ชมซากุระสวยๆ ท่องประวัติศาสตร์ไปกับ 11 จุดชมซากุระยอดนิยมในฟุกุโอกะ!

ประเทศญี่ปุ่นมักจะมีนักท่องเที่ยวคับคั่งเป็นพิเศษในฤดูกาลแห่งซากุระอย่างเดือนมีนาคม - เมษายน แต่ถึงจะบอกว่ามาเพื่อชมซากุระ สถานที่ชมดอกไม้ในญี่ปุ่นก็มีเยอะเสียจนเลือกไม่ถูก ในบทความนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ชมซากุระสวยๆ ในเมืองที่เด่นดังทั้งเรื่องอาหาร ประวัติศาสตร์ และทัศนียภาพอย่างฟุกุโอกะให้ได้รู้จักกัน ชมนกชมไม้จนพอใจก็สามารถไปอิ่มอร่อยกับราเมงซุปกระดูกหมูและหม้อไฟเครื่องในสุดขึ้นชื่อของจังหวัดกันต่อได้เลย!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. Maizuru Park (Fukuoka)

สวนสาธารณะ Maizuru เป็นที่ตั้งของซากปราสาทฟุกุโอกะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดฟุกุโอกะ แม้จะเป็นนอกฤดูกาลชมซากุระก็มีผู้คนแวะเวียนมาอยู่ไม่ขาด  มีต้นซากุระอยู่ประมาณ 1,000 ต้น ทั้งพันธุ์ Yoshino Cherry, Shidare Sakura และอื่นๆ ให้ได้ชมกัน ข้างๆ จะมีสวนสาธารณะ Ohori ตั้งอยู่อีกแห่งหนึ่ง จะเช่าเรือและนั่งชมซากุระชิวๆ ในบ่อน้ำของที่นั่นก็ได้เช่นกัน

ในช่วงฤดูซากุระก็จะมีร้านรวงต่างๆ มาตั้งขายของ จะหาอะไรอร่อยๆ ทานระหว่างเดินชมสวนก็เป็นความคิดที่ไม่เลว

ในช่วงเทศกาลซากุระแห่งปราสาทฟุกุโอกะ (Fukuoka Castle Sakura Festival) ภายในสวนจะมีการประดับไฟ ภาพของซากุระภายใต้แสงไฟ เมื่อรวมกับฉากหลังซึ่งเป็นซากปราสาทและเรือที่ลอยลำอยู่ในบ่อก็สวยสุดๆ นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นจากนอกสวนสาธารณะได้ด้วย จะลองชมจากหลายๆ มุมก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

 

เทศกาลซากุระแห่งปราสาทฟุกุโอกะ

ประดับไฟปลายมีนาคม - ต้นเมษายน 2020 (ยังไม่กำหนดวันแน่นอน) เปิดไฟช่วง 18:00 - 22:00 น.

เว็บไซต์: http://saku-hana.jp/english/

เว็บไซต์: http://saku-hana.jp/ (ญี่ปุ่น)

2. Nishi Park (Fukuoka)

จุดชมซากุระชื่อดังที่อยู่ห่างจากย่านใจกลางเมืองฟุกุโอกะอย่าง Tenjin เพียงไม่กี่อึดใจ มีต้นซากุระประมาณ 1,300 ต้น ทั้งพันธุ์ Yoshino Cherry, Oshima Cherry, Yamazakura และ Shidare Cherry

ในช่วงชมซากุระจะมีผู้คนหนาแน่น และมีร้านแผงลอยต่างๆ มาตั้งมากมาย สามารถเดินในสวนกว้างๆ ได้แบบเพลินๆ นอกจากนี้ยังมีการเปิดไฟประดับในช่วง 18:00 - 20:00 น. ให้เป็นทัศนียภาพที่สวยงามพิศวงต่างจากตอนกลางวันลิบลับเลยทีเดียว

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

3. Katsuyama Park / Kokura Castle (Kitakyushu)

ในอาณาเขตของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ Kitakyushu อย่างปราสาท Kokura จะมีสวนสาธารณะ Katsuyama อยู่ ในฤดูใบไม้ผลิเราจะได้เห็นภาพปราสาทอันโอ่อ่าที่รายล้อมไปด้วยซากุระสวยๆ เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงาม จึงเป็นสถานที่ชมซากุระอีกจุดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ภายในตัวสวนมีซากุระอยู่ประมาณ 300 ต้น และในระหว่างฤดูกาลก็จะมีการประดับไฟเพิ่มเติม

แม้จะอยู่ใจกลางเมือง แต่ก็สามารถพบเห็นนก Mejiro (นกตาขาวญี่ปุ่น) แสนสวยอันเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นได้

บรรยากาศภายในปราสาทที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในภาพมายาอย่างที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนเลยทีเดียว

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. Akizuki Sugi no Baba (Akizuki)

Asakura ตั้งอยู่ในภาคกลางของฟุกุโอกะ เดินทางจากใจกลางจังหวัดโดยรถไฟจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในบริเวณนี้จะมีเมือง Akizuki ซึ่งมีลักษณะบ้านเมืองที่สวยมีสไตล์จนได้ชื่อว่าเป็นเกียวโตขนาดมินิเลยทีเดียว โดยรอบถนน Baba ซึ่งเป็นพระเอกของเราจะมีต้นซากุระกว่า 200 ต้นเรียงรายสองข้างทางเป็นระยะกว่า 500 เมตร ในช่วงซากุระผลิบานก็จะเกิดเป็นอุโมงค์ดอกไม้สวยงามตระการตา

นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่มีความเป็นเมืองรอบปราสาทหลงเหลืออยู่ จะค่อยๆ ใช้เวลาเดินชมบรรยากาศไปก็สนุกไม่เลวเลย

ภายในบริเวณก็มีร้านรวงแบบญี่ปุ่นๆ อยู่มาก เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่เราสามารถดื่มด่ำกับความเป็นญี่ปุ่นได้แบบเต็มอิ่ม ในช่วงชมซากุระก็จะมีการประดับไฟด้วย ให้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามไปอีกแบบ

 

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

[เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ Akizuki] กำหนด 5 เมษายน 2020 ※ปกติจะเริ่มในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายนของทุกปี

Klook.com

5. ศาลเจ้า Miyajidake (Fukutsu)

ศาลเจ้า Miyajidake ตั้งอยู่ในเมือง Fukutsu เดินทางโดยรถไฟ JR สายหลัก Kagoshima จากสถานี Hakata ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ที่ศาลเจ้ามีซากุระราว 2,000 ต้น ทั้ง Yoshino Cherry, Kanhi Sakura และอื่นๆ บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ชมกันได้เพลินๆ ยาวๆ ไม่มีเบื่อแน่นอน

ตัวศาลเจ้าเป็นที่สถิตของเทพผู้ให้โชคด้านการค้าขายร่ำรวยจึงมีผู้มาสักการะเป็นประจำอยู่แล้ว ยิ่งเป็นในช่วงชมซากุระก็จะยิ่งคึกคัก โดยมีผู้มาเยือนถึงกว่า 100,000 คนเลยทีเดียว และทุกปีก็จะมีเทศกาลซากุระจัดขึ้นด้วย

ทางขวามือของอาคารหลักจะมีต้นซากุระนำโชคอยู่ด้วย เป็นต้นซากุระที่มีดอกบานสะพรั่งมากที่สุดในศาลเจ้า อย่างเร็วจะเริ่มเห็นสีชมพูกันได้ตั้งแต่เดือนมกราคมเลยทีเดียว โดยทั่วไปจะบานช่วงกลางเดือนมกราคม - ต้นเดือนมีนาคม

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

6. Asai no Ipponzakura (Kurume)

Kurume เป็นอีกเขตหนึ่งที่อยู่ในภาคกลางของฟุกุโอกะ เดินทางโดยรถไฟจากใจกลางจังหวัดใช้เวลาประมาณ 30 นาที ของขึ้นชื่อของเขตนี้ก็คือ Asai no Ipponzakura ที่ว่ากันว่ามีอายุกว่า 100 ปี เจ้าต้นนี้คือซากุระพันธุ์ Yamazakura สุดยิ่งใหญ่ที่มีเส้นรอบวง 4.3 เมตรและสูงถึง 18 เมตร

Asai no Ipponzakura จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงของวันทั้งเช้า กลางวัน เย็น ภาพสะท้อนบนผืนน้ำในบ่อก็ยิ่งประกอบให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงาม ยิ่งมีอยู่เพียงต้นเดียวจึงยิ่งสวยโดดเด่นเป็นพิเศษ

ในฤดูชมซากุระจะมีการเปิดไฟประดับในช่วง 19:00 - 21:00 น. ได้บรรยากาศต่างกับตอนกลางวันไปอีกแบบ แม้จะเป็นเพียงซากุระเดี่ยวๆ ต้นเดียวก็คุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมชม

ช่วงชมซากุระ: ต้นเดือนเมษายน

7. Kurume Hyakunen Park (Kurume)

Kurume Hyakunen Park หรือ สวน 100 ปี Kurume เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่เลียบริมฝั่งแม่น้ำ Chikugo ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู และเป็นอีกจุดชมซากุระยอดนิยมที่มีซากุระเรียงรายอยู่กว่า 200 ต้น สามารถชมนกชมไม้ไปพร้อมกับเดินเล่นริมแม่น้ำได้เพลินๆ

ถ้าไปถึงให้เช้าสักหน่อยก็อาจจะสามารถชมแนวซากุระได้แบบไม่มีใครมากวนใจ แน่นอนว่าในช่วงที่ซากุระบานเต็มที่จะมีผู้คนคับคั่งมากที่สุด แต่หากลองไปในช่วงเวลาอื่นบ้างก็จะได้สัมผัสกับการเปลี่ยนผันของฤดูอย่างเต็มที่กว่า อย่างในช่วงที่ซากุระเพิ่งบานหรือกำลังจะร่วงโรยก็จะให้บรรยากาศที่ดูเปราะบางและงดงามไปอีกแบบ

เมื่อเงยหน้าขึ้นขณะอยู่ใต้ต้นซากุระ ก็จะได้เห็นภาพสวยๆ ของสีชมพูของซากุระที่ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า นอกจากนี้ใกล้ๆ ก็ยังมีแหล่งช็อปปิ้ง Yume Town สาขา Kurume และทางด้านตะวันออกก็มีสวน Nakahiide ที่มีต้นซากุระปลูกอยู่เช่นกัน จะไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายริมแม่น้ำบ้างก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลย

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. Habu Park (Nakama)

เมื่อนั่งรถไฟไปราว 1 ชั่วโมงจากใจกลางฟุกุโอกะเราก็จะพบกับเขตทางภาคเหนือที่มีแม่น้ำ Onga ทอดตัวผ่านตรงกลางอย่างเมือง Nakama และสถานที่ที่มีชื่อเสียงในแถบนี้ก็คือสวนสาธารณะ Habu ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง ในช่วงชมซากุระจะมีซากุระพันธุ์ต่างๆ เช่น Yoshino Cherry กว่า 1,000 ต้นบานสะพรั่ง จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยม

ภายในสวนจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ และเมื่อเดินข้ามสะพานสีแดงไปเราก็จะเข้าสู่บริเวณของศาลเจ้า Habu นอกจากนี้ยังสามารถเช่าเรือไปนั่งชมซากุระจากบนผิวน้ำได้ด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 300 เยนต่อ 30 นาทีเท่านั้น

ในช่วงเทศกาลซากุระ Chikuzen Nakama (Chikuzen Nakama Sakura Festival) จะมีการประดับไฟในช่วง 18:00 - 21:00 น. นอกจากนี้ในเขตสวนก็ยังมีสุสานจากสมัยโคฟุงอย่าง Haburakanhyakketsu อยู่ด้วย ถ้าใครสนใจก็ลองแวะไปเยี่ยมชมกันได้

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

[เทศกาลซากุระ Chikuzen Nakama] ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน 2020 (ยังไม่กำหนดวันแน่นอน)

9. Kafuri Park (Itoshima)

เมือง Itoshima ตั้งอยู่เลียบริมฝั่งทะเล Genkai ทางภาคตะวันตกของฟุกุโอกะ เดินทางโดยรถไฟจากใจกลางจังหวัดใช้เวลาประมาณ 40 นาที และจุดชมซากุระสวนสาธารณะ Kafuri แห่งนี้ก็เป็นสวนที่สร้างขึ้นบนเนินเล็กๆ ตามแนวชายฝั่ง มีซากุระปลูกอยู่กว่า 300 ต้นให้เราได้ชมกัน

ด้วยตัวสวนอยู่บนเนินเขาจึงมีส่วนที่สูงต่ำไม่เท่ากันอยู่มาก แนะนำให้ใส่รองเท้าที่คล่องตัวหน่อย หอชมวิวที่จุดสูงสุดของเนินก็ทอดยาวและแตกออกเป็นหลายเส้นทาง สามารถเดินชมซากุระบานกันได้เพลินๆ

นอกจากซากุระแล้ว สวนสาธารณะ Kafuri ก็ยังเป็นที่นิยมด้วยสามารถมองลงไปเห็นทะเลได้ และยังสามารถมองเห็นอ่าว Kafuri และ Itoshima Fuji ได้จากหอชมวิวอีกด้วย หรือถ้าวันไหนอากาศดีก็อาจจะเห็นไปถึงทะเล Gendai และเกาะ Orono เลยทีเดียว ระยะทางเองก็ไม่ได้ห่างจากใจกลางฟุกุโอกะเท่าไรนัก เดินทางมาได้ไม่ยาก

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

10. Hosshin Park (Kurume)

สวนสาธารณะ Hosshin อยู่ที่เมือง Kurume ห่างจากใจกลางจังหวัดฟุกุโอกะ 30 นาทีโดยรถไฟ มีชื่อเสียงด้วยเป็นจุดชมซากุระในดวงใจของนักประพันธ์ชื่อดังชาวญี่ปุ่น นัทสึเมะ โซเซกิ นั่นเอง โดยมีซากุระปลูกอยู่ราว 170 ต้น

ภายในสวนมีซากุระหลากหลายพันธุ์ ทั้ง Yoshino Cherry, Yaezakura, Yamazakura และอื่นๆ ที่นี่จะมีลานกว้างไว้ให้สำหรับชมวิวด้วย ยังไงก็ลองเดินสำรวจมุมที่ตัวเองชอบที่สุดกันได้

มองผ่านหมู่มวลซากุระไปเราจะพบกับ Kusano ซึ่งเป็นบริเวณที่ยังมีตึกรามบ้านช่องเก่าๆ หลงเหลืออยู่ มาเพลิดเพลินไปกับซากุระและกลิ่นอายของประวัติศาสตร์กันได้ที่นี่เลย

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

11. Kurume Castle Ruins (Kurume)

ซากปราสาท Kurume ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมใน Kurume ปราสาทแห่งนี้เป็นที่อยู่ของตระกูล Arima ผู้ปกครองเขตอย่างยาวนานถึง 250 ปีนับตั้งแต่ปี 1620 เสน่ห์ของที่นี่ก็คือทัศนียภาพของปราสาทที่รายล้อมด้วยกลีบซากุระสวยงามตระการตา ภายในเขตปราสาทห้ามไม่ให้มีการจัดเลี้ยงหรือตั้งกลุ่มสังสรรค์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากเดินชมซากุระอย่างแท้จริง

ซากปรักหักพังของปราสาทที่เห็นนี้ ในอดีตเคยเป็นถึงปราสาทชื่อดังที่ถูกเรียกว่าปราสาท Sasahara แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ซากุระเหล่านี้ก็ยังคงเบ่งบานครั้งแล้วครั้งเล่า

เส้นทางที่มุ่งตรงไปยังซากปราสาทเองก็มีต้นซากุระรายล้อม จะมองเพลินๆ ระหว่างนั่งรถหรือมาเดินชมก็ได้เช่นกัน

ช่วงชมซากุระ: ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน

ในฟุกุโอกะมีจุดชมซากุระมากมายให้เราได้เพลิดเพลินกับฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นกันแบบจุใจ แต่ละแห่งก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป บางที่ก็อาจจะมีอาหารอร่อยๆ ให้ได้อิ่มท้องกันด้วย จะทานไปพลางเดินดูซากุระไปพลาง หรือจะซื้อข้าวกล่องจากร้านที่ชอบไปนั่งทานใต้ต้นซากุระก็ย่อมได้ จะรู้สึกว่าอาหารรสชาติดีกว่าปกติอย่างแน่นอน!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์คิวชู
เช่ารถได้ในราคาที่คุณต้องการ รถเช่า หากคุณต้องการเช่ารถในญี่ปุ่น ต้องที่นี่เลย! ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan
นี่คือแอ็คเคาท์ทางการของ tsunagu japan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร