2 จุดชมดอกบ๊วยใน "จังหวัดมิเอะ" ขับรถไปเช้า-เย็นกลับได้จากนาโกย่า
"จังหวัดมิเอะ" อยู่ติดกับจังหวัดไอจิซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองใหญ่อย่างนาโกย่า ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่สามารถท่องเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับโดยพักค้างคืนที่นาโกย่าได้อย่างสะดวกสบาย ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำจุดชมดอกบ๊วยชื่อดังในจังหวัดมิเอะที่สามารถขับรถไปกลับจากนาโกย่าได้ภายในหนึ่งวันกันค่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
สวนสึซึกะ ฟอเรสต์ การ์เด้น (鈴鹿の森庭園)
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองสึซึกะ จังหวัดมิเอะ เป็นสวนที่ดูแลโดย Akatsuka Shokubutsu-en ซึ่งมีเป้าหมายในการศึกษาวิจัยและส่งเสริมการเพาะพันธุ์ต้นบ๊วย ผู้เชี่ยวชาญของที่นี่จะบำรุงและดูแลรักษาต้นบ๊วยในสวนกว่า 200 ต้นเป็นอย่างดี ทำให้ได้ดอกบ๊วยที่ใหญ่และมีสีสันสวยงาม
ดอกบ๊วยในสวนนี้จะเป็นต้นบ๊วยแบบชิดาเระอุเมะ (しだれ梅) ที่ตัวกิ่งมีลักษณะโน้มลงมาด้านล่างเป็นพุ่ม สายพันธุ์หลักของสวนแห่งนี้ คือ คุเรฮะชิดาเระ (呉羽しだれ) แต่ก็มีการรวบรวมสายพันธุ์อื่น ๆ ไว้อีกกว่า 30 สายพันธุ์ด้วย โดยจะเปิดให้เข้าชมเพียงปีละครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคมที่ดอกบ๊วยบานเท่านั้น
ในปี 2022 นี้ก็มีกำหนดเปิดสวนตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2022 เป็นต้นไป
จุดเด่นของสวนคือ เมื่อเดินเข้าไปแล้วจะพบกับต้นบ๊วยใหญ่สองต้นที่ชื่อว่า เท็นโนะริว (天の龍 มังกรสวรรค์) และ จิโนะริว (地の龍 มังกรปฐพี) ทั้งคู่เป็นบ๊วยสายพันธุ์คุเรฮะชิดาเระที่มีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปี และว่ากันว่าอาจเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนี้ ช่วงที่ดอกบ๊วยบานเต็มที่ก็จะมีการประดับไฟไลท์อัพในสวนตอนกลางคืนด้วย งานนี้อาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่สำหรับปี 2022 นั้น ได้มีประกาศมาแล้วว่าจะมีการจัดไลท์อัพ แต่ยังไม่ประกาศเรื่องวันและเวลา หากอ้างอิงจากตารางของปีก่อน อีเวนต์นี้น่าจะเริ่มเปิดไฟตั้งแต่ช่วงเย็นถึง 20:30 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนสวนปิดค่ะ
เนื่องจากสวนแห่งนี้อยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกล การเดินทางโดยรถยนต์จึงเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด แต่ในบางปีก็จะมีการจัดรถบัสรับ-ส่งโดย Mie Kotsu ซึ่งจะเดินทางจากสถานีใกล้เคียงมายังสวนด้วย สำหรับปี 2022 นี้ยังต้องรอประกาศจากทางหน้าเว็บไซต์ของสวนค่ะ
ศาลเจ้ายูกิ (結城神社)
ศาลเจ้ายูกิตั้งขึ้นเพื่อสักการะบูชายูกิ มุเนะฮิโระ (結城宗広) ขุนศึกในช่วงปลายยุคคามาคุระ - ต้นยุคมูโรมาจิ ผู้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูเค็มมุ ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองสึ (津 Tsu) ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อสั้นที่สุดในญี่ปุ่น
แม้ว่าพื้นที่ภายในสวนของศาลเจ้าจะไม่ได้กว้างนักเมื่อเทียบกับสวนสึซึกะ ฟอเรสต์ การ์เด้น แต่ก็มีต้นบ๊วยสายพันธุ์ชิดาเระปลูกอย่างหนาแน่นถึง 300 ต้น รวมทั้งสายพันธุ์อื่น ๆ อีกกว่า 10 สายพันธุ์ รวมทั้งสิ้น 80 ต้น เมื่อเดินเข้าไปในสวนก็จะได้กลิ่นอันหอมหวานของดอกบ๊วยอบอวลฟุ้งกระจายอยู่ตลอดเวลา ได้กลิ่นชัดเจนแม้จะใส่แมสก์อยู่ก็ตาม
นอกจากสวนที่ต้องเสียค่าเข้าชมแล้ว บริเวณหน้าศาลเจ้าก็มีต้นบ๊วยอยู่เช่นกัน โดยทั่วไปแล้วดอกบ๊วยพันธุ์ที่บานเร็วจะเริ่มออกดอกตอนปลายเดือนมกราคม บานเต็มที่ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และบานให้ชมได้นานถึงกลางเดือนมีนาคมเลยทีเดียว สำหรับการเปิดให้เข้าชมสวนดอกบ๊วยในปี 2022 นั้น ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็คาดการณ์กันว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคมค่ะ
หากคุณผู้อ่านไปชมดอกบ๊วย ก็อย่าลืมมองหานกเมจิโระ (メジロ) กันด้วยนะคะ โดยเฉพาะที่ศาลเจ้ายูกิที่มีดอกบ๊วยปลูกกันอย่างหนาแน่น นกสีเขียวตัวนี้จะมีสีขาวอยู่บริเวณรอบดวงตา ทำให้ได้ชื่อว่า "เมจิโระ" เป็นนกขนาดเล็กที่ชอบกินน้ำหวานจากดอกไม้โดยเฉพาะดอกบ๊วย จึงสามารถพบได้ตามต้นบ๊วยที่ออกดอกบานสะพรั่งนั่นเอง
วิธีสังเกตก็ไม่ยากค่ะ นอกจากจะฟังเสียงนกร้องจิ๊บ ๆ แล้ว ก็สามารถสังเกตได้จากการที่อยู่ดี ๆ เหล่าตากล้องชาวญี่ปุ่นก็พากันส่องเลนส์ขึ้นไปตามยอดไม้ในทิศทางเดียวกัน เดาไว้ก่อนเลยว่าน่าจะมีนกเมจิโระที่กำลังเอร็ดอร่อยกับน้ำหวานของดอกบ๊วยอยู่ในบริเวณนั้น
ส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสถานที่ชมดอกบ๊วยขึ้นชื่อของจังหวัดมิเอะ นอกจากสองที่นี้แล้ว สวนที่โด่งดังอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดมิเอะก็คือ สวนอินาเบะ ซิตี้ โนเกียวโคเอ็น (いなべ市農業公園) ที่ตั้งอยู่ในเมืองอินาเบะ ตัวผู้เขียนเองยังไม่เคยไป เพราะฉะนั้น หากใครเคยไปมาแล้วก็สามารถมาเล่าสู่กันฟังได้ผ่านช่องทางติดต่อของ tsunagu Japan กันได้นะคะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่