20 จุดชมซากุระ 2020 ทั่วญี่ปุ่น (นอกโตเกียว)
ปี 2020 ใครกำลังหาสถานที่ชม "ซากุระ" ที่ญี่ปุ่น ใหม่ๆ ที่ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ซ้ำใคร ต้องดู! เพราะ tsunagu Japan จะพาทุกคนไปที่จุดถ่ายรูปซากุระเก๋ๆ มากถึง 20 จุด นอกเมืองโตเกียว จะมีที่ไหนบ้างนั้นมาตามดูกันได้เลย
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ฮานามิ (Hanami) ไม่ใช่แค่ชื่อข้าวเกรียบกุ้งปรุงรสทอดกรอบแสนอร่อยของบ้านเราเท่านั้น แต่ยังเป็นชื่อของวัฒนธรรมสำคัญของญี่ปุ่นอย่างหนึ่งก็คือ การชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ นั่นเองค่ะ การได้ไปนั่งพักผ่อน เพลิดเพลินกับความงามของดอกไม้ โดยเฉพาะ "การชมซากุระ" และ "‘การชมดอกบ๊วย’" ในฤดูใบไม้ผลินั้น เป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ชาวญี่ปุ่นทำสืบต่อมาจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่น่ารักประจำฤดูใบไม้ผลิเลยล่ะค่ะ สถานที่ชมดอกซากุระสวยๆ นั้นกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ทั้งจุดชมซากุระในโตเกียว และจุดชมซากุระนอกโตเกียวที่มีชื่อเสียงก็คือ จุดชมซากุระโยโกฮาม่า ในบทความนี้เราจะพาไปแนะนำสถานที่ชมดอกซากุระนอกโตเกียวกัน ถ้าพร้อมแล้วอย่าลืมเตรียมเก็บอุปกรณ์ปิกนิกและอาหารสำหรับปาร์ตี้ให้พร้อม แล้วไปสนุกกับการเดินลอดอุโมงค์ซากุระและนั่งยืดเหยียดขาในบรรยากาศสบายๆ ของฤดูใบไม้ผลิกันค่ะ!
1. Goryokaku Fort [Hakodate, Hokkaido]
ป้อมปราการสไตล์ตะวันตกที่ถูกออกแบบมาเป็นรูปดาวสมส่วนแห่งนี้มีชื่อว่า Goryokaku โดดเด่นด้วยการที่มีต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ถูกปลูกเรียงรายรอบคูของป้อมปราการ ถ้าอยากรู้ว่าสวยงามแค่ไหนต้องลองขึ้นไปดูจากจุดชมวิวสูง 90 เมตรของตึก Goryokaku Tower หรือจะชื่นชมผ่านระดับสายตาด้วยการนั่งเรือล่องไปตามคูน้ำก็ได้ด้วย นอกจากนี้ วิวตอนกลางคืนเวลาที่มีแสงไฟสาดส่องไปที่กลีบดอกสีขาวอมชมพูนับล้านนั้นก็ดูอลังการน่าเกรงขามสุดๆ สำหรับใครที่ต้องการอยู่รอดูวิวตอนกลางคืนควรเตรียมเสื้อผ้าเพิ่มความอบอุ่นกันนิดนึงเพราะอากาศจะลดลงเหลือประมาณ 5 ถึง 15 องศาเซลเซียส และถ้าใครมีแพลนจะไปนั่งปิกนิก อย่าพลาดลองเมนูเด็ดสำหรับวงปาร์ตี้ที่นี่ ก็คือเนื้อแกะย่างบาร์บีคิวสไตล์มองโกเลียค่ะ ฤดูกาลชมดอกไม้ของที่นี่เริ่มต้นประมาณช่วงต้นถึงกลางเดือนพฤษภาคม
เว็บไซต์: www.hakonavi.ne.jp/site/course1/goryokaku.html (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Goryokakucho, Hakodate-shi, Hokkaido (Google Map)
2. Hirosaki Castle [Hirosaki, Aomori]
สวนสาธารณะ Hirosaki แห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เพราะมีต้นซากุระมากกว่า 50 สายพันธุ์ปลูกอยู่มากกว่า 2,600 ต้น ที่สำคัญที่นี่ได้รับการดูแลรักษาดีมากทำให้มีต้นซากุระที่อายุมากกว่า 100 อยู่ไม่น้อยกว่า 300 ต้น เลยทีเดียวค่ะ! จุดเด่นของที่นี่คือ ในช่วงที่ดอกไม้บานสะพรั่งพร้อมกันเมื่อลมพัดมาทำให้กลีบดอกซากุระร่วงลงในคูน้ำรอบๆ ปราสาท Hirosaki กลายเป็นแพกลีบดอกซากุระสีชมพูสวยงามน่าชม เทศกาลชมดอกซากุระที่สวน Hirosaki ในปี 2563 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2563 (วันเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง) ใครที่ต้องการใช้เวลานานๆ ในการชื่นชมดอกไม้ไปถึงช่วงเย็นอย่าลืมพกอุปกรณ์กันหนาวมาให้ครบเพราะอุณหภูมิช่วงกลางคืนอาจลดลงได้มากถึง 10 องศาเลยทีเดียวค่ะ
เว็บไซต์: www.hirosakipark.jp/en/
ที่ตั้ง: 1 Shimoshirogane-cho, Hirosaki-shi, Aomori (Google Map)
3. Ashino Park [Goshogawara, Aomori]
สวน Ashino ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Ashino เป็นสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมแห่งจังหวัดอาโอโมริ จุดเด่นของที่นี่คือการที่ต้นซากุระบานริมสองฝั่งของทางรถไฟทำให้เกิดเป็นอุโมงค์ซากุระที่ขึ้นปกคลุมอาณาเขตของสถานี Ashino Koen ของทางรถไฟสาย Tsugaru นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินเลียบฝั่งทะเลสาบที่คุณสามารถเดินเก็บภาพอันสวยงามของดอกซากุระกว่า 1,500 ต้นในช่วงบานเต็มที่ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมซากุระของที่นี่คือปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
เว็บไซต์: www.en-aomori.com/
ที่ตั้ง: Ashino, Kanagicho, Goshogawara-shi, Aomori (Google Map)
4. Kakunodate [Semboku, Akita]
เมือง Kakunodate มีชื่อเสียงเรื่องการเป็นเมืองที่มีหมู่บ้านซามูไรโบราณซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี ในฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระพันธุ์ Shidarezakura หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Weeping Cherry trees (ตามลักษณะของกิ่งก้านที่แผ่ย้อยลงมาด้านล่างเหมือนสายน้ำตก) จะผลิบานดอกสีชมพูระเรื่อปนขาวพร้อมกันเป็นเหมือนผืนผ้าใบสีชมพูที่คาดทับอยู่หน้าฉากของภาพหมู่บ้านด้านหลัง ต้นซากุระของที่นี่มีตำนานเก่าแก่กว่า 350 ปี และต้นซากุระที่อายุมากที่สุดมีอายุถึง 300 ปี ที่แม่น้ำไม่ไกลจากหมู่บ้านมีซากุระสายพันธุ์นิยม Somei Yoshino ปลูกเรียงรายยาวเป็นอุโมงค์อีกด้วย เทศกาลชมดอกซากุระจัดขึ้นราวช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี
เว็บไซต์: kakunodate-kanko.jp/language/en/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Kakunodatecho, Semboku-shi, Akita (Google Map)
5. Kitakami Tenshochi [Kitakami, Iwate]
สวนสาธารณะ Kitakami Tenshochi แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสามสถานที่ชมซากุระที่ดีที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) จุดสนใจอยู่ที่อุโมงค์ซากุระ 10,000 ต้นความยาว 2 กิโลเมตรที่อยู่เลียบแม่น้ำ Kitakami ในช่วงเวลาที่ดอกไม้บานสะพรั่งพร้อมกันจะสามารถเก็บภาพได้สวยงามมาก เทศกาลชมดอกซากุระของที่นี่จัดขึ้นช่วงประมาณต้นเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม มีรถม้านั่งและเรือเช่าให้บริการด้วย
เว็บไซต์: www.japan-iwate.info/
ที่ตั้ง: Tachibana , Kitakami-shi, Iwate (Google Map)
6. Miharu Takizakura [Tamura, Fukushima]
ต้นซากุระสายพันธุ์ Shidarezakura ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี ของที่นี่เป็นต้นซากุระที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับหนึ่งในสามของญี่ปุ่น ด้วยความสูงกว่า 13.5 เมตรและขนาดรอบต้น 8.1 เมตร ทำให้ต้นซากุระต้นนี้ดูยิ่งใหญ่มากเมื่อมีถึงฤดูกาลออกดอกแล้วบนต้นเต็มไปด้วยซากุระสีชมพูน้อยใหญ่ที่ประดับอยู่บนกิ่งก้านสาขาที่ห้อยย้อยลงมาราวสายน้ำตก หรือที่เรียกว่า Taki ในภาษาญี่ปุ่น การเดินทางมาที่นี่สะดวกสบายเพราะมีรถบัสให้บริการจากสถานี JR Miharu และยังมีรถไฟเที่ยวพิเศษที่จัดเส้นทางวิ่งผ่านบริเวณนี้ระหว่างฤดูดอกไม้บานด้วย ช่วงระยะเวลาที่ดอกไม้บานคือประมาณต้นถึงกลางเดือนเมษายน
เว็บไซต์: www.takizakura.com/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Sakurakubo, Taki, Miharumachi, Tamura-gun, Fukushima (Google Map)
7. Hanami-yama Park [Fukushima, Fukushima]
Hanami-yama เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของเจ้าของฟาร์มดอกไม้ที่เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชมตามความปรารถนาของเจ้าของสวนที่ต้องการแบ่งปันความสุขจากการชมดอกไม้ให้แก่ผู้อื่น ที่นี่ปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด เช่น ซากุระสายพันธุ์ Tokaizakura และ Somei Yoshino รวมถึงต้นไม้อื่นๆ พื้นที่ลาดเนินและบริเวณโดยรอบต่างดูสดใสมากขึ้นด้วยสีของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผลัดกันผลิบานแต่งแต้มความสวยงามให้ฉากหลังที่เป็นยอดเขา Azuma ที่ปกคลุมด้วยหิมะ สามารถเดินทางมาที่นี่ได้ด้วยรถบัสรอบพิเศษจากสถานี JR Fukushima ซึ่งจะให้บริการในฤดูใบไม้ผลิตตลอดเดือนเมษายน
เว็บไซต์: www.f-kankou.jp/en/
ที่ตั้ง: Hara, Watari, Fukushima-shi, Fukushima (Google Map)
8. Kenrokuen and Kanazawa Castle Park [Kanazawa, Ishikawa]
ตั้งแต่ช่วงต้นถึงปลายเดือนเมษายนสวนสาธารณะแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีชมพูของต้นซากุระมากกว่า 40 สายพันธุ์รวมกันมากกว่า 420 ต้น นอกจากตอนกลางวันแล้ว ภาพของดอกซากุระต้องกับแสงไฟในยามค่ำคืนของที่นี่ก็สวยงามมากไม่แพ้กันค่ะ เปิดให้เข้าชมฟรีเป็นการสาธารณะเป็นเวลา 7 วันนับตั้งแต่ดอกไม้เริ่มบาน (หลังจากนั้นจะมีการเก็บค่าเข้าชม)
เว็บไซต์: www.kanazawa-tourism.com/
ที่ตั้ง: Kenrokumachi, Kanazawa-shi, Ishikawa (Google Map)
9. Takato Castle Ruins Park [Ina, Nagano]
กลุ่มคนในพื้นที่ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันร่วมกันปลูกต้นซากุระสายพันธุ์ Takato Higanzakura ซึ่งเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นของที่นี่กว่า 1,500 ต้น แต่งแต้มสีสันให้พื้นที่โดยรอบปกคลุมไปด้วยสีแดงอมชมพูของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ในฤดูกาลท่องเที่ยวมีรถบัสให้บริการจากสถานี JR Takato ถึงที่นี่ เวลาเยี่ยมชมที่ดีที่สุดคือช่วงต้นเดือนเมษายน ภาพของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและต้นซากุระผลิดอกเป็นภาพวิวทิวทิศน์ที่สวยงามและหาชมได้ที่นี่ค่ะ
เว็บไซต์: takato-inacity.jp/h28/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Higashi Takato, Takatomachi, Ina-shi, Nagano (Google Map)
10. Takayama [Takayama, Gifu]
Takayama เป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องเรื่องการเป็นเมืองอนุรักษ์วัฒนธรรมถึงจะไม่ใช่เรื่องซากุระ แต่ถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่ในช่วงระหว่าง Spring Festival คุณอาจจะมาทันในช่วงเวลาที่ต้นซากุระกำลังเบ่งบานพอดี เชื่อได้เลยว่าซากุระของที่นี่จะทำให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบมากขึ้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมซากุระไม่แน่นอนแต่อยู่ราวๆ กลางถึงปลายเดือนเมษายน
เว็บไซต์: www.hida.jp/english/
ที่ตั้ง: Takayama-shi, Gifu (Google Map)
11. Okazaki Koen Park [Okazaki, Aichi]
สวนสาธารณะ Okazaki ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของปราสาท Okazaki ได้รับการจัดอันดับเป็นสถานที่ชมซากุระตอนกลางคืนที่ดีที่สุดในเขต Tokai ต้นซากุระมากกว่า 800 ต้น ถูกปลูกขึ้นในสวนสาธารณะริมแม่น้ำ ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ตลอดริมร่องน้ำสายใหญ่จะแน่นขนัดไปด้วยผู้คนและร้านค้าขายอาหารที่เดินซื้อของและชื่นชมความงามของดอกไม้กันอย่างคึกคัก เทศกาลดอกซากุระจัดขึ้นประมาณช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายน สามารถเดินเท้ามาจากสถานี Meitetsu Higashi Okazaki ได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์: www.aichi-now.jp/spots/detail?spot_id=37
ที่ตั้ง: 561, Koseicho, Okazaki-shi, Aichi (Google Map)
12. Yoshino-yama [Yoshino, Nara]
สนใจไปชมดอกซากุระแบบตามธรรมชาติดูบ้างไหมคะ? ถ้าใช่คุณควรไม่ควรพลาดโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์ชมดอกซากุระที่ภูเขา Yoshino ซักครั้ง เพราะที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของต้นซากุระที่ปกคลุมไปทั่วทั้งยอดเขา ต้นซากุระราวๆ 30,000 ต้น หลากหลายสายพันธุ์รวมถึงสายพันธ์ุ Yamazakura โตขึ้นประกอบกันเป็นภูเขาซากุระลูกแล้วลูกเล่าที่เรียงรายต่อกันเป็นทิวแถว ใช้เวลาเดินเท้า 3 นาทีจากสถานี Yoshinoyama ของทางรถไฟสาย Kintetsu ถึงสถานีกระเช้าลอยฟ้า Yoshinoyama Ropeway ช่วงเวลาที่คาดว่าดอกไม้จะบานสวยที่สุดอยู่ราวๆ ต้นถึงกลางเดือนเมษายน โดยจะบานเริ่มต้นจากตีนเขาไปจนถึงยอด อย่าลืมเตรียมเสื้ออุ่นๆ มาไว้ด้วยเพราะอุณหภูมิจะค่อนข้างหนาวอยู่ที่ประมาณ 5 ถึง 20 องศาเซลเซียสในเดือนเมษายนค่ะ
เว็บไซต์: www.yoshinoyama-sakura.jp/english/
ที่ตั้ง: Yoshinoyama, Yoshino-cho, Yoshino-gun, Nara (Google Map)
13. Himeji Castle [Himeji, Hyogo]
ปราสาท Himeji ถูกสร้างขึ้นในปี 1609 (พ.ศ. 2152) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมโดยเฉพาะหลังจากที่มีการบูรณะครั้งใหญ่ที่เพิ่งแล้วเสร็จไปเมื่อปี 2015 (พ.ศ. 2558) ปราสาทสีขาวสะอาดตาดูอลังการงดงามเมื่อมองประกอบกับภาพวิวของต้นซากุระที่บานพร้อมกันราว 1,000 ต้น บรรยากาศโดยรอบมักจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ดังนั้นถ้าคุณต้องการหามุมสงบเพื่อจะได้ชมดอกซากุระในบรรยากาศที่สบายๆ ขึ้นอีกหน่อยแนะนำให้ลองไปเยี่ยมเยียนพื้นที่บริเวณสวน Kokoen ข้างๆ ปราสาทซึ่งมีร้านอาหารญี่ปุ่นและห้องน้ำชาตั้งอยู่ให้บริการด้วย
เว็บไซต์: www.himeji-kanko.jp/en/
ที่ตั้ง: 68 Honmachi, Himeji-shi, Hyogo (Google Map)
14. Tsuyama Castle [Okayama]
สวน Kakuzan เป็นส่วนหนึ่งของปราสาท Tsuyama เป็นสถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของพื้นที่ญี่ปุนฝั่งตะวันตก มีต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น ขึ้นกระจัดกระจายอยู่โดยรอบพื้นที่ข้างๆ ปราสาทเก่า เมื่อมองลงมาจากบนกำแพงสูง 10 เมตรจะดูเหมือนมีทะเลดอกซากุระอยู่ตรงหน้า เทศกาลชมดอกไม้ของที่นี่จัดขึ้นราวต้นเดือนเมษายน สามารเดินทางจากสถานี JR Tsuyama ถึงที่นี่โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์: www.okayama-japan.jp/en/
ที่ตั้ง: 135 Yamashita, Tsuyama-shi, Okayama (Google Map)
15. Shiude-yama [Kagawa]
บนภูเขา Shiude ที่ความสูง 352 เมตร เป็นที่ที่คุณจะสามารถชื่นชมกับวิวทิวทัศน์แบบพาโนราม่าของทะเล Seto ได้อย่างไม่สะดุดตา ในฤดูใบไม้ผลิช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนจะสามารถเห็นภาพที่สวยงามราวภาพวาดของของต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นที่มีฉากหลังเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่และผืนน้ำนิ่งสงบสีฟ้าคราม สามารถเดินเท้าขึ้นเขาจากจุดจอดรถบัสป้าย Shiudeyama Tozanguchi ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ส่วนสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ JR Takuma เตรียมอุปกรณ์ปิกนิกของคุณให้พร้อมแล้วไปลุยเก็บวิวมุมสูงที่หาชมได้ยากนี้กันค่ะ
เว็บไซต์: www.mitoyo-kanko.com/?p=830 (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 451-1 Ohama Otsu, Takumacho, Mitoyo-shi, Kagawa (Google Map)
16. Miyajima [Miyajima, Hiroshima]
เกาะ Miyajima ในจังหวัดฮิโรชิม่าแห่งนี้เป็นที่ที่มีจุดชมวิวที่ดีที่สุดติดอันดับ Top 3 ของญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระประมาณ 1,900 ต้น หลากหลายสายพันธุ์จะแข่งกันเบ่งบานรอบๆ ศาลเจ้า Itsukushima ของที่นี่ และยังมีเส้นทางเดินชมซากุระ Uguisu ซึ่งเป็นทางเดินที่มีดอกซากุระเรียงรายให้ชมอย่างสวยงามเชื่อมต่อไปจนถึงสถานีกระเช้าลอยฟ้า ฤดูกาลชมดอกไม้เริ่มต้นราวปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน และถ้าใครได้มาแล้วอย่าพลาดชมแสงไฟยามค่ำคืนที่สวยงามและแสนจะโรแมนติกของแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งนี้กันนะคะ
เว็บไซต์: visit-miyajima-japan.com/en/
ที่ตั้ง: Miyajimacho, Hatsukaichi-shi, Hiroshima (Google Map)
17. Kintai-kyo Bridge [Iwakuni, Hiroshima]
Kintai-kyo เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองยามากุจิ (Yamaguchi) สะพานไม้ขนาดใหญ่ ความยาว 210 เมตร ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมคือการเชื่อมต่อไม้ทุกท่อนไว้ด้วยสลักแทนการใช้ตะปู บริเวณข้างสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์แห่งนี้มีสวน Kikko Koen ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการชมดอกไม้ ด้วยวิวอันสวยงามของต้นซากุระสายพันธุ์ Somei Yoshino กว่า 3,000 ต้น การเดินทางจากสถานี Iwakuni ใช้เวลา 20 นาทีโดยรถบัส ลงที่จุดจอดรถ Kintai-kyo ช่วงเวลาที่ดีที่สุดได้แก่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
เว็บไซต์: kintaikyo.iwakuni-city.net/en/
ที่ตั้ง: Yokoyama, Iwakuni-shi, Yamaguchi (Google Map)
18. Saitobaru Burial Mounds [Miyazaki]
ดอกสีชมพูของต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายยาว 800 เมตร กับทุ่งดอกเรฟซีดสีเหลืองมัสตาร์ด เป็นคู่สีที่ประกอบกันแล้วมองเห็นได้เด่นชัดจากระยะไกลทำให้บริเวณนี้เป็นจุดสนใจของสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ ยิ่งมองทอดสายตาไปเห็นท้องฟ้าสีฟ้าสบายตาหรือว่าจะเป็นแสงไฟที่ประดับประดายามค่ำคืนและร้านขายอาหารที่มักจะตั้งเรียงรายรอรับลูกค้าในฤดูกาลดอกไม้บานนั้น ยิ่งให้ทำประสบการณ์ที่คุณจะได้สัมผัสที่นี่น่าจะสวยงามไม่รู้ลืมเลยล่ะค่ะ เทศกาลของที่นี่จะจัดขึ้นช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน การเดินทางจะสะดวกที่สุดโดยรถยนต์ส่วนตัว ดังนั้นควรเผื่อเวลาสำหรับการหาที่จอดในลานจอดรถที่มักจะหนาแน่นในช่วงเทศกาลด้วยค่ะ
เว็บไซต์: www.saito-kanko.jp/eng/sightseeing/sakura-to-nanohana
ที่ตั้ง: Miyake Saitobaru, Saito-shi, Miyazaki (Google Map)
19. Isshingyo no Sakura [Minami Aso, Kumamoto]
ต้นซากุระอายุราว 400 ปีที่สูง 14 เมตร และมีเส้นรอบต้น 7.35 เมตรนี้ ตั้งตระหง่านอยู่นอกชานเมือง Aso ด้วยภูมิทัศน์ที่เปิดรอบทำให้สามารถมองเห็นภาพพาโนราม่าของต้นซากุระโบราณและภาพของภูเขา Aso ที่เป็นพื้นหลังไปพร้อมๆ กันในหลากหลายมุม ตำนานกล่าวไว้ว่าซากุระต้นนี้ถูกปลูกขึ้นเพื่อแสดงความเสียใจต่อขุนนางเก่าในระบบศักดินา การเดินทางมาที่นี่ใช้เวลาเดินเท้าไม่นานจากสถานี Nakamatsu ของทางรถไฟสาย Minamiaso
เว็บไซต์: www.vill.minamiaso.lg.jp/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 3226-1 Nakamatsu, Minamiaso-mura, Kumamoto (Google Map)
20. Nakijin Castle Remains [Okinawa]
ประสบการณ์การชมดอกซากุระที่โอกินาว่าจะแตกต่างจากพื้นที่อื่นของประเทศ เพราะที่นี่มีดอกซากุระสายพันธุ์ Hikanzakura ซึ่งมีสีชมพูเข้มกว่าดอกของสายพันธุ์ Somei Yoshino สายพันธุ์ที่โด่งดังในญี่ปุ่นแถบอื่น ปราสาท Nakijin แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ปกครองอาณาจักร Ryukyuan (รัฐเอกราชในศตวรรษที่ 15-19) ในฤดูใบไม้ผลิราวกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ บริเวณโดยรอบปราสาทจะถูกแต่งแต้มไปด้วยดอกซากุระสีเข้มสดสวยงาม การเดินทางสามารถเดินเท้าจากจุดจอดรถ Nakijin Entrance ได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์: nakijinjo.jp/english/index.html
เว็บไซต์: nakijinjo.jp/chinese/index.html (ภาษาจีน)
ที่ตั้ง: 5101 Imadomari, Nakijin-son, Kunigami-gun, Okinawa (Google Map)
เคล็ดลับในการชมซากุระ
ในญี่ปุ่นนั้นมีซากุระที่นิยมปลูกอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่โด่งดังและนิยมปลูกมากที่สุดคือ Somei Yoshino ซากุระแต่ละพันธุ์จะมีความแตกต่างกันตั้งแต่ลักษณะของต้น สีของกลีบดอก หรือจำนวนกลีบ และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมซากุระแต่ละสายพันธุ์ก็จะแตกต่างกันไปทั้งตามธรรมชาติของต้นและสภาพของแต่ละพื้นที่ด้วย อากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิอาจจะไม่ค่อยคงที่ในแต่ละปี ดังนั้น ควรตรวจสอบสภาพอากาศของจุดหมายปลายทางที่จะไปก่อนการเดินทางและเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและเสื้อผ้าให้เพียงพอที่จะทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าหากไปเที่ยวทางตอนเหนือของประเทศ ไปบนภูเขา หรือไปดูดอกไม้ในยามค่ำคืน
สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ หลายแห่งจะซุ้มขายอาหาร แต่ถ้าต้องออกไปเที่ยวในพื้นที่บริเวณชานเมืองมากๆ แนะนำให้เตรียมชุดอาหารเที่ยงหรือจัดเซทปิกนิกไปให้พร้อม เพื่อความสบายใจและการท่องเที่ยวที่ราบรื่นค่ะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
เกี่ยวกับนักเขียน
