หน้าหนาวนี้เที่ยวญี่ปุ่นกัน ! กับ 16 สิ่งต้องทำในฤดูหนาวที่ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเต็มไปด้วยประสบการณ์สุดพิเศษที่สามารถพบเจอได้แค่ในฤดูหนาวมากมาย วันนี้เราได้รวบรวมสิ่งที่ไม่ควรพลาดในฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นมาให้แล้ว ! หากท่านเดินทางมาญี่ปุ่นในช่วงเดือนธันวาคม ถึงกุมภาพันธ์ก็อย่าลืมลองสัมผัสสิ่งเหล่านี้ดูนะ !
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. รับประทานหม้อไฟ "สุกี้ยากี้" "จังโกะ"
หม้อไฟ หรือ นาเบะ (鍋) เป็นอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มักรับประทานกันในฤดูหนาวโดยจะใส่วัตถุดิบลงในภาชนะขนาดใหญ่แล้วนำไปอุ่นและรับประทานกันหลายๆ คน
หม้อไฟที่เราจะมาแนะนำในครั้งนี้เป็นหม้อไฟยอดนิยมที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายอย่าง "สุกี้ยากี้" และหม้อไฟที่มีความเกี่ยวข้องกับซูโม่ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติญี่ปุ่นอย่าง "จังโกะ"
สุกี้ยากี้
WordRidden/Flickrสุกี้ยากี้ (Sukiyaki・すき焼き) เป็นหม้อไฟที่ใส่เนื้อวัว หอมหัวใหญ่ เต้าหู้ ฯลฯ ลงในซุปโชยุหวานนิดๆ วัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ใส่ในหม้อไฟจะแตกต่างไปตามแต่ละพื้นที่ แต่รสชาติและวัตถุดิบส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ทำให้สามารถทานได้อย่างสบายใจไม่ว่าที่ไหนก็ตาม
ส่วนเพลง "SUKIYAKI" ของ Kyu Sakamoto ที่เคยขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard Chart เมื่อปี 1963 นั้น เนื้อเพลงกลับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับหม้อไฟชนิดนี้ ทว่าเป็นคำศัพท์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่แพร่หลายที่สุดจึงนำมาตั้งเป็นชื่อเพลงนั่นเอง (ชื่่อเพลงในภาษาญี่ปุ่นคือ "Ue Wo Muite Arukou (แปลว่ามองท้องฟ้าแล้วก้าวเดินต่อไปกันเถอะ)")
จังโกะ
hirotomo/Flickr"จังโกะ" (Chanko・ちゃんこ鍋) เป็นหม้อไฟที่นิยมทานกันในหมู่นักซูโม่ กีฬาประจำชาติของญี่ปุ่น แต่ว่าโดยทั่วไปแล้วมักจะทานเฉพาะในโรงฝึกซูโม่ อีกทั้งตัวหม้อไฟเองยังมีความแตกต่างไปตามแต่ละโรงฝึก ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของซุปเกลือและซุปโชยุ รวมไปถึงชนิดของน้ำซุปก็ยังมีมากมายหลายชนิด เช่น น้ำซุปไก่ น้ำซุปปลา เป็นต้น
ปัจจุบันโรงฝึกซูโม่แพร่หลายไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ร้านจังโกะเองก็แพร่หลายตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านไหนก็สามารถลิ้มรสจังโกะแสนอร่อยในราคาสบายกระเป๋าได้
นอกจากนี้ยังมีทัวร์พาชมการฝึกซูโม่และรับประทานจังโกะในโรงฝึกจริงๆ อีกด้วย ขอแนะนำให้ทุกท่านลอง !
Sumo Tour: Tokyo Tournament & Chanko Dinner Plan
2. รับประทานเนื้อท่ามกลางอากาศหนาวสุดขั้ว : เทศกาลเนื้อย่าง Kitami Genkan no Yakiniku
ทำไมถึงต้องดั้นด้นมากินเนื้อย่างตอนอุณหภูมิติดลบ 10 ก่อนหรือหลังหิมะกันด้วยนะ...? ทุกคนมานั่งทานกินกันสบายๆ ในห้องอุ่นๆ ไม่ดีกว่หรือ...? ข้อสงสัยเช่นนี้จะค่อยๆ หายไปด้วยความร้อนรุ่มของผู้คนที่มาร่วมเทศกาลนี้ เอาล่ะ ท่านเองก็หยิบตะเกียบแล้วมานั่งล้อมโต๊ะทานเนื้อย่างกันเถอะ! โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีนั่นเอง
3. สัมผัสประเพณีแปลกประหลาดของญี่ปุ่นใน "Yonekawa no Mizukaburi"
ผู้ชายกลุ่มนี้เป็นใครกันนะ...? นี่คือภาพของประเพณี "Yonekawa no Mizukaburi" ในจังหวัดมิยากิ (Miyagi) ผู้ชายที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจะสวมชุดฟาง ทาหมึกสีดำที่ใบหน้า และสาดน้ำที่จะเตรียมไว้หน้าบ้านแต่ละหลังไปยังบ้านนั้นๆ เพื่อปัดเป่าอัคคีภัยในฐานะข้ารับใช้ของเทพเจ้า ฤดูหนาวในญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงขึ้นปีใหม่นั้นมีประเพณีแปลกๆ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หากท่านใดสนใจก็อย่าลืมหาข้อมูลและเดินทางไปเยี่ยมชมโดยระมัดระวังไม่ให้ไปขัดขวางพิธีนะ
4. เพลิดเพลินกับศิลปะจากหิมะใน Sapporo Snow Festival
Sapporo Snow Festival เป็นเทศกาลฤดูหนาวที่คนญี่ปุ่นแทบทุกคนรู้จักกันหมดและมีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1950 มีงานศิลปะจากหิมะขนาดใหญ่ตั้งเรียงรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครอนิเมะอย่างโปเกมอนหรือ Hatsune Miku งานสถาปัตยกรรมและรูปปั้นทางประวัติศาสตร์อย่างพระพุทธรูป นอกจากนี้ก็ยังมีผลงานขนาดยักษ์ใหญ่ถึง 20 เมตรอีกด้วย ปัจจุบันทีมจากแคนาดาหรืออเมริกาเองก็เข้าร่วมแข่งขันเช่นกัน
00_4/Flickr lefty1007/Flickr5. สนุกสนานไปกับกีฬาฤดูหนาวใน Niseko
กีฬาฤดูหนาวในฮอกไกโด (Hokkaido・北海道) เป็นที่นิยมอย่างมากแม้แต่หมู่นักสกีในต่างประเทศ ทว่าหากพูดถึงที่ที่โด่งดังที่สุดก็คงไม่พ้น Niseko
aussieSkiBum/Flickrเนื่องจากความนิยมอย่างสูงนี้เอง ทำให้ในพื้นที่เริ่มมีการปรับใช้ภาษาอังกฤษอย่างป้ายประกาศในเมืองและเมนูร้านอาหาร นอกจากนี้ในพื้นที่ดังกล่าวยังมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เพิ่มขึ้น ทำให้จากรีสอร์ตค่อยๆ เปลี่ยนเป็นพื้นที่ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตแทน
แน่นอนว่านอกจาก Niseko แล้วก็ยังมีรีสอร์ทสกีหรือสโนว์บอร์ดอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นอย่าลืมลองตรวจสอบที่บทความด้านล่างดูนะ
38 รีสอร์ตในญี่ปุ่นสำหรับเหล่านักสกีและสโนว์บอร์ด !
6. ชมความงามของไฟประดับแสนสวยรอบๆ สถานีโตเกียว
ในโตเกียวมีไฟประดับ (หรือที่เรียกกันว่าอิลลูมิเนชั่น) มากมายทั้งที่รปปงงิ กินซ่า หรือชินจูกุ แต่ที่ที่ขึ้นชื่อเป็นพิเศษในละแวกนี้คือ Marunouchi Illumination และ Tokyo Michi Terrace 2014 ที่ประดับไฟรอบๆ สถานีโตเกียว
Marunouchi Illumination เป็นการจัดแสดงไฟประดับที่มีความยาวกว่าหลายสิบเมตร อีกทั้งยังล้อมรอบไปด้วยอาคารสูงและสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์
Marunouchi Illumination
ys*/FlickrTokyo Michi Terrace 2014 เป็นกิจกรรมจัดแสดงไฟประดับฉลองที่ระลึกรอบๆ สถานีโตเกียว ภายในกิจกรรมหลักจะมีการประดับไฟอาคาร Marunouchi สถานีโตเกียว
Tokyo Michiterasu 2014
t-mizo/Flickrรอบๆ สถานีโตเกียวยังเต็มไปด้วยโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ร้านสินค้าแบรนด์เนมหรือร้านอาหารมิชลินก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหลังจากที่ท่านสนุกสนานกับการช็อปปิ้งในช่วงบ่ายและดินเนอร์ที่อาจจะเร็วไปนิด เราก็อยากแนะนำให้ท่านลองเพลิดเพลินไปกับการค่อยๆ เดินชมไฟประดับเหล่านี้ดู
Marunouchi Illumination Official Site (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
Tokyo Michiterasu 2014 Official Site (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
7. ร่วมสนุกไปกับกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สไตล์ญี่ปุ่น
หากพูดถึงกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของญี่ปุ่นล่ะก็คงไม่พ้น "Joya no Kane (การตีระฆัง 108 ครั้ง)" ที่วัดในคืนวันที่ 31 ธันวาคม, "Hatsuhi no De" การชมพระอาทิตย์ขึ้นครั้งแรกของปี และ "Hatsumode (การไหว้พระขอพรปีใหม่)" ที่จะจัดถึงช่วงวันที่ 7 มกราคม
Joya no Kane (除夜の鐘)
Kyoto-Picture/Flickrเป็นพิธีที่จะจัดขึ้นในคืนวันที่ 31 ธันวาคมในวัดทางพระพุทธศาสนา โดยปกติแล้วจะตีระฆังขนาดใหญ่ในวัด 108 ครั้ง ว่ากันว่าตัวเลข 108 ครั้งนี้เองก็ยังมีความหมายแฝงอยู่ นั่นก็คือจำนวนประเภทของ "กิเลส" ที่อยู่ในจิตใจของมนุษยย์นั่นเอง
ที่ญี่ปุ่นจะฟังเสียงตีระฆังนี้ไปพร้อมๆ กับอธิษฐานในอุโบสถ จากนั้นจึงถือว่าปีนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว นอกจากนี้บางวัดอาจมีการตีระฆังให้ดูจริงๆ อีกด้วย
รายชื่อวัดที่ตีระฆัง Joya no Kane ในโตเกียว
- Namiyoke Inari Shrine(Tsukiji) http://www.namiyoke.or.jp/
- Tenryu-ji (Shinjuku) http://ja.wikipedia.org/wiki/%E5%A4%A9%E9%BE%8D%E5%AF%BA_(%E6%96%B0%E5%AE%BF%E5%8C%BA)
- Toyokawa Inari Tokyo Betsuin(Akasaka) http://www.toyokawainari-tokyo.jp/
Hatsuhi no De(初日の出)
Hatsuhi no De แปลว่าพระอาทิตย์ขึ้นครั้งแรกของปีและได้รับความนิยมอย่างมากจนถึงขนาดมีการจัดทัวร์หรือแนะนำสถานที่สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นครั้งแรกในทุกพื้นที่ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ส่วนสถานที่ยอดนิยมซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในการชม Hatsuhi no De ก็คือ Goraiko (ご来光) บนภูเขาไฟฟูจินั่นเอง Goraiko หมายถึงการชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา โดยทั่วไปแล้วมักจะสื่อถึงพระอาทิตย์ที่ขึ้นจากเส้นขอบฟ้า และยังกล่าวกันว่า Goraiko จะนำพาโชคลาภมาให้อีกด้วย
นอกจากนี้ Goraiko บนภูเขาไฟฟูจิยังมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากจนวันนั้นไม่สามารถเดินทางไปอย่างกระทันหันได้เลยทีเดียว ดังนั้นหากท่านใดสนใจ เราขอแนะนำให้ไปกับทัวร์จะดีที่สุด
Hatsumode (初詣)
Kentaro Ohno/FlickrHatsumode เป็นประเพณีการไหว้พระที่ศาลเจ้าหรือวัดครั้งแรกของปีใหม่ โดยจะแสดงความขอบคุณตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาและอธิษฐานขอความสงบสุขและความปลอดภัยในปีใหม่ ปัจจุบันนิยมไหว้กันถึงวันที่ 7 มกราคม
สำหรับมารยาทในการไหว้พระที่ศาลเจ้าสามารถตรวจสอบได้ที่บทความนี้เลย
มารยาทและหลักปฏิบัติสำหรับการเยี่ยมชมศาลเจ้าในญี่ปุ่น
8. ซื้อสินค้าลดราคาหรือ Fukubukuro
โดยปกติแล้วร้านค้าจำนวนมากในห้างสรรพสินค้าจะลดราคาสินค้าตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม-กลางเดือนมกราคม สินค้าที่แพงจนไม่สามารถซื้อในราคาเต็มได้ก็จะลดราคามาค่อนข้างเยอะ ทำให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการซื้อสินค้าในราคาประหยัด
ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงปีใหม่ร้านค้าหลายแห่งๆ ยังจัดจำหน่าย Fukubukuro (福袋) อีกด้วย Fukubukuro เป็นถุงที่รวมสินค้าหลายๆ ชิ้นโดยเราจะไม่สามารถเปิดดูสินค้าภายในได้ ราคาของสินค้าภายในถุงรวมแล้วจะแพงกว่าราคาของ Fukubukuro อย่างมากเลยทีเดียว เช่น Fukubukuro ราคา 10,000 เยน อาจจะมีสินค้าราคารวมถึง 30,000 เยน ทว่าเราจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าในถุงนั้นใส่สินค้าอะไรไว้บ้าง
ความรู้สึกตื่นเต้นดีใจจากการจับคู่ระหว่าง "ไม่สามารถเปิดดูสินค้าภายในได้" กับ "ราคาสุดคุ้ม" ทำให้การช็อปปิ้งสนุกขึ้นหลายเท่าตัว
ข้างในถุง Fukubukuro ของร้านเสื้อผ้าแฟชั่น
ข้างในถุง Fukubukuro ของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
9. เพลิดเพลินไปกับคาเฟ่ที่สร้างจากหิมะ
"Furano Kan Kan Mura" เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีในลานสกิของเมือง Furano จังหวัดฮอกไกโด
สิ่งที่ไม่ควรพลาดของที่นี่คือ "คาเฟ่น้ำแข็ง" ที่สร้างจาก "หิมะ" เท่านั้น เก้าอี้ โต๊ะ เคาน์เตอร์ทุกอย่างก็สร้างมาจากหิมะเช่นกัน หลังจากสนุกสนานกับสกีแล้วมาพักดื่มน้ำสักแก้วที่คาเฟ่น้ำแข็งแห่งนี้ก็ดีมิใช่น้อย โดยปีนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่ 23 ธันวาคม-10 มีนาคม
Furano Kan Kan Mura Official Site
10. ชมลิงแช่ออนเซ็น
ญี่ปุ่นมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติอยู่ทั่วทุกพื้นที่และมีนักท่องเที่ยวที่มาแช่บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งจำนานมาก นอกจากนี้ ในป่าเขาก็ยังมีสัตว์ป่ามาใช้บริการด้วย ว่ากันว่าสัตว์ป่าเหล่านี้รู้ถึงสรรพคุณในการรักษาบาดแผลหรือการอบอุ่นร่างกายจึงมาแช่บ่อน้ำพุร้อนนั่นเอง ส่วนสถานที่ขึ้นชื่อสำหรับการชมลิงแช่ออนเซ็นนี้คือ Jigokudani Monkey Park ในจังหวัดนากาโนะ (Nagano) นับตั้งแต่ปี 1964 ที่นี่ก็เปิดให้ชมลิงอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันเป็นที่รู้จักจากลิงแช่ออนเซ็นในภาพยนตร์
http://youtu.be/txDR1y1drl0
ที่นี่ยังมีเว็บไซต์อีกด้วย อย่าลืมลองเข้าไปตรวจสอบดูนะ
Jigokudani Yaen Koen Official Site
11.เดินเล่นที่ Yukino-ōtani
daipresents/FlickrYukino-ōtani (雪の大谷) ตั้งอยู่ในเมือง Tateyama ในจังหวัดโทยามะ (Toyama・富山) ที่นี่มีกำแพงหิมะที่สูงถึง 20 เมตรเลยทีเดียว โดยกำแพงนี้เกิดจากการกวาดหิมะไปริมซ้ายขวาเพื่อสร้างถนนจนกองสูงเป็นพะเนิน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
12. ชมดอกไม้ไฟท่ามกลางอากาศหนาวยะเยือก
ญี่ปุ่นมักจะจัดงานดอกไม้ไฟบ่อยๆ ในช่วงฤดูร้อน แต่บางพื้นที่ก็จัดงานดอกไม้ไฟในฤดูหนาวอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเมือง Atami จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka・静岡) ที่สามารถเดินทางจากโตเกียวภายใน 1 ชั่วโมงก็ยังจัดงานดอกไม้ไฟยิ่งใหญ่เหมือนกับงานดอกไม้ไฟในหน้าร้อนเลยทีเดียว โดยปีนี้จะจัดในวันที่ 7 ธันวาคม, 14 ธันวาคม, 23 ธันวาคม รวม 3 วัน
Atami Fireworks Festival Official Site (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)
13. ลิ้มรสเมนูปู อาหารประจำฤดูหนาวของญี่ปุ่น
หากพูดถึงเมนูปู ทุกท่านคงคิดถึงฤดูหนาวเพราะว่ากันว่าเป็นฤดูของปู แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น ในฮอกไกโดและพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นจะส่งจำนวนปูมากที่สุดในเดือนธันวาคมทำให้ทุกคนติดภาพกันเช่นนั้น ทว่าจริงๆ แล้วช่วงที่ทานปูได้อร่อยที่สุดจะแตกต่างกันไปตามชนิดของปู
แต่ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม คนจะกินปูเยอะที่สุด ทำให้ช่วงเวลานี้ในญี่ปุ่นนิยมทานปูกันอย่างแพร่หลายจนเป็นธรรมเนียม
s.yume/Flickr jpellgen/Flickrส่วนร้านอาหารปูที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ "Kani Dōraku" (かに道楽) ซึ่งมีสาขาหลักอยู่ที่โอซาก้าและมีสาขาย่อยอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น บนร้านจะมีปูจำลองขนาดใหญ่ติดไว้ทำให้เป็นประตูร้านที่โดดเด่นอย่างมากเลยทีเดียว เมนูทุกอย่างทำจากปูให้ท่านได้เลือกสรร อาทิ หม้อไฟปู ซาชิมิปู ซูชิปู เทมปุระปู ปูย่างถ่าน คาราอาเกะปู
14. ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่ Yukimi-furo บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งท่ามกลางหิมะ
บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่สามารถชมหิมะระหว่างแช่ได้นั้นเรียกกันว่า Yukimi-furo(雪見風呂) ในภาพเป็นบ่อออนเซ็น Shirahone ในจังหวัดนากาโนะ ใบหน้าของท่านจะสัมผัสกับความเย็น ส่วนร่างกายก็จะรู้สึกอุ่นๆ เรียกได้ว่าเป็นการจับคู่สุดยอดเยี่ยม หิมะเองก็ยังขาวบริสุทธิ์สบายตาอีกด้วย
15. ปาถั่วไล่ยักษ์
ทุกๆ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของญี่ปุ่นจะเป็นวันของ "เทศกาล Setsubun" (節分) ซึ่งนิยมปาถั่วกันเป็นประเพณี
"Setsubun" หมายถึงวันเปลี่ยนฤดู โดยผู้คนมักคิดว่าวันเปลี่ยนฤดูเป็นวันที่วิญญาณชั่วร้าย (Jyaki) จะปรากฏออกมายังพื้นโลกได้ง่าย ทำให้เกิดการปาถั่วเพื่อขับไล่ยักษ์ซี่งเป็นสัญลักษณ์แห่งวิญญาณชั่วร้ายและนำพาความสุขกลับคืนมา
โดยปกติแล้วจะเปิดประตูบ้านหรือหน้าต่างและพูดว่า "ยักษ์ร้ายอยู่ข้างนอก!" พร้อมกับปาถั่ว จากนั้นจึงรีบปิดประตูหรือหน้าต่างเพื่อไม่ให้ยักษ์กลับเข้ามาและพูดว่า "ความสุขอยู่ข้างใน!" พร้อมกับปาถั่วในห้อง
นอกจากนี้ ในบางกิจกรรมจะมีเจ้าหน้าที่แต่งกายเป็นยักษ์และให้โยนถั่วใส่ยักษ์ด้วยเช่นกัน
หากมาญี่ปุ่นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ก็อย่าลืมลองเข้าร่วมกิจกรรมนี้ดูนะ !
16. นั่งๆ นอนๆ ในโต๊ะโคทัตสึ
โต๊ะโคทัตสึเป็นอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นโดยจะปูผ้านวมไว้บนโต๊ะบนเสื่อทาทามิหรือพื้นไม้ ส่วนข้างในจะใส่สารที่ให้ความอบอุ่นไว้ มักปรากฏบ่อยครั้งในอนิเมะทำให้บางท่านอาจจะคุ้นๆ อยู่บ้าง
ในบ้านของคนญี่ปุ่นจะนิยมนั่งโต๊ะโคทัตสึในหน้าหนาวพร้อมกับกินส้มและดูทีวีกับครอบครัว นอกจากนี้เรียวกังบางแห่งยังเตรียมโต๊ะโคทัตสึสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย ดังนั้นทุกท่านเองก็อย่าลืมลองค้นหากันดูล่ะ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่