15 ของฝากแปลกตาน่าซื้อจาก'จังหวัดวาคายาม่า' ทั้งขนมทั้งงานแฮนด์เมดเพียบ!
'จังหวัดวาคายาม่า' (和歌山県・Wakayama) เป็นจังหวัดที่มีประวัติอันเก่าแก่และมีสินค้าขึ้นชื่อมากมาย หากมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่แล้ว ก็แน่นอนว่าต้องซื้อของฝากที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้กลับไปสักหน่อย วันนี้เราจะมาแนะนำของฝากเด่นๆ ของวาคายาม่าทั้งหมด 15 อย่าง มีทั้งขนมชิ้นเล็กๆ ที่แบ่งแจกได้ง่าย ไปจนถึงงานหัตถกรรมสำหรับเป็นของที่ระลึกที่เก็บไว้ได้นานเลยล่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Yuasa Shoyu (湯浅醤油)
โชยุ (ซอสถั่วเหลืองที่ได้จากการหมัก) เป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในอาหารญี่ปุ่น ว่ากันว่าแหล่งต้นกำเนิดของโชยุนั้นอยู่ในเมือง Yuasa (湯浅) ในจังหวัดวาคายาม่า (Wakayama) นี้เอง ปัจจุบันเมือง Yuasa ยังใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ดังนั้นโชยุของที่นี่จึงกลายเป็นของฝากยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว
แม้จะเป็นโชยุเหมือนๆ กันแต่ด้วยส่วนผสม ระดับความเค็มและวัตถุดิบที่ต่างกันทำให้โชยุมีมากมายหลายประเภท Yuasa Shoyu สามารถหาซื้อได้ที่สนามบินหรือสถานีรถไฟก็จริง แต่หากสนใจดูขั้นตอนการผลิตและทดลองชิมโชยุก็สามารถไปเยี่ยมชม โรงงานของ Yuasa Shoyu ได้เช่นกัน
2. Kawazoecha (川添茶)
Kawazoecha เป็นชาชั้นเลิศที่ผลิตในเมือง Shirahama (白浜町) จังหวัดวาคายาม่า ชา Kawazoecha นี้มีสีเขียวอ่อน มีกลิ่นหอมและรสหวานเล็กน้อยที่ตามมาหลังดื่มเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจังหวัดวาคายาม่าแล้วก็ไม่ค่อยมีวางจำหน่ายนัก ถ้าได้ไปเที่ยวจังหวัดนี้ก็อย่าลืมซื้อกลับมานะ!
นอกจากชาเขียวแล้วยังมีชาจีนที่มีรสขมน้อยกว่าและดื่มง่ายจำหน่ายอีกด้วย สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์มากมายทั้งชาเชียว ชาจีน ใบชาและถุงชาได้ตามใจชอบเลย
3. แกงกะหรี่เนื้อ Kumano (熊野牛カレー)
วัว Kumano เป็นวัวสายพันธุ์เก่าแก่และขึ้นชื่อ ถูกเลี้ยงในจังหวัดวาคายาม่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะเป็นเนื้อวัวญี่ปุ่นหรือวากิวชั้นดีราคาจึงค่อนข้างสูงหากไปรับประทานตามภัตตาคารหรือร้านอาหาร สำหรับใครที่อยากประหยัดค่าอาหารหรืออยากรับประทานเนื้อ Kumano กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ลองซื้อผลิตภัณฑ์แกงกะหรี่เนื้อ Kumano กลับไปชิมดูสิ!
แกงกะหรี่เนื้อ Kumano มีหลายยี่ห้อ แต่ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนก็รสชาติเยี่ยมยอดและได้เนื้อชิ้นใหญ่แน่นอน แถมราคาก็อยู่ในช่วงไม่เกิน 800 เยน ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย สามารถเก็บได้ในอุณหภูมิปกติและเก็บไว้ได้ข้ามวันจึงเหมาะที่จะซื้อไปเป็นของฝากเป็นอย่างมาก
4. Nomu Mikan (飲むみかん)
เมือง Arida (有田市) จังหวัดวาคายาม่าเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกส้มขนาดใหญ่ ส้มญี่ปุ่นจะมีจุดเด่นตรงที่มีขนาดเล็กกว่าส้มทั่วไป และมีรสหวานจัด "น้ำส้ม Nomumikan" เป็นน้ำส้มที่ใช้ส้มจากเมือง Arida เท่านั้น
น้ำส้มยี่ห้อนี้ไม่ใส่น้ำตาลและสีสังเคราะห์ ดังนั้นคุณจะได้ลิ้มรสชาติของน้ำส้มแท้ร้อยเปอร์เซ็น ปกติแล้วการซื้อผลไม้สดกลับไปเป็นของฝากมักทำได้ยาก แต่ถ้าเป็นน้ำผลไม้ล่ะก็คงซื้อกลับไปได้ง่ายกว่าใช่ไหมล่ะ
5. Wakayama Ginger Ale (和歌山ジンジャエール)
จังหวัดวาคายาม่ามีการเพาะปลูกขิงเป็นจำนวนมาก Wakayama Ginger Ale เป็นเครื่องดื่มที่ใช้ขิงสดใหม่จากไร่ในจังหวัดวาคายาม่า รสชาติของขิงอาจจะแรงนิดหน่อยแต่ด้วยความหวานเล็กน้อยที่ผสมเข้ามาทำให้คนที่ไม่ชอบของเผ็ดก็ดื่มได้ง่ายเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ใส่น้ำบ๊วย หรือน้ำผลไม้ประเภทซิตรัสที่ชื่อ "Jabara" อีกด้วย ถ้าอยากลองหลายๆ รสก็ไม่ต้องลังเลเลย เพราะแต่ละขวดมีปริมาณแค่ 250 มิลลิลิตรเท่านั้น
6. Jabara Ponzu (じゃばらぽん酢)
"Jabara" เป็นผลไม้ตระกูลซิตรัสที่ปลูกในพื้นที่หนึ่งของจังหวัดวาคายาม่า มีรสเปรี้ยว ขมเล็กน้อยและหวานกำลังดี หากพูดถึงเครื่องปรุงรสสไตล์ญี่ปุ่นที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้ล่ะก็ต้อง Jabara Ponzu เลย
Jabara Ponzu สามารถใช้เหยาะกับเนื้อ ปลาและผักได้ตามใจชอบ หากนำไปต้มก็จะเปรี้ยวน้อยลงเหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติที่อ่อนๆ ซอสตัวนี้มีจำหน่ายหลายขนาด ถ้าใครเพิ่งเคยซื้อเป็นครั้งแรกจะลองซื้อแบบขวดจิ๋วมาลองก่อนก็ได้นะ
7. Umejio (梅塩)
ที่ญี่ปุ่นมีบ๊วยดองหรือ "Umeboshi" ที่ได้จากการนำบ๊วยไปดองเกลือแล้วตากแห้ง จังหวัดวาคายาม่าซึ่งได้ชื่อว่าเก็บเกี่ยวลูกบ๊วยได้มากที่สุดในญี่ปุ่นก็มีผลิตภัณฑ์จากบ๊วยมากมายเช่นกัน Umejio หรือเกลือบ๊วยนั้นได้มาจากการเคี่ยวน้ำที่ใช้ดองบ๊วย โดยเคี่ยวจนน้ำระเหยและแห้งจนหมด ตัวเกลือจึงมีสีชมพูเหมือนสีชมพูของบ๊วย
บ๊วยดองนั้นอาจจะรับประทานยากสำหรับบางคนเพราะมีรสที่เปรี้ยวจัด แต่เกลือบ๊วยจะเปรี้ยวน้อยกว่าและมีความหวานเล็กน้อยจึงช่วยดึงรสชาติของอาหารได้อย่างดี จะเหยาะกับเนื้อหรือผักก็ได้รสชาติที่ลงตัวอย่างยิ่ง
8. Ume udon (梅うどん)
Ume udon เป็นเส้นอุด้งที่ผสมกับซอสจากบ๊วยดองที่ผลิตในจังหวัดวาคายาม่า โดยปกติแล้วเส้นอุด้งจะเป็นสีขาว แต่ Ume udon จะมีสีชมพูอ่อนจากบ๊วยซึ่งพอนำเส้นไปต้มแล้วจะยิ่งดูน่ารับประทานทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่สีสังเคราะห์เลย Ume udon นั้นแทบไม่มีความเปรี้ยวเหมือนบ๊วยดอง หากจะซื้อไปเป็นของฝากก็อย่าลืมลองเลือกแบบที่สามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิปกตินะ ลองซื้อกลับไปให้เพื่อนๆ หรือคนที่บ้านประหลาดใจกับเส้นอุด้งสีชมพูดูก็ดีไม่น้อย
9. Kagero (かげろう)
หากคุณชอบขนมหวานล่ะก็ ห้ามพลาด Kagero เลย! Kagero เป็นขนมชื่อดังของวาคายาม่า ตัวขนมเป็นแป้งนุ่มนิ่มสอดไส้ครีม และไม่หวานจนเลี่ยน มีขนาดพอดีคำหากได้ลองแล้วจะเพลินจนเผลอทานไปหลายชิ้นเลยล่ะ
ด้วยความที่ขนมถูกห่อแยกชิ้นมา จึงแบ่งแจกให้เพื่อนๆ ได้ง่าย แล้วก็ไม่ต้องรับประทานจนหมดเดี๋ยวนั้น มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาด 2 ชิ้นไปจนถึงขนาด 45 ชิ้นให้คุณเลือกได้ตามใจชอบ แต่ขนมเก็บไว้ได้ประมาณแค่ 1 เดือน จึงต้องคอยดูวันหมดอายุให้ดี
10. Deluxe Cake (デラックスケーキ)
Deluxe Cake เป็นเค้กขนาดเท่าฝ่ามือโดยมีแยมและชั้นเค้กนิ่มๆ ที่ทาด้วยไวท์ช็อคโกแลต เป็นขนมชื่อดังยอดนิยมของจังหวัดวาคายาม่า สามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิปกติแต่แนะนำให้แช่เย็นไว้จะดีกว่า
ด้วยความหวานที่พอดีไม่เลี่ยนจนเกินไปจึงทานได้อย่างเพลิดเพลินทั้งชิ้น ตัวแพคเกจก็สวยงามตามสไตล์เรโทร ถึงจะมีอายุค่อนข้างสั้นแค่ 10 วัน แต่ก็มีหลายขนาดให้เลือก ขนาดที่เล็กที่สุดมีแค่สามชิ้น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะรับประทานไม่ทัน
11. Shuro Tawashi (棕櫚)
วาคายาม่าเป็นแหล่งเพาะปลูกต้นปาล์ม (Shuro) จำนวนมาก โดยต้นปาล์มสามารถนำไปแปรรูปเป็นแปรงสำหรับทำความสะอาดเครื่องครัวและภาชนะต่างๆ ได้ แม้ในปัจจุบันปริมาณการปลูกต้นปาล์มจะลดลงเพราะสามารถนำเข้าจากต่างประเทศได้ แต่การผลิตแปรงทำความสะอาดจากต้นปาล์มแบบดั้งเดิม (Shuro Tawashi) ก็ยังไม่ได้หายไปเสียทีเดียว เพราะคุณสามารถมาเลือกซื้อแปรงจากต้นปาล์มชนิดและขนาดต่างๆ ได้ตามใจชอบที่จังหวัดวาคายาม่า
แปรงจากต้นปาล์มมีจุดเด่นตรงที่สามารถทำความสะอาดคราบสกปรกได้อย่างหมดจดโดยไม่ทำให้เครื่องครัวและภาชนะเป็นรอย หากได้ลองใช้แล้วจะติดใจจนไม่อยากกลับไปใช้แปรงแบบอื่นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีพวงกุญแจหรือสายห้อยโทรศัพท์ที่ทำเป็นรูปแปรงจากต้นปาล์มขนาดจิ๋วอีกด้วย ถือเป็นของที่แปลกตาและหาพบได้ยากทีเดียว
12. Kishu Temari (紀州てまり)
ลูกบอลแสนสวยในรูปนี้คืองานหัตถกรรมดั้งเดิมที่เรียกว่า "Kishu Temari" ในอดีตทำขึ้นสำหรับเป็นของเล่นให้เหล่าองค์หญิงเล่นในพระตำนัก ในปัจจุบันเป็นงานหัตถกรรมที่สวยงามชิ้นหนึ่งของญี่ปุ่น ด้วยสีสันที่สดใสและลวดลายที่ละเอียดประณีตทำให้มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
※Kishu เป็นชื่อประเทศในสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันคือจังหวัดวากายาม่าและจังหวัดมิเอะบางส่วน
สายคล้อง Temari และต่างหู Temari นั้นเหมาะที่จะซื้อกลับไปเป็นของฝากเป็นอย่างยิ่ง เพราะนำไปใช้ได้จริงและราคาไม่สูงมาก นอกจากนี้ยังมีหลายลวดลายที่สวยและน่ารักจนอาจเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว
13. Kishu Shikki (紀州漆器)
Kishu Shikki เป็นสินค้าหัตถกรรมดั้งเดิมของจังหวัดวาคายาม่า โดยนำภาชนะที่ทำจากไม้มาเคลือบแลคเกอร์ มีจุดเด่นคือเบาแต่ทนทานและใช้งานได้นาน สามารถซื้อไปใช้เองหรือซื้อไปเป็นของฝากก็ได้
นอกจากถ้วยชามและถาดใส่อาหารแล้ว ยังมีสินค้าประเภทอื่นที่ใช้เป็นของประดับได้อีกด้วย เช่น กรอบรูป กระจก หากใช้กรอบรูป Kishu ใส่รูปที่ไปเที่ยวในจังหวัดวาคายาม่าก็คงจะทำให้นึกถึงความทรงจำต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้นนะ
14. Kishu Tenugui (紀州てぬぐい)
Tenugui (手ぬぐい) เป็นผ้าที่ใช้สำหรับเช็ดมือหรือเหงื่อไคลตามใบหน้า ตัวผ้ามีความบาง นุ่มและมีขนาดใหญ่จึงสามารถใช้เป็นผ้าเช็ดมือในครัวหรือผ้าปูโต๊ะระหว่างรับประทานอาหารก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีลวดลายน่ารักๆ เช่น มะเขือม่วง ส้ม วาซาบิ และลายผลิตผลอื่นๆ ที่ขึ้นชื่อใน Kishu
ด้วยลวดลายที่มีความเก๋ไก๋ จะซื้อไปประดับผนังก็ได้ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของผ้านี้คือบางและเบา จึงซื้อได้หลายผืนโดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำหนักจะเกินหรือไม่
15. Yatagarasu Daruma (八咫烏 だるま)
ในจังหวัดวาคายาม่าได้จะมีเส้นทางสายหนึ่งที่มีความเก่าแก่มีชื่อว่า Kumano Kodo (熊野古道) ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อศาลเจ้าหลายแห่งเข้าไว้ด้วยกัน เชื่อกันว่าเป็นเส้นทางแสวงบุญมาตั้งแต่สมัยโบราณ Kumano Kodo นั้นมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย Yatagarasu Daruma เป็นของที่ระลึกหนึ่งอย่างที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าเหล่านี้
Yatagarasu Daruma เป็นกา 3 ขาที่เชื่อกันว่าจะทำทางไปสู่พระเจ้า เมื่อซื้อมาแล้วให้อธิษฐานแล้ววาดตาลงไปหนึ่งข้าง เมื่อคำอธิษฐานเป็นจริงก็มาวาดตาอีกหนึ่งข้าง โดยตุ๊กตาแต่ละตัวจะมีหน้าตาไม่เหมือนกันเพราะทุกตัวเป็นงานแฮนด์เมด ก่อนซื้อก็ลองเทียบดูหลายๆ ตัวแล้วเลือกตัวที่ถูกใจมานะ
การเดินทางจากโตเกียวไปจังหวัดวาคาย่าม่านอกจากขึ้นรถไฟและรถบัสได้แล้วยังสามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้อีกด้วย ที่นี่มีทั้งเส้นทางแสวงบุญ Kumano ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หาดทรายสีขาวและสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย หากมีโอกาสก็ควรลองแวะไปให้ได้ และเมื่อไปถึงแล้วก็อย่าลืมซื้อของฝากกลับมาให้ครอบครัวและเพื่อนๆ ได้นึกถึงความทรงจำในวาคายาม่ากันด้วยล่ะ!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่