณะกิฟุ เป็นสวนกว้างขวางที่คั้งอยู่บนบริเวณเชิงเขาคินกะซัง ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นที่พักอาศัยของ "โอดะ โนบุนากะ" และ "ไซโต โดซัน" บุคคลสำคัญที่เคยเป็นเจ้าของปราสาทกิฟุ ภายในจึงมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อยู่มากมาย รวมถึงสวนญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า "สวนของโนบุนากะ" (信長の庭) ซึ่งสร้างขึ้นโดยผสมผสานคอนเซ็ปต์ของ "ความแข็งแกร่ง" "ความเงียบสงบ" และ "ความสง่างาม" ไว้อย่างลงตัว

นอกจากสวนของโนบุนากะแล้ว ภายในบริเวณยังมี "สวนมิตรภาพญี่ปุ่นจีน" (日中友好庭園) ที่สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่เมืองกิฟุกับเมืองหางโจวติดต่อค้าขายกันครบรอบ 10 ปี เนื่องจากมีซุ้มประตูแบบจีนและบ่อน้ำที่สร้างขึ้นโดยเลียนแบบทะเลสาบซีหูของหางโจว จึงให้บรรยากาศที่แตกต่างไปจากส่วนอื่นๆ ของสวนสาธารณะกิฟุ และยังเป็นจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมมากอีกด้วย

สวนสาธารณะกิฟุยังมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ยอดเยี่ยม แค่นั่ง Kinkazan Ropeway (金華山ロープウェー) จากเชิงเขาโดยใช้เวลาเพียง 3 นาที คุณก็สามารถขึ้นไปถึงยอดเขาและรับชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีแบบพาโนรามาได้ ในกรณีที่คุณชอบดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ระหว่างทาง ที่นี่ก็มีเส้นทางเดินเขาให้ใช้บริการอยู่เช่นกัน โดยมีหลายเส้นทางให้เลือกตามระดับความยากง่าย และใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง

สถานที่ท่องเที่ยวชั้นเยี่ยมในกิฟุ

เป็นอย่างไรกันบ้าง? กิฟุมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอยู่มากมาย แต่ละแห่งต่างก็เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจในสายตาของคนญี่ปุ่นและของชาวโลก คุณเจอสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปบ้างไหม? ไม่ว่าคุณจะสนใจสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ หรือออนเซ็น เราก็ขอรับรองว่าจะต้องมีที่เที่ยวกิฟุที่ถูกใจคุณอยู่อย่างแน่นอน

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก  ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

 

---

บทความนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการแปลและเผยแพร่จาก SPIRA (ในอดีตคือ Relux Magazine)

คุณสามารถจองโรงแรมผ่าน Relux (บริหารจัดการโดย SPIRA) ได้ ที่นี่!!