50 สิ่งที่ต้องทำเมื่อไปชิบูย่า [ฉบับอัพเดต 2024]
ชิบูย่า เป็นแหล่งรวมตัวของคนหนุ่มสาว และเป็นจุดหมายในดวงใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก คุณสามารถสัมผัสถึงพลังและความคึกคักของย่านนี้ได้ตั้งแต่บริเวณถนนห้าแยกชิบูย่า ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งรวมความบันเทิงที่ที่แทรกซึมอยู่ทุกหนแห่ง ในบทความนี้เราขอแนะนำ 50 จุดเด็ดที่คุณจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาดหากได้มาเที่ยวชิบูย่า!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. เช็คอินที่ห้าแยกชิบูย่า [แหล่งท่องเที่ยว]
หากจะพูดถึงแลนด์มาร์คที่สำคัญที่สุดของย่านชิบูย่า ก็คงจะหนีไม่พ้นบริเวณทางม้าลายยักษ์ ณ ห้าแยกชิบูย่านั่นเอง ที่นี่นับเป็นศูนย์กลางธุรกิจอันสำคัญแห่งหนึ่งในโตเกียว รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าและคลาคลั่งไปด้วยผู้คนอยู่ตลอดเวลา วินาทีที่สัญญาณไฟคนเดินข้ามเปลี่ยนเป็นสีเขียว ภาพของผู้คนที่เดินสวนทางกันขวักไขว่เป็นทิวทัศน์ที่ผู้คนทั่วโลกเห็นอย่างคุ้นตาตามสื่อต่างๆ
ใครที่อยากมาเช็คอินที่นี่ จะเลือกถ่ายรูปตอนเดินถนนโดยตรงก็ได้ แต่เราขอแนะนำให้ขึ้นไปชมวิวและถ่ายรูปจากร้าน Starbucks ที่อยู่ชั้น 2 ของตึก Tsutaya เพราะจะสามารถเก็บภาพชิคๆ ของมุมห้าแยกชิบูย่าได้อย่างครบถ้วนเลยล่ะ
2. แวะชมรูปปั้น Hachiko สุนัขยอดกตัญญู [เยี่ยมชม]
หากพูดถึงจุดนัดพบยอดนิยมของย่านชิบูย่า คงไม่มีใครไม่รู้จักรูปปั้นฮาจิโกะ (Hachiko ハチ公) หรือรูปปั้นของสุนัขยอดกตัญญูที่อยู่บริเวณทางข้ามห้าแยกชิบูย่า ใกล้ทางออกประตู Hachiko Exit ของสถานีรถไฟชิบูย่า เรื่องราวของฮาจิโกะนั้นเคยได้รับการสร้างเป็นภาพยนต์เรื่อง "Hachiko Monogatari" เพื่อเป็นอนุสรณ์ในปี 1987 โดยฮาจิโกะนั้นเป็นสุนัขพันธุ์อาคิตะที่มีอยู่จริง และมักจะมาคอยเจ้านายกลับจากที่ทำงานบริเวณสถานีชิบูย่าในทุกวัน ว่ากันว่าหลังจากที่เจ้านายของมันเสียชีวิตไป ฮาจิโกะก็ยังคอยมาเฝ้ารอการกลับมาของเจ้านาย ณ จุดนัดพบเดิมเป็นเวลากว่า 9 ปี รูปปั้นแห่งนี้จึงได้กลายมาเป็นอนุสรณ์ถึงความซื่อสัตย์ของสุนัขตัวนี้นั่นเอง
3. แวะศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมก่อนออกเที่ยวในชิบูย่า
4. ชมจิตรกรรม "Asu no Shinwa" โดยศิลปินระดับตำนาน Taro Okamoto ที่สถานีชิบูย่า [เยี่ยมชม] [ศิลปะ]
Taro Okamoto เป็นหนึ่งในศิลปินชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 ผลงานส่วนใหญ่ของเขาได้รับการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น ตลอดจนพื้นที่เปิดโล่งต่างๆ มากมาย ซึ่งชิ้นงาน "ตำนานแห่งวันพรุ่ง" หรือ (Asu no shinwa – 明日の神話) นับเป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญที่สุดของเขา ชิ้นงานดังกล่าวเป็นงานจิตรกรรมฝาผนังขนาดกว้าง 5.5 เมตรและยาวถึง 30 เมตร ทีสื่อถึงเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่า
โดยเดิมทีภาพดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากโรงแรมแห่งหนึ่งใน Mexico city ในช่วงปี 1968 ทว่าโรงแรมดังกล่าวได้ถูกขายก่อนภาพวาดจะเสร็จสมบูรณ์ และงานจิตกรรมชิ้นนี้ก็ได้หายไปอย่างลึกลับเป็นเวลากว่า 25 ปี ก่อนจะถูกค้นพบอีกครั้งในปี 2003 และในที่สุดได้นำมาจัดแสดงที่สถานีชิบูย่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ใครที่สนใจอยากมาชมงานศิลปะที่แสนทรงพลังชิ้นนี้ สามารถมาเยี่ยมชมได้ที่โถงทางเดินของสถานีชิบูย่า บริเวณทางเชื่อมระหว่าง JR Line ไปยังสาย Inokashira Line
แผนที่: https://maps.app.goo.gl/1M2gzaLMk13cj7gX6
5. สักการะศาลเจ้าเก่าแก่ Konno Hachimang Shrine [แหล่งท่องเที่ยว]
ท่ามกลางย่านชิบูย่าที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและตึกระฟ้า มีศาลเจ้าอันเก่าแก่และเงียบสงบอย่าง Konno Hachimangu ตั้งอยู่ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1672 ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานของจักรพรรดิ Ojin จักรพรรดิองค์ที่ 15 ของญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของเขตชิบูย่า รวมถึงเป็นสถานที่ที่เก็บรักษาไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ อย่างหน้ากากสิงโตทองคำ และเกี้ยวมิโคชิที่ใช้ในงานเทศกาลต่างๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีต้นซากุระเก่าแก่อย่าง Konnoh-zakura ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์หายากอีกด้วย ความเงียบสงบของศาลเจ้าแห่งนี้จึงเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางความวุ่นวายของย่านชิบูย่าเป็นอย่างยิ่ง
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): https://www.konno-hachimangu.jp/index_en.html
6. เยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งสุนัขป่าที่ Miyamasu Mitake Shrine [เยี่ยมชม]
แม้หมาป่าจะสูญพันธุ์ไปเป็นเวลานานแล้วในประเทศญี่ปุ่น และศาลเจ้าในญี่ปุ่นมักเคารพบูชาหมาจิ้งจอกเป็นส่วนใหญ่ ทว่ามีศาลเจ้าเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ยังคงแสดงความรำลึกถึงสายพันธุ์แห่งผู้ปกปักรักษาของธรรมชาติอย่างหมาป่า ซึ่งก็คือศาลเจ้า Miyamasu Mitake แห่งนี้ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1570 โดยมีจักรพรรดิ์ Keikou (景行) วีรบุรุษในตำนานญี่ปุ่นประดิษฐานอยู่ที่นี่ บริเวณทางเข้าศาลหลักนั้นมีรูปปั้นหินหมาป่าสองตัวตั้งอยู่เพื่อปกปักรักษาศาลเจ้าแห่งนี้ โดยในเทศกาล Torinoichi (酉の市) ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลที่ศาลเจ้า มีผู้คนมาสักการะบูชาและมีร้านค้ามาจัดแผงขายของกันอย่างคึกครื้น
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): https://shibuyamiyamasu.jp/?page_id=396
7. ชมวิวจาก Shibuya Sky ที่ตึกระฟ้า Shibuya Scramble Square [ชมวิว]
Shibuya Scramble Square ที่ชิบูย่า นับเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโตเกียว ที่พึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษจิกายน 2019 ที่ผ่านมา ไฮไลท์เด็ดของตึกนี้อยู่ที่ดาดฟ้า Shibuya Sky ชั้น 47 ที่มีความสูงถึง 229 เมตร ให้คุณเพลิดเพลินกับวิวสุดอลังการ และสัมผัสกับบรรยากาศของชิบูย่าในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์กรุงโตเกียว 360 องศา ตลอดจนวิว 5 แยกชิบูย่าที่หลายคนคงคุ้นตา แน่นอนว่ามีทั้งจุดชมวิวและมุมถ่ายรูปที่จัดไว้ให้อย่างครอบคลุม สามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปได้โดยไม่ต้องกังวล แต่อาจจะต้องต่อแถวกันหน่อยนะ ใครที่ไปคนเดียวก็ไม่ต้องเป็นห่วง สามารถขอให้พนักงานช่วยถ่ายรูปให้ได้เช่นกัน
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.shibuya-scramble-square.com.e.apy.hp.transer.com/
8. แวะธีมปาร์ค NHK Studio Park เอาใจแฟนละครญี่ปุ่น [เยี่ยมชม]
NHK Studio Park ที่ตั้งอยู่ข้างสวน Yoyogi Park แห่งนี้ คือธีมปาร์คหรือสวนสนุกของ NHK หรือสถานีโทรทัศน์และวิทยุของญี่ปุ่น ภายในมีทั้งหมด 3 ชั้น คุณสามารถสนุกไปกับห้องที่จัดแสดงการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ความละเอียด 8K HD รับชมการพากย์เสียงในสตูดิโอ และเพลิดเพลินไปกับกับการต้อนรับของ Domo-kun และช็อปปิ้งสินค้า Domo-kun ได้อีกด้วย โดยที่นี่มีค่าเข้าชมราคา 200 เยนเพียงเท่านั้น ใครที่เป็นแฟนละครญี่ปุ่น หรือมีพิธีกรรายการโทรทัศน์ญี่ปุ่นที่ชอบจะต้องถูกใจที่นี่อย่างแน่นอน
[ปัจจุบันสถานที่นี้ได้ปิดทำการแล้ว]
9. ชมงานเซรามิกที่พิพิธภัณฑ์ Toguri Museum [ศิลปะ]
ในโตเกียวมีพิพิธภัณฑ์มากมาย แต่ที่ Toguri Museum แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะทางเรื่องถ้วยชามตะวันออก มีงานศิลปะจัดแสดงอยู่กว่า 7,000 ชิ้น ทั้งงานเซรามิกและงานวาดจากประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลี โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในโซนที่พักอาศัยของย่านชิบูย่า ห่างจากถนนหลัก Shoto (松濤) ซึ่งค่อนข้างวุ่นวาย เหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบงานศิลปะหรืออยากหลบหลีกจากผู้คน
นอกจากงานจัดแสดงแล้ว คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์งานเซรามิกแบบออริจินัล และโปสการ์ดขยับได้เหมือนรูปภาพ รวมไปถึงของที่ระลึกต่างๆ ภายในร้านค้าของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก จึงอาจมีช่วงปิดทำการสำหรับเตรียมการจัดแสดงคอลเล็คชันถัดไปด้วย จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบวันทำการของพิพิธภัณฑ์ก่อนแวะมานะ
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): www.toguri-museum.or.jp/english/index.php
10. ผ่อนคลายที่สวน Nabeshima Shoto Park [เยี่ยมชม]
11. ร้องเกะให้จุใจที่ Karaoke Pasela Grande [กิจกรรม]
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): http://www.pasela-shibuya.com/grande/
12. แวะทำผมสวยหลากสไตล์ที่ Sozo Omotesando [ความงาม]
เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ (สำหรับจองล่วงหน้า): https://zc5stuf.b-merit.jp/E9xUVQ4/web/reserve1/?from_coupon=1&redirect=1
13. ทำเล็บสุดปังที่ es Nail Shibuya (esネイル渋谷) [ความงาม]
จริงอยู่ที่เดี๋ยวนี้ร้านทำเล็บมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่ถ้ามีโอกาส เราก็อยากแนะนำให้ลองทำเล็บที่ญี่ปุ่น เพราะตั้งแต่วัสดุ อุปกรณ์ คุณภาพ และฝีมือเทคนิคของช่างญี่ปุ่นนั้นไม่เป็นสองรองใครแน่นอน! ซึ่งร้านทำเล็บชื่อดังในชิบูย่าที่เราอยากแนะนำคือร้าน es Nail Shibuya แห่งนี้ โดยที่นี่เป็นหนึ่งในร้านทำเล็บที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวที่เหล่าเซเลบชอบมากัน แถมมีสาขาที่ Beverly Hills ด้วยล่ะ! ภายในมีที่นั่งรองรับมากถึง 25 ที่ แถมมีลายเล็บให้เลือกมากมาย จะเทคนิคต่อเล็บเพนท์ลายแบบไหนช่างที่นี่ก็เอาอยู่หมด รับรองได้ว่ามาที่นี่ไม่มีผิดหวังแน่นอน
เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ: https://esnailtokyo.jp/ โดยปัจจุบันระบบของทางร้านยังไม่ได้เปิดให้ลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติจองผ่านระบบออนไลน์ แต่สามารถโทรเข้าไปสอบถามและจองคิวทางโทรศัพท์ หรือ Walk-in เข้าไปจองคิวได้เลยเช่นกัน ก่อนไปจะลองเช็คไอเดียทำเล็บสวยๆ ที่เว็บของทางร้านก็ดีนะ
14. ต่อขนตายาวสวยที่ Crazy Beauty [ความงาม]
อีกหนึ่งเทรนด์ความงามที่ฮิตกันสุดๆ ในหมู่สาวๆ ทั่วโลกตอนนี้คือการต่อขนตา และที่ชิบูย่าเองก็มีร้านต่อขนตาให้เลือกจำนวนไม่น้อย เราขอแนะนำร้าน Crazy Beauty ที่อยู่ห่างจากสถานีชิบูย่าเพียง 5 นาที แม้จะเป็นร้านขนาดเล็ก แต่ที่นี่เปิดทำการมาแล้วหลายปี และมีชื่อเสียงในฐานะร้านต่อขนตาคุณภาพดี ช่างต่อขนตาเองก็มากฝีมือ และมีบริการต่อขนตาให้เลือกหลายประเภท ที่สำคัญคือพนักงานของทางร้านสื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี ใครที่กังวลเรื่องกำแพงทางภาษาก็หายกังวลได้เลย
ปัจจุบันระบบจองออนไลน์ของทางร้านยังมีแค่ภาษาญี่ปุ่นให้บริการ แต่ใครที่สนใจก็สามารถโทรจองทางโทรศัพท์ได้เช่นกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://crazybeauty.jp/cb_res
15. แวะคาเฟ่สาวแกลที่ Gyaru Cafe 10sion [อาหารและเครื่องดื่ม] [กิจกรรม]
ย่าน Akihabara อาจมีเมดคาเฟ่ แต่รู้ไหมว่าที่ชิบูย่ามีคาเฟ่สาวแกล! จุดขายของ Gyaru Cafe 10sion แห่งนี้ คือบรรยากาศความสนุกสนานจากเหล่าพนักงานสาวแกล ที่นี่คุณสามารถพูดคุย ถ่ายรูป และให้สาวๆ แต่งหน้าแต่งผมเนรมิตให้คุณเป็นสาวแกลคนหนึ่งได้ หรือจะใช้เป็นสถานที่จัดงานในโอกาสพิเศษอย่างวันเกิดหรืองานเลี้ยงบริษัทก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
โดยที่นี่มีค่าบริการ 2,000 เยนต่อชั่วโมง ไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม และร้านเปิดทุกวันในช่วงกลางคืน ตั้งแต่ 20:00 - 05.00 น. หากสนใจสามารถจองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่ https://www.galcafe.tokyo/reservation (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)
16.สนุกกับไนท์คลับชื่อดัง SOUND MUSEUM VISION [บันเทิง]
[ปัจจุบันสถานที่นี่ได้ปิดให้บริการแล้ว]
17. เอาใจสายปาร์ตี้ที่ไนท์คลับ WOMB [บันเทิง]
ตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อปี 2000 ไนท์คลับ WOMB แห่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในไนท์คลับที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่ในโตเกียวแต่ในระดับโลก โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 2 ของโลกในปี 2005 และอันดับที่ 4 ในปี 2009 โดยนิตยสาร Mixmag ของประเทศอังกฤษ และกวาดรางวัลใหญ่ๆ อีกมากมายเรื่อยมา
ที่นี่เป็นไนท์คลับขนาดใหญ่กว่าสี่ชั้นและมีเพดานสูงโปร่งกว่า 10 เมตร ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ระบบเสียงระดับโลกที่ส่งตรงจากนิวยอร์คสู่โตเกียว และระบบแสงเลเซอร์ที่สร้างบรรยากาศเร้าใจควบคู่ไปกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดให้แดนซ์ตลอดคืน อีกทั้งที่นี่ยังมีการจัดอีเวนท์ที่มาพร้อมเหล่าศิลปินและดีเจชื่อดังขึ้นเวทีเล่นโชว์สดให้มันส์กันได้ทุกอาทิตย์ ใครเป็นสายดื่มสายแดนซ์รับรองว่าถูกใจแน่นอน
เว็บไซต์: http://www.womb.co.jp/
18. สนุกกับเกมเซนเตอร์ที่ Taito Station Shibuya [บันเทิง]
DocChewbacca/Flickrถึงแม้คุณจะไม่พูดภาษาญี่ปุ่น แต่คุณสามารถเพลิดเพลินกับเกมเซนเตอร์อย่าง Taito Station Shibuya ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา โดย Taito เป็นเชนร้านเกมชื่อดังที่มีสาขาทั่วญี่ปุ่น รวมถึงที่ชิบูย่าด้วยเช่นกัน ภายในมีทั้งจุดเล่นเกมคอมพิวเตอร์ เกมยิง CG เกมเต้นเข้าจังหวะดนตรี ไปจนถึงโซนตู้คีบตุ๊กตา และความบันเทิงต่างๆ อีกมากมาย
ที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 - 24:00 น. เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหากิจกรรมหรือโปรแกรมเดทสนุกๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น แต่ไม่มีงบหรือเวลาพอที่จะไปสวนสนุก แค่แวะมาที่เกมเซนเตอร์แห่งนี้ก็สามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงแบบญี่ปุ่นได้แน่นอนเลย เว็บไซต์: https://www.taito.co.jp/gc/store/00001460
19. แวะพักที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ Gran Cyber Cafe B@gus [บันเทิง]
หลายคนอาจมีภาพจำของร้านอินเตอร์เนตคาเฟ่ ที่ดูเก่าและตกแต่งด้วยวัสดุที่เรียบง่าย แต่ Gran Cyber Cafe B@gus แห่งนี้ นับเป็นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ไฮคลาสที่ไม่เหมือนใคร ภายในตกแต่งด้วยดีไซน์อย่างมีระดับ มีห้องให้ใช้บริการหลายรูปแบบ ตั้งแต่ตู้ที่นั่งเดี่ยว ไปจนถึงห้องส่วนตัวที่รองรับได้เป็นคู่และเป็นกลุ่ม มีมังงะและนิตยสารทุกประเภทให้คุณได้เพลิดเพลิน มีอุปกรณ์ทำงานอย่างเครื่องปริ้นท์และถ่ายเอกสาร อุปกรณ์ชาร์จและสายไฟทุกประเภท นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโซนเครื่องดื่มและอาหารที่เสิร์ฟไอศกรีมแบบเติมได้ไม่อั้น ตลอดจนห้องอาบน้ำขนาดกว้าง พร้อมอุปกรณ์เสริมอย่างไดร์เป่าผมและที่หนีบผมให้บริการ เรียกได้ว่าออกแบบมาอย่างครบครัน คุณผู้หญิงเองก็ใช้บริการได้อย่างปลอดภัยและสบายใจแน่นอน
เว็บไซต์: https://internet-cafe.bagus-99.com/shops/shibuya_bunkamura/
20. เลือกซื้อสินค้าจากเกษตรกรที่ Farmer's Market @ UNU [ช็อปปิ้ง]
Alexandra Cárdenas/Flickrใครที่ชอบ Farmer's market (ตลาดสินค้าการเกษตรที่เกษตรกรนำผลผลิตของตัวเองมาวางขายโดยตรง) เรามั่นใจว่าคุณต้องถูกใจตลาดที่จัดที่ UNU (หน้ามหาวิทยาลัย United Nations University) อย่างแน่นอน ตลาดแห่งนี้เป็นหนึ่งใน Farmer's market ขนาดใหญ่ของโตเกียวที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน เปิดทุกวันวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 10:00 - 16:00 น.
โดยหัวใจของตลาดแห่งนี้ คือ ความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค คุณจะได้พบกับเหล่าเกษตรกรที่ขนผลผลิตของตัวเองมาวางขาย รอต้อนรับและให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจอย่างเป็นมิตรและจริงใจ ภายในงานมีทั้งพืชผักผลไม้ออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นญี่ปุ่น ไปจนถึงฟู้ดทรัคเสิร์ฟอาหารคุณภาพดีสดๆ ใครอยากสัมผัสบรรยากาศความร่วมมือกันของชุมชนท้องถิ่นที่แสนจะเป็นมิตร เราขอแนะนำให้แวะมาให้ได้
เว็บไซต์: http://farmersmarkets.jp/
21. หาเพื่อนใหม่ผ่านกิจกรรม Tokyo International Friends & Events [กิจกรรม]
เราเชื่อว่าใครหลายคนที่ขื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น จะต้องเคยรู้สึกอยากมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นกันบ้าง แต่จะไปตามหาเพื่อนใหม่ได้จากที่ไหนกันล่ะ ใครที่เคยรู้สึกแบบนี้ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Tokyo International Friends & Events ซึ่งเป็นเครือข่ายอีเวนท์ในโตเกียวที่มุ่งสร้างมิตรภาพและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภาษาระหว่างผู้มาร่วมงาน เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ คุณจะพบกับรายการกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้แลกเปลี่ยนภาษา อีเวนท์ทำอาหาร ไปจนถึงคลาสออกกำลังกาย ที่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนญี่ปุ่นและคนต่างชาติในโตเกียว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในญี่ปุ่น หรือเป็นนักท่องเที่ยว รับรองได้ว่าที่นี่ต้อนรับทุกคน!
กิจกรรมของที่นี่มีหลากหลายรูปแบบและกระจายตัวอยู่หลายจุดทั่วโตเกียว รวมถึงชิบูย่าด้วยเช่นกัน ใครที่สนใจมองหาประสบการณ์และมิตรภาพใหม่ๆ แวะเข้าไปดูได้รายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่: https://tokyointernationalmeetup.com/
22. เข้าคลาสเรียนทำอาหารญี่ปุ่น Japanese Cooking at Shibuya [กิจกรรม]
japanesecookingclassatshibuya.strikingly.comหากคุณเป็นคนชอบเข้าครัวและเรียนรู้การทำอาหารอยู่แล้ว คลาสเรียนทำอาหารญี่ปุ่นนี้คงถูกใจคุณไม่น้อย ที่สตูดิโอเล็กๆ แห่งนี้ เกิดจากความตั้งใจของคุณครูผู้สอนที่เชื่อว่าการทำอาหารเป็นหนึ่งในประตูสู่การเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น
โดยที่นี่เปิดสอนทั้งคลาสเดี่ยวและคลาสสำหรับกลุ่มสูงสุด 8 คน ในราคาย่อมเยาเพียง 2,000 เยนต่อคน โดยผู้เรียนสามารถเลือกเมนูที่อยากเรียนจากรายการอาหารญี่ปุ่นกว่า 70 ประเภทได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นซูชิ เทมปุระ อุด้ง เทริยากิ ไปจนถึงข้าวหน้าเนื้อต่างๆ อีกทั้งผู้สอนยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและจีนได้อีกด้วย ใครที่มองหาประสบการณ์ทำอาหารแบบโลคอล ต้องคลาสที่นี่เลย
เว็บไซต์: http://japanesecookingclassatshibuya.strikingly.com/
23. เล่นกับน้องแมวที่ Hapi Neko [อาหารและเครื่องดื่ม] [กิจกรรม]
ที่นี่คือคาเฟ่แมวในบริเวณ Dogenzaka มีแมวประมาณ 15 ตัวจะสลับสับเปลี่ยนกันมาเล่นกับคุณ! คาเฟ่นี้มีหน้าต่างบานใหญ่ที่คุณสามารถมองออกไปยังถนนตามแนวต้นไม้ ระหว่างที่เล่นกับเจ้าเหมียวไปด้วย ที่นี่มีทั้งที่นั่งโต๊ะ ที่นั่งโซฟา และโซนเสื่อตาตามิ (เสื่อญี่ปุ่น) ให้ความรู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ หากเหนื่อยล้ากับการมีแต่ผู้คนล้อมรอบ ลองมาพักดื่มชากับเจ้าเหมียวดูหน่อยไหม?
[ปัจจุบันคาเฟ่นี้ได้ปิดให้บริการแล้ว]
24. ดื่มด่ำธรรมชาติที่คาเฟ่สวนพฤกษศาสตร์ Shibuya Fureai Botanical Centre [อาหารและเครื่องดื่ม] [กิจกรรม]
หลายคนอาจไม่ทราบว่าบริเวณใกล้สถานีชิบูย่านั้น มีคาเฟ่สวนพฤกษศาสตร์ขนาดเล็กซุกซ่อนตัวอยู่ด้วย เพียงเดินจากสถานีชิบูย่าประมาณ 5 นาที คุณสามารถพบกับ Shibuya Fureai Botanical Centre ซึ่งเป็นอาคารพร้อมเรือนกระจกขนาดกะทัดรัด ที่นี่รวบรวมไว้ซึ่งพืชเขตร้อนกว่า 200 ชนิด รวมถึงตู้ปลาและตู้แมลงหลากหลายชนิดให้คุณเข้ามาเรียนรู้และชื่นชม
เพียงจ่ายค่าเข้า 100 เยน ก็สามารถเข้ามาเพลิดเพลินและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์นี้ได้ โดยบริเวณชั้นสองมีห้องสมุดขนาดเล็กเกี่ยวกับพืชและแมลง พร้อมด้วยโซนคาเฟ่ที่ให้บริการกาแฟและอาหารทานเล่น ตลอดจนเครื่องดื่มและค็อกเทลต่างๆ ส่วนชั้นสามใช้เป็นสถานที่จัดชั้นเรียนเกี่ยวกับการทำสวน และจัดอีเวนท์ประจำปีต่างๆ แอบกระซิบว่าที่นี่มักจัดงานชมหิ่งห้อยในช่วงปลายเดือนมิถุนายนของทุกปี หากมีโอกาสได้แวะมาช่วงนี้ก็สามารถเข้าฟรีไม่เสียเงินด้วยล่ะ
เว็บไซต์: http://www.botanical-fureai.com/index.html
25. ชมงานศิลปะที่ Tokyo Wondersite Shibuya [ศิลปะ]
ที่นี่ตั้งอยู่ในชั้นหนึ่งของตึกที่ตั้งอยู่ทแยงมุมกับห้าง Parco บนถนน Koen-dori (公園通り) โดยสนับสนุนส่งเสริมการจัดแสดงงานของศิลปินวัยเยาว์แก่สาธารณะ จัดแสดงงานของผู้สร้างที่เข้าร่วมในโปรแกรมขณะนั้น หากคุณเหนื่อยกับความวุ่นวายเร่งรีบของชิบูย่า ก็ขอแนะนำให้ลองไปที่นี่เพื่อสงบใจไปกับศิลปะแนวโมเดิร์น ไม่มีค่าเข้าชมด้วยนะ!
เว็บไซต์: http://www.tokyo-ws.org/shibuya/
[ปัจจุบันสถานที่นี้ได้ปิดให้บริการแล้ว]
26. แวะช็อปที่ห้าง Shibuya PARCO โฉมใหม่ [ช็อปปิ้ง]
Shibuya PARCO เป็นห้างใหญ่ที่พึ่งรีโนเวทและเปิดใหม่ไปเมื่อปลายปี 2019 ที่ผ่านมา นอกจากจะมีแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง GUCCI, Baobao Issey Miyake, Pocket Comme de Garcons และแบรนด์อื่นๆ มากมายให้เลือกช็อปแล้ว ยังมีโซนขายสินค้าและของสะสมสำหรับคออนิเมะ มังงะ และเกมส์ต่างๆ ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น Nintendo Shop แห่งเดียวในโลก Capcom Store ที่มัดรวมเกมยอดนิยมมานำเสนอ Pokemon Center ขนาดใหญ่ ไปจนถึงร้าน Jump Shop ที่วางขายของสะสมจากนิตยสาร Shonen Jump ที่แสนโด่งดังอีกด้วย โดยโซนช็อปปิ้งเปิดตั้งแต่เวลา 11:00 - 21:00 น. สามารถช็อปได้จุใจยันค่ำอย่างแน่นอน
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): https://shibuya.parco.jp.e.aiv.hp.transer.com/
27. ช็อปปิ้งสายแฟชั่นที่ห้าง Shibuya 109 [ช็อปปิ้ง]
Photo by kirainet on Flickrใครเป็นสายแฟชั่นบอกเลยว่าพลาดไม่ได้! ห้าง Shibuya 109 (อ่านว่า "ชิบูย่า โทคิว" ซึ่งมาจากการเล่นคำในภาษาญี่ปุ่น) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของย่านนี้เลย เพราะเปิดให้บริการมาแล้วนานกว่า 45 ปี ภายในมีขนาดใหญ่ถึง 10 ชั้น และมีร้านสินค้าแฟชั่นมากกว่า 100 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ ไปจนถึงสกินแคร์และคอนแทคเลนส์ต่างๆ เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว โซนช็อปปิ้งเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 - 21:00 น. ถ้าได้ลองแวะเข้าไปก็กุมกระเป๋าเงินให้ดีๆ รับรองว่าเจอของถูกใจได้ช็อปจนตาลายแน่นอน
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): http://www.shibuya109.jp/en/
28. ช็อปสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ Hands Shibuya [ช็อปปิ้ง]
Amy Jane Gustafson/Flickrแม้จะพึ่งผ่านการรีแบรนด์จากชื่อ Tokyu Hands ให้เหลือเพียง Hands เฉยๆ ในปี 2022 ที่ผ่านมา แต่รับรองได้ว่าคุณภาพและความเพลิดเพลินจากการเดินช็อปปิ้งที่นี่นั้นไม่เปลี่ยนไปแน่นอน เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับร้านขายสินค้าในชีวิตประจำวันที่มาพร้อมโลโก้สีเขียวเข้มนี้อยู่แล้ว และสำหรับสาขาชิบูย่านั้น Hands Shibuya แห่งนี้ก็มีขนาดใหญ่มากถึง 7 ชั้น (ไม่รวมชั้นใต้ดิน) และนอกจากจะมีจุดเด่นด้านการขายสินค้าสำหรับงาน D.I.Y. แล้ว ที่นี่ยังมีสินค้าสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการช็อปปิ้ง ไม่ว่าจะเครื่องเขียน เครื่องใช้ที่ออฟฟิศ เครื่องมือสำหรับงานอดิเรกอย่างอุปกรณ์ทำอาหารหรือแคมป์ปิ้ง ไปจนถึงสินค้าที่คุณอาจคาดไม่ถึงในหมวดสินค้าสำหรับการจัดงานปาร์ตี้ด้วย บอกเลยว่าแค่ได้เดินก็เพลินไปทั้งวันแล้วล่ะ
เว็บไซต์ (ภาษาไทย): https://shibuya.hands.net/
29. ช็อปสินค้านำเทรนด์ที่ Shibuya LOFT [ช็อปปิ้ง]
Photo by Danny Choo on flickrถัดมาจากร้าน Hands ไม่ไกลนัก ก็จะเจอกับห้างสรรพสินค้าสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์อย่าง LOFT สาขาชิบูย่า ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 ชั้น และมีสินค้าไลฟ์สไตล์วางจำหน่ายกว่า 80,000 ชิ้น โดยแม้ประเภทของสินค้าที่นี่อาจฟังดูคล้ายกับสินค้าของ Hands แต่จุดเด่นของ LOFT คือการนำเสนอสินค้าที่มีความทันสมัย นำเทรนด์มากกว่าของใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป และผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นให้เข้ากับดีไซน์โมเดิร์นอย่างลงตัว คุณสามารถหาซื้อสินค้า interior แต่งบ้านเก๋ๆ เช่น โซฟาหรือผ้าม่าน สินค้าคาแรกเตอร์ที่เป็นที่นิยม ไปจนถึงสินค้าของฝากที่ทั้งใช้งานได้จริงและมีความสร้างสรรค์แบบญี่ปุ่น นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีทางเชื่อมต่อกับทั้ง Muji และห้างสรรพสินค้า Seibu ทำให้การช็อปปิ้งระหว่างสามที่นี่สะดวกมากเลยล่ะ
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): https://www.loft.co.jp/en/store_search.html
30. ช็อปสินค้าลดราคาที่ MEGA Don Quijote Shibuya [ช็อปปิ้ง]
ว่ากันว่าใน 10 ล้านคนที่มาท่องเที่ยวญี่ปุ่น 5 ล้านคนจะต้องเคยไปร้าน Don Quijote หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อของร้าน "ดองกี้" เพราะที่นี่คือร้านค้าลดราคาขนาดใหญ่ที่คุณสามารถหาซื้อสินค้าทุกชนิดที่จะนึกถึงได้ ไม่ว่าจะอาหาร ขนม ของฝาก อาหารเสริมและสกินแคร์ญี่ปุ่น ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ อย่างนาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงสินค้าสำหรับงานอดิเรกอย่างชุดคอสเพลย์ด้วยนะ แถมที่สาขา MEGA Don Quijote Shibuya แห่งนี้ นอกจากจะใหญ่จุใจแล้วยังเปิดให้ช็อปตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย! แถมดองกี้แห่งนี้ยังเป็นจุดนัดพบที่ดีด้วยนะ เพราะป้ายร้านที่ใหญ่สะดุดตานั่นเอง รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมแวะไปกันสักหน่อยล่ะ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): https://www.donki.com/store/shop_detail.php?pre=shop_detail&shop_id=442
31. ช็อปเสื้อผ้าคุณภาพดีที่ Uniqlo Shibuya [ช็อปปิ้ง]
Dick Thomas Johnson/Flickrสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมระดับโลกอย่าง Uniqlo นั้น เชื่อว่าถึงไม่ต้องบรรยายเยอะ หลายๆ คนก็คงรู้จักกันเป็นอย่างดี โดย Uniqlo สาขาชิบูย่านี้ก็มีพื้นที่ให้เดินช็อปถึง 2,000 ตร.ม. แถมยังเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีชิบูย่า สาย Denen-toshi ชั้นใต้ดิน ซึ่งจุดเด่นอย่างหนึ่งของ Uniqlo คือการดีไซน์เสื้อผ้าคุณภาพดีที่สวมใส่ได้ง่ายในทุกโอกาส และสามารถหาซื้อเสื้อผ้าให้ทั้งครอบครัวได้ร้านเดียว ตั้งแต่คุณปู่คุณย่าไปจนถึงเด็กทารก แถมยังมีคอลเล็คชันเสื้อยืดคาแรคเตอร์พิเศษให้ซื้อสะสมกันด้วย ถ้าใครไม่ชอบซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นตามเทรนด์ แวะมา Uniqlo แล้วมองหาเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายได้ในหลายโอกาสก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย
32. ช็อปสินค้าราคาประหยัดที่ร้าน 100 เยน [ช็อปปิ้ง]
ถ้าพูดถึงร้านสินค้าราคาประหยัด หลายคนคงนึกถึง ร้าน 100 เยน ที่จำหน่ายสินค้าจิปาถะในราคารวมภาษีแล้วเริ่มต้นเพียง 110 เยน! ซึ่งในย่านชิบูย่าเองก็มีร้าน 100 เยนให้เลือกช็อปถึงสามแห่ง อย่างร้าน Can*Do (เปิดทุกวันเวลา 10:00 - 22:00 น.) ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนเส้นกลางของชิบูย่า วางขายสินค้าเครื่องใช้ในบ้านน่ารักๆ อย่างเครื่องแก้ว อุปกรณ์ทำครัว ไปจนถึงกระถางต้นไม้จิ๋วลวดลายน่ารัก ซึ่งข้างๆ กันนั้นก็มีร้าน Daiso (เปิดทุกวันเวลา 10:00 - 21:30 น.) ขนาดสองชั้นเปิดอยู่เคียงข้างกันด้วย หรือหากไม่มีเวลาออกมาเดินถนน ภายในสถานีชิบูย่าเองก็มีร้าน Daiso ขนาดใหญ่อีกแห่งตั้งอยู่ที่ Shibuya Mark City ชั้น 1 ด้วยนะ (เปิดทุกวันเวลา 9:30 - 21:00 น.) ภายในมีทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้จุกจิกน่ารัก ไปจนถึงขนมและตุ๊กตาต่างๆ ใครที่มองหาของฝากราคาประหยัดอยู่ขอแนะนำเลย
Can★Do (เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ): http://www.cando-web.co.jp/e/store_shibuya.html
Daiso เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): https://www.daiso-sangyo.co.jp/en/shop?prc=detail&sid=8931
33. ช็อปสินค้า Sanrio ที่ CLUB KT SHIBUYA - SHIBUYA 109 [ช็อปปิ้ง]
CLUB KT Shibuya แห่งนี้ได้รับการเนรมิตตกแต่งด้วยคาแรคเตอร์ แฟชั่น และดนตรีน่ารักสไตล์ Sanrio ดึงดูดเพื่อกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ที่นี่มีสินค้ามากกว่า 1000 ชิ้น เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ต่างๆ ของ Sanrio แน่นอนว่ารวมไปถึงตัวละครสุดน่ารักอย่าง Hello Kitty ด้วย! ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังมีบู้ทดีเจตั้งอยู่ภายในร้าน มีจอขนาดใหญ่และอุปกรณ์ครบครันเพื่อจัดงานอีเว้นท์ DJ ในโอกาสต่างๆ อีกด้วย
[ปัจจุบันร้านนี้ได้ปิดให้บริการแล้ว]
34. ช็อปสินค้าญี่ปุ่นหลากสไตล์ที่ Shibuya Maruara Watanabe [ช็อปปิ้ง]
เริ่มแรกร้านนี้เปิดเป็นร้านขายอาหารแห้งในปี 1926 ปัจจุบันที่นี่ขายชุดกิโมโน, รองเท้า Geta (รองเท้าสำหรับใส่คู่กับกิโมโน), เสื้อยืดลายญี่ปุ่น, พัดญี่ปุ่น และสินค้าสไตล์ญี่ปุ่นอื่นๆ เจ้าของร้านนี้คัดสรรสินค้ามาวางขาย โดยเลือกสิ่งที่คิดว่าชาวต่างชาติน่าจะสนุกกับการซื้อของ โดยให้เป็นร้านขายของจิปาถะที่สนุกสนาน มีแม้กระทั่งชุดกิโมโนปลอมที่ง่ายต่อการสวมใส่ อีกทั้งยังจัดตั้งโชว์ของที่ระลึกจากต่างประเทศต่างๆ อีกด้วย
[ปัจจุบันร้านนี้ได้ปิดให้บริการแล้ว]
35. ช็อปขนมหวานญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ Ginza Kikunoya Shibuya ShinQ's Store [ช็อปปิ้ง]
Ginza Kikunoya เป็นหนึ่งในร้านขนมเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่าศตวรรษ มีจุดเริ่มต้นในปีค.ศ. 1890 จากการขายขนมคาบูกิเซมเบ้ (ขนมลักษณะคล้ายข้าวเกรียบ) ที่ย่านกินซ่า ใกล้กับโรงละคร Kabukiza และต่อมาในช่วงปลายสมัย Taisho ทางร้านได้คิดค้นขนมหวานสำหรับเวลาน้ำชา ชื่อ "Fukiyose" (冨貴寄) ซึ่งได้กลายมาเป็นสินค้าซิกเนเจอร์ของทางร้านในปัจจุบัน และได้รับความนิยมจนทางร้านได้จดเครื่องหมายทางการค้าเลยทีเดียว โดยขนมดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคุกกี้ ผิวสัมผัสแห้งและรสชาติหวานเล็กน้อยเหมาะรับประทานกับน้ำชา แถมยังปั้นออกมาเป็นลวดลายสวยงามที่สื่อถึงสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น อย่างรูปภูเขาไฟฟูจิและดอกซากุระ บรรจุในกล่องเล็กที่ดูมีระดับ โดยสาขาที่ชิบูย่าตั้งอยู่ที่ชั้น B2 ของห้าง Toyoko Norengai เป็นอีกหนึ่งร้านแนะนำสำหรับการเลือกซื้อของขวัญและของฝากที่สามารถสื่อถึงความใส่ใจของผู้ให้ได้เป็นอย่างดี
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): https://www.ginza-kikunoya.co.jp/english/
36. ช็อปสินค้าวันพีซให้จุใจที่ One Piece Mugiwara Shibuya [ช็อปปิ้ง]
ภายในโตเกียวมีร้าน One Piece Mugiwara Store หรือร้านจำหน่ายสินค้าของ One Piece อย่างเป็นทางการอยู่หลายสาขา แต่ทราบหรือไม่ว่าสาขาหลักที่ใหญ่ที่สุดนั้นตั้งอยู่ที่ย่านชิบูย่า ที่ชั้น 6 ของห้าง MAGNET by SHIBUYA 109 นี่เอง โดยที่นี่มีสินค้าถูกลิขสิทธิ์วางจำหน่ายมากกว่า 10,000 ชิ้น เปิดให้ช็อปทุกวันตั้งแต่ 10:00-21:00 น. มีสินค้าตั้งแต่ของสะสมอย่างเข็มกลัด แฟ้มใส่เอกสาร นาฬิกาตกแต่ง ตุ๊กตาล้มลุก สินค้าขนมจากมังงะ ไปจนถึงสินค้า Limited item อย่างหมวกฟางและแก้วน้ำของลูฟี่อีกด้วย เรียกได้ว่าช็อปเสร็จก็พร้อมเป็นราชาโจรสลัดกันได้เลย!
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): https://www.mugiwara-store.com/about?hl=en
37. ลิ้มรสเนื้อย่างสุดฟินที่ Shibuya Yakiniku KINTAN [อาหารและเครื่องดื่ม]
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการได้รับประทานเนื้อวากิวคุณภาพดีนั้นเป็นสวรรค์ของคนรักเนื้อ แต่เนื้อวากิว A5 ในราคาไม่ถึง 500 บาทเนี่ยนะ? ขอบอกเลยว่าไม่เว่อร์เกินจริง เพราะคุณสามารถมาลิ้มลองเนื้อย่างแสนอร่อยคุณภาพเยี่ยมได้ที่ร้าน Shibuya Yakiniku KINTAN ที่ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของห้างสรรพสินค้า Shibuya PARCO โดยที่นี่เสิร์ฟเนื้อคุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึง เมนูแนะนำคือเซ็ตเนื้อวากิว A5 และเซ็ตวัว ทั้งคู่สนนราคาเพียงพันกว่าเยนต่อเซ็ต (สำหรับช่วงกลางวัน) บอกเลยว่าที่นี่มีเนื้อเกรดที่ดีที่สุด มันสอดแทรกเยอะที่สุด ได้เนื้อสัมผัสนุ่มละลายในปากอย่างที่สุด ต้องไปลอง!
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): https://kintan.restaurant/shop/shibuya-yakiniku/
38. แวะกินดื่มในตรอกเล็กที่มีเสน่ห์ ณ Nonbei Yokocho [อาหารและเครื่องดื่ม]
Sergio Rozas/Flickrหากเดินจากสถานีชิบูย่าเพียงเล็กน้อย ใช้ทางออก Hachiko ไปยัง Miyamasuzaka มุ่งหน้าไปทางซ้าย คุณจะเห็นตรอกถนนเล็กๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านกินดื่มและอาหารปิ้งย่างจำนวนมาก ตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดง และโครงสร้างอาคารสไตล์ดั้งเดิมที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของยุคสมัย Showa บรรยากาศเป็นกันเองของที่นี่ชวนให้คุณพูดคุยกับเจ้าของบาร์และลูกค้าคนอื่นๆ ได้เลยอย่างไม่ต้องคะเขิน สามารถเพลิดเพลินกับอาหารราคาย่อมเยาและผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ แม้จะเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก แต่รับรองว่าจะรู้สึกสบายใจเหมือนเคยมาเป็นประจำอย่างแน่นอน แนะนำให้มาช่วงเย็นประมาณหลัง 5 โมงเย็นเป็นต้นไป และอยู่ได้ยาวๆ ถึงตี 4 เลยล่ะ
เว็บไซต์: http://nonbei.tokyo
39. อิ่มอร่อยกับซูชิคุณภาพดีที่ Sushi no Midori Shibuya [อาหารและเครื่องดื่ม]
Isriya Paireepairit/Flickrที่ร้านซูชิเล็กๆ แห่งนี้ ทุกวันจะมีคนมีต่อคิวตั้งแต่ก่อนเปิดร้าน ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เหตุผลที่คนมาต่อคิวแน่นหนาแน่นอนว่าก็เพราะรสชาติ คุณภาพ และราคา! ที่นี่มีเมนูซูชิที่หลากหลาย สามารถเลือกทานทั้งแบบเป็นคำ แบบเซ็ตพิเศษที่มีเมนูเฉพาะสำหรับสาขาชิบูย่า ไปจนถึงเซ็ตโอมากาเสะเสิร์ฟกันสดๆ จากเหล่าเชฟ คุณสามารถทานซูชิมื้ออร่อย สดใหม่ จนอิ่มจุใจได้ในราคาเพียงประมาณ 2500 เยน แนะนำว่าหากสนใจควรจองไปก่อนเพี่อหลีกเลี่ยงคิวยาว แต่ถ้าเลือกจะ Walk-in ช่วงสุดสัปดาห์ ถ้าเป็นช่วงบ่าย 3 - 5 โมงเย็นก็อาจจะยังมีที่ว่างให้พอลุ้นอยู่นะ
เว็บไซต์สำหรับการจอง (ภาษาอังกฤษ): https://www.tablecheck.com/shops/sushinomidori-shibuya/reserve
40. เพลิดเพลินกับซูชิสายพานราคาย่อมเยาที่ Uobei Shibuya Dogenzaka [อาหารและเครื่องดื่ม]
Dick Thomas Johnson/Flickr
ใครที่ชอบซูชิสายพานคุณภาพดีราคาประหยัด เราขอแนะนำ Uobei เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก โดยที่นี่แตกต่างจากซูชิสายพานเจ้าอื่นตรงที่จะรับออเดอร์ผ่านการใช้จอสัมผัสเพียงเท่านั้น และเสิร์ฟอาหารผ่านสายพานรถไฟที่วิ่งตรงสู่โต๊ะของคุณ ไม่มีซูชิบนสายพานที่วนซ้ำไปเรื่อยๆ แถมยังมีราคาย่อมเยาเริ่มต้นที่ประมาณจานละ 110 ถึง 160 เยนเพียงเท่านั้น ซูชิของ Uobei จึงได้รับความไว้วางใจในคุณภาพ ความสะอาด และราคาที่เข้าถึงง่าย การันตีจากการได้รับรางวัลร้านซูชิสายพานที่สาวญี่ปุ่นนิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา สำหรับสาขาที่ชิบูย่านั้นตั้งอยู่ที่ตรอกเล็กๆ ไม่ไกลจากห้าง Shibuya 109 หาได้ไม่ยากแน่นอน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): http://www.genkisushi.co.jp/search/map.php?id=232
41. จิบไวน์และทานเนื้ออย่างที่ Kuriya Nanadaime Matsugoro [อาหารและเครื่องดื่ม]
Kuriya Nanadaime Matsugoro เป็นร้านในบริเวณ Dogenzaka สุดคึกคักของชิบูย่า ที่นำความสุนทรีย์ของการดื่มไวน์และรับประทานเนื้อย่างมาผสานกันอย่างลงตัว ที่นี่เสิร์ฟเนื้อสุกี้ยากี้ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ใช้เนื้อวากิวญี่ปุ่นแบรนด์ Oumi Ushi (近江牛) แนะนำให้ลองทานแบบไม่สุกมากก่อนเพื่อลิ้มรสความหวานของเนื้ออย่างเต็มที่ หรือจะทานแบบย่างถ่านก็อร่อยเลิศ ส่วนไวน์ก็มีหลากหลายชนิดจากทั่วทุกมุมโลก แถมยังที่นั่งทั้งที่ระเบียงและในห้องส่วนตัวอีกด้วย ไม่ว่าจะเลือกมาเดทหรือมาสังสรรค์เป็นกลุ่มก็เหมาะทั้งสิ้น
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): http://7matsugoro.com/
42. แวะร้านยืนดื่มคุณภาพคับแก้วที่ Fujiya Honten [อาหารและเครื่องดื่ม]
ใครที่ชอบประสบการณ์ดื่มแบบผ่อนคลายเป็นกันเอง คงต้องชอบร้านสไตล์ Tachinomi (立ち飲み) หรือที่แปลตรงตัวได้ว่าร้านอาหารแบบยืนดื่ม และที่ร้าน Fujiya Hoten แห่งนี้ ก็เป็นหนึ่งในร้านยืนดื่มยอดนิยมในหมู่คนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยว แม้ภายนอกจะดูเล็ก แต่เมื่อเดินลงบันไดไปยังตัวร้านที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน จะพบกับเคาน์เตอร์บาร์ยาว 30 เมตร และบรรยากาศการตกแต่งที่ดูอบอุ่น มีกลิ่นอายเก่าแก่ของยุคสมัย Showa โดยที่นี่มีเมนูทั้งไวน์และเบียร์ให้เลือกสรรจำนวนมาก พร้อมเมนูอาหารจัดเต็มไม่ว่าจะสั่งแค่กับแกล้มหรือรับประทานเน้นอิ่ม อีกทั้งยังเป็นร้านที่ได้รับคำชมเรื่องการบริการและความเอาใจใส่ของพนักงาน แถมมีเมนูภาษาอังกฤษให้บริการด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ถนัดภาษาญี่ปุ่น หรือมีความกล้าๆ กลัวๆ เวลาจะเข้าร้านกินดื่ม รับรองว่ามาที่นี่จะไม่ต้องกังวงใจแน่นอน แอบกระซิบว่าเมนูดังของที่นี่คือแฮมคัทสึ (ハムカツ) แฮมชุบเกล็ดขนมปังทอดแสนอร่อย ลองสั่งมารับประทานคู่กับเครื่องดื่มที่คุณชอบดูนะ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): https://fujiyahonten.co.jp/stores/tachinomi/
43. อิ่มอร่อยกับทงคัตสึเจ้าเด็ดที่ Katsukichi [อาหารและเครื่องดื่ม]
ขอเอาใจคนรักของทอดกันบ้าง เราขอแนะนำร้าน Katsukichi ร้านเก่าแก่ที่เชี่ยวชาญด้านการทำหมูทอดทงคัตสึ เปิดบริการมานานแล้วกว่า 60 ปี และมีหลากหลายสาขาทั่วโตเกียว ซึ่งหากเดินจากประตูทางออกตะวันออกของสถานีชิบูย่ามาเพียงเล็กน้อย ก็จะพบกับโคมไฟหินและตัวร้านที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้บันไดหิน ภายในร้านตกแต่งด้วยโต๊ะไม้ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับนั่งพักในห้องอาหารในเขตชนบท เป็นร้านที่เหมาะจะพาครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือคนที่ทำงานมาก็ได้ทั้งสิ้น เมนูเด็ดของทางร้าน คือ Nihonbashi Combo เซ็ตเมนูที่เสิร์ฟเนื้อสันในทงคัตสึ มาพร้อมกับกุ้งลายเสือทอดกรอบ ผักสดและมิโสะซุปทานเข้าคู่กัน คนชอบทงคัตสึไม่มีผิดหวังแน่นอน
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): http://www.bodaijyu.co.jp/restaurant/shibuya/
44. อิ่มอร่อยกับร้านเทปปันยากิ Kashiwa ที่ห้าง Shibuya Hikarie [อาหารและเครื่องดื่ม]
Kashiwa เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมสไตล์เทปปันยากิที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของห้างสรรพสินค้า Shibuya Hikarie ภายในตกแต่งด้วยบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ให้บรรยากาศคล้ายนั่งในบ้านที่เกียวโต แถมยังมีห้องส่วนตัวที่มาพร้อมโต๊ะ Horigotatsu (掘りごたつ) หรือโต๊ะเตี้ยที่มีพื้นที่ด้านล่างสำหรับหย่อนขานั่ง โดยเมนูเด็ดของร้านคือ "Fuwatoro-yaki (ふわとろ焼き)" อันโด่งดัง ซึ่งถือเป็นรูปแบบหนึ่งของโอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่น ทางร้านนี้ใช้เนื้อไก่ Hinaidori จากจังหวัดอาคิตะ นำมาย่างบนกะทะเหล็ก ก่อนที่จะห่อด้วยผักสดสำหรับรับประทานคู่กัน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): http://www.salt-inc.co.jp/kashiwa/
45. ซดราเมงซุปกระดูกหมูในตำนานที่ Ichiran Shibuya [อาหารและเครื่องดื่ม]
Thy Khue Ly/Flickrสำหรับใครที่ชื่นชอบทงคตสึราเมง (Tonkotsu Ramen) หรือราเมงซุปกระดูกหมู เราขอแนะนำ Ichiran ร้านต้นตำรับทงคตสึราเมงที่โด่งดังและมีสาขาหลายแห่งทั่วโลกรวมไปถึงที่นิวยอร์ค! ทางร้านให้ความสำคัญกับการเสิร์ฟราเมงคุณภาพดี ไฮไลท์อยู่ที่น้ำซุปทั้งแบบเคี่ยวจนข้นและแบบใส ว่ากันกว่าจะรังสรรค์เมนูได้แต่ละชาม ทางร้านต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญถึง 40 คน ซึ่งในย่านชิบูย่าเองนั้นมีร้านราเมง Ichiran ถึงสองสาขา ได้แก่สาขาที่อยู่ชั้นใต้ดินของอาคาร Iwamoto Building (เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง) และสาขา Spain-zaka (เปิดทุกวันเวลา 10:00 ถึง 6:00 น. เช้าวันถัดไป) แม้อาจจะต้องรอคิวสักหน่อยเพราะเป็นร้านดัง แต่ทั้งสองสาขาก็มีการจัดการที่รวดเร็วเป็นระบบไม่ต้องรอนานเกินแน่นอน
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): http://www.ichiran.co.jp/english/html/kt_shibuya.html
46. เพลิดเพลินกับเนื้อย่าง A5 ที่ Ushigoro Bambina
คนรักเนื้อเป็นต้องถูกใจ เพราะ Ushigoro Bambina แห่งนี้เค้าจริงจังเรื่องเนื้อเป็นที่สุด ร้านยากินิคุและบาร์แห่งนี้คัดสรรเฉพาะเนื้อวัวเพศเมียเกรด A5 นำมาปรุงพร้อมเสิร์ฟในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งร้านสาขาชิบูย่าก็มีขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น สามารถมารับประทานได้หลายโอกาส หากมาคนเดียวก็เหมาะจะแวะบาร์ลักษณะยืนดื่มที่อยู่ชั้นล่างสุด หากมากับเพื่อนหรือคนรัก ก็เหมาะจะนั่งชั้นสองที่มีโต๊ะนั่งสะดวกสบาย หรือมากันทั้งครอบครัวหรือเป็นกลุ่มใหญ่ ก็สามารถจองห้องส่วนตัวที่อยู่ชั้นสามได้ด้วย และแม้ที่นี่จะเป็นร้านเนื้อย่าง แต่ก็มีเมนูสเต๊กคุณภาพดีให้เลือกไม่น้อย แถมยังมีเมนูไวน์ให้จับคู่ดื่มอย่างลงตัวด้วยนะ
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): http://www.ushigoro-bambina.com/en/shibuya/
47. ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นฮาลาลที่ HANASAKAJI-SAN Shibuya Sakuragaoka [อาหารและเครื่องดื่ม]
ร้านนี้มีใบรับรองฮาลาล แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม! เป็นร้านอาหารแห่งเดียวในโตเกียวที่มีเมนูเนื้อชาบูชาบูแบบฮาลาล เปิดมากว่า 30 ปีแล้ว ให้คุณได้ลิ้มรสมื้ออาหารญี่ปุ่นแสนอร่อยกับเหล้าสาเก ทั้งยังมีอาหารทานเล่นทานคู่กับเหล้าสาเก เช่น ฟัวกราส์จิ้มใน Saikyo miso (西京味噌) และปลาตะเพียนหมักเกลือ (塩辛) เป็นต้น
[ปัจจุบันร้านนี้ได้ปิดให้บริการแล้ว]
48. แฮงค์เอาท์ในบาร์สุดชิคที่ Shibuya OIRAN [อาหารและเครื่องดื่ม]
ในบรรดาหนุ่มสาวสายปาร์ตี้ในย่านชิบูย่า เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Shibuya OIRAN แน่นอน ที่นี่เป็นบาร์เล็กๆ ตกแต่งภายในและนอกด้วยสีแดงสด สะดุดสายตาผู้ที่ผ่านไปมาในละแวก Dogenzaka และไม่ว่าคุณจะมองหาร้านแวะดื่มเบาๆ เพื่อเตรียมตัวก่อนออกเที่ยว หรือหาที่ไปต่อหลังแดนซ์สุดเหวี่ยงมาแล้ว มาที่นี่ก็ตอบโจทย์ทั้งสิ้น ชั้นแรกของร้านมีดีไซน์เป็นแบบบาร์ยืนดื่มเหมาะจะชนแก้วหาเพื่อนใหม่ ส่วนชั้นสองมีเมนูที่นั่งสำหรับใครที่มากันหลายคน มีเมนูยอดนิยมรับประทานแกล้มเครื่องดื่มอย่าง คัตสึแฮมทอด หรือ พาสต้านาโปลิตันแบบญี่ปุ่น (พาสต้าซอสมะเขือเทศ) ด้วยบรรยากาศสนุกๆ และระบบเสียงคุณภาพดีออกแบบโดยดีไซเนอร์เสียง AO ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในร้านยอดนิยมที่จะแวะมาสังสรรค์ และทุกวันเสาร์จะมี DJ มาเล่นโชว์และเปิดร้านเป็นไนท์คลับด้วย ขอแนะนำในฐานะหนึ่งในร้านแฮงค์เอาท์ที่น่าสนใจเลย
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): http://oiran.asia/
49. เลือกพักโรงแรมหรูมีระดับที่ Cerulean Tower Tokyu [ที่พัก]
หากคุณกำลังมองหาที่พักที่ชิบูย่า เราขอแนะนำโรงแรม Cerulean Tower Tokyo ที่ตั้งอยู่บนชั้น 19 ถึงชั้น 40 ของอาคาร Cerulean Tower และอยู่ห่างจากสถานีชิบูย่าเพียง 5 นาที ที่นี่มีทั้งห้องพักสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู และห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นที่มีขนาดกว้างขวางถึง 60 ตร.ม. มาพร้อมกับฟูกนอนและอ่างอาบน้ำไม้สไตล์ญี่ปุ่นแท้ในตัว วิวจากห้องพักของที่นี่ทอดผ่านครอบคลุมละแวกย่านชิบูย่า มองเห็นทิวทัศน์ทั้งกลางวันตลอดจนกลางคืนที่สวยอย่าบอกใคร คุณสามารถเลือกรับประทานอาหารเช้าได้ทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก แถมยังมีร้านอาหารนานาชาติตั้งแต่ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส และบาร์ รวมแล้วมากถึง 8 ร้านให้คุณเลือกสรร นับเป็นโรงแรมไฮเอนด์ที่ถูกใจนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ): http://www.ceruleantower-hotel.com/en/
50. เดินถนน Love Hotel ที่ Dogenzaka
นอกจากละแวก Dogenzaka ในชิบูย่าจะมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งบันเทิงในยามค่ำคืนแล้ว คงไม่น่าแปลกใจนักที่ถนนเส้นนี้จะมีโรงแรมม่านรูด หรือที่เรียกกันว่า "เลิฟโฮเตล" ซุกซ่อนอยู่จำนวนไม่น้อย โรงแรมม่านรูดของญี่ปุ่นนั้นมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และมักมีมาตรฐานค่อนข้างดี โดยทั่วไปในห้องพักมักจะมีอ่าง Jacuzzi หรือมีทีวีและ DVD ให้เลือกรับชมตลอดคืน แน่นอนว่าการตกแต่งห้องก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องสไตล์น่ารักๆ ไปจนถึงห้องธีมเก๋ๆ อย่างห้องสไตล์นินจาหรือห้องที่ตกแต่งลายเสือดาวเพื่อสร้างบรรยากาศ หากไม่ได้มีแพลนจะแวะใช้บริการ จะลองมาเดินเล่นดูไฟนีออนสวยๆ ในย่านนี้ก็อาจจะเพลิดเพลินไม่น้อยนะ
หากคุณไปชิบูย่า ก็ต้องไปสนุกสุดเหวี่ยงกันสักหน่อย! ปล่อยตัวเองให้สนุกไปกับเมืองแห่งแฟชั่น ช็อปปิ้ง และกิจกรรมมากมาย ถ้าเหนื่อยก็มาพักที่คาเฟ่ หรือว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะต่างๆ แล้วไปอร่อยกับมื้อเย็นที่ร้านอาหารหรืออิซากายะ แล้วก็ปิดท้ายยามค่ำคืนที่ไนท์คลับ! สนุกได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นขนาดนี้ ไม่มาไม่ได้แล้วจริงไหม!?
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่