50 ทิวทัศน์สุดอลังการในญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาด
ญี่ปุ่นมีวิวที่น่าอัศจรรย์ใจอยู่มากมาย แม้ว่าจะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นวิวธรรมชาติหรือสถานที่ทางวัฒนธรรม สิ่งที่มันมีร่วมกันก็คือล้วนเป็นวิวที่คุณต้องอยากไปชมให้เห็นกับตาอย่างแน่นอน นี่คือ 50 วิวสุดอลังการที่เราอยากให้คุณได้รับชม
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ทะเลสาบมาชู (摩周湖) [ฮอกไกโด]
Noah Chiao/Flickrทะเลสาบมาชูเป็นทะเลสาบที่มีระดับความใสเป็นอันดับสองของโลก มักถูกเรียกว่า “มาชูสีฟ้า” เนื่องจากสีฟ้าที่งดงามและน่าหลงใหลของมัน นอกจากนี้ เนื่องจากมีบางช่วงเวลาที่ทะเลสาบมาชูจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอก จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ “มาชูแห่งสายหมอก” ด้วยเช่นกัน
2. บ่อน้ำสีฟ้าแห่งชิโรงาเนะ (白金の青い池) [ฮอกไกโด]
ysykNovember/Flickrบ่อน้ำฝีมือมนุษย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองบิเอ (美瑛町) เขตชิโรงาเนะ (白金) เป็นบ่อน้ำที่โด่งดังไปทั่วโลกหลังจากได้รับเลือกให้เป็นภาพวอลเปเปอร์ของระบบปฏิบัติการ Mac OSX แม้ว่าจะดูเหมือนว่าน้ำในบ่อมีสีฟ้า แต่แท้จริงแล้วน้ำในบ่อไม่ได้มีสีฟ้าแต่อย่างใด สีฟ้าที่เราเห็นนั้นเป็นปรากฏการณ์ทางเคมีจากการที่แสงอาทิตย์ส่องเข้ากระทบกับน้ำที่มีสารคอลลอยด์ชนิดหนึ่งอยู่
3. เนินสูงของบิเอ [ฮอกไกโด]
PIXTAเป็นเขตเนินสูงที่อยู่ในบริเวณต้นเขาโทคาชิดาเตะ (十勝岳) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเทือกเขาไดเช็ตซึซัง (大雪山) เนินสูงที่สวยงามเหล่านี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการโฆษณาโทรทัศน์ของญี่ปุ่นมาก่อน จึงทำให้เมืองบิเอเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ “เมืองแห่งเนินสูง”
4. ภูเขาโอโซเระซัง (恐山) [อาโอโมริ]
Kzaral/Flickrหนึ่งในสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น พื้นที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นกรดซัลฟูริกและวิวทิวทัศน์ที่ดูเหมือนถูกทิ้งร้างของสถานที่แห่งนี้จะทำให้คุณนึกถึงขุมนรกเลยทีเดียว สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้คือ เนื่องจากภูเขาโอโซเระซังเป็นชื่อที่ใช้เรียกขอบนอกของปากปล่องภูเขาไฟในแถบนี้ ในความเป็นจริงแล้วโอโซเระซังจึงไม่ได้เป็นภูเขาแต่อย่างใด
5. ธารน้ำโออิราเซะ (奥入瀬渓流) [อาโอโมริ]
mehmet canli/Flickrธารน้ำโออิราเซะในอาโอโมริเป็นธารน้ำที่ไหลผ่านป่าลึกอันอุดมสมบูรณ์ สายน้ำที่ไหลอย่างต่อเนื่องของมันทำให้ที่นี่มีทิวทัศน์ที่ดูมีชีวิตชีวามากมาย
6.ฮิระอิซุมิ (平泉) [อิวาเตะ]
PIXTAที่ฮิระอิซุมิ คุณจะได้พบกับวัดและสิ่งก่อสร้างมากมายจากยุคเฮอัน ซึ่งรวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของโลกโดยองค์กร UNESCO เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่มีเสน่ห์อาทิเช่น วัดจูซอนจิ (中尊寺) อาคารคอนจิกิโด (金色堂) และสวนแบบพุทธศาสนาสายโจโด (浄土) ของวัดโมซือจิ (毛越寺)
7. ถ้ำริวเซ็นโด (龍泉洞) [อิวาเตะ]
PIXTAเป็นหนึ่งในถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อิวะอิซุมิ วัคคุสึ (岩泉湧窟) และยังเป็นหนึ่งในทะเลสาบใต้ดินที่ใสที่สุดของโลกอีกด้วย *โปรดระวังค้างคาวที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำ
8. เกบิเค (猊鼻渓) [อิวาเตะ]
かがみ~/Flickrเกบิเคเป็นช่องเขาที่จะทำให้คุณนึกถึงเมืองกุ้ยหลินของประเทศจีน และดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล การแล่นเรือชมวิวเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่เกบิเค
9. มัตสึชิมะ (松島) [มิยางิ]
PIXTAหนึ่งในทิวทัศน์ที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นที่ประกอบไปด้วยหมู่เกาะกว่า 260 เกาะบนอ่าวมัตสึชิมะ และเนินมัตสึชิมะที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง นอกจากจะเป็นที่รู้จักจากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์เช่น สะพานแดงและอาคารโกไดโด (五大堂) แล้ว ยังโด่งดังในฐานะจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามอีกด้วย
10. โฮชูยามะ (宝珠山) [ยามากาตะ]
PIXTAสถานที่ที่เป็นที่รู้จักจากบทกลอนของ มัตสึโอะ บะโช (松尾芭蕉) ที่กล่าวไว้ว่า “เสียงของจั๊กจั่น แทรกซึมสู่หินผาและความเงียบงัน” โฮชูยามะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น วัดริชชาคุจิ (立石寺) และหินที่หันหน้าเข้าหากัน นอกจากนี้ยังมีจุดชมทัศนียภาพที่ห้ามพลาดอยู่บนระเบียงชมวิวของอาคารโกไดโดอีกด้วย
11. กินซังออนเซ็น (銀山温泉) [ยามากาตะ]
PIXTAเป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยออนเซ็นเรียวกัง (温泉旅館) หรือโรงแรมแบบญี่ปุ่นที่มีออนเซ็นในตัว ซึ่งยังคงบรรยากาศเมื่อยุคไทโชไว้ ในเวลากลางคืนจะส่องสว่างไปด้วยแสงไฟจากตะเกียง และเกิดเป็นวิวทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล
12. น้ำตกเคงอน (華厳滝) และทะเลสาบชูเซ็นจิ (中禅寺湖) ของเมืองนิกโก้ (日光市) [โทชิงิ]
PIXTAในฤดูใบไม้ผลิพื้นที่นี้จะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี คุณสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของน้ำตกเคงอนและทะเลสาบชูเซ็นจิได้จากจุดชมวิวอาเคจิไดระ (明智平)
13. น้ำตกฟุคิวาเระ (吹割の滝) [กุนมะ]
machu./Flickrน้ำตกฟุคิวาเระเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ “ไนแองการ่าของเอเซีย” เพราะว่ามีลักษณะเป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำสามสายที่แตกต่างกัน ชื่อฟุคิวาเระมาจากอักษรคันจิที่มีความหมายว่าพ่น (吹) และผ่า (割) เนื่องจากการไหลของมันดูเหมือนกับว่าก้นแม่น้ำถูกผ่าออกแล้วมีน้ำพ่นออกมา
14. ริวกะคุโบะ (龍ヶ窪) [นีงาตะ]
PIXTAเป็นน้ำพุที่พ่นน้ำบาดาลออกมาในปริมาณมาก ถึงกระนั้นแล้วน้ำพุนี้ก็ไม่เคยขุ่นมัวเลยสักครั้ง มีตำนานเล่าว่ามังกรเป็นผู้สร้างน้ำพุแห่งนี้โดยการทำให้ฝนตกติดต่อกันสามวันสามคืน
15. ทุ่งนาขั้นบันไดโฮชิโทเงะ (星峠の棚田) [นีงาตะ]
PIXTAทุ่งนาขั้นบันไดเหล่านี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีลักษณะเป็นขั้นบันได แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ก็มีช่างภาพจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวชมเพราะถูกดึงดูดโดยทัศนียภาพที่ตระการตาของมัน
16. หุบเขาคุโรเบะ (黒部峡谷) [โทยามะ]
PIXTAหุบเขาคุโรเบะเป็นหนึ่งในสามหุบเขาที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเทือกเขาฮิดะ (飛騨山脈) ที่ตัดผ่านระหว่างเทือกเขาทาเทยามะ (立山連峰) และเทือกเขาอุชิโระ ทาเทยามะ (後立山連峰) เป็นที่รู้จักจากวิวของจุดชมวิวซารุโทบิเคียว (猿飛峡展望台) และสะพานสีแดง ชินยามาบิโกะ (新山彦橋) และจากกิจกรรมอื่นๆ เช่นการนั่งรถไฟ
17. ทางเดินยุกิโนะโอทานิ (雪の大谷) [โทยามะ]
極地狐/Flickrยุกิโนะโอทานิตั้งอยู่ในโทยามะ เป็นกำแพงหิมะที่สร้างขึ้นจากหิมะที่ถูกกวาดออกจากถนน ในบางจุดกำแพงจะมีความสูงถึง 20 เมตร
18. สวนเค็นโรคุ (兼六園) [อิชิคาวะ]
PIXTAหนึ่งในสวนที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น เป็นสวนแบบมีบ่อน้ำอยู่ตรงกลางที่พบเห็นได้ทั่วไปในยุคเอโดะ เหตุที่สวนนี้ถูกตั้งชื่อว่าเค็นโรคุ (รวมหก) นั้น เพราะว่าเป็นสวนที่มีคุณลักษณะ 6 อย่าง ได้แก่ ยิ่งใหญ่, เงียบสงบ, หรูหรา, มีทางน้ำไหล, มีวิวที่ตระการตา, และแสดงให้เห็นถึงพลังของมนุษย์
19. ชิโรโยเนะเซนไมดะ - นาข้าวแห่งชิโรโยเนะ (白米千枚田) [อิชิคาวะ]
PIXTAทุ่งนาข้าวขั้นบันไดเหล่านี้ได้รับการรองรับให้เป็นมรดกทางเกษตรกรรม วิวของทุ่งนาเล็กๆ ที่เรียงรายไปตามริมชายฝั่งของทะเลญี่ปุ่นนั้นช่างดูยิ่งใหญ่ตระการตา จำนวนของทุ่งนาเหล่านี้มีกว่า 1000 ผืน มากกว่าที่ได้ระบุไว้อย่างเป็นทางการ
20. ซึมาโงะจุกุ (妻籠宿) [นากาโนะ]
Patrick Vierthaler/Flickrตั้งอยู่ในย่านโรงแรมคิโซจิ (木曽路) ซึมาโงะจุกุเป็นถนนที่เต็มไปด้วยบ้านและร้านค้าที่มีความยาวรวมกันกว่า 500 เมตร ที่ยังคงหลงเหลือไว้ซึ่งบรรยากาศของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ
21. อุทยานลิงจิโกคุดานิ (地獄谷野猿公苑) [นากาโนะ]
Douglas Sprott/Flickrในภาษาอังกฤษ สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า “Snow Monkey Mountain” เป็นสถานที่เดียวในโลกที่คุณจะได้เห็นลิงแช่ออนเซ็น นอกจากนี้ ภาพของจิงโกคุดานิยังเคยถูกนำไปขึ้นปกนิตยสาร LIFE ของอเมริกาอีกด้วย
22. ผาโทจินโบ (東尋坊) [ฟุคุอิ]
Shibuya246/Flickrวิวที่แสนจะตระการตานี้มีส่วนประกอบเป็นรอยแตกรูปเสาหินเหลี่ยมสูงถึง 25 เมตรที่เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นทะเล ซึ่งรอยแตกในระดับที่ใกล้เคียงกับสถานที่นี้นั้นมีให้เห็นได้เพียง 3 แห่งในโลก
23. ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (鳴沢氷穴) [ยามานาชิ]
PIXTAเป็นถ้ำที่เกิดจากลาวาที่ตั้งอยู่บนบริเวณตีนเขาฟูจิ สาเหตุที่ได้รับชื่อว่าถ้ำน้ำแข็งก็เพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี คุณจะรู้สึกถึงโลกแห่งน้ำแข็งได้เมื่อมองไปที่เหล่าผลึกน้ำแข็งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 50 เมตรและสูงถึง 3 เมตร
24. ภูเขาฟูจิ (富士山) [ยามานาชิ & ชิซุโอกะ]
PIXTAสัญลักษณ์ประจำประเทศญี่ปุ่น ภูเขาที่ทอดตัวผ่านยามานาชิและชิซุโอกะ อีกทั้ง ภูเขาลูกนี้ยังสามารถมอบวิวทิวทัศน์ที่หลากหลายให้คุณได้รับชมได้ ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่รับชม อาทิเช่น “ฟูจิกลับหัว” และ “ฟูจิสีแดง”
25. ไร่ชาในเมืองฟูจิ [ยามานาชิ]
PIXTAไร่ชาขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ตั้งแต่เมืองฟูจิไปจนถึงทิศใต้ของภูเขาฟูจิ ในฤดูใบไม้ผลิ ก่อนที่ชาจะถูกเก็บเกี่ยว คุณจะสามารถรับชมทิวทัศน์ที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างไร่ชานาๆ ชนิดกับภูเขาฟูจิได้
26. ชิราคาวะโกะ (白川郷) [กิฟุ]
Toshihiro Gamo/FlickrPIXTA
ในพื้นที่นี้คุณจะได้พบกับหมู่บ้านสไตล์กัซโซ (合掌造り; บ้านที่มีหลังคาสูงชัน) ขอแนะนำให้ชมวิวของหมู่บ้านนี้ซึ่งได้รับการบันทึกเป็นหมู่บ้านมรดกโลก วิวของที่นี่จะงดงามตระการตาอย่างยิ่งในฤดูหนาว ภาพของแสงไฟจากบ้านที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะนั้นแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ลึกซึ้ง
27. ถ้ำหินปูนฮิเดะ (飛騨大鍾乳洞) [กิฟุ]
PIXTAถ้ำอันโด่งดังที่เต็มไปด้วยหินย้อยสีสันสดใสงดงาม เป็นถ้ำที่มีจุดน่าสนใจมากมาย ตัวอย่างเช่น “วิวราตรีแห่งริวกู (竜宮の夜景)” ที่ส่องสว่างด้วยไฟสีแดงและน้ำเงิน และ “โลกแห่งดวงจันทร์ (月の世界)” ที่เกิดจากปะการังของถ้ำ
28. ศาลเจ้าอิเสะ (伊勢神宮) [มิเอะ]
minoir/Flickrเป็นศาลเจ้าหลวงที่สักการบูชา อะมาเทราซึ-โอมิคามิ (天照大御神) และ โทโยเคะ-โนะ-โอมิคามิ (豊受大御神) ผู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตำนานการกำเนิดญี่ปุ่น กล่าวกันว่าเป็นสถานที่ที่คอยเค้าจุนดวงวิญญาณชาวคนญี่ปุ่น ถ้าได้ลองเดินเข้าไปในศาลเจ้าที่แสนเงียบสงบนี้แล้ว คุณอาจจะรู้สึกเหมือนได้รับการชำระล้างจิตใจเลยทีเดียว
29. ศูนย์อุตสาหกรรมเมืองยคไคจิ (四日市市) [มิเอะ]
PIXTAศูนย์อุตสาหกรรมของเมืองยคไคจิเป็น 1 ใน 5 วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น โรงงานปิโตรเคมี, โรงกลั่นปิโตรเลียม, และโรงไฟฟ้ากำลังความร้อน ล้วนแต่เปิดทำงานตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ในเวลากลางคืน ไฟเพื่อความปลอดภัยของอาคารเหล่านี้จะส่องสว่าง ก่อให้เกิดเป็นวิวทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ใจ
30. วัดคิโยมิซุเดระ (清水寺) [เกียวโต]
เป็นวัดที่ถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลก ส่วนที่ชื่อว่า “เวทีแห่งชิมิซุ (清水の舞台)” ของวัดนั้นยื่นออกไปจากเนินเขา เกิดเป็นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
31. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทชะ (伏見稲荷大社) [เกียวโต]
เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอินาริที่มีอยู่กว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักจากโทริอิ (鳥居: ซุ้มประตูเพื่อแบ่งอาณาเขตของเทพเจ้า) ที่เรียงรายต่อเนื่องกันไปราวกับว่าจะไม่มีที่สิ้นสุด จนถูกเรียกว่า “โทริอิพันต้น (千本鳥居)” ในระยะหลังๆ การเดินเที่ยวชมภูเขาอินาริ (稲荷山) ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
32. วัดเรียวอันจิ (龍安寺) [เกียวโต]
สวนโฮโจ (方丈庭園) ของวัดแห่งนี้เป็นจุดที่คุณไม่ควรพลาดชม เป็นสวนแบบแห้งที่แสดงถึงทิวทัศน์ของทะเลสาบได้โดยที่ไม่ใช้น้ำแต่ใช้หินและทรายแทน นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวัดแบบพุทธและห้องชาโซโรคุอัง (蔵六庵) ได้อีกด้วย
33. ซากปราสาททาเคดะ (竹田城) [เฮียวโงะ]
PIXTAภาพของปราสาทนี้ที่ล่องลอยอยู่ภายในทะเลหมอกนั้น ช่างเหมือนกับฉากในอนิเมชั่นชื่อดังเรื่อง Castle in the Sky เลยจริงๆ อย่างไรก็ตามวิวดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้มีให้ดูได้ตลอดทั้งปี เวลาที่เหมาะสำหรับชมวิวนี้ที่สุดอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้ามืดไปจนถึง 8 โมงเช้า
34. คุมาโนะโคโด - เส้นทางแสวงบุญคุมาโนะ (熊野古道) [วาคายามะ]
rurinoshima/Flickrได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกในฐานะ “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางแสวงบุญในเทือกเขาคิอิ (紀伊山地)” มีเส้นทางอยู่หลากหลาย คุณสามารถเที่ยวชมบริเวณโดยรอบได้โดยผ่านทางเดินเขาที่ลึกลับเหล่านี้
35. ภูเขาโคยะ (高野山) [วาคายามะ]
PIXTAเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่โคโบไดชิ (弘法大師) ทำการก่อตั้งพุทธศาสนาสายญี่ปุ่นขึ้น เป็นที่รู้จักจากโอคุโนะอิน (奥の院) ที่เรียงรายไปด้วยต้นสนเก่าแก่และเจดีย์เล็กๆ จำนวนมาก ซึ่งเป็นทางเดินจากสะพานอิจิโนะฮาชิ (一の橋) ไปยังโคโบไดชิโกะเบียว (弘法大師御廟) นอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ก็ยังมีจุดน่าสนใจอื่นๆ อยู่อีกด้วย อาทิเช่น ประตูใหญ่ไดมอน (大門), หอคอยคอนปอนไดโต (根本大塔), และอาคารหลักคอนโด (金堂)
36. เนินทรายทตโตะริ (鳥取砂丘) [ทตโตะริ]
PIXTAเป็นเนินทรายที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลญี่ปุ่นซึ่งแผ่ขยายไปยังทิศเหนือและใต้เป็นระยะทาง 2.4 กิโลเมตร และทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 16 กิโลเมตร มีการจัดอีเว้นท์ประดับแสงไฟในช่วงเดือนธันวาคมตั้งแต่กลางเดือนไปจนถึงปลายเดือน
37. เกาะโรโชคุ (ローソク島) [ชิมาเนะ]
PIXTAเป็นหินสูง 20 เมตรรูปร่างประหลาดที่จะดูเหมือนเทียนเมื่อพระอาทิตย์ยามเย็นเคลื่อนไปอยู่บนยอดของหิน สำหรับผู้ที่ต้องการภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม มีเรือระยะสั้นที่ออกเรือในช่วงอาทิตย์ตกดินคอยให้ใช้บริการอยู่
38. เขตอนุรักษ์ทัศนียภาพคุราชิกิ (倉敷美観地区) [โอคายาม่า]
PIXTAเป็นเขตที่อนุรักษ์ถนน บ้าน และโรงเก็บของในสมัยเอโดะไว้ เป็นสถานที่ที่มีมรดกทางวัฒนธรรมมากมายตัวอย่างเช่น บ้านเก่าของครอบครัวโอฮาระ (旧大原家住宅) คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเดินเล่นชมเมือง หรือนั่งเรือเล็กชมเมืองจากแม่น้ำคุราชิกิ ได้ตามความต้องการ
39. ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (厳島神社) [ฮิโรชิม่า]
Chris Lewis/Flickrสถาปัตยกรรมอันโด่งดังจากยุคเฮอัน ตัวศาลหลักถูกทาด้วยสีแดง และดูเหมือนกับว่ากำลังลอยอยู่บนทะเลเมื่อมีคลื่นพัดเข้ามา
40. ถ้ำหินปูนอาคิโยชิ (秋芳洞) [ยามากุจิ]
PIXTAถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีจุดเด่นคือ “จานร้อยใบ (百枚皿)” ที่มีลักษณะคล้ายกับนาข้าวขั้นบันได ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดมาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิเช่น “เสาหินทองคำ (黄金柱)” อีกด้วย
41. สะพานอิยะคาซุระ (祖谷かずら橋) [โทคุชิมะ]
Glabb/Wikimedia Commonsสะพานที่ยาวกว่า 45 เมตรนี้สร้างขึ้นมาจากเถาวัลย์ของต้นกีวี่เปลือกแข็ง และเป็นที่รู้จักกันในฐานะ 1 ใน 3 สะพานที่แปลกที่สุดของญี่ปุ่น มีการจัดแสดงแสงไฟในช่วง 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่มของทุกวัน
42. สวนคาวาชิฟูจิ (河内藤園) [ฟุคุโอกะ]
PIXTAสวนแห่งนี้เปิดให้เข้าชมเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง เป็นสวนที่มีระแนงดอกวิสทีเรีย (หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่าดอกฟูจิ) ที่ยาวถึง 73 เมตร และอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่ยาว 201 เมตร โดมดอกวิสทีเรีย, ระแนงดอกวิสทีเรีย, และระแนงดอกวิสทีเรียขนาดใหญ่ กินพื้นที่รวมทั้งสิ้น 6,115 ตารางเมตร นอกจากนี้ ที่บริเวณโดยรอบของสวนมีต้นเมเปิลอยู่กว่า 700 ต้น ซึ่ง 18 ต้นในนั้นเป็นต้นเมเปิลที่มีอายุกว่า 70-80 ปี
43. กุนคังจิมะ (軍艦島) [นางาซากิ]
Sergio Rozas/Flickrเกาะฮาชิมะ (端島) ถูกเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า กุนคังจิมะ หรือเกาะเรือรบ เพราะรูปร่างที่เหมือนกับเรือรบของมัน เป็นเกาะที่เคยเฟื่องฟูจากถ่านหินใต้ทะเล ปัจจุบันได้กลายเป็นเกาะร้างที่ไร้ผู้อยู่อาศัย แต่ก็มีส่วนหนึ่งของเกาะที่เปิดให้เข้าชม และได้กลายเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้ชื่นชอบซากโบราณสถาน
44. จิโนะอิเคะจิโกคุ (血の池地獄) ของเมืองเบ็ปปุ (別府市) [โออิตะ]
かがみ~/Flickrที่เมืองเบ็ปปุนั้นมีออนเซ็นอยู่ทั้งหมด 8 แห่งด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ จิโนะอิเคะจิโกคุ หรือนรกบ่อเลือด เป็น “นรก” โดยธรรมชาติของญี่ปุ่นที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด โดยมีอยู่มาแล้วมากกว่า 1,300 ปี ความแปลกและหายากของมันทำให้ถูกบันทึกเป็นทัศนียภาพที่สวยงามของชาติในปี 2009
45. น้ำตกนาเบะกะทาคิ (鍋ヶ滝) [คุมาโมโตะ]
azumaya888/Flickrคุณสามารถชมน้ำตกนี้ได้ที่ด้านหลังของมัน เมื่อมองจากด้านหลังแล้วน้ำตกนี้จะดูเหมือนม่านของสายน้ำ ในช่วง Golden Week (วันหยุดยาวของญี่ปุ่น) ของทุกปี จะมีการจัดแสดงแสงไฟขึ้นที่น้ำตกแห่งนี้
46. ช่องเขาทาคาจิโฮะ (高千穂峡) [มิยาซากิ]
plus45/Flickrทางไหลของตะกอนภูเขาไฟจากภูเขาไฟอะโสะ (阿蘇山) ได้สร้างรอยแตกรูปเสาหินเหลี่ยมที่ทอดตัวขนานไปกับแม่น้ำโกะคะเสะ (五ヶ瀬川) จนเกิดเป็นช่องเขาทาคาจิโฮะขึ้นในที่สุด คุณสามารถนั่งเรือนำเที่ยวเพื่อไปเข้าชม “น้ำตกมานาอิ (真名井の滝)” ที่อยู่ภายในช่องเขาได้
47. เกาะยาคุชิมะ (屋久島) [คาโงะชิมะ]
triplefivedrew/Flickrเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่กว่า 90% ถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้ ต้นสนญี่ปุ่นในเกาะนี้ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีจะถูกเรียกว่ายาคุสุงิ (屋久杉) และยาคุสุงิที่เป็นที่รู้จักที่สุดก็คือต้น “โจมอนสุงิ (縄文杉)” ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดของเกาะที่คาดว่ามีอายุมากกว่า 6,000 ปี เกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งเดินป่ายอดนิยม
48. เชฟาอุทะกิ (斎場御嶽) [โอกินาว่า]
PIXTA l-v-l l-v-l/Flickrสถานศักดิ์สิทธิ์ที่มีระดับความศักดิ์สิทธิ์สูงที่สุดของโอกินาว่า ภายในนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้จำนวนมากและบรรยากาศที่น่าลึกลับ อุโมงค์สามเหลี่ยมที่เกิดจากการเอนตัวชนกันของหินขนาดใหญ่สองก้อนที่มีชื่อว่า “ซังกุอิ (三庫理)” นั้นให้บรรยากาศที่ดูราวกับว่ามีเทพเจ้าอาศัยอยู่ภายในจริงๆ
49. เกาะทาเคโทมิ (竹富島) [โอกินาว่า]
William Saito/Flickrเป็นเกาะที่คงไว้ซึ่งวิวทิวทัศน์ของโอกินาว่าในยุคโบราณ อาทิเช่น บ้านที่มีหลังคาไม้สีแดงและถนนที่กระจัดกระจายไปด้วยทรายสีขาว นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์อื่นๆ อยู่อีกด้วย ตัวอย่างเช่น “หอคอยนาโงมิ (なごみの塔)”, “ท่าเรือนิชิซังบาชิ (西桟橋)”, และ “ป้อมคุสุคุมุริ (小城盛)”
50. เกาะอิชิงากิ (石垣島) [โอกินาว่า]
nakimusi/Flickrเกาะอิชิงากิหรืออิชิงากิจิมะ เป็นหนึ่งในเกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาหมู่เกาะยาเอยามะ (八重山列島) และเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโอกินาว่า เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสัมผัสถึงธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการพายเรือแคนูในป่าชายเลนหรือการเดินเขาก็ได้ตามที่ต้องการ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่