16 โบราณสถานห้ามพลาดในจังหวัดกิฟุ

1. Shirakawago (白川郷)

PIXTA

ชิราคาวาโกะ (Shirakawago) เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1995 พื้นที่แถวนี้มีปริมาณหิมะเยอะมากทำให้เกิดการสร้างบ้านเรือนที่มุงหลังคาด้วยใบหญ้าและมีความลาดชันสูงเพื่อไม่ให้หิมะทับถม ปัจจุบันบ้านของคนในพื้นที่เองก็มีลักษณะเช่นนี้ บางส่วนเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

วิธีการเดินทาง: ขึ้น Tokai-Hokuriku Expressway โดยหมู่บ้านจะอยู่ข้างๆ Shirakawago IC

เว็บไซต์: http://shirakawa-go.org/kankou/area01/

2. Gifu Castle (岐阜城)

PIXTA

ในอดีตปราสาทกิฟุ (Gifu Castle) รู้จักในชื่อ Inabayama Castle และได้รับการระบุว่าเป็นปราสาทเขาไร้พ่ายอีกด้วย ต่อมาได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น Gifu Castle โดย Oda Nobunaga ซึ่งปกครองพื้นที่นี้ในปี 1567 Nobunaga ยังเคยคิดจะรวมประเทศโดยให้ปราสาทนี้เป็นจุดศูนย์กลางอีกด้วย ภายหลังปราสาทถูกทำลายไปครั้งหนึ่ง ทว่าต่อมาก็ได้บูรณะซ่อมแซมตัวปราสาทในปี 1956

วิธีการเดินทาง: นั่งบัสจากสถานี JR Gifu Station มา 15 นาที

เว็บไซต์: http://www.city.gifu.lg.jp/3537.htm

3. Site of Sekigahara Battleground (関ヶ原古戦場跡)

PIXTA

ทุ่งสนามรบเซกิกาฮาระ (Site of Sekigahara Battleground) มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของ "สงครามแห่ง Sekigahara" สงครามครั้งสุดท้ายในยุคเซ็งโงกุซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 1467 จนไปถึงในปี 1600 Tokugawa Ieyasu ผู้ชนะสงครามครั้งนี้ได้รวบรวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในฐานะโชกุน ปัจจุบันพื้นที่นี้ถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ และสามารถเรียนรู้เรื่องราวคร่าวๆ ของสงครามดังกล่าวได้

วิธีการเดินทาง: เดินจากสถานี JR Sekigahara Station มา 8 นาที

เว็บไซต์: http://www.rekimin-sekigahara.jp/

4. รอยเลื่อน Neodani Fault (根尾谷断層)

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่รุนแรงกว่า 8.0 แมกนิจูดเมื่อปี 1891 เข้าโจมตีพื้นที่บริเวณนี้ และ "รอยเลื่อน Neodani" นี้เอง เป็นชั้นดินซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวในครั้งนั้น ปัจจุบันถูกระบุให้เป็นอนุสรณ์พิเศษทางธรรมชาติแห่งชาติซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในด้านธรณีวิทยา ร่องรอยซึ่งแยกพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ได้รับการรึกษาให้เป็นสถานที่ศึกษาแผ่นดินไหว และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟ Tarumi Tetsudo สาย Tarumi Railway Line มาลงที่ Midori Station แล้วเดินประมาณ 2 นาที

เว็บไซต์: http://www.motosukankou.gr.jp/02_sightseeing/02_06.html

5. Sunomata Castle (墨俣城)

Erica.T/Flickr

ในตำนานระบุไว้ว่า Sunomata Castle เป็นปราสาทที่ Toyotomi Hideyoshi สร้างเสร็จภายในคืนเดียวตามคำสั่งของ Oda Nobunaga ในยุคเซ็งโงกุ ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่ปรากฏเป็นความจริงแน่ชัดและยังเกิดเป็นข้อถกเถียงจำนวนมาก ปัจจุบันปราสาทนี้ได้ถูกบูรณะและสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อจัดแสดงเอกสารทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ Toyotomi Hideyoshi อีกด้วย

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่ JR Ōgaki Station หรือ JR Gifu Station แล้วต่อรถบัส

เว็บไซต์: http://www.city.ogaki.lg.jp/0000000723.html

6. สวน Yoro Park (養老公園)

PIXTA

น้ำแร่ของที่นี่ได้รับการเล่าลือว่าเป็นน้ำแห่งการคืนความอ่อนเยาว์ และจักรพรรดิเองก็ยังเคยมาเยี่ยมชมที่นี่ในปี 717 อีกด้วย ปัจจุบันได้รับการบูรณะเป็น Yoro Park พร้อมกับแหล่งพักผ่อนมากมาย อาทิ น้ำตก Yoro ศาลเจ้า และงานศิลปะสมัยใหม่ เป็นต้น

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟ Yoro Tetsudo มาลงที่ "Yoro Station" แล้วเดิน 5 นาที

เว็บไซต์: http://www.yoro-park.com/

7. Ogaki Castle (大垣城)

ปราสาท Ogaki มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งที่มั่นของกองทัพเซกุนในสงครามแห่ง Sekigahara ในอดีตเคยมีตัวปราสาท ทว่ากลับถูกเผาเสียหายจากการโจมตีทางอากาศในสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้รับการบูรณะในปี 1959 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และมีมุมจัดแสดงให้ท่านสามารถสัมผัสปืนไฟ หอก หรือคันธนูได้อีกด้วย

วิธีการเดินทาง: เดินจาก JR Ogaki Station 7 นาที

เว็บไซต์: http://www.city.ogaki.lg.jp/0000000577.html

8. Gujo Hachiman Castle (郡上八幡城)

ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์มากนัก ทำให้ในปี 1870 ถูกรื้อถอนจนเหลือเพียงแค่กำแพงหิน ต่อมาในปี 1933 ตัวปราสาทได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งให้เป็นแบบไม้ ขนาดของปราสาทไม่ใหญ่มากนัก แต่ Ryotaro Shiba นักเขียนนิยายชื่อดังเคยกล่าวสรรเสริญถึงความงามของปราสาทแห่งนี้อีกด้วย

วิธีการเดินทาง: นั่งแท็กซี่จากสถานี Nagaragawa Railway Gujo-Hachiman Station มาประมาณ 10 นาที

เว็บไซต์: http://www.gujokankou.com/spot/01hachiman/874.html

9. วัด Eihō-ji (虎渓山永保寺)

PIXTA

วัด Eihō-ji  แห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดทางพระพุทธศาสนาที่ตั้งอยู่ในเมือง Tajimi จังหวัดกิฟุ อาคาร Kannon-do ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1314 และอาคาร Kaizan-do ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1352 ภายในวัดได้รับการระบุให้เป็นสมบัติแห่งชาติ ยิ่งไปกว่านั้น สวนญี่ปุ่นแสนงดงามก็ยังกว้างขวาง มีบรรยากาศชวนให้สบายใจ และทำให้ทุกท่านสามารถดื่มด่ำกับความเป็นญี่ปุ่นอันแสนเก่าแก่และงดงามได้อีกด้วย

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Tajimi Station นั่งบัสไป "Kokeizancho"

เว็บไซต์: http://www.kokei.or.jp/

10. Iwamura Castle (岩村城跡)

Iwamura Castle เป็นปราสาทชื่อดังที่ถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งในสามปราสาทภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น บริเวณรอบๆ มักมีหมอก ทำให้มีอีกชื่อหนึ่งว่า Kasumiga-jo (ปราสาทหมอก) อีกด้วย ปัจจุบันตัวอาคารได้ถูกทำลายทิ้งจนเหลือเพียงแค่กำแพงหินก็จริง ทว่าลักษณะของกำแพงหินที่ประยุกต์ใช้ลักษณะภูมิประเทศตามธรรชาติอันแสนโหดร้ายเองก็มีความงดงามอันน่าตื่นตะลึงอยู่เช่นกัน

 

วิธีการเดินทาง: โดยสารรถจาก Chuo Expressway IC 20 20 นาที

เว็บไซต์: http://hot-iwamura.com/pickup/%E5%B2%A9%E6%9D%91%E5%9F%8E%E8%B7%A1

11. วัด Ankokuji Kyozo (安国寺経蔵) [Takayama]

PIXTA

วัด Ankokuji Kyozo แห่งนี้เป็นหนึ่งในวัด Ankokuji ที่โชกุน Ashikaga Takauji ให้สร้างขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วญี่ปุ่นในปี 1347 ส่วนหอเก็บพระคัมภีร์ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1408 ได้รับการระบุให้เป็นสมบัติแห่งชาติ ภายในหอเก็บพระคัมภีร์มีชั้นหนังสือแบบหมุนที่รวบรวมพระสูตร เชื่อกันว่าหากสวดมนต์ขณะหมุนชั้นหนังสือนี้จะได้รับบุญกุศลเท่ากับการอ่านพระสูตรครบทุกเล่ม ทั้งนี้ หากจะมาสักการะจำเป็นต้องจองล่วงหน้า

วิธีการเดินทาง: โดยสารรถจากสถานี Takayama Main Line Hida-Kokufu Station มา 15 นาที

เว็บไซต์: http://www.hida.jp/cgi-bin/kankou/sigview.cgi?admin=contents_view&id=1050201000411&area=2

12. Nangū Taisha (南宮大社)

Nangū Taisha บูชาเทพเจ้าแห่งโลหะและได้รับความศรัทธามาตั้งแต่สมัยโบราณ อาคารซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในปี 1642 ได้รับการดูแลรักษาในฐานะของมรดกสำคัญทางวัฒนธรรมแห่งชาติและเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้

วิธีการเดินทาง: เดินจากสถานี JR Tōkaidō Main Line Tarui Station มา 20 นาที

เว็บไซต์: http://www.nangu-san.com/

13. วัด Rokuonji Jizo-do (Rokkaku-do) (鹿苑寺地蔵堂)

อาคารโบราณที่หลงเหลือความทรงจำแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1311 ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณสันเขาของถนนเก่าที่ไม่ได้ใช้และว่ากันว่าอาคารแห่งนี้ช่วยปกป้องคุ้มครองนักเดินทางอีกด้วย ทางเดินภายในภูเขาอาจไม่สะดวกนัก ทว่าที่นี่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดภายในจังหวัด Gifu นอกจากนี้ก็ยังได้รับเลือกให้เป็นมรดกสำคัญทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ทำให้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สูงมาก

วิธีการเดินทาง: เดินจากสถานี Nagaragawa Railway Yunohora-Onsenguchi Station มา 15 นาที

เว็บไซต์: http://www.mino-city.jp/jp/tourist/construction08.html

14. วัด Gokokushi-ji (護国之寺)

Monami/Wikimedia Commons

กล่าวกันว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นตามพระบรมราชโองการของจักรพรรดิในปี 746 ทว่าตัวอาคารในสมัยนั้นได้รับความเสียหายจากไฟสงคราม ทำให้สร้างใหม่อีกครั้งในสมัยเอโดะ ภายในเก็บรักษาเครื่องชามทองสัมฤทธิ์ Kondo-shishikara-kusamonhachi ซึ่งได้รับการระบุให้เป็นสมบัติแห่งชาติเอาไว้

วิธีการเดินทาง: นั่งบัสจาก Gifu Station ซึ่งมุ่งหน้าไปยัง "Obusa"

เว็บไซต์: http://www.ne.jp/asahi/gifu/gokokushiji/gokokushijiHP-TOP.index.html

15. Shin-Chokoku-ji Temple (新長谷寺)

วัดทางพระพุทธศาสนาแห่งนี้สร้างขึ้นตามพระบรมราชโองการในพระจักรพรรดิเมื่อปี 1222 ปัจจุบันเรียกกันว่า Kitta-kannon (吉田観音) ตัวอาคารได้รับความเสียหายจากไฟไหม้หลายครั้ง แต่ก็สร้างใหม่เรื่อยๆ อาคารหลายแห่งอย่างโบสถ์หรือเจดีย์สามชั้นได้รับการระบุให้เป็นมรดกสำคัญทางวัฒนธรรมแห่งชาติ และได้รับการเรียกว่าเป็นวัด Hōryū-ji (法隆寺) แห่ง Gifu อีกด้วย

วิธีการเดินทาง: เดินจากสถานี Nagaragawa Railway Sekiguchi Station มา 10 นาที

เว็บไซต์: http://www.city.seki.lg.jp/0000001511.html

16. Gero Onsen (下呂温泉)

เป็นที่ทราบกันว่าบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มีมาตั้งแต่ 1,000 ปีก่อนและคนญี่ปุ่นเองก็ใช้บริการมาตั้งแต่สมัยโบราณเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสามบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังแห่งญี่ปุ่น กล่าวกันว่าน้ำแร่ที่มีฤทธิ์ความเป็นด่างของบ่อนี้มีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าและช่วยทำให้ผิวสวย จึงเหมาะกับการบรรเทาความเหนื่อยจากการเดินทางเป็นอย่างมาก

วิธีการเดินทาง: JR Tokai Takayama Main Line สถานี Gero Station

เว็บไซต์: http://www.gero-spa.or.jp/