โตเกียว 1 วันทำอะไรดี !? : สุดยอดแผนเที่ยว กิน ช็อป 1 วัน สำหรับใครที่มาโตเกียวเป็นครั้งแรก!

มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงในโตเกียวทำอะไรดี?! ได้เจอบทความนี้แล้วไม่ต้องกังวลไป เพราะแพลนเที่ยว 1 วันนี้จะช่วยให้คุณได้เที่ยวไฮไลท์ของโตเกียวตั้งแต่อาซากุสะ ตลาดปลาสึคิจิ ไปจนถึงชิบูย่า และคาบุกิโจในชินจูกุ แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีเคล็ดลับเที่ยวโตเกียวแบบประหยัด วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปที่เที่ยวแต่ละแห่ง วิธีเลือกที่พัก อาหารที่ห้ามพลาด และอื่นๆ อีกมากมาย ไปดูกันเลยว่าจะใช้เวลา 1 วันในโตเกียวให้คุ้มค่าที่สุดได้ยังไง !

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

9:00 น. : ตลาดปลาสึคิจิ (築地市場)

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้มาโตเกียวครั้งแรกไม่ควรพลาด เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดปลาสึคิจิฝั่งนอก (Tsukiji Outer Market) เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาดขายส่งอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีสุดสำหรับการลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่คุณภาพสูง

เนื่องจากร้านส่วนใหญ่เปิดและปิดค่อนข้างเร็ว จึงเป็นสถานที่แห่งแรกที่ควรเดินทางมาในตอนเช้า สำหรับผู้เขียนจะพยายามมาถึงตลาดตอนประมาณ 9:00 น. นั่นเอง

นอกจากเมนูอาหารทะเลปริมาณเน้นๆ แล้ว ยังมีสตรีทฟู้ดจำนวนมากขายอยู่ตามถนนอีกด้วย ด้านล่างนี้คือรายการเมนูห้ามพลาดที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษ

ทามาโกะยากิ (ไข่ม้วนย่าง) เสียบไม้! ทามาโกะยากิส่วนใหญ่ที่คุณจะพบในตลาดปลาสึคิจิคือ ดาชิมากิ (dashi-maki) ซึ่งมีการผสมน้ำสต๊อกญี่ปุ่นเข้ากับส่วนผสมอื่นๆ ทำให้ทามาโกะยากิมีรสอ่อนๆ แต่อร่อย หลายๆ คนอาจชอบเวอร์ชั่นนี้มากกว่าแบบหวานหรือเค็มที่พบได้ทั่วไป

ภาพด้านบนคือซูชิประเภทหนึ่ง เรียกว่า อินาริซูชิ (Inari-zushi) ที่มีหน้าเป็นอาหารทะเล เป็นเมนูแสนอร่อยที่ห่อข้าวปั้นก้อนด้วยเต้าหู้ทอด ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพดีเช่นเดียวกับอาหารอื่นๆ ในตลาดสึคิจิ โดยวัตถุดิบส่งตรงมาจากตลาดปลาโทโยซึ (Toyosu) เลยนั่นเอง

เนื่องจากเป็นเมนูที่หาได้ยากนอกตลาดสึคิจิ จึงไม่ควรพลาดที่จะลองรับประทานดูสักครั้ง! อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแต่ละชิ้นมีปริมาณที่อัดแน่นเป็นอย่างมาก จึงควรเผื่อท้องไว้ก่อนมารับประทาน

ภาพด้านบนเป็นเมนูที่มีชื่อว่า "ไคเซนด้ง" (Kaisen-don) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมีความหมายว่า ข้าวหน้าอาหารทะเล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของตลาดปลาสึคิจิ! แต่ละร้านจะมีเวอร์ชั่นที่แตกต่างกันไป บางแห่งสามารถเลือกปรับแต่งหน้าได้เองอีกด้วย

ร้านส่วนใหญ่จะให้ปริมาณตามที่เห็นอยู่ในรูปด้านบน แต่หากท้องคุณว่างพอแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองไคเซนด้งของร้าน Sushikuni ที่ล้นไปด้วยหอยเม่นและ (หรือ) ไข่ปลาแซลมอน! รับรองว่าอร่อย ถ่ายรูปสวย และหาทานที่อื่นไม่ได้แน่ๆ

หากสนใจซื้อของฝาก เราขอแนะนำมีดพ่อครัวญี่ปุ่นที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องครัวในตลาด ในฐานะคนที่อยู่ญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน เราขอการันตีว่ามีดญี่ปุ่นนั้นทั้งคม ทนทาน และมีรูปร่างที่สวยงามอย่างแน่นอน มีดเป็นอุปกรณ์ที่คนชอบทำครัวควรมีเก็บไว้สักเล่ม! อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่ามีราคาสูง และอาจลำบากในการนำกลับไทยนั่นเอง

เคล็ดลับ: วิธีที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวในต่างแดนก็คงไม่พ้นการเที่ยวโดยมีไกด์ท้องถิ่นที่สามารถสื่อสารกับคุณได้ และสามารถนำทางคุณไปยังจุดท่องเที่ยวและอาหารที่ดีที่สุด

สำหรับตลาดปลาสึคิจินั้น หนึ่งในตัวเลือกที่ถูกที่สุด (และดีที่สุดในความเห็นของเรา) คือ Magicaltrip's Tsukiji Fish Market Walking Food Tour สามารถคลิกที่ลิงก์เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมและทำการจองได้

12:00 น. : อาซากุสะ (浅草)

ถนนช็อปปิ้งนาคามิเสะ (仲見世通り)

ถนนช็อปปิ้งแห่งนี้จะพาคุณไปยังวัดเซนโจจิหรือวัดอาซากุสะ หนึ่งในวัดที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น ผู้คนจำนวนมากแวะเวียนกันมาที่นี่เพื่อชื่นชมทิวทัศน์แบบสมัยก่อน สตรีทฟู้ดแสนอร่อย และร้านค้าที่เต็มไปด้วยของฝากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดาบ หน้ากาก และอื่นๆ อีกมากมาย! เป็นสถานที่ที่ผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับญี่ปุ่นควรแวะมาลองสัมผัส

มีเมนูที่ห้ามพลาดมากมายบนถนนสายนี้ ในบรรดาเมนูดังกล่าว 2 รายการต่อไปนี้คือสิ่งที่เราคิดว่าเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่

อันดับแรกคือเมล่อนปัง! ถึงจะสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ทำให้เมล่อนปังของอาซากุสะโดดเด่นก็คือ ขนาดที่ใหญ่ไม่เหมือนใคร โดยมีขนาดใหญ่เกือบสองเท่าของเมล่อนปังทั่วๆ ไป อีกทั้งเมล่อนปังที่อบเสร็จใหม่ๆ จะส่งกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายไหล!

อันดับที่สองคือ นิงเงียวยากิ (人形焼) ในรูปด้านบน เป็นขนมเค้กชิ้นเล็กๆ ที่มีรูปร่างเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ ของญี่ปุ่น ชิ้นในรูปด้านบนนี้ทำเลียนแบบโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่หน้าถนนช็อปปิ้งนาคามิเสะ เป็นพร็อพถ่ายรูปที่ดีสุดๆ แถมยังอร่อยด้วยนะ

ถนนช็อปปิ้งนาคามิเสะยังเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโตเกียวสำหรับการหาซื้อสินค้าพื้นบ้านญี่ปุ่น โดยเฉพาะสองสิ่งนี้ที่เราอยากให้คุณซื้อเก็บไว้

อย่างแรกคือกิโมโน! ร้านค้าในญี่ปุ่นที่ขายกิโมโนในราคาที่สบายกระเป๋านั้นหาได้ค่อนข้างยาก แต่ที่อาซากุสะนั้นถือว่าเป็นข้อยกเว้น แน่นอนว่าราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ คุณภาพ และผู้ผลิต แต่ที่นี่มีกิโมโนให้เลือกอยู่มากมายจนสามารถการันตีได้ว่าจะได้พบกับกิโมโนที่เหมาะกับงบของตัวเองอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้แม้แต่คนท้องถื่นก็มักจะมาที่ถนนสายนี้

พัด เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่คิดว่ากิโมโนมีราคาสูงเกินไป มีร้านเฉพาะทางหลายร้านอยู่ในถนนสายนี้ที่ขายพัดพับได้รูปแบบต่างๆ รวมไปถึงแบบที่มีดีไซน์เฉพาะตัวเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ ที่จะทำให้นึกถึงทริปการเดินทางในญี่ปุ่นทุกๆ ครั้งที่หันมามอง ชาวญี่ปุ่นในท้องที่มักจะมาหาซื้อพัดที่ร้านเหล่านี้เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน

วัดเซนโจจิ (浅草寺)

หากมาถนนช็อปปิ้งนาคามิเสะแล้วไม่ได้เลยมาที่วัดชื่อดังแห่งนี้จะน่าเสียดายมาก วัดเซนโซจิเป็นสถานที่ที่คุณสามารถมาซื้อเครื่องราง ทำนายดวงชะตาตลอดทั้งปี และขอพรให้ปีนี้เป็นปีที่ประสบความสำเร็จ การสักการะในวัดจะแตกต่างไปจากการสักการะในศาลเจ้าเล็กน้อย โดยให้ทำการโค้งคำนับเพียงครั้งเดียวแทนที่จะเป็นสองครั้ง และประนมมืออย่างเงียบๆ แทนที่จะเป็นการตบมือดังๆ ระวังไว้ด้วยนะ อย่าสับสนล่ะ!

เคล็ดลับ: การเดินสำรวจที่นี่ให้ทั่วนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก หากคุณมีเวลาเพียงวันเดียวในโตเกียว เราขอแนะนำให้ประหยัดเวลาด้วยการใช้บริการทัวร์! Magicaltrip's Asakusa Cultural & Street Food Walking Tour เป็นทัวร์อันดับต้นๆ ที่เราขอแนะนำทั้งราคาและความคุ้มค่า อีกทั้งไกด์ก็ยังเป็นกันเองอีกด้วย!

คุณสามารถคลิกที่ลิงก์ด้านบนเพื่อดูรายละเอียดและจองได้ หากคุณต้องการอ่านรีวิวของทัวร์ดังกล่าวแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้อ่านบทความนี้

16:00 น. : โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

โตเกียวสกายทรีถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 2011 เป็นหอคอยที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นและยังเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีความสูงทั้งสิ้น 634 เมตร เดิมสร้างขึ้นเพื่อกระจายสัญญาณโทรทัศน์ และทำหน้าที่เป็นหอสำรวจพื้นที่ในบริเวณรอบๆ มีชั้นชมวิวขนาดใหญ่อยู่บนชั้น 350 และ 450 ซึ่งใครๆ ก็สามารถขึ้นไปรับชมวิวที่กว้างขวางของเมืองโตเกียวได้

ใกล้ๆ กับโตเกียวสกายทรี มีศูนย์การค้าขนาดมหึมาที่ชื่อว่า Tokyo Solamachi ภายในมีร้านค้าและร้านอาหารกว่า 300 ร้าน รวมไปถึงท้องฟ้าจำลองและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และสิ่งน่าสนใจมากมายจนเที่ยวทั้งวันก็ไม่หมด

เนื่องจากจุดหมายหลักของเราคือโตเกียวสกายทรี เราจึงใช้เวลาที่นี่ไม่มาก แต่ถ้ามีเวลาเหลือแล้วล่ะก็ขอแนะนำว่าควรจะลองแวะไปเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีร้านดังๆ ให้เลือกช็อปมากมาย อย่าง UNIQLO, Disney, Loft, และ Pokemon Center!

ขึ้นโตเกียวสกายทรีแล้วก็ต้องถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของโตเกียว!

เราขอแนะนำช่วงที่วิวสวยที่สุดคือ ช่วงพระอาทิตย์ตกดินและช่วงกลางคืน หากเดินทางมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูหนาว และมาถึงตามตารางเวลาของเราแล้วล่ะก็ เป็นไปได้ที่จะทันรับชมวิวทั้งสอง แต่ขอแนะนำว่าไม่ควรชมวิวเพลินจนลืมเวลาเพราะยังมีสถานที่อื่นๆ อีกมากมายรอคอยคุณอยู่ในทริปนี้!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

18:30 น. : ชิบูย่า (渋谷)

หากไม่แวะไปเที่ยวชิบูย่าก็เหมือนยังมาไม่ถึงโตเกียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มาโตเกียวเป็นครั้งแรกขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด!

ชิบูย่าเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากถึงขนาดที่เพื่อนและคนในครอบครัวของผู้เขียนจะแวะไปชิบูย่าทุกครั้งที่มีโอกาสได้มาญี่ปุ่น จุดไฮไลท์ของย่านนี้คือ Shibuya Scramble หรือแยกชิบูย่า หนึ่งในแยกที่พลุกพล่านที่สุดในโลก และมีวิวสวยงามมากในยามค่ำคืน

ขอแนะนำให้ลองเข้าไปถ่ายรูปท่ามกลางผู้คน แต่อย่าลืมดูความปลอดภัย และระวังอย่าทำผิดกฏจราจรนะ!

อีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดของชิบูย่าก็คือ ฮาจิโกะ (Hachiko Memorial Statue) รูปปั้นของสุนัขที่เฝ้ารอเจ้าของจนลมหายใจสุดท้าย แม้ว่าจะมีการอนุญาตให้สัมผัสและถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นได้อย่างอิสระ แต่ก็ควรระมัดระวังเรื่องมารยาท และเข้าแถวรอคิวก่อนที่จะเดินเข้าไป ในบางช่วงของวัน ก็มีคนมารอถ่ายรูปคู่กับเจ้าฮาจิโกะเยอะจนต้องต่อแถวเลยล่ะ!

Klook.com

20:00 น. : คาบุกิโจ (歌舞伎町)

ในอดีตคาบุกิโจเคยเป็นย่านที่ทรุดโทรมที่สุดของญี่ปุ่น แม้ว่าในทุกวันนี้ก็ยังไม่ควรเดินเล่นในย่านนี้ในยามวิกาล แต่ที่นี่ก็ได้กลายมาเป็นย่านที่คล้ายกับจุดท่องเที่ยว ซึ่งเต็มไปด้วยอาหาร สิ่งบันเทิง และสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นจุดท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ดีที่สุดของโตเกียวเลยก็ว่าได้!

หากโชคดีเดินทางมาถึงก่อน 2 ทุ่มเล็กน้อย คุณจะได้พบกับก็อตซิล่าขนาดใหญ่โผล่หัวออกมาจากมุมของตึก Toho Cinemas โดยจะทำการคำรามอยู่ไม่กี่วินาที ก่อนที่จะหลบเข้าไปนอนต่อ ก็อตซิล่าจะทำแบบนี้ทุกหนึ่งชั่วโมงในช่วงเวลา 12:00 - 20:00 น. แต่ก็เป็นภาพหายากที่มีคนเห็นไม่มากนัก ควรกะเวลามาถึงให้ดีเพื่อที่จะได้ไม่พลาดชม!

รู้ไหมว่าคุณสามารถจับตัวก็อตซิล่าได้ด้วย? เพียงแค่สั่งอาหารหรือเครื่องดื่มรับประทานที่ Cafe Terrace Bonjour คาเฟ่บนชั้น 8 ของตึก Toho เท่านั้น ก็ได้เจอกับก็อตซิล่าแล้ว!

คาเฟ่นี้แห่งเปิดให้สั่งอาหารได้ถึง 20:30 น. หากเดินทางมาถึงตามแผนการนี้แล้ว ก็จะมีเวลาเหลือเฟือ! นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีฟิกเกอร์ก็อตซิล่าอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

Don Quijote หรือที่เรียกกันว่า ดองกิโฮเต้ คืออีกจุดหนึ่งที่ควรแวะไปก่อนออกจากคาบุโจ Don Quijote สาขาคาบุโจนั้นเป็นหนึ่งในสาขาที่มีขนาดใหญ่และคึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ในทุกๆ วันมีนักท่องเที่ยวมากมายแวะเวียนกันมาเลือกซื้อของฝาก หรือเพียงแค่มาเดินเล่นเพื่อดูสินค้าญี่ปุ่นที่น่าสนใจต่างๆ

Don Quijote นับว่าเป็นหนึ่งในร้านที่จำหน่ายสินค้าราคาถูกที่สุดในญี่ปุ่น เป็นร้านที่ไม่ควรพลาดเลย ดังนั้นอย่าลืมวางแผนมาที่นี่ด้วยนะ!

21:00 น. : Robot Restaurant

Robot Restaurant ไฮไลท์การท่องเที่ยวโตเกียวยามค่ำคืนของทุกคน! รับชมหุ่นยนต์และมนุษย์ทำงานร่วมกันเพื่อเสิร์ฟอาหารและเอนเตอร์เทนลูกค้า ค่ำคืนนี้จะน่าตื่นเต้นด้วยการแสดงที่ไม่ธรรมดาและดนตรีที่เร้าใจ 

ที่นี่ยังเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวในโลกที่มีการแสดงประเภทนี้ให้คุณได้สัมผัส ดังนั้นหากได้มาเที่ยวญี่ปุ่นจึงไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง!

แม้ว่า Robot Restaurant จะคุ้มค่าแก่การเข้าชม แต่ราคาจะสูงอยู่เล็กน้อย โดยมีค่าเข้าที่สูงถึง 8,000 เยน ค่าอาหารอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 1,500 เยนต่อเมนู เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย เราขอแนะนำให้ซื้อตั๋วแรกเข้าผ่านทาง Voyagin โดยคุณจะได้รับส่วนลด 34% สำหรับตั๋วกลางวัน และ 18% สำหรับตั๋วกลางคืน!

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือทำการจอง

เคล็ดลับ: ขอแนะนำให้ทานอาหารก่อนหรือหลังเข้าไปรับชม เนื่องจากคุณสามารถหารับประทานอาหารอร่อยๆ ในราคาแค่ประมาณ 1,000 เยน ได้ที่ร้านในบริเวณใกล้เคียง!

23:00 น. : เที่ยวบาร์ในชินจูกุ

ไหนๆ ก็อยู่ในชินจูกุแล้ว ก็ไม่ควรพลาดเที่ยวบาร์หลังจากออกมาจาก Robot Restaurant! ที่ชินจูกุมีย่านที่โด่งดังเรื่องบาร์อยู่ 2 ย่านที่ผู้คนนิยมไปกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ Golden Gai ดังที่เห็นอยู่ในรูปด้านบน มาดื่มและเที่ยวไปกับบาร์และร้านอาหารเล็กๆ อัดแน่นอยู่ในตรอกที่มีมนต์เสน่ห์แบบญี่ปุ่นสมัยก่อนจำนวนมากมายในย่านนี้กันเถอะ!

สำหรับใครที่ต้องการบรรยากาศที่สดใสกว่า เราขอแนะนำ โอโมอิเดะโยโกะโจ (思い出横丁) ที่เห็นอยู่ในรูปด้านบน แฟนตัวยงของอาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิคอย่างยากิโทริ (ไก่ย่างเสียบไม้) ยากินิคุ (บาร์บีคิวญี่ปุ่น) และราเมง มักจะพากันมาที่ถนนสายนี้เพื่อเพลิดเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่มราคาไม่แพง

แม้ว่าทุกร้านจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก อาจจะรู้สึกอึดอัดสักหน่อย แต่ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้กลายเป็นเพื่อนกับลูกค้าที่นั่งดื่มอยู่ข้างๆ!

เคล็ดลับ: คนในท้องถิ่นมักจะเชี่ยวชาญเรื่องในพื้นที่มากที่สุด เราจึงขอแนะนำทัวร์เที่ยวบาร์ที่มีไกด์เป็นคนในท้องที่ที่พูดภาษาอังกฤษได้

ในกรณีของชินจูกุ เราขอแนะนำ Magicaltrip's Tokyo Bar Hopping Night Tour in Shinjuku คุณจะได้เข้าบาร์หลายแห่ง พูดคุยกับเจ้าของร้านและลูกค้าในท้องที่ และรับประทานเมนูแนะนำหลากหลายเมนู! คลิกที่ลิงก์เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและทำการจองได้เลย!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมทริปเที่ยวญี่ปุ่น

→ โตเกียวมีสนามบินอยู่ 2 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ สนามบินนาริตะ ที่ค่อนข้างห่างจากตัวเมือง ขอแนะนำให้อ่าน วิธีการเดินทางจากสนามบินนาริตะไปโตเกียว จากคู่มือสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ของเรา

→ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายโดยจองตั๋วเดินทางจากสนามบินไปยังกลางเมืองโตเกียวไว้ล่วงหน้า! รับส่วนลด 27% ของตั๋วรถบัสจากนาริตะไปโตเกียวโดยจองผ่านเว็บไซต์นี้ และเว็บไซต์นี้สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสนามบินฮาเนดะ

→ วิธีการเดินทางที่เราได้แนะนำไปนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากไม่เข้าใจระบบการขนส่งในโตเกียว หรือไม่รู้วิธีการใช้บริการ เราขอแนะนำให้อ่านคู่มือเกี่ยวกับการเดินทางโดยรถไฟในโตเกียว

→ ทุกวันนี้เราพึ่งพาอินเตอร์เน็ตอย่างมากในการช่วยนำทางเวลาท่องเที่ยว ที่ญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน อีกบทความที่ไม่ควรพลาด คู่มือการใช้บริการอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น 

ที่พักแนะนำในโตเกียว

หากคุณตั้งใจจะเที่ยวตามแพลนนี้ เราขอแนะนำให้จองที่พักใกล้ๆ สถานีชินจูกุ เผื่อไว้ในกรณีที่คุณพลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย จะได้ไม่ลำบากในการเดินทางกลับโรงแรม อีกทั้งสถานีชินจูกุยังเป็นสถานีขนส่งหลักที่เชื่อมรถไฟหลายๆ สายไว้ด้วยกัน ทำให้สะดวกต่อการเดินทางไปยังส่วนอื่นๆ ของโตเกียวอีกด้วย

ด้านล่างนี้คือโรงแรมยอดนิยมแถวสถานีชินจูกุบางส่วนที่เราได้คัดเลือกมาแล้ว!

Booth Net Cafe & Capsule

หากคุณต้องการประหยัด และกำลังมองหาที่พักที่มีเอกลักษณ์ เราขอแนะนำโรงแรมแคปซูลแห่งนี้! แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมหากต้องการใช้บริการห้องอาบน้ำและล็อคเกอร์ แต่ราคาและที่ตั้ง ที่เดินเพียง 5 นาทีถึงสถานีชินจูกุนั้น ไม่มีโรงแรมไหนสู้ได้เลย!

โรงแรมนี้มีอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ภายใน ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในส่วนคาเฟ่เลานจ์ของโรงแรมได้ในเวลาว่าง หรือจะหาอะไรอ่านในห้องสมุดมังงะของที่นี่ก็ได้ แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่ก็ไม่แพง และยังเหมาะกับการฆ่าเวลาเป็นอย่างมาก

HotelAffiliate

APA Hotel Shinjuku-Kabukicho Tower

ที่นี่เป็นโรงแรมที่มีห้องพักขนาดค่อนข้างเล็กเช่นเดียวกับโรงแรมหลายๆ แห่งในญี่ปุ่น แต่ก็ยังมีข้อดีอื่นๆ อยู่อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น หมอนนุ่มๆ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และมีโรงอาบน้ำสาธารณะบนชั้น 28 ที่มองเห็นวิวยามค่ำคืนของคาบุกิโจ

ถึงจะตั้งอยู่ในสถานที่ที่เดินทางสะดวก แต่โรงแรมนี้ตั้งหันหน้าเข้าหาคลับดิสโก้ จึงอาจมีเสียงดังหนวกหูได้ในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตาม มีแขกของโรงแรมเพียงไม่กี่รายที่บ่นเกี่ยวกับเรื่องเสียง จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่นักหากตัดสินใจที่จะพักที่นี่

HotelAffiliate

Hotel Gracery Shinjuku

โรงแรมนี้มีคาเฟ่ที่มีก็อตซิล่าให้สัมผัสและถ่ายรูปได้ตามที่เรากล่าวไปข้างต้น ที่เรายังไม่ได้บอกคือ หากพักที่โรงแรมนี้แล้วล่ะก็ คุณจะได้รับสิทธิพิเศษในการสัมผัสกับก็อตซิล่าทั้งตัวที่ตั้งอยู่ในและนอกคาเฟ่! นอกจากนี้จากโรงแรมถึง ทางออกตะวันออกของสถานี JR ชินจูกุยังใช้เวลาเดินเพียง 5 นาทีเท่านั้น จึงสะดวกต่อการเดินทางไปทุกๆ ที่ในโตเกียว

แขกที่เข้าพักในโรงแรมนี้ต่างชื่นชมในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องพักที่สะอาด การให้บริการที่เป็นกันเอง และอาหารเช้าที่อร่อย โรงแรมนี้มีรีวิวในแง่ลบค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นๆ ในละแวก ทำให้เราเชื่อว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่จะมอบประสบการณ์ดีๆ ให้กับใครหลายๆ คน!

HotelAffiliate

โตเกียวเที่ยวไม่ยาก!

แม้ว่าคุณจะมีเวลาเพียงวันเดียวในการเที่ยวโตเกียว คุณก็สามารถเที่ยวสถานีที่หลักๆ ของโตเกียวได้เกือบทั้งหมด! เราใช้คำว่า "เกือบ" เนื่องจากเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอะไรอยู่อีกมากมายนอกเหนือจากที่เราได้นำเสนอไปนั่นเอง

ตัวอย่างเช่น ฮาราจูกุ หนึ่งในสถานที่ที่เราไม่สามารถใส่ลงไปในแผนเที่ยวได้ เนื่องจากการเที่ยวย่านนี้จำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่คุณก็สามารถแวะไปได้เช่นกันหากใช้เวลาในแต่ละที่น้อยกว่าที่เราวางแผนไว้

อีกตัวเลือกหนึ่งคือแวะไปตอน 9:00 น. ของเช้าวัดถัดไป หากคุณสามารถหาเวลาไปฮาราจูกุได้ เราขอแนะนำบทความ50 สิ่งห้ามพลาดในฮาราจูกุ

โดยสรุปแล้ว แพลนเที่ยวนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่มาโตเกียวครั้งแรก และต้องการเที่ยวสถานที่ต่างๆ ให้มากที่สุดในเวลาที่จำกัด มาสนุกกับโตเกียวกันเถอะ!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

 

* หากคุณทำการจองผ่านลิงก์ในบทความนี้ ทางเราจะได้รับค่าส่วนแบ่งเล็กน้อย ทุกการจองจะช่วยสนับสนุนเว็บไซต์ของเรา และทำให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์ดีๆ เกี่ยวกับญี่ปุ่นได้มากขึ้นไปอีก ขอขอบคุณเป็นอย่างสูง!

มนต์เสน่ห์คันโต

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan
นี่คือแอ็คเคาท์ทางการของ tsunagu japan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร