15 สถานที่ท่องเที่ยวในคามาคุระที่สายถ่ายรูปไม่ควรพลาด!
เมืองคามาคุระตั้งอยู่ไม่ห่างจากโตเกียวมากนักและยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เหมาะสำหรับการพักผ่อนทั้งระยะยาวและทริปวันเดียวในช่วงสุดสัปดาห์ ที่นี่มีทั้งสถานที่งดงามเหมาะสำหรับการหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นฉากในการ์ตูนและภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง และยังมีที่เที่ยวเด็ดๆ มากมาย ในบทความนี้ เราได้คัดสรรที่เที่ยวยอดฮิตในคามาคุระมาแนะนำ คุณต้องอยากไปถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกอย่างแน่นอน!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. รถไฟสายเอโนชิมะ (江ノ島電鉄)
"รถไฟสายเอโนชิมะ" หรือที่รู้จักกันในชื่อเอโนะเด็น (江ノ電) เป็นรถไฟสายที่เชื่อมระหว่างสถานีฟุจิซาวะ (藤沢駅) และสถานีคามาคุระ (鎌倉駅) เป็นอีกหนึ่งช่องทางการเดินทางสู่คามาคุระและละแวกใกล้เคียงที่แสนสะดวก บริเวณหน้าสถานีโรงเรียนมัธยมปลายคามาคุระ (鎌倉高校駅) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ปรากฏเป็นฉากในการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง SLAMDUNK ทำให้มีแฟนการ์ตูนจำนวนมากมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ เอโนะเด็นวิ่งเป็นระยะความยาวกว่า 10 กิโลเมตร ไม่ว่าคุณจะลงสถานีไหนที่นั่นก็จะมีสถานที่ที่รอให้คุณไปค้นหาอยู่ ลองเก็บแพลนท่องเที่ยวของคุณลงกระเป๋าไปแล้วลุ้นดูว่าจะเจอกับสถานที่แบบไหนก็คงจะสนุกไม่น้อย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแบบเรโทรของขบวนรถไฟตลอดจนอาคารสถานีต่างๆ ที่มีอายุกว่าร้อยปีได้อีกด้วย
2. โคมาจิโดริ (小町通り)
เมื่อออกจากสถานีคามาคุระทางประตูตะวันออกคุณจะได้พบกับ "แหล่งรวมร้านค้าโคมาจิโดริ" ถนนเส้นนี้เชื่อมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของคามาคุระอย่างศาลเจ้าสึรุโอกะฮาจิมังกู (鶴岡八幡宮) เป็นแหล่งช็อปปิ้งและสตรีทฟู้ดที่หากมาคามาคุระแล้วไม่ควรพลาด!
บนถนนโคมาจิโดริมีตั้งแต่ขนมเบาๆ อย่างเครปและดังโงะ คาเฟ่เก๋ๆ ที่แวะรับประทานอาหารกลางวันได้ ไปจนถึงร้านขายของฝากทั้งหลาย นอกจากอาหารและขนมแล้วแน่นอนว่ายังมีร้านขายของเบ็ดเตล็ดและร้านให้เช่ากิโมโนทำให้คุณสามารถแต่งตัวสวยๆ ออกไปเดินเล่นได้อีกด้วย
3. ร้านโทชิมะสาขาใหญ่ (豊島屋本店)
ถ้าคุณลังเลว่าจะซื้ออะไรจากร้านขายของฝากจำนวนมากในโคมาจิโดริแล้วละก็ คงจะหนีไม่พ้นบิสกิตรูปนกพิราบ (鳩サブレー) ตัวเลือกสุดคลาสสิคของคามาคุระ ผู้ผลิตเจ้าของบิสกิตนกพิราบที่มีชื่อว่า โทชิมะ ก็มีร้านสาขาใหญ่ตั้งอยู่บนถนนโคมาจิโดริเช่นกัน
ขนมชนิดนี้เริ่มผลิตในยุคเมจิ มีรสชาติที่ออกไปทางตะวันตก จึงกลายเป็นที่นิยมของคนหนุ่มสาวมาตลอดช่วงร้อยกว่าปีนี้ "ร้านโทชิมะสาขาใหญ่" แห่งนี้วางขายบิสกิตรูปนกพิราบ ขนมชนิดอื่นๆ และสินค้าสุดพิเศษที่มีขายเฉพาะสาขาใหญ่ สินค้าที่ว่าก็คือ คอลเลคชั่นสินค้าเบ็ดเตล็ดที่มีลายรูปนกพิราบจากบิสกิตยอดฮิตของร้าน มีตั้งแต่ชุดเขียนจดหมาย โพสต์อิท และเครื่องเขียนชนิดต่างๆ รวมทั้งหมอนอิงและอื่นๆ อีกมากมาย สินค้าคอลเลคชั่นลายนกพิราบสุดพิเศษพวกนี้เหมาะจะให้เป็นของขวัญแก่ผู้อื่น หรือจะใช้เองก็ดูน่ารักมีเอกลักษณ์ดีเหมือนกัน
4. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะแห่งใหม่ (新江ノ島水族館)
ออกเดินทางด้วยเอโนะเด็นจากสถานีคามาคุระเพียง 20 นาทีก็จะถึงสถานีเอโนชิมะ (江の島駅) เดินต่ออีกราว 10 นาทีก็จะถึงพิพธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะแห่งใหม่หรือที่เรียกกันว่า "เอโนะซุย (えのすい)" นอกเหนือจากสัตว์ที่มีตามอควาเรียมทั่วไปอย่างเพนกวิน โลมาและปลาชนิดต่างๆ แล้วก็ยังมีนิทรรศการวิชาการอีกมากมาย เช่น นิทรรศการการเพาะพันธุ์ปลาชิราสุ (シラス) ที่เป็นผลผลิตขึ้นชื่อของเอโนชิมะ นิทรรศการงานวิจัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในทะเลของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะผู้ทรงเชี่ยวชาญเรื่องสัตว์น้ำ ไปจนถึงผลงานวิจัยระดับแนวหน้าเกี่ยวกับสัตว์ทะเลน้ำลึก
จุดเด่นอีกอย่างของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ คือการจัดแสดงแมงกะพรุนซึ่งอยู่ในห้องลักษณะเป็นโดม ประกอบด้วยแทงค์น้ำจัดแสดงหลายขนาดกว่า 13 แทงค์ มีแทงค์ทรงกลมที่กลางห้องโถง ภาพของเจ้าแมงกะพรุนที่ล่องลอยว่ายน้ำไปมาอยู่ด้านในประกอบด้วยแสงสีดูสวยงามสุดจะจินตนาการ ไม่ว่าคุณจะอยากมาดูสัตว์น้ำทั่วไป หรือเป็นผู้ที่ชื่นชอบระดับแฟนพันธุ์แท้ก็ตาม ความหลากหลายของเอโนะซุยจะทำให้ทุกคนได้รับความสนุกและความประทับใจกลับไปแน่นอน
5. ชายหาดยูอิกาฮามะ (由比ヶ浜)
"หาดยูอิกาฮามะ" ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดเล่นน้ำทะเลยอดนิยมมาตั้งแต่สมัยเมจิและยังเป็นฉากในตำนานเรื่องเล่าต่างๆ
ในช่วงหน้าร้อนจะมีการตั้งอาคารชั่วคราวขึ้นที่ริมหาด เพื่อเป็นร้านค้าและที่พักผ่อนให้แก่ผู้ที่เดินทางมาเล่นกระดานโต้คลื่น บอดี้บอร์ด หรือกีฬาทางน้ำกันอย่างครึกครื้น หรือต่อให้เป็นนอกฤดูเล่นน้ำคุณก็ยังสามารถเดินเล่นเลียบชายหาดที่มีคลื่นพัดเอื่อยๆ ขึ้นมาได้อีกด้วย
6. พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมคามาคุระ (鎌倉文学館)
เดินจากสถานียูอิกาฮามะ (由比ガ浜駅) เพียง 7 นาทีก็จะถึง "พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมคามาคุระ" ซึ่งเก็บรวบรวมและอนุรักษ์งานประพันธ์ของเหล่าศิลปินที่มีความเกี่ยวข้องกับเมืองคามาคุระ จัดแสดงต้นฉบับลายมือและผลงานยอดนิยมของนักประพันธ์ชื่อดังที่คุ้นหู ไม่ว่าจะเป็น นัตสึเมะ โซเซกิ, อาคุตะกาวะ ริวโนะสุเกะ, ชิมาซากิ โทซัง, คาวาบาตะ ยาซุนาริ, นากาฮาระ ชูยะ, โยซาโนะ อากิโกะหรือมาซาโอกะ ชิกิ ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบวรรณกรรมญี่ปุ่น
นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมคามาคุระยังมีสวนกุหลาบบนพื้นที่ 600 ตารางเมตร มีดอกกุหลาบกว่า 200 ชนิด หากคุณอยากไปชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ เราขอแนะนำให้คุณไปช่วงระหว่างกลางเดือนพฤษภาคม - ปลายเดือนมิถุนายน และหากจะไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้วก็ขอแนะนำช่วงระหว่างกลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนพฤศจิกายน เมื่อลองมองดูสวนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบตะวันตกรวมเข้ากับอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์ (บ้านเก่าของมาเอดะ โทชินาริ อดีตนายพลแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น) แล้วก็จะได้บรรยากาศแบบยุโรปเลยทีเดียว
7. พระใหญ่แห่งคามาคุระ (鎌倉大仏)
"พระใหญ่แห่งคามาคุระ" ณ วัดโคโตกุอินเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคามาคุระ มีความโดดเด่นที่แม้แต่โยซาโนะ อากิโกะ (นักกวีหญิงคนสำคัญในยุคเมจิ) ก็ยังเคยประพันธ์บทกลอนถึง พระพุทธรูปมีความสูงกว่า 11.3 เมตร และหนักถึง 121 ตัน ด้านในมีลักษณะเป็นโพรงซึ่งคุณสามารถเข้าไปดูได้หลังจ่ายค่าเข้าชมที่ด้านขวาขององค์พระ พระใหญ่แห่งคามาคุระของวัดโคโตกุอินนี้เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในคามาคุระที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น
8. วัดกวนอิมโอฟุนะคันนน (大船観音)
"วัดกวนอิมโอฟุนะคันนน" มีรูปเคารพเจ้าแม่กวนอิมสีขาวที่รู้จักกันในชื่อ โอฟุนะคันนน (大船観音) ซึ่งจริงๆ แล้วมีขนาดใหญ่กว่าพระใหญ่แห่งคามาคุระเสียอีก วัดตั้งอยู่ห่างจากประตูตะวันตกของสถานีโอฟุนะราว 5 นาที คุณไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหลงทางเพราะรูปเคารพของเจ้าแม่กวนอิมสีขาวมีขนาดใหญ่เป็นที่สังเกตเห็นได้ง่าย ขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปสู่วัดก็จะรู้สึกราวกับถูกองค์เจ้าแม่กวนอิมมองลงมาจากเบื้องบน เมื่อเข้าไปใกล้คุณก็จะพบว่าที่จริงรูปเคารพขนาดใหญ่องค์นี้มีเพียงครึ่งตัวเท่านั้นและยังสามารถเข้าชมภายในได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ยอดนิยมของคู่แต่งงานที่จะมาขอบุตรจากเจ้าแม่กวนอิมอีกด้วย
9. วัดฮาเสะเดระ (長谷寺)
"วัดฮาเสะเดะระ" เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่ถัดจากศาลเจ้าสึรุโอกะฮาจิมังกู ช่วงเวลาก่อตั้งไม่ชัดเจนแต่กล่าวกันว่าสร้างขึ้นในยุคนารา (奈良時代) พื้นที่วัดแบ่งออกเป็นด้านบนกับด้านล่าง สวนขนาดใหญ่ที่ด้านล่างของภูเขากวนอิมมีดอกไม้มากมายบานสลับกันทั้ง 4 ฤดู มีต้นซากุระ ชิบะซากุระ ดอกชาภูเขาและอื่นๆ ส่วนด้านบนของวัดมีจุดชมวิวที่มองลงไปเห็นทัศนียภาพที่งดงามของทะเลเมืองคามาคุระ ประกอบกับอาคารในเมืองที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ นอกจากนี้คุณยังสามารถทดลองเขียนบทสวดมนตร์หรือเข้าชมพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิมได้อีกด้วย เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีพุทธ
10. ศาลเจ้าสึรุโอกะฮาจิมังกู (鶴岡八幡宮)
"สึรุโอกะฮาจิมังกู" เป็นศาลเจ้าของเทพแห่งเกนจิและมีความเกี่ยวข้องกับมินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ โชกุนคนแรกในสมัยคามาคุระ นับเป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าฮาจิมังใหญ่ในญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของคามาคุระ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเป็นแหล่งพลังเกี่ยวกับโชคด้านชัยชนะ การงาน ความก้าวหน้า การคลอดบุตร การแต่งงาน ความสัมพันธ์และด้านอื่นๆ เป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิง สำหรับคุณ ไม่ว่าจะชอบประวัติศาสตร์ วัดและศาลเจ้า หรือกำลังแสวงหาที่ขอพรให้โชคลาภ ศาลเจ้าสึรุโอกะฮาจิมังกูเป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้จริงๆ เมื่อไปเยือนคามาคุระ
11. วัดเมเก็ตสึอิน (明月院)
"วัดเมเก็ตสึอิน" มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็น “วัดแห่งดอกอาจิไซ” หรือดอกไฮเดรนเยีย เมื่อถึงช่วงฤดูฝนดอกอาจิไซก็จะบานเต็มพื้นที่ของวัด แม้ในวันที่ฝนตกคุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินเดินเล่นดูเจ้าดอกไม้แสนน่ารัก เป็นบรรยากาศที่ดูสวยงามไปอีกแบบ นอกจากนี้ สวนภายในพื้นที่ของวัดก็ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ เช่น ดอกไอริสสีม่วง ที่กำลังรอคอยให้คุณเข้าไปชม
นอกเหนือจากดอกไม้นานาพันธุ์แล้ว ยังมีสวนหิน หน้าต่างทรงกลมในกุฏิเจ้าอาวาส และเอกลักษณ์อื่นๆ ของสวนแบบญี่ปุ่นที่มีความงดงามเฉพาะตัว เป็นตัวเลือกสำหรับวันที่คนที่อยากเที่ยวสบายๆ พักผ่อนเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ
12. วัดโฮโคคุ (報国寺)
ทิวทัศน์ของป่าไผ่ที่แผ่ปกคลุมสวนของ "วัดโฮโคคุ" เปรียบเสมือนเป็นโลกอีกแห่งหนึ่งที่รอให้คุณเข้าไปค้นหา ด้านในมีร้านน้ำชาและที่นั่งให้คุณดื่มชามัทฉะและรับประทานขนมหวานขณะชมทิวทัศน์ของป่าไผ่ไปด้วยได้ วัดโฮโคคุได้รับดาว 3 ดวงจากการรับรองของ มิชลิน กรีนไกด์ (Michelin Green Guide) ที่เป็นมาตรฐานการจัดอันดับแหล่งท่องเที่ยว เป็นอีกที่หนึ่งที่ควรแวะเมื่อไปคามาคุระ ที่นี่คุณสามารถผ่อนคลายฟังเสียงของนกและใบไม้ที่แว่วมากับสายลม ล้อมรอบด้วยป่าไผ่สีเขียวชอุ่ม เป็นการบำบัดด้วยความสงบของธรรมชาติ
13. วัดเอ็นคาคุจิ (円覚寺)
"วัดเอ็นคาคุจิ" ถูกสร้างขึ้นโดยโฮโจ โทคิมุเนะ (北条時宗) โชกุนในสมัยคามาคุระ เป็นวัดใหญ่อันดับสองในห้าวัดสำคัญของคามาคุระ เมื่อลงรถไฟที่สถานีคิตะคามาคุระ (北鎌倉駅) ก็จะถึงประตูหลักของวัดทันที วัดเอ็นคาคุจิมีประวัติความเป็นมายาวนาน ทั้งตัวอาคารและสวนล้วนได้รับการยกย่องเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ ที่วัดยังมีวัตถุโบราณทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมเก็บรักษาเอาไว้อีกมากมาย วัตถุโบราณเหล่านี้จะนำมาจัดแสดงเพียงไม่กี่วันในช่วงโฮมตสึคาเสะอิเระ (宝物風入) หนึ่งในวิธีการดูแลรักษาที่นำวางวัตถุโบราณออกมาวางให้มีลมผ่านเพื่อกำจัดแมลงและความชื้น ทำให้คุณได้เห็นวัตถุโบราณของจริงโดยไม่มีกระจกกั้นปิด การจัดแสดงแบบนี้มีเพียงที่วัดเอ็นคาคุจิและวัดเค็นโจจิเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีอาคารชาริเด็น(舎利殿) อาคารบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติแห่งเดียวในคามาคุระ ชาริเด็นจะเปิดให้เข้าชมได้ใกล้ๆ ในช่วงโฮมตสึคาเสะอิเระเท่านั้น
นัตสึเมะ โซเซกิ (夏目漱石) นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่นเองก็เคยไปวิปัสสนาตามวิถีเซนที่วัดแห่งนี้ นอกจากผลงานเรื่อง “門 (ประตู)” แล้ว วัดเอ็นคาคุจิก็ยังปรากฏอยู่ในนิยายของนัตสึเมะ โซเซกิอีกหลายเรื่อง รวมไปถึงนักประพันธ์อย่างคาวาบาตะ ยาสุนาริ (川端康成), ชิมาซากิ โทซัง (島崎藤村), โอซารากิ จิโร (大佛次郎) และคนอื่นๆ ก็เคยเขียนถึงวัดแห่งนี้ในผลงานของตน นับเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับเหล่านักกวีแห่งคามาคุระ
14. ศาลเจ้าเซนิอะราอิเบ็นไซเท็น (銭洗弁財天)
เดินจากประตูฝั่งตะวันตกของสถานีคามาคุระราว 30 นาทีก็จะถึง "ศาลเจ้าเซนิอะราอิเบ็นไซเท็น" ว่ากันว่ามินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ (源頼朝) ได้ฝันเป็นลาง จึงออกตามหาน้ำวิเศษที่ผุดขึ้นตรงกำแพงหินของซาซึเคะกะยัตสึ (佐助ヶ谷) แล้วสร้างศาลเจ้าขึ้นมาบูชา “อุกะจิน (宇賀神)” หรือเทพแห่งความสุข การเพาะปลูกและความอุดมสมบูรณ์ หลังจากนั้น โฮโจ โทคิมุเนะ (北条時頼) ได้นำเหรียญโลหะมาล้างที่นี่เพื่อขอพรให้ตระกูลของตนเจริญรุ่งเรือง เป็นที่มาของชื่อ เซนิอะราอิ (ล้างเหรียญ) ในปัจจุบันกล่าวกันว่าถ้านำเหรียญไปล้างที่น้ำวิเศษเซนิอะราอิแล้วจะได้เงินเพิ่มกลับมาเป็นเท่าตัว ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการโชคด้านการค้าขายหรือขอพรให้มีรายได้เพิ่ม
ด้านข้างของอาคารหลักที่มีน้ำวิเศษผุดออกมาจะมีถ้ำที่มีตะกร้าไม้ไผ่วางอยู่ วิธีการคือนำเหรียญหรือธนบัตรใส่ลงไปในตะกร้านั้นแล้วล้างด้วยน้ำจากเซนิอะราอิ จากนั้นจึงนำเงินไปใช้ตามปกติเชื่อว่าจะนำโชคลาภด้านเงินทองมาให้
15. ทางเดินศาลเจ้าซาสุเกะอินาริ (佐助稲荷神社参道)
"ศาลเจ้าซาสุเกะอินาริ" ถูกสร้างขึ้นจากฝันบอกเหตุของมินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ เช่นเดียวกันกับเซนิอะราอิเบ็นไซเท็น ในฝันเทพอินาริได้ช่วยขับไล่ตระกูลไทระออกไป โยริโตโมะจึงตัดสินใจออกทัพแล้วได้ชัยชนะที่งดงามกลับมา ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งขอพรเพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน
บนเส้นทางเดินขึ้นศาลเจ้ามีโทริอิสีแดงที่เรียงรายนับไม่ถ้วน มีเทพอินาริสถิตย์อยู่ทุกหนแห่ง สำหรับผู้ที่ต้องการโชคเกี่ยวกับหน้าที่การงาน เราก็ขอแนะนำให้คุณไปเยี่ยมเยือนศาลเจ้าซาสุเกะอินาริดูสักครั้ง
ไปเที่ยวคามาคุระแล้วกลับมาพร้อมกับรูปสวยๆ เต็มกล้องกันเถอะ!
เป็นอย่างไรบ้าง? เราได้นำเสนอคามาคุระ เมืองท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก จะไปเที่ยวแบบใช้เวลาหลายวันเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ให้เต็มที่ก็ได้ หรือจะไปเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบกะทันหันก็ดี คามาคุระมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าคุณจะอยากแวะไปตามร้านค้าที่จัดไว้สวยงามพร้อมสำหรับการถ่ายรูป หรือจะอยากไปศาลเจ้าและที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ เราขอแนะนำให้คุณลองไปคามาคุระแล้วออกแบบทริปที่ชอบด้วยตัวคุณเอง รับรองว่าสนุกสุดยอดแน่นอน!
*เครดิตรูปภาพประกอบ: Colorshadow / Shutterstock.com
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
บทความนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการแปลและเผยแพร่จาก SPIRA (ในอดีตคือ Relux Magazine)
คุณสามารถจองโรงแรมผ่าน Relux (บริหารจัดการโดย SPIRA) ได้ ที่นี่!!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่