30 จุดท่องเที่ยวธรรมชาติและสถานที่น่าไปในญี่ปุ่น บอกเลยว่าไม่ควรพลาด!!!

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ แล้ว สถานการณ์โลกในปัจจุบันยังทำให้ผู้คนสนใจการท่องเที่ยวธรรมชาติที่ห่างไกลฝูงชนกันมากขึ้นด้วย ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำ 30 จุดท่องเที่ยวยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว และแหล่งเที่ยวชมธรรมชาติที่ติดอันดับใน TripAdvisor ให้ทุกคนได้รู้จักกัน จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนกังวลใจเกี่ยวกับการไปเที่ยวต่างประเทศ คือ การตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในประเทศนั้นนั่นเอง หากมาเที่ยวญี่ปุ่นคุณก็อาจจะนั่งเครื่องบินมาลงที่โตเกียว ค้างคืนสักช่วงเวลาหนึ่ง แล้วค่อยใช้ JR Rail Pass ในการเดินทางเที่ยวไปทั่วประเทศ

แต่จะไปไหนดี? แล้วทำไมถึงควรไปยังสถานที่นั้นๆ ด้วย? แน่นอนว่าคุณจะต้องอยากไปดูวัดและศาลเจ้า ปราสาท พระพุทธรูปขนาดยักษ์ หรือไม่ก็พิพิธภัณฑ์ แต่มีเยอะขนาดนี้ก็คงเลือกยากว่าจะไปที่ไหน เมืองไหน หรือจังหวัดไหนดี

ดังนั้น เราขอเสนอให้คุณเข้าเว็บไซต์ TripAdvisor เพื่อหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ไม่ต้องไปนั่งอ่านไกด์บุ๊คหรือดูรายการพิเศษของ NHK กันอีกต่อไป ในวันนี้เราได้รวม 30 แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในญี่ปุ่นที่โหวตโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราจะไล่ตั้งแต่อันดับที่ 30 ไปจนถึงอันดับ 1 พร้อมบอกรายละเอียดสถานที่และรีวิวคร่าวๆ ด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

30. ชินไซบาชิ (โอซาก้า)

ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) เป็นถนนสายหลักในโอซาก้าและยังเป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้ง คุณสามารถหาซื้อของได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ร้านค้าแบรนด์เนมยักษ์ใหญ่ (รวมถึงร้าน Puma Store ที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ไปจนถึงร้านค้าเล็กๆ ที่ขายของจิปาถะอย่างเครื่องเซรามิก, ตุ๊กตามือสอง, เสื้อผ้า, เครื่องสำอางและร้านขายยา, ร้านสินค้าปลอดภาษี หรือจะแวะเที่ยว "หมู่บ้านอเมริกัน" (Amerika-mura) ในย่านชินไซบาชิก็ได้ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเหมือน "ถนนทาเคชิตะ" แห่งคันไซ (Takeshita-dori ถนนช็อปปิ้งชื่อดังในย่านฮาราจูกุ โตเกียว) นอกจากนี้ ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "เมกกะ" ของเหล่าวัยรุ่นที่นี่ด้วย

รีวิวบน TripAdvisor:

"ถึงจะไม่มีจุดหมาย แต่แค่เดินไปเรื่อยๆ ก็สนุกแล้ว คุณจะรู้สึกได้ว่ามันมีทุกอย่างอยู่ที่นี่ ทั้งแบรนด์เนมหรูๆ และร้านขายของจิปาถะ แค่มองไปรอบๆ ยังสนุกเลย แต่ไหนๆ มาแล้ว ก็ช็อปปิ้งเลยเถอะค่ะ" - Miki W (โอกินาว่า)

29. ตลาดนิชิกิ (เกียวโต)

ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) เป็นถนนสายที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปีและเปรียบเสมือน "ครัว" ของเกียวโต ถนนสายนี้ยาวมากและมีร้านค้า - ร้านอาหารอยู่มากกว่า 100 ร้าน ส่วนใหญ่จะขายสินค้าที่เกี่ยวกับอาหาร เช่น ปลา, เนื้อ, อุปกรณ์และเครื่องปรุงทำอาหาร ฯลฯ คุณสามารถชิมสินค้าตัวอย่างฟรีไปได้ตลอดเส้นทางซึ่งนับเป็นส่วนที่สนุกที่สุดในการเดินเล่นที่นี่เลยทีเดียว ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 9:00 - 18:00 น. และมักจะหยุดกันในวันพุธและวันอาทิตย์ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะทำให้ร้านค้ามีการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาทำการและวันกันไปบ้าง แต่หากคุณแวะมาก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับประสบการณ์ดีๆ กลับไปอย่างแน่นอน

รีวิวบน TripAdvisor:

"มาเดินดูเฉยๆ ก็สนุก เดินไปกินไปก็สนุก แถมยังได้ชมวัฒนธรรมอาหารของเกียวโตด้วย ที่นี่มีร้านค้ามากมายอยู่ในตรอกทางเดินแคบๆ และอาหารก็ดูน่าอร่อยไปหมด แค่เดินดูเล่นๆ ไปก็สนุกได้แล้ว ส่วนอาหารก็สามารถทานที่ร้านได้เลย หรือจะเดินไปกินไปก็ได้ เพียงแต่มันอาจจะดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร แล้วช่วงปีใหม่ก็จะมีคนเยอะมาก อาจจะทำให้เดินลำบากหน่อย" - 185sato (โตเกียว)

28. พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (นาโกย่า)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกก่อตั้งโดยบริษัท Toyota Group และไม่ได้มีแต่เรื่องราวของรถยนต์เท่านั้น แต่ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของเครื่องทอผ้าอัตโนมัติด้วย ที่นี่มีไกด์ผู้ใจดีและเป็นมิตร พร้อมให้บริการพาคุณเดินชมรอบพิพิธภัณฑ์ และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้คุณฟังอย่างเพลิดเพลิน ผู้มาเยือนส่วนใหญ่จะใช้เวลาการเดินชมพิพิธภัณฑ์ไม่เกิน 3 ชั่วโมง แต่รับรองว่าสนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งคนที่มีความสนใจเฉพาะทางอย่างวิศวกรก็สามารถมาหาความรู้และประสบการณ์แสนสนุกได้ที่นี่ แถมยังมีคาเฟ่ สวน และร้านขายของที่ระลึกให้แวะชมกันด้วย

รีวิวบน TripAdvisor: 

"ฉันรู้สึกทึ่งกับประวัติศาสตร์ของโตโยต้ามากเลย ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันเริ่มมาจากธุรกิจทอผ้า ความฝันของคุณซากิจิ โทโยดะ (Sakichi Toyoda) ก็ดูจะฉายชัดอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ในเรื่องราวตั้งแต่ช่วงชีวิตวัยเด็กของเขาจนถึงผลงานที่ดีที่สุด แล้วยังมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของ Toyota Motors ด้วย ผู้ชมสามารถสนุกไปกับการชมพิพิธภัณฑ์แบบ Interactive ที่คุณสามารถมีส่วนร่วมและโต้ตอบกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้"- Pj_rtd  

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

27. Video Game Bar Space Station (โอซาก้า)

อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตในโอซาก้า คือ Video Game Bar and Space Station เป็นบาร์ที่คุณสามาถเล่นวีดิโอเกมได้อย่างสนุกสนาน แถมยังมีเกมมากมายและคอนโซลที่มาจากยุคต่างๆ ทั้งระบบเรโทรอย่าง Nintendo 64, Famicom, เกมจากยุค '90 และอีกมากมาย นอกจากนี้ เครื่องดื่มในร้านก็ราคาไม่แพง ถึงแม้ว่าร้านนี้จะไม่ได้ใหญ่นัก แต่ก็เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับแฮงก์เอาท์ชิลล์ๆ กับเพื่อนฝูง เพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มและเกมแสนสนุก

รีวิวบน TripAdvisor:

"นี่เป็นครั้งแรกที่เรามาเที่ยวโอซาก้า แล้วเราก็ค้นพบว่าบาร์แห่งนี้มีสเน่ห์และสะดวกสบายจริงๆ ถึงคุณจะเล่นเกมไม่เก่งก็สามารถสนุกไปกับเครื่องดื่มต่างๆ ได้ ยอมรับเลยว่าฉันและเพื่อนๆ เล่นวีดิโอเกมกันไม่เก่งเลย แต่พนักงานที่นี่ก็จะช่วยหาสิ่งที่คุณเก่งมาให้ได้ที่สุด แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายพวกเราก็ยังไม่เก่งกันอยู่ดี

นอกจากนี้ บาร์เทนเดอร์ในร้านก็เป็นมิตรและช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีด้วย โชคดีที่เรามาในช่วงงานเทศกาล Hanukkah พอดี ที่นี่ก็เลยมีขนมเบเกิลเก๋ๆ มาเสิร์ฟให้พร้อมกับบริการอันเป็นมิตร แล้วเครื่องดื่มที่นี่ก็เยี่ยมเหมือนกัน! หากคุณได้มาโอซาก้าก็ไม่ควรพลาดบาร์แห่งนี้เลย" - therealmissrita (สหรัฐอเมริกา)

Klook.com

26. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (โอซาก้า)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Kaiyukan) ของโอซาก้าเป็นที่ที่เหล่าผู้ใช้ TripAdvisor โหวตให้เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในเอเชีย และยังเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดอันดับ 13 ของโลกด้วย เป้าหมายหลักของที่นี่ คือ การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของโลกใต้ทะเล มีกิจกรรมแบบ Interactive อยู่มากมาย และยังมีงานจัดแสดงชั้นนำของโลกด้วย น่าเสียดายที่สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ต้องจำกัดวันและจำนวนผู้เข้าชม อาจจะลำบากอยู่สักหน่อย แต่บอกเลยว่าความสวยงามนั้นคุ้มค่ามากทีเดียว

รีวิวบน TripAdvisor:

"หากมีแผนจะไปโอซาก้าก็ลองไปแวะชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ด้วยสิ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองในระยะแค่ 2 - 3 สถานีของรถไฟใต้ดินเท่านั้นเอง ตัวพิพิธภัณฑ์มีขนาดใหญ่มาก มีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลหลายชนิด ทั้งสนุกและผ่อนคลาย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แถมยังช่วยลดความเครียดของนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราที่ต้องเดินทางด้วยเท้าไปในหลายๆ ที่ เพราะเมื่อมาที่นี่ เราจะสามารถเดินชมในจังหวะของเราเองได้ แล้วยังได้เห็นอีกด้านหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ในตัวอาคารที่สูงหลายชั้น แต่ข้างในนี่เดินชมได้ง่ายทีเดียว" - Trisha_Andrea (แคนาดา)

* เช็คตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังได้ที่นี่

ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง

25. วัดเซ็นโซจิ (โตเกียว)

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji) หรือที่หลายๆ คนเรียกกันติดปากว่า 'วัดอาซากุสะ' ถือเป็นวัดศาสนาพุทธที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่นี่ตั้งอยู่ใจกลางย่านอาซากุสะซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าที่คุณสามารถชื่นชมสถาปัตยกรรมบ้านเมืองแบบญี่ปุ่นโบราณ และภายในตัววัดก็ยังมีถนนคนเดินทั้งสายหลักที่เรียกว่า "นากามิเสะ" (Nakamise) ที่ขายอาหารและของฝาก กับถนนสายรองที่อยู่ตามตรอกซอกซอย ในนั้นเต็มไปด้วยร้านขายเสื้อผ้า อาหาร งานศิลปะแบบญี่ปุ่น รวมถึงร้านขายยาและสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

รีวิวบน TripAdvisor:

"ฉันมาที่นี่ทุกปี และวัดนี้ก็เป็นวัดแรกที่ฉันไปในช่วงปีใหม่เลยค่ะ ฉันไปครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มกราคม มีคนเยอะมากๆ อยู่ในถนนนาคามิเสะที่มีร้านขายอาหารให้ซื้อทานระหว่างที่เดินเที่ยวไปรอบๆได้ พอออกมาจากวัดก็ไปเที่ยวชมร้านขายของต่อ ทำให้สนุกมากขึ้นไปอีก แล้วมันฝรั่งอบเนยที่ฉันกินก็อร่อยมากกก (ก.ไก่ล้านตัว) ด้วย" - yukams (โตเกียว)

* เช็คทัวร์ส่วนตัวสำหรับเดินเที่ยวอาซากุสะได้ที่นี่

เที่ยวเซ็นโซจิ! สนุกกับทัวร์ส่วนตัวสำหรับเที่ยวอาซากุสะ

24. ถนนเซ็นเตอร์ไก ชิบูย่า (โตเกียว)

ถนนเซ็นเตอร์ไก (Center Gai) เป็นถนนในย่านอุดากาวะโจ (Udagawacho) ในเขตชิบูย่าของกรุงโตเกียว ที่นี่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของชิบูย่า มีร้านค้า, ร้านอาหาร, บาร์, คลับ อยู่มากมายแถมยังไปไม่ยาก เพียงข้ามถนนตรง " 5 แยกชิบูย่า" ที่มีทางม้าลายอันแสนโด่งดังมาก็ถึงเลย ถนนสายนี้เป็นแหล่งช็อปปิ้งและจุดรวมตัวของเหล่าวัยรุ่น นอกจากมีร้านขายของมากมายแล้ว ก็ยังมีรูปปั้น "ฮาจิโกะ" สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันด้วย ถึงแม้จะมีคนพลุกพล่าน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถนนสายนี้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่ควรไปให้ได้สักครั้งจริงๆ 

รีวิวบน TripAdvisor:

"ภาพตอนกลางคืนเป็นอะไรที่สุดยอดมาก! ผมไปเที่ยวชิบูย่าที่อยู่ใจกลางโตเกียวมาในตอนกลางวัน ซึ่งมันก็รู้สึกดีนะที่ได้ดูคนเดินข้ามถนน 5 แยกและเมืองรอบๆ แต่ก็นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังเอาไว้ ผมเลยกลับไปอีกทีในตอนกลางคืน และมันก็เป็นเหมือนโลกคนละใบเลย! น่าทึ่งมากๆ มีทั้งไฟ ทั้งป้ายอยู่ทุกที่ และถนนก็เต็มไปด้วยผู้คน เป็นบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเลย!"  - Stephen B (อังกฤษ)

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

23. โดทงโบริ (โอซาก้า)

โดทงโบริ (Dotonbori) เป็นหนึ่งในย่านบันเทิงชื่อดังแห่งจังหวัดโอซาก้า ที่นี่อยู่ตรงใจกลางของย่านนัมบะ เต็มไปด้วยอาหารและแหล่งช็อปปิ้งที่เรียงรายไปตามแนวคลองโดทงโบริ และยังเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมป้ายนักวิ่งกูลิโกะ (Glico) ด้วย ในสมัยเอโดะ โดทงโบริเคยเป็นเมืองที่ล้อมอยู่รอบโรงละครคาบุกิและโจรุริ แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสี ซึ่งคุณสามารถใช้บริการล่องเรือชมวิวยามค่ำคืนของโอซาก้าได้

รีวิวบน TripAdvisor:

"ที่นี่เป็นกับดับนักท่องเที่ยวชั้นเยี่ยมเลย เวลามาโอซาก้าเราก็จะทำทั้งสิ่งที่ชาวโอซาก้าและนักท่องเที่ยวมักจะทำกัน นั่นก็คือ ไปย่านโดทงโบริ ซึ่งเราสามารถไปได้ทุกวัน ไม่ว่าจะ "เดินผ่าน" เฉยๆ เพื่อความสะดวก หรือเป็นจุดหมายที่ตั้งใจจะแวะไป ย่านนี้มีบาร์เล็กๆ และร้านอาหารมากมายเต็มไปหมดโดยเฉพาะเวลากลางคืน แต่ที่จริงแล้วช่วงกลางวันเองก็ไม่ได้น้อยหน้าเลย แล้วเรายังสามารถแวะไปร้านหนังสือ Standard Bookstore ที่เป็นเหมือนขุมทรัพย์หนังสือซึ่งมีทั้งนิตยสาร เสื้อผ้า เพลง และคาเฟ่ที่อยู่ชั้นล่างด้วย" - MelbourneMeg_12 (ออสเตรเลีย)

22. สวนนารา (นารา)

สวนนารา (Nara Park) เป็นสวนที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1880 และเป็นที่ตั้งของวัดโทไดจิอันโด่งดังที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักว่ามีกวางกว่า 1,500 ตัว เดินไปรอบๆ อย่างอิสระ และมีร้านน้ำชาสไตล์ท้องถิ่นอยู่ในบริเวณด้วย การเดินทางก็สามารถไปได้ง่ายๆ ด้วยรถบัส จัดเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณมาเที่ยวในแถบคันไซของญี่ปุ่นเลย

รีวิวบน TripAdvisor:

"ฉันได้เดินเล่นระหว่างสถานีรถไฟ JR ของนาราไปยังสวน มีร้านค้าน่าสนใจอยู่มากมายตลอดทางจึงทำให้การเดิน 20 นาทีค่อนข้างสนุก ด้านในสวนไม่ได้ดูสวยดูดใจในฤดูหนาว แต่ที่นี่ก็มีเจดีย์สวยๆ ให้ถ่ายรูปได้ แล้วก็มีกวางที่เดินไปมาอย่างอิสระ มันเข้าออกสวน แล้วยังข้ามถนนได้อย่างกับคนเลย" - bencon (ฮ่องกง)

21. สวนลิงจิโกคุดานิ (นากาโนะ)

คำว่า "จิโกคุดานิ" (Jigokudani) แปลว่า "หุบเขานรก" แต่สิ่งที่เหมือนนรกในสวนแห่งนี้ก็มีแค่ไอน้ำและฟองจากน้ำเดือดที่ออกมาจากพื้นดินในบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นเท่านั้น (ไม่ต้องห่วง มันไม่อันตรายหากไม่มีน้ำแข็งปกคลุม) นอกจากนี้ หากคิดว่าจะได้เห็นลิงที่นี่แล้วล่ะก็ ถูกต้อง! ลิงแสมญี่ปุ่น หรือที่คนนิยมเรียกว่า 'ลิงหิมะ' จะชอบมาแช่บ่อน้ำพุร้อนกันในช่วงหน้าหนาว แล้วค่อยพากันกลับบ้านเมื่อฟ้าเริ่มมืด 

รีวิวบน TripAdvisor:

"มันเป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์มาก ฉันกับลูกๆ ไปเดินเขาในวันที่หิมะตก คุณสามารถยืมรองเท้าบู๊ทยางและอุปกรณ์ Outdoor ได้ที่ทางขึ้นเขา มันเป็นการเดินเขาอันรื่นรมย์บนทางราบที่เต็มไปด้วยหิมะ ใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที เราค่อนข้างตะลึงกับพฤติกรรมที่เหมือนคนของลิงที่นี่ คุณสามารถเข้าไปใกล้พวกมันและถ่ายรูปสวยๆได้ ที่นี่มีศูนย์นักท่องเที่ยวเล็กๆ ให้คุณเข้าไปพักผ่อนและให้เด็กๆ ดื่มช็อกโกแลตร้อนได้ บางรายงานบอกว่าที่นี่ค่อนข้างสกปรก แต่ในฤดูหนาวทุกอย่างดูงดงามเหมือนภาพวาดเลยล่ะ" - Sbrewgan (มาเลเซีย)

20. ศาลเจ้าเมจิ (โตเกียว)

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji-jingu) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว ใกล้ๆ กับย่านฮาราจูกุอันแสนคึกคักวุ่นวาย ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะจุดท่องเที่ยวธรรมชาติและ "สถานที่หลบพัก" ที่ดีที่สุดของโตเกียว อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฮาราจูกุในระยะเดินเพียง 3 นาทีเท่านั้น ความเงียบสงบและทิวทัศน์ที่เหมือนป่าของที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายให้แก่จักรพรรดิเมจิ (Meiji) และจักรพรรดินีโชเก็ง (Shoken) ผู้เป็นภรรยา

รีวิวบนTripAdvisor:

"สถานที่โปรดในโตเกียว ฉันรักศาลเจ้าแห่งนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นป่าเล็กๆ คุณต้องเดินผ่านความเงียบสงบก่อนจะไปถึงที่นั่น เป็นเหมือนโอเอซิสแห่งความเงียบสงบจากความสนุกบ้าคลั่งของเมืองโตเกียวเลย ตัวศาลเจ้าเองก็สวยงาม ฉันโชคดีที่ได้เห็นงานแต่งงานตั้ง 2 ครั้งตอนที่ฉันไปพอดี งานหนึ่งใช้โทนสีแบบดั้งเดิม ส่วนอีกงานใช้สีขาว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรไปชมเลยล่ะ" - Antcav18 (ลอนดอน)

ทัวร์ครึ่งวัน: ศาลเจ้าเมจิจิงกุ ย่านโอโมเตะซันโด และหอสังเกตการณ์ 

Klook.com

19. พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ (โตเกียว)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ (Mori Art Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่มีงานจัดแสดงต่างๆ สลับกันไปเรื่อยๆ ทั้งงานศิลปะระดับโลกและผลงานศิลปินเดี่ยว ที่นี่ตั้งอยู่ในชั้นบนสุดของ Roppongi Hills Mori Tower และมีจุดชมวิวมุมสูงอยู่ในพื้นที่โซน Sky Gallery ให้คุณสามารถชมวิวของกรุงโตเกียวได้ด้วย นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ก็มีการเตรียมพร้อมตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อเป็นอย่างดีด้วย

รีวิวบน TripAdvisor:

"ศิลปะที่อยู่ใกล้ตัว พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยเป็นส่วนใหญ่ และถึงแม้จะตั้งอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมศิลปะแห่งรปปงหงิ แต่ก็เดินทางง่ายมาก ราคาตั๋วเข้าชมนั้นได้รวมค่าชมทัศนียภาพเมืองโตเกียวเข้าไปแล้ว (ชมจากแท่นชมวิว Roppongi Hills) หลังจากเดินดูผลงานศิลปะแล้ว ก็มาชมวิวยามค่ำคืนสวยๆ ได้ด้วย" - m1zuk1 (โตเกียว)

18. พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (นางาซากิ)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เหมือนมาคู่กับพิพิธภัณฑ์ในจังหวัดฮิโรชิม่า มีจุดประสงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับผู้เคราะห์ร้ายจากระเบิดปรมาณูที่กองทัพฝ่ายพันธมิตรทิ้งลงในจังหวัดนางาซากิเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ที่นี่มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอาวุธนิวเคลียร์ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ และผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นซึ่งก็ยังจะมีผลต่อผู้คนที่รอดชีวิตต่อไป ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ถูกทำเป็นหอแห่งการรำลึกที่อุทิศให้กับผู้เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณูในจังหวัดนางาซากิ

รีวิวบน TripAdvisor:

"สถานที่ที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติ เป็นสถานที่อันหม่นหมองซึ่งสะท้อนถึงยุคสมัยอันอัปลักษณ์ของคน ฉันได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้คนในอีกด้านหนึ่งของสงคราม ไม่ว่าเป็นสงครามไหนก็ไม่มีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ มีแต่ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน พวกเขาได้สร้างอนุสรณ์ชั้นเลิศที่สอนให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่รู้จักเรียนรู้และจดจำบทเรียนของสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันแนะนำให้ครูในญี่ปุ่นพานักเรียนของพวกเขามาที่นี่ เพื่อจะได้เรียนรู้ พิจารณา ซึมซับ และสัมผัสกับบางสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ในห้องเรียน" - TravelMakesMeHumble (สหรัฐอเมริกา)

17. ปราสาทนิโจ (เกียวโต)

ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) แห่งกรุงเกียวโตประกอบด้วยพระราชวังนิโนมารุ (Ninomaru Palace) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าโชกุน และซากปรักหักพังของพระราชวังฮอนมารุ (Honmaru Palace) ที่นี่ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO นอกจากพระราชวังแล้วก็ยังมีสวนญี่ปุ่นอันสวยงามด้วย บอกเลยว่าทิวทัศน์ธรรมชาติของปราสาทแห่งนี้สวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปใบไม้เปลี่ยนสี

รีวิวบน TripAdvisor:

"เราไปที่ปราสาทตอนบ่ายและใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเดินรอบปราสาทนี้ เราคิดว่ามันดีมากเลย อาจจะมีข้อควรปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ถ้าทำได้มันจะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเที่ยวชมเลยทีเดียว

เราชอบสวนที่ตัดแต่งอย่างประณีต บ่อหินและน้ำตกของที่นี่มาก สถาปัตกรรมด้านนอกปราสาทก็ดูน่าอัศจรรย์ แต่ภายในของพระราชวังหลักนั้นไม่ค่อยมีอะไรเพราะยังอยู่ในช่วงบูรณะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่น่าสนใจนะ นอกจากนี้ เราก็คิดว่าการที่ไม่มีข้อมูลในภาษาอังกฤษมันทำให้ประสบการณ์การเข้าชมของเราไม่สนุกเท่าที่ควร เลยคิดว่าที่จริงเราน่าจะจ้างไกด์ที่พูดภาษาอังกฤษได้มาด้วย

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมมากทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้ไปศาลเจ้าอื่นๆ ในเกียวโตกันมาบ้างแล้ว - Ross P

16. ร้านอาหารหุ่นยนต์ (โตเกียว)

ร้านอาหารหุ่นยนต์ (Robot Restaurant) ในโตเกียวตั้งอยู่ในบริเวณที่ค่อนข้างอโคจรของย่านชินจูกุ นั่นก็คือ "คาบุกิโจ" (Kabukicho) แทนที่จะรอให้หุ่นยนต์มาเสิร์ฟอาหาร หรือเดินไปมาระหว่างที่กำลังรับประทาน จุดดึงลูกค้าของร้านอาหารไม่มีคลาสแห่งนี้ คือ หุ่นยนต์อกสะบึม (ควบคุมโดยสาวๆ ในชุดบิกินี) ที่มานั่งต่อสู้กันให้คุณดูนั่นแหละ

รีวิวบน TripAdvisor:

"โชว์หุ่นยนต์ก็เป็นอะไรที่พลาดไม่ได้เลย! มันมั่วซั่วและบ้าบอที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นในโตเกียวเลย แต่ที่จริงก็สนุกอยู่เหมือนกันนะ ไม่ได้มีสตอรี่หรือเนื้อเรื่อง มีแค่ไฟ การเต้น และดนตรีที่ดึงดูดให้คุณดู ฉันให้คะแนนความคุ้มต่ำหน่อยเพราะเราจ่ายไปถึง 7,000 เยน แต่กลับไม่ได้ข้าวกล่อง Lonely Planet แต่ในส่วนของการแสดงราคา 4,000 เยน  เราคิดว่าคุ้มกับราคาที่ควรจ่าย"  - Amy T (สหรัฐอเมริกา)

ตั๋วสำหรับร้านอาหารหุ่นยนต์ ชินจูกุ โตเกียว

15. สวนเค็นโรคุเอ็น (อิชิคาว่า)

สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden) ในอิชิคาว่า เป็น 1 ใน 3 สวนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น สวนแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ได้รับการสร้างและดูแลรักษาโดยตระกูลมาเอดะ (Maeda) มีบรรยากาศร่มรื่น และพื้นที่อันกว้างขวางซึ่งได้รับการจัดสรรตกแต่งอย่างลงตัว มีทั้งต้นไม้ บ่อน้ำ หุบเขาและสิ่งก่อสร้างต่างๆ นอกจากนี้ ตอนกลางคืนก็มักจะมีการจัดไฟไลท์อัพอย่างสวยงามด้วย จุดท่องเที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี และทิวทัศน์ก็จะงดงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาลด้วย

รีวิวบน TripAdvisor:

"ที่นี่มันน่าทึ่งที่สุด ผมอาศัยอยู่ในคานาซาว่าและมาเที่ยวสวนเค็นโรคุเอ็นตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนที่นี่ก็ดูสวยงามเสมอ ล่าสุดผมมาตอนหน้าหนาว ต้นไม้ทั้งหมดมี "ยูกิซุริ" (Yukizuri เชือกที่ช่วยรองรับน้ำหนักให้กับกิ่งก้านของต้นไม้) ดูสวยงามมากท่ามกลางหิมะสีขาว แนะนำว่าเป็นที่ที่ควรมาเยี่ยมชมมากๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนของปีก็ตาม" - Chris S

14. สวนลิงอาราชิยามะ อิวาตะยามะ (เกียวโต)

สวนลิงแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาอาราชิยามะ (Arashiyama) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์สวยงาม ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมือง จึงอาจเป็นจุดท่องเที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน และก็อย่างที่คุณน่าจะเดาออก ที่นี่มีแต่ลิงเต็มไปหมด! (ลิงแสมญี่ปุ่น) คุณสามารถให้อาหารลิงได้ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าพวกมันไม่ค่อยเชื่องนักหรอก

รีวิวบน TripAdvisor:

"ควรค่าแก่การเดินเขา ฉันสนุกกับสวนลิงจริงๆ มันดีมากเลยที่ได้ออกจากเมืองไปหาธรรมชาติบ้าง ราคาก็สมเหตุสมผลมากๆ คนไม่ค่อยพลุกพล่านตอนที่เราไปที่นั่น (ประมาณ 15:30 น. วันธรรมดาเดือนธันวาคม) ทัศนียภาพเมืองเกียวโตจากบนยอดเขาก็น่าประทับใจ แถมฝูงลิงก็ให้ความบันเทิงให้เราได้เป็นอย่างดี อย่าลืมแวะไปแถวๆ ป่าไผ่ด้วยนะ ที่นั่นมีการประดับไฟตั้งแต่ 5 โมงเย็น ตอนเราไปที่นั่นมันดูสวยดีทีเดียว" - Karen S (ออสเตรเลีย)

13. วัดซันจูซันเก็นโด (เกียวโต)

วัดซันจูซันเก็นโด (Sangusangendo Temple) เป็นวัดพุทธในเกียวโต ชื่อวัดแปลตรงตัวได้ว่า "หอที่มีช่องว่าง 33 ช่องระหว่างแถว" ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของหอที่ถูกสร้างขึ้น ภายในมีรูปปั้นเทพเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ถึง 1,001 องค์ รวมถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์พันกร ส่วนมากเป็นของที่ตกทอดมาจากยุคศตวรรษที่ 13 

รีวิวบน TripAdvisor:

"นี่เป็นที่เที่ยวสุดโปรดของฉันในเกียวโตเลย มีพระพุทธรูปอยู่ 1,001 องค์จริงๆ เราไปเดินชมกันหลังจากไปเที่ยวที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริกันมา แต่บอกเลยว่าที่นี่ดีกว่ามาก แนะนำสุดๆ มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมหนึ่งพันองค์ และอีกหนึ่งองค์ขนาดใหญ่มหึมาซึ่งนั่งอยู่ตรงใจกลางวัด รูปปั้นเหล่านี้ทำมาจากต้นไซปรัสญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษ 12 และ 13" - marienjnj (สหรัฐอเมริกา)

12. ปราสาทมัตสึโมโตะ (นากาโนะ)

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่สำคัญของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นช่วงในศตวรรษที่ 15 - 16 และบางครั้งก็ถูกเรียกว่า "ปราสาทอีกา" เนื่องจากมีหลังคาสีดำสนิทและผนังที่บุด้วยไม้สีดำโดยรอบ ดูสง่างามน่าเกรงขาม ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียง มีซากุระสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะอยู่นับร้อยต้น คุณสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามได้ทั้งจากภายนอกและภายในปราสาท จากบริเวณจุดชมวิวมุมสูงบนชั้น 6 ตอนนี้ปราสาทมัตสึโมโตะได้กลับมาเปิดให้เข้าชมอีกครั้งหลังจากปิดชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสไป ดังนั้น นอกจากวันที่ 29 - 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันหยุดประจำปีก็สามารถเข้าชมได้ตามปกติ

รีวิวบน TripAdvisor:

"ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะทำให้คุณอ้าปากค้างเมื่อเห็นของจริง ทั้งใหญ่ ทึบ และสวยจนต้องตะลึง โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใส ลูกชายวัย 6 ขวบของฉันสนุกกับมันมาก เราได้ฟังวิธีที่นินจาใช้ธนูและปืนในการปกป้องปราสาท แล้วก็มีการจัดแสดงอาวุธข้างในด้วย อย่าลืมแต่งตัวให้อุ่นและใส่ถุงเท้าเพิ่มอีกชั้นในฤดูหนาวเพราะข้างในมันหนาวมากแต่ก็ควรค่าแก่การเข้าชม หากคุณเป็นเหมือนฉันก็คงจะถ่ายรูปเยอะมากๆ เน้นว่ามากๆๆๆ และอย่าลืมกลับไปดูตอนเปิดไฟตอนกลางคืนด้วยล่ะ" - AlexisGlenn (ออสเตรเลีย)

ดูปราสาทมัตสึโมโตะอันสวยงามและไฮไลท์อื่นๆ ของเมือง

11. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่าชุราอูมิ (โอกินาว่า)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่าชุราอูมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) ได้ชื่อมาจากคำว่า "ชุระ" (Chura) ซึ่งเป็นภาษาโอกินาว่าที่แปลว่า "สวย / สง่างาม" และคำว่า "อุมิ" (Umi) ที่แปลว่า "ทะเล" ในภาษาญี่ปุ่น ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของงาน Ocean Expo Park ในโอกินาว่า และเคยเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปี ค.ศ. 2005 ที่นี่มีทั้งปลาและสัตว์ทะเลนานาชนิด รวมถึงโซนชมปะการังและโซนชมเต่าทะเล โลมา และพะยูนอย่างใกล้ชิดด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันทำให้มีการยกเลิกกิจกรรมและการแสดงบางอย่างไป เราขอแนะนำให้ตรวจสอบทางเว็บไซต์ให้แน่ใจก่อนด้วย

รีวิวบน TripAdvisor:

"พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ทำเลดี ดีไซน์สวย มีบ่อน้ำกลางอันน่าทึ่ง หากคุณขับรถมาจากทางใต้หรือตอนกลางของโอกินาว่าก็จะมีโอกาสชมสถานที่ประจำถิ่นต่างๆ ชิมอาหารท้องถิ่น รวมถึงลองเชิงความรู้เรื่องกฎการขับรถในญี่ปุ่นของคุณ เมื่อถึงแล้วก็มีที่จอดรถอันกว้างขวาง ด้านในพิพิธภัณฑ์ทั้งกว้างและเปิดโล่ง ส่วนชายหาดรอบๆ ก็จะทำให้เวลาครึ่งวัน (หรือมากกว่านั้น) เป็นเรื่องสนุกของครอบครัวไปเลยล่ะ" - HokkaidoG (ฮอกไกโด)

ซื้อตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่าชุราอูมิ

10. วัดนาริตะซังชินโชจิ (ชิบะ)

วัดนาริตะซังชินโชจิ (์Naritasan Shinshoji Temple) ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 940 เป็นวัดพุทธที่อยู่บนภูเขานาริตะซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ มีอาคารและพื้นที่อยู่มากมาย รวมถึงเจดีย์ 3 ชั้น และสวนที่จัดสรรพื้นที่ได้อย่างงดงาม วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักดีในพื้นที่แถบคันโต นอกจากนี้ ระหว่างทางไปวัดก็จะต้องผ่านถนนที่มีร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารมากมาย เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

รีวิวบน TripAdvisor:

"วัดสวยๆ ที่อยู่ใกล้สนามบิน วัดแห่งนี้ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะในญี่ปุ่นมีวัดเจ๋งๆ อยู่มากมาย แต่วัดนี้อยู่ใกล้กับสนามบินมาก เหมาะกับคนที่ไม่อยากเดินทางนานๆ หรือคนที่เที่ยวบินถูกยกเลิกกระทันหันและต้องรอเวลาอีกไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง (แบบที่เกิดขึ้นกับพวกเรา) แค่คุณขึ้นรถไฟก็แวะไปเดินเล่นได้แล้ว ที่นี่มีพื้นที่สวยๆ สถาปัตยกรรมอันเงียบสงบ และร้านค้าที่พบตามวัดทั่วไปอยู่รอบๆ ด้วย" - C0rnmuffin (สหรัฐอเมริกา)

9. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ (ฮาโกเน่, คานางาวะ)

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และเขียวชอุ่ม ที่นี่มีผลงานศิลปะจัดแสดงอยู่นับพันชิ้น ทั้งแบบที่ชื่นชมด้วยการมอง แบบที่ปีนป่ายได้ และอื่นๆ อีกมากมาย  นอกจากผลงานศิลปะแล้ว คุณยังสามารถเดินชมสวนและท่องเที่ยวธรรมชาติของฮาโกเน่ที่อยู่รอบด้านได้ด้วย แต่ละฤดูกาลก็จะมีทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปแต่ทั้งหมดก็สวยงามควรค่าแก่การชื่นชมทั้งสิ้น ทุกวันนี้ทางพิพิธภัณฑ์ก็ยังคงเปิดทำการตามปกติ และมีการออกมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเคร่งครัดด้วย

รีวิวบน TripAdvisor:

"ศิลปะในสวน หากคุณมาแถวๆ พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้งฮาโกเน่ก็น่าจะลองหาโอกาสแวะมาชมด้วย การจัดวางนั้นน่าทึ่งเพราะมีภูเขาล้อมรอบ ผลงานศิลปะก็ยอดเยี่ยมและน่าสนใจมากๆ มีผลงานชิ้นใหญ่ 2 ชิ้นที่เด็กๆ สามารถปีนเล่นได้, หอคอยกระจกสีที่มีบันไดวนอยู่ข้างใน (เรียกว่า Symphonic Sculpture), บ่อน้ำพุร้อนแช่เท้า, ตึก Picasso, ผลงานของ Henry Moore กับ Antony Gormley และศิลปินชื่อดังคนอื่นๆ เราใช้เวลาที่นี่กันทั้งช่วงบ่าย และก็ออกตอนที่พิพิธภัณฑ์ปิดเลย อย่างที่เขาว่ากันแหละ คุณต้องใช้เวลาเยอะมากในการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สุดเก๋แห่งนี้" - JudoK (อังกฤษ)

8. สวนชินจูกุเกียวเอ็น (โตเกียว)

สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) เป็นอีกหนึ่ง "สถานที่หลบพัก" และสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นชื่อดังของโตเกียว สวนนี้มีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางย่านที่วุ่นวายที่สุดในเมืองอย่างชินจูกุ ในสมัยเอโดะเคยเป็นที่พักอาศัยส่วนบุคคล แต่ปัจจุบันได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงสิ่งแวดล้อมแล้ว ที่นี่ประกอบไปด้วยสวนฝรั่งเศส สวนอังกฤษ และสวนญี่ปุ่นที่แปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาล คุณจึงสามารถชมทิวทัศน์ที่แตกต่างกันได้อย่างไม่รู้เบื่อ

TripAdvisor review:

"โอเอซิสแสนน่ารัก ณ ใจกลางกรุงโตเกียว สวนขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นสถานที่อันเงียบสงบที่ซ่อนอยู่ในตัวเมืองอันวุ่นวายที่มีประชากรอยู่กว่า 4 ล้านคน เพียงจ่ายค่าเข้าชมเล็กน้อยก็จะทำให้คุณเที่ยวสวนต่างๆ ที่แตกต่างกันได้ มีทั้งสะพานและทะเลสาบเล็กๆ บางที่ก็รกอยู่หน่อยๆ แต่บางที่ก็ได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดี มีสนามหญ้ากว้างขวางให้ครอบครัวมากางเสื่อนอนยืดแข้งยืดขาและสนุกไปกับความสงบร่มเย็นที่นี่ได้อย่างสบายๆ ถือเป็นจุดชาร์จพลังชีวิตที่ดีอีกแห่งหนึ่งเลย" - bjfast (แคนาดา)

7. วัดคิโยมิสึ (เกียวโต)

วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera Temple) เป็นหนึ่งในวัดเกียวโตที่ต้องไปดูให้ได้ ที่นี่ได้รับการลงทะเบียนจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีจุดสังเกตง่ายๆ ด้วยระเบียงอันกว้างขวางซึ่งสามารถมองเห็นวิวภูเขาที่อยู่รอบตัววัดได้ ต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ จะดูสวยงามมากในฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้น ลองหาเวลาไปให้ได้นะ

รีวิวบน TripAdvisor:

"ความผสมผสานอันยอดเยี่ยม! ถึงแม้จะอยู่ในระหว่างการบูรณะและมีสายลมเย็นเยือกของฤดูหนาว แต่เราก็มีช่วงเวลาที่ดีมากที่นี่ ระหว่างทาง เราได้เดินไปในตรอกกาน้ำชาที่มีร้านค้าน่าสนใจและร้านอาหารเต็มไปหมด เมื่อไปถึงวัดแล้วก็ได้พบกับผู้คนมากมายแม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ เรายังได้เพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆ จากริมระเบียงด้วย สวยจนแทบจะหยุดหายใจไปเลย สถาปัตยกรรมของที่นี่ก็เหมือนกัน จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปให้ได้เลยล่ะ"  - Hendrik0711 (อินโดนีเซีย)

ทัวร์ส่วนตัว สำรวจเกียวโต: กิอน, คิโยมิสึ, ตลาดนิชิกิ

6. ภูเขาโคยะ (วาคายาม่า)

ภูเขาโคยะ (Mount Koya หรือ Koya-san) เป็นหนึ่งในภูเขาของจังหวัดวาคายาม่าซึ่งเป็นที่รู้จักในนามศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินงอน (Shingon) ภูเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง รวมไปถึงเส้นทางการจาริกแสวงบุญตามแนวเขา นอกจากนี้ ยังนับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย หากใครต้องการความสงบทางใจหรืออยากท่องเที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ไปใช้เวลาบนภูเขาแห่งนี้เลย

รีวิวบน TripAdvisor:

"การผสมผสานระหว่างความสวยงามและความน่าขนลุก ฉันสามารถเดินเล่นที่นี่ได้เป็นชั่วโมงๆ ล้อมรอบไปด้วยต้นสนอายุกว่าร้อยปี หลุมศพกว่า 200,000 แห่ง และอนุสรณ์รำลึกผู้เสียชีวิตอีกมากมาย มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ฉันไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และฉันก็ไม่ลังเลที่จะแนะนำคนอื่นหรือกลับไปเที่ยวที่นี่อีก 

ฉันโชคดีที่ได้ไปเดินทัวร์ตอนกลางคืนซึ่งนำโดยพระสงฆ์ด้วย เป็นหนึ่งในวัดที่หากคุณมีโอกาสไปล่ะก็ห้ามพลาดเด็ดขาดเลย!  เราได้ฟังข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดน่าสนใจ และพระสงฆ์เองก็เป็นคนมีอารมณ์ขันด้วย" - Rhiannon K (ออสเตรเลีย)

พบทางสว่างทางจิตวิญญาณ ณ ภูเขาโคยะอันศักดิ์สิทธิ์

5. วัดโทไดจิ (นารา)

วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) เป็นวัดพุทธที่คนรู้จักกันดี และยังเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนพุทธนิกายชินงอนอีกด้วย หอกลางมีพระพุทธรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ และตัววัดก็ได้ชื่อว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย แล้วก็เป็นเหมือนที่อื่นๆ ในจังหวัดนารา คือ ที่นี่มีกวางอยู่เต็มไปหมด คุณสามารถถ่ายรูปบรรยากาศที่ดูเป็น 'นารา' สวยๆ กลับไปได้เยอะทีเดียว

รีวิวบน TripAdvisor:

"วัดไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สไตล์วัดย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์ถังของจีน การมองพระพุทธรูปองค์มหึมาทำให้รู้สึกสงบใจ ตั๋วเข้าชมราคา 200 - 300 เยน แต่บอกเลยว่าคุ้มเพราะที่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรจะต้องไปดูให้ได้ และโดยส่วนตัวฉันก็คิดว่ามันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นตัวแทนของนาราเลยล่ะ"  - tomespirit (ไต้หวัน)

4. วัดคินคะคุจิ (เกียวโต)

วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือ "วัดศาลาทอง" น่าจะเป็นหนึ่งในวัดที่คนรู้จักเยอะที่สุดในโลก เป็นวัดของศาสนาพุทธนิกายเซนที่ตกแต่งด้วยสีทองดูสวยงาม ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่เป็นสมบัติตกทอดมาจากยุคมุโรมาจิ (Muromachi) ซึ่งเป็นยุคทองของการดีไซน์สวนสไตล์ญี่ปุ่น เมื่อปีที่แล้วทางวัดได้ถือโอกาสช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสในการปิดบูรณะตัววัด และในปัจจุบันก็ได้กลับมาเปิดอีกครั้งแล้ว คนที่สนใจก็สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้เลย

รีวิวบน TripAdvisor:

"ความงดงามของวัดคินคะคุจิจะทำให้คุณประทับใจ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะมีภาพทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ร่วงสีสันสดใสที่ตัดกับตัววัดคินคะคุจิได้อย่างสวยงามน่าทึ่ง และมันจะติดตาตรึงใจคุณไปอีกนาน ฉันมักจะอยากกลับไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีเบื่อเลยจริงๆ"  - Morioysu (โตเกียว)

3. ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (มิยาจิม่า, ฮิโรชิม่า)

ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO มีเอกลักษณ์เป็นเสาโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่กลางทะเลจนดูเหมือนกำลังลอยน้ำ นอกจากเสาโทริอิแล้ว ที่นี่ก็ยังมีการจัดงานเทศกาลต่างๆ อยู่เป็นประจำ คุณจึงสามารถมาสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ตลอดทั้งปี

รีวิวบน TripAdvisor:

"ศาลเจ้าตามมาตรฐานทั่วไป แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ เวลาน้ำขึ้นมันขึ้นจากแท่นที่ศาลเจ้าตั้งอยู่ ทำให้คุณเห็นเป็นภาพอ่าวที่มีประตูศาลเจ้าลอยอยู่เหนือน้ำ ตรงนี้มักจะมีคนมาต่อแถวรอถ่ายภาพอยู่เป็นประจำ แล้วยังมีรูปปั้นทองแดงที่น่าสนใจอยู่รอบๆ และมีการจำหน่ายเครื่องรางกับแผ่นจารึกคำปฏิญาณด้วย" - JenLGH (โตเกียว)

ทัวร์เต็มวันสำรวจมิยาจิม่า และ ฮิโรชิม่า

2. พิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิม่า (ฮิโรชิม่า)

พิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่คู่กับของจังหวัดนางาซากิ มีจุดประสงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับผู้เคราะห์ร้ายจากระเบิดปรมาณูที่กองทัพฝ่ายพันธมิตรทิ้งลงในฮิโรชิม่าเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แสดงถึงความสำคัญในการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์และส่งเสริมสันติภาพในระดับนานาชาติ

รีวิวTripAdvisor:

"มันทำให้ฉันคิดอะไรได้มากมาย คุณต้องไปที่นี่เพื่อจะได้เห็นผลกระทบของสงคราม สำหรับคนที่ไม่เคยนึกถึงสงครามมาก่อน ฉันคิดว่าที่นี่จะทำให้พวกเขาเริ่มตระหนักถึงมัน คุณควรไปอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วคุณจะคิดได้จากก้นบึ้งของหัวใจว่า สงครามมันเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจสลายได้จริงๆ" - Yopaper

1. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (เกียวโต)

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari-taisha) ในเกียวโตเป็นศาลเจ้าหลักของเทพเจ้าอินาริในศาสนาชินโตที่ใช้สุนัขจิ้งจอกเป็นตัวแทน หากต้องการชมศาลเจ้าแห่งนี้ คุณจะต้องเดินขึ้นเขาไปตามทางที่เต็มไปด้วยประตูเสาโทริอิสีแดง ทางเดินนี้เคยถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ ละครทีวี และอนิเมชั่นหลายเรื่อง รวมถึงภาพยนตร์ชื่อดังอย่างเรื่อง Memoir of a Geisha ด้วย

รีวิวบน TripAdvisor:

"ศาลเจ้าอินาริอันสวยงาม ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่คุณพบได้บ่อยๆ ในโปสเตอร์การท่องเที่ยว และเป็นสถานที่ที่คุณต้องแวะไปดูหากได้มาเกียวโต ทางเดินคดเคี้ยวที่เปรียบเสมือนป่าประตูไม้สีแดงที่ไล่ขึ้นไปตามเส้นทางบนภูเขา มีร้านค้าเล็กๆ ขายของที่ระลึกอยู่ด้านล่าง แถมยังมีอาหารและเครื่องดื่ม คุณสามารถใช้เวลาที่นี่ได้ทั้งวันเลยล่ะ บอกได้เลยว่าฉันจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน - Linda M (ออสเตรเลีย)

ทัวร์ 1 วัน ชิมเหล้าสาเกใน "ฟูชิมิ" จังหวัดเกียวโต

ส่งท้าย

ถึงแม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะทำให้หลายๆ คนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยว และทำให้ผู้คนหันไปสนใจการท่องเที่ยวธรรมชาติในสถานที่ที่อยู่ไกลออกไปกันมากขึ้น แต่ญี่ปุ่นก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ สถานที่ที่เรานำมาแนะนำทั้ง 30 แห่งนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่มีแพลนเที่ยวชัดเจน ทุกแห่งล้วนมีคุณค่าในตัวมันเอง แถมยังมีความสวยงามและเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ได้รับการโหวตจากผู้ใช้ TripAdvisor ว่าสวยงามน่าประทับใจและควรค่าต่อการเยี่ยมชมมาก บอกเลยว่าเก็บเป็นตัวเลือกไว้ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!  

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก  ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Melissa
Melissa Tolentino
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร