ญี่ปุ่น = สวรรค์สายดื่ม! 5 วัฒนธรรมการดื่มเหล้าของญี่ปุ่นที่ชาวต่างชาติเห็นแล้วเป็นต้องอิจฉา
ในประเทศญี่ปุ่น คำว่า "เครื่องดื่มแอลกอฮอล์" มักไม่ได้หมายความถึงเบียร์ ไวน์ หรือค็อกเทลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องดื่มรูปแบบอื่นๆ อีกหลากหลายที่เราอาจไม่คุ้นเคย มีร้านที่ขายเบียร์ราคาถูก 100 - 300 เยนกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง แถมในร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตก็ยังซื้อเหล้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย สภาพแวดล้อมถูกใจสายดื่มขนาดนี้ ชาวต่างชาติที่อยู่ที่นี่จะรู้สึกอย่างไรกันบ้างนะ? วันนี้เราจะพาคุณไปสัมภาษณ์ชาวต่างชาติที่อยู่ในญี่ปุ่นมาแล้วเกิน 2 ปี เจาะลึกกันไปเลยว่าวัฒนธรรมการดื่มของญี่ปุ่นนั้นแตกต่างจากที่อื่นอย่างไรบ้าง
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ตั้งแต่เหล้าญี่ปุ่นไปจนถึงชูไฮ — เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สุดหลากหลาย
ผู้ที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่นหลายคนมักจะตกใจกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากหน้าหลายตาที่มีขายในญี่ปุ่น
"ญี่ปุ่นมีเหล้าหลายแบบมาก ทั้งเหล้าที่แม้แต่ผู้หญิงก็ดื่มง่ายแบบเหล้าบ๊วย เหล้าสำหรับคนคออ่อนแบบ Sour (ค็อกเทลชนิดหนึ่ง) ไปจนถึงเหล้าแรงๆ สำหรับคนขอแข็งๆ โดยส่วนตัวแล้วชอบไฮบอลที่เป็นวิสกี้ผสมโซดามากครับ ยิ่งบีบมะนาวลงไปยิ่งอร่อยเลย" (ผู้ชาย, ชาวอเมริกัน)
"ครั้งแรกที่ได้เข้าร้านเหล้าในญี่ปุ่น เห็นเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เยอะๆ แล้วตกใจมากเลยค่ะ แถมแต่ละอย่างก็หน้าตาดูดีมากๆ พวกค็อกเทลก็เยอะ เวลาไปดื่มจะเผลอถ่ายรูปลงโซเชีลยลทุกทีเลย (หัวเราะ)" (ผู้หญิง, ชาวเวียดนาม)
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าญี่ปุ่นมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายประเภทมาก ตั้งแต่เบียร์ เหล้าญี่ปุ่น วิสกี้ ไปจนถึง Sour และอื่นๆ บางร้านก็มีให้เลือกกันถึง 100 กว่าแบบเลยทีเดียว ลองไปดื่มดูสักครั้งคงพอเข้าใจว่าทำไมชาวญี่ปุ่นถึงชื่นชอบการดื่มกันขนาดนี้
2. สนุกไปกับวิธีการดื่มมากมายที่ไม่ใช่แค่ใส่น้ำแข็ง!
นอกจากประเภทของเครื่องดื่มจะเยอะแล้ว วิธีการดื่มการผสมของชาวญี่ปุ่นเองก็เยอะไม่แพ้กัน เมนูที่ไม่มีให้เห็นในต่างประเทศเองก็มีจำนวนไม่น้อยเลย
"วีธีการดื่มของที่นี่มีเยอะมากๆ ทั้งแบบ Sour ชูไฮ ค็อกเทล จะดื่มแบบใส่น้ำแข็ง ดื่มเหล้าเพียวๆ หรือสาเกร้อนก็ยังมี ช่วงแรกๆ เห็นเมนูแล้วก็คิดหนักอยู่บ้าง แต่หลังๆ ก็รู้สึกว่าการเลือกเมนูที่จะดื่มมันก็สนุกดีครับ เพราะที่เกาหลีนี่มีแค่เบียร์หรือโซจู (เหล้าเกาหลี) ให้เลือกแค่ 2 แบบเท่านั้นเอง" (ผู้ชาย, ชาวเกาหลี)
"มีวิธีเพลิดเพลินกับเหล้าหลายแบบสุดๆ อย่างการเติมน้ำเย็นหรือการเติมน้ำร้อนในอุณหภูมิต่างๆ ถ้าเป็นที่จีนส่วนใหญ่จะดื่มแบบใส่น้ำแข็งกันหมดเลย ได้มาลองอะไรแบบนี้ก็รู้สึกแปลกใหม่ดีค่ะ" (ผู้หญิง, ชาวจีน)
หัวใจของชาวญี่ปุ่นนั้นแสวงหาวิธีการดื่มเหล้าให้สนุกกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีทั้งการดื่มแบบ on the rock (ใส่น้ำแข็ง) แบบเติมน้ำเย็น หรือแบบสาเกอุ่นร้อน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีเทรนด์ Sparkling Nihonshu หรือเหล้าญี่ปุ่นผสมโซดาเพิ่มขึ้นอีก และยังคงมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ก็มีการดื่มแบบ Red Eye ซึ่งเป็นการเติมน้ำมะเขือเทศลงไป ไปจนกระทั่งการรับประทานในรูปแบบของหวานโดยราดเหล้าญี่ปุ่นลงบนไอศกรีมวานิลลา เรียกได้ว่ามีให้เลือกเยอะแยะจนนับไม่ถูกเลยทีเดียว
3. เบียร์รสชาติดีในราคาแสนถูก เทียบกับของประเทศตัวเองแล้วก็ยังถูกแบบสุดๆ!
เบียร์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง Kirin, Asahi, และ Sapporo นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเบียร์ที่ "ถูกและอร่อย" และ "คุ้มราคา" ในสายตาของชาวต่างชาติ
"เบียร์ญี่ปุ่นจะมีฟองนุ่มๆ อร่อย ดื่มได้ลื่นคอมาก บริษัทผลิตเบียร์ของญี่ปุ่นนี่เก่งจริงๆ ถ้าให้เทียบแต่ละอันก็ Asahi จะค่อนข้างซ่า Kirin จะออกหวานหน่อย ส่วนที่ชอบที่สุดจะเป็น Sapporo เพราะรสชาติกลมกล่อมที่สุด" (ผู้หญิง, ชาวไต้หวัน)
"อะไรก็ไม่รู้แต่เบียร์ราคาถูกมากกก อย่าง Premium Malts* กระป๋อง 350 มิลลิลิตรนี่ในญี่ปุ่นจะราคา 300 - 500 เยนเอง แต่ถ้าเป็นที่เกาหลีจะราคา 800 - 1,500 เยนโน่นแน่ะ... ได้ดื่มเบียร์ถูกๆ อร่อยๆ นี่มันดีจริงๆ!" (ผู้ชาย, ชาวเกาหลี)
ญี่ปุ่นจะมีเบียร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น 5 แบรนด์ใหญ่ ได้แก่ Asahi Beer, Kirin Beer, Suntory, Supporo Beer และ YEBISU นอกจากนี้เมื่อเทียบกันแล้วก็พบว่าราคาของเบียร์กระป๋องนั้นอยู่ที่ครึ่งหนึ่งถึง 1 ใน 3 ของราคาเบียร์ประเทศอื่นเท่านั้นเอง ทั่วไปกระป๋อง 350 มิลลิลิตรจะมีราคาเริ่มต้นที่ 120 เยน ส่วนแบบ 500 มิลลิลิตรจะเริ่มต้นที่ 150 เยน มองจากมุมไหนของโลกก็นับว่าราคาถูกมากๆ จะซื้อตอนไหนก็ได้ ดื่มที่ไหนก็ได้อีกต่างหาก การดื่มแบบไม่ต้องกังวลถึงเงื่อนไขอะไรมากนักก็เป็นเสน่ห์หนึ่งของการดื่มในญี่ปุ่นเขาล่ะ
*Premium Malts คือเบียร์มอลต์ 100% แบบพิลส์เนอร์ (Pilsner) ของบริษัท Suntory
4. สนุกไปกับการชิมเปรียบเทียบ และลิ้มรสชาติอย่างลึกซึ้ง
ตัวแทนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในญี่ปุ่นก็แน่นอนว่าต้องเป็นเหล้าญี่ปุ่น แต่เหล้าญี่ปุ่นเองก็มีอยู่หลายประเภท
"เหล้าญี่ปุ่นต่อให้เป็นยี่ห้อเดียวกันก็มีหลายแบบ อย่าง Daiginjo หรือ Junmai Daiginjo แบบนี้ ได้ลองดื่มเปรียบเทียบกันก็สนุกดีค่ะ แต่ดื่มเพลินเกินไปเลยเผลอเมาซะได้ (หัวเราะ)" (ผู้หญิง, ชาวอเมริกัน)
"ลองสั่งเมนู Nomi Kurabe (เมนูสำหรับดื่มทดลองเครื่องดื่มหลายๆ ชนิด) ของอิซากายะในญี่ปุ่นมาลองดื่มเปรียบเทียบดู ไม่ใช่แค่ยี่ห้อ แต่ทั้งแหล่งผลิตเอย วิธีทำเอยอะไรเอยก็ทำให้รสชาติออกมาต่างกันหมดเลยค่ะ อยากจะแนะนำให้ครอบครัวลองด้วยก็เลยซื้อเซ็ต Nomi Kurabe ที่สนามบินกลับไปด้วย เขาดีใจกันมากๆ เลย" (ผู้หญิง, ชาวไต้หวัน)
เหล้าญี่ปุ่นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ "Junmaishu" "Kinjoshu" และ "Honjozo Sake" หรือถ้าแบ่งให้ละเอียดลงไปอีกก็จะมีการแยกเป็น "Daiginjo" และ "Junmai Daiginjo" ด้วย แต่เราจะไม่พูดถึงรายละเอียดมากนัก ที่สำคัญคือแม้จะใช้วัตถุดิบเดียวกัน แต่ถ้าวิธีการผลิตไม่เหมือนกันก็จะได้รสชาติที่ต่างกันออกไป
Junmaishu เป็นเหล้าแบบดั้งเดิมที่ทำจากข้าว ข้าวโคจิ และน้ำเพียงเท่านั้น มีจุดเด่นที่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมๆ และรสชาติกลมกล่อมของข้าวได้ ในขณะที่ตัว Kinjoshu และ Honjozo Sake จะมีการผสมแอลกฮอล์ลงไปด้วย โดย Kinjoshu จะมีอัตราการขัดสีข้าว* อยู่ที่ 60% ลงไป ส่วน Honjozo Sake จะอยู่ที่ 70% ลงไป แบบแรกจะให้กลิ่นคล้ายผลไม้ ส่วนอย่างหลังจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นเวลาดื่ม
มีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่หลงใหลในเสน่ห์ของเหล้าญี่ปุ่น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอัตราการส่งออกก็เพิ่มขึ้น และยังมีการจัดแสดงเหล้าญี่ปุ่นในประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย ไม่แน่สักวันเราอาจจะสามารถหาเหล้าญี่ปุ่นดื่มได้ง่ายๆ ในประเทศไทยก็ได้!
*อัตราการขัดสีข้าว คือ อัตราส่วนของเปลือกข้าวที่เหลืออยู่หลังจากสีข้าว ด้วยเปลือกข้าวนั้นมีรสที่ไม่ค่อยพึงประสงค์ โดยทั่วไปจึงจะนำออกในระหว่างการผลิต ยิ่งอัตราส่วนน้อยก็จะยิ่งมีรสชาติดี แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย
5. ไม่ใช่ถั่วธรรมดาแต่เป็นถั่วแระญี่ปุ่น!? กับแกล้มแสนประหลาดของแดนปลาดิบ
หลายๆ คนมักจะทานกับแกล้มควบคู่ไปกับการดื่มแอลกอฮอล์ แล้วกับแกล้มแบบญี่ปุ่นมันเป็นอย่างไรกันล่ะ?
"ที่อเมริกา พอพูดถึงกับแกล้มเราก็นึกถึงถั่วก่อนเลย แต่ถ้าเป็นที่นี่เราจะเห็นเป็นถั่วแระญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ แปลกใจที่กับแกล้มไม่ใช่ของแห้งน่ะครับ" (ผู้ชาย, ชาวอเมริกัน)
"ในญี่ปุ่นมีกับแกล้มแปลกๆ เยอะเลยค่ะ ที่ตกใจที่สุดก็คงเป็น Sakura Yukke ที่เอาเนื้อม้าดิบๆ มาผสมกับไข่ดิบ ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะลองดีไหม แต่พอลองแล้วก็รู้สึกว่าเข้ากับการดื่มเหล้าได้ดีกว่าที่คิดเยอะเลย" (ผู้หญิง, ชาวไต้หวัน)
ถ้าพูดถึงกับแกล้ม ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงถั่วแระญี่ปุ่น (枝豆) เป็นอันดับแรก ถั่วแระญี่ปุ่นเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่ช่วยในการทำงานของตับ และทำให้อัตราการย่อยสลายแอลกอฮอล์ดีขึ้นด้วย ไม่ใช่แค่มีสารอาหารที่มีประโยชน์เท่านั้น แต่ยังเข้ากับการดื่มแอลกอฮอล์ได้ดีมากๆ แถมยังอร่อยอีกต่างหาก แบบนี้ไม่ลองดูไม่ได้แล้ว!
เช่นเดียวกับอาหาร คนแต่ละคนก็มีรสนิยมการดื่มที่แตกต่างกันออกไป แต่ละอย่างก็มีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน เครื่องดื่มบางชนิดอาจมีระดับแอลกอฮอล์ที่สูงไปหรืออาจมีรสขมไปสำหรับบางคน ประเทศญี่ปุ่นจึงมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายชนิดไว้เพื่อตอบโจทย์ในจุดนี้นั่นเอง
หากลองสังเกตดู รูปแบบเช่นนี้ก็ปรากฏในวัฒนธรรมการรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน ทั้งราเมง โซบะ อุด้ง ซูชิ กิวด้ง (ข้าวหน้าเนื้อ) สุกียากี้ เต้าหู้ต้ม นาเบะ (หม้อไฟ) ไปจนถึงการดัดแปลงอาหารที่รับมาจากต่างประเทศอย่างออมเล็ตให้เป็นข้าวห่อไข่ หรือใส่ข้าวลงไปในทาโก้เป็น Taco rice เรียกได้ว่ามีประเภทอาหารมากหน้าหลายตาจนนับไม่ถ้วนและยังคงมีวิวัฒนาการอยู่เรื่อยๆ และแน่อนว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองก็ไม่แพ้กัน หากมีโอกาสได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นก็อย่าลืมลองไปดื่มดูสักครั้งล่ะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่