13 จุดท่องเที่ยวแนะนำหากคุณได้ไปเยือนนิกโก้ !
หากพูดถึงนิกโก้ (Nikko) แล้ว หลายคนคงนึกถึงศาลเจ้า Nikko Toshogu เสียเป็นส่วนใหญ่ใช่ไหม? แต่นอกจากที่นี่แล้ว นิกโก้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติผืนใหญ่ อาคารปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์อีกมากมายรอคอยให้คุณเข้าไปค้นหาอยูเช่นกัน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับจุดท่องเที่ยวของนิกโก้ที่คุณไม่ควรจะพลาดโดยเด็ดขาด
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
Nikko Toshogu (日光東照宮)
Nikko Toshogu เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนตัวแทนของจังหวัดโทชิกิ (Tochigi) เพราะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว อาคารที่รวมกันอยู่ภายในศาลเจ้านี้ล้วนแล้วแต่ถูกลงทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมทั้งสิ้น นอกจากนี้มรดกประจำชาติอย่าง "ประตู Yomeimon" ก็ถูกยกให้เป็นประตูที่มีความสวยงามอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นจากภาพแกะสลักต่างๆ สุดปราณีตและในสิ่งปลูกสร้างทั้งทางเดิน เสา อาคารก็เป็นสีแดงสดดูสวยงามน่าประทับใจ และถ้ามาที่นี่ต้องห้ามพลาดชม "Mizaru Kikazaru Iwazaru" (ไม่ดูสิ่งชั่วร้าย ไม่ฟังสิ่งชั่วร้าย ไม่พูดสิ่งชั่วร้าย) รูปปั้นชื่อดังประจำศาลเจ้านี้โดยเด็ดขาด
น้ำตก Kegon no Taki (華厳の滝)
น้ำตก Kegon no Taki นั้นเป็นหนึ่งในสามสุดยอดน้ำตกของประเทศญี่ปุ่น โดยนิกโก้เองนั้นถึงแม้จะเป็นเมืองที่มีน้ำตกเยอะ แต่ก็ไม่มีที่ไหนที่จะสวยงามได้เท่าที่นี่ น้ำจากธรรมชาติที่ไหลลงมาจากความสูง 97 เมตรนั้นสร้างความประทับใจให้กับคนที่เข้ามาชมทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีลิฟท์พาขึ้นไปจุดชมวิวที่เป็นตาน้ำความลึกขนาด 4.5 เมตรให้ได้ชมทิวทัศน์กันได้แบบเต็มๆ ตาได้อีกด้วย ไปเติมความสดชื่นให้ทั้งร่างกายและจิตใจที่น้ำตก Kegon แห่งนี้กันเถอะ!
บ่อน้ำพุร้อน Kinugawa Onsen (鬼怒川温泉)
น้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำ Kinugawa โดยมีโรงแรมและเรียวกังตั้งเรียงรายอยู่ริมผา Kinugawa ถือเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคคันโต โดยถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในรัชสมัยเอโดะ โดยในยุคนั้นมีเพียงนักบวชและไดเมียว (ยศของขุนนางญี่ปุ่นในสมัยโบราณ) เท่านั้นที่สามารถเข้ามาใช้บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ได้ น้ำพุร้อนของที่นี่มีฤทธิ์เป็นด่างและดีต่อผิวพรรณ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการคลายความเหนื่อยล้า และช่วยบำรุงสุขภาพอีกด้วย ลองไปพักผ่อนกันที่บ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติกันดูน่าสนใจไม่น้อย
Edo Wonderland Nikko Edomura (江戸ワンダーランド 日光江戸村)
Nikko Edomura เป็นสวนสนุกที่จำลองชีวิตความเป็นอยู่ในสมัยเอโดะให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยภายในแบ่งออกเป็น 5 พื้นที่ได้แก่ เขตเมือง ที่พัก ตลาด บ้านนักรบ และหมู่บ้านนินจาซึ่งถูกสร้างขึ้นมาตามสภาพจริงๆ ในอดีต เมื่อเข้าเมืองไปคุณจะรู้สึกเหมือนได้ข้ามเวลาไปยังยุคเอโดะ เพราะพนักงานที่นี่ทุกคนจะแต่งตัวเหมือนผู้คนในสมัยนั้นจริงๆ และยังมีการแสดงร่ายรำโบราณต่างๆ ให้เหล่านักท่องเที่ยวได้รับชม และนักท่องเที่ยวเองก็สามารถเปลี่ยนชุดเป็นนินจาและอาชีพอื่นๆ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในได้
ทะเลสาบ Chuzenji (中禅寺湖)
ทะเลสาบ Chuzenji ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1269 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยน้ำในทะเลสาบแห่งนี้จะไหลไปยังน้ำตก Kegon no Taki นั่นเอง สีสันของผืนน้ำที่ตัดกันกับภูเขา Nantaisan อย่างสวยงามนี้เองทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเลือกเป็นหนึ่งในร้อยทะเลสาบสวยงามประจำประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีดอก Tsutsuji และใบไม้แดงให้ชมตามฤดูกาล รวมถึงสามารถชมทิวทัศน์เหนือแม่น้ำได้ทั้ง 4 ฤดูตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีเรือล่องทะเลสาบเพื่อชมทิวทัศน์ให้ทั่วๆ อีกด้วย
ศาลเจ้า Nikko Futaarasan Jinja (日光二荒山神社)
ศาลเจ้า Nikko Futaarasan Jinja แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับให้สักการะเทพ Onamuchi no Mikoto เทพผู้โด่งดังด้านการให้พรเกี่ยวกับการเสริมบารมีและการสร้างความสัมพันธ์ ดังนั้นที่นี่จึงเป็นที่นิยมในหมู่สุภาพสตรีและคู่รักที่มักไปสักการะเพื่อขอพรให้มีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน นอกจากนี้ที่ศาลเจ้า Nikko Futaarasan Jinja ยังมี "Shinkyo (สะพานแห่งทวยเทพ)" ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกสาขาวัฒนธรรมร่วมกับวิหารของศาลเจ้าเอง สะพานแห่งนี้มีสีแดงสดและพื้นหลังเป็นฉากที่หลายคนใช้เป็นมุมถ่ายภาพสุดอลังการ หากได้มาต้องไม่พลาดไปชมและถ่ายรูปกลับไปเป็นที่ระลึก!
Ashi Odozan (足尾銅山観光)
ครั้งหนึ่ง Ashi Odozan เคยถูกกล่าวขานว่าเป็น "เมืองแห่งเหมืองอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น" ซึ่งในอดีตเคยเจริญรุ่งเรืองมาก แต่หลังจากปิดเหมืองไปก็ได้มีการเปิดบางส่วนให้เข้าชมในฐานะแหล่งท่องเที่ยว เมื่อขึ้นรถรางเข้าไปในทางเหมืองระยะ 700 เมตรที่มีบรรยากาศมืดทึม คุณจะได้พบกับร่องรอยการขุดเจาะที่ยังหลงเหลืออยู่ของเมืองแห่งนี้ นอกจากนี้คุณจะยังได้พบกับหุ่นจำลองกระบวนการขุดเจาะต่างๆ อีกถึง 39 ตัวที่จะแสดงให้ได้เห็นขั้นตอนการทำงานขุดเหมืองด้วย
จุดชมวิว Akechidaira Tenbodai (明知平展望台)
ทันทีที่คุณขึ้นผ่าน Irohasaka เนินที่สองมาจนสุดทางคุณจะได้พบกับทุ่ง Akechi Daira วิวที่คุณสามารถชมจากที่นี่นั้นมีความสวยงามจนน่าตกตะลึง และหากได้ขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวคุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่สวยงามกว่านั้นอีกมาก การขึ้นไปข้างบนนั้น สามารถใช้กระเช้า Akechidaira Ropeway ได้โดยใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น ที่จุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1373 เมตร คุณจะสามารถมองเห็นภูเขา Nantaisan ทะเลสาบ Chuzenji และน้ำตก Kegon no Taki แบบพาโนรามาที่สวยงามแบบแทบลืมหายใจ โดยช่วงฤดูที่มีใบไม้แดงจะเป็นช่วงที่ทิวทัศน์สวยงามที่สุด
Tobu World Square (東武ワールドスクエア)
ที่นี่เป็นสวนสนุกที่มีแบบจำลองสิ่งปลูกสร้างจากมรดกโลกกว่า 102 แห่ง คุณจะตกตะลึงไปกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของผลงานจัดแสดงที่ถูกสร้างมาอย่างปราณีตเหมือนจริง ที่นี่มีหุ่นจำลองผู้คนขนาด 7 เซนติเมตรกว่า 140,000 คนจัดแสดงอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีหุ่นจำลองของมาริลีน มอนโร หรือคณะเดินทางของพระถังซัมจั๋งจัดแสดงอยู่ด้วย การค้นหาบุคคลต่างๆ ในแบบจำลองก็ถือเป็นกิจกรรมสนุกๆ อย่างหนึ่งที่นี่อีกด้วย ต้นไม้กว่า 97% ที่ปลูกรอบๆ อาคารจำลองนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นต้นบอนไซของจริง ที่หากคุณมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวคุณจะได้พบกับการตกแต่งไฟอันสวยงามเหมือนอยู่ในโลกเทพนิยายเลยทีเดียว อย่าลืมแวะมาเที่ยวรอบโลกภายในหนึ่งวันได้ที่ Tobu World Square แห่งนี้
Senjogahara (戦場ヶ原)
ตามเทพนิยาย Senjogahara เป็นสถานที่ที่เหล่าทวยเทพเคยสู้รบกันเพื่อแย่งชิงทะเลสาบ Chuzenji ในอดีตที่นี่เคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่แปลงสภาพมาจากทะเลสาบ โดยมีมีชื่อเสียงในเรื่องของพืชพันธุ์และนกที่มีถึงประมาณ 350 ชนิด นอกจานี้ยังมีเส้นทางวิจัยตามธรรมชาติที่ล้อมรอบพื้นที่ลุ่มน้ำ และเส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาเดินราว 2 ชั่วโมงอีกด้วย ที่นี่ยังมีจุดชมวิวพื้นที่ชุ่มน้ำรอบๆ ที่มีพื้นที่ราว 4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นที่สำหรับมาอธิษฐานขอพรจากเทพเจ้าอีกด้วย
วัด Nikkozan Rinnoji (日光山 輪王寺)
วัด Nikkozan Rinnoji หมายถึงเขตอารามที่ประกอบด้วยโบสถ์และวิหารรวมกันกว่า 15 หลัง โดยภายในเขตอารามนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ "Sannai" และ "Okunikko" ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสามมหาอารามที่ใช้ฝึกตนเช่นเดียวกับที่ภูเขา Hieizan และ Toeizan นอกจากนี้ที่นี่ยังถูกลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะ "วัดประจำนิกโก้" อีกด้วย โดยภายในวัดแห่งนี้คุณจะเพลิดเพลินตระการตาไปตั้งแต่อารามหลักและอารามบริวาร 3 หลัง หอสมบัติซึ่งเก็บของมีค่ากว่า 30,000 ชิ้นเอาไว้ ไปจนถึง Taiyuin ซึ่งเป็นศาลสักการะโชกุนโทคุกาวะถึง 3 รุ่น
น้ำตก Ryuzu no Taki (竜頭ノ滝)
ที่ตาน้ำตกนั้นมีแผ่นหินก้อนใหญ่ที่แยกออกเป็นสองส่วนจึงทำให้เป็นที่มาของชื่อ Ryuzu ซึ่งแปลว่าเศียรมังกรสองตัว และนำมาตั้งชื่อเป็น Ryuzu no Taki (น้ำตกเศียรมังกร) ความกว้างราว 10 เมตรโดยมีกระแสน้ำไหลลงมาตลอด สามารถที่จะเที่ยวชมที่นี่ได้ทั้งปีโดยเฉพาะการเป็นจุดชมใบไม้แดงที่โด่งดังมากอีกด้วย
สวนสาธารณะ Nikko Tamozawa Goyotei Kinen Koen (日光田母沢御用邸記念公園)
สวนสาธารณะ Nikko Tamozawa Goyotei Kinen Koen นั้นเดิมเป็นสวนที่ถูกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของพระจักรพรรดิและองค์รัชทายาทตั้งแต่สมัยเมย์จิที่ 32 จนถึงโชวะที่ 22 รวมถึง 3 รุ่นด้วยกัน ตัวอาคารถูกลงทะเบียนเป็นมรดกประจำชาติของญี่ปุ่นในสาขาวัฒนธรรม โดยอาคารโถงหลักนั้นถือเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในสมัยเมย์จิอีกด้วย ภายในอาคารยังมีการจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ นอกจากนี้สวนยังมีความสวยงามแบบที่สามารถที่จะเข้ามาชมดอกไม้ได้ตลอดทั้งปี หากมีโอกาส อยากให้คุณได้ลองมาชมอาคารไม้ที่ถูกห้อมล้อมด้วยธรรมชาติสุดตระการตาของที่นี่ดูสักครั้ง
ไปพักผ่อนหย่อนใจกับจุดเสริมพลังท่ามกลางธรรมชาติของ Nikko!
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับจุดท่องเที่ยวในนิกโก้ ที่มีทั้งวัดที่ถูกลงทะเบียนมรดกโลก ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติอันสวยงามมากมาย มาญี่ปุ่นครั้งต่อไป ลองเลือกที่นี่เป็นสถานที่ปลายทางในทริปต่อไปดูไหมคะ?
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
บทความนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการแปลและเผยแพร่จาก SPIRA (ในอดีตคือ Relux Magazine)
คุณสามารถจองโรงแรมผ่าน Relux (บริหารจัดการโดย SPIRA) ได้ ที่นี่!!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่