50 สิ่งที่ต้องไปสัมผัสในย่าน Ueno และ Asakusa
ย่าน Ueno กับ Asakusa ถือเป็นย่านขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่นสำหรับการท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ เนื่องมาจากการเดินทางไปยังทั้งสองสถานที่นั้นแสนสะดวก ไม่ว่าจะมาจากสนามบินฮาเนดะ หรือว่าสนามบินนาริตะก็ตาม มีจุดท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ ในย่านนี้ที่ถูกกล่าวถึงบนหนังสือแนะนำท่องเที่ยว อีกทั้งคุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมที่หลากหลายตั้งแต่ยุคสมัยอดีตไปยังยุคสมัยปัจจุบัน หากคุณมีแผนจะไปเที่ยว Tokyo Skytree ล่ะก็ อย่าลืมแวะมาเที่ยวสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง Asakusa แล้วก็ Ueno ด้วยนะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
21. Asakusa Hanayashiki (浅草花やしき)
สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดในปี 1853 โด่งดังจากรถไฟเหาะไม้ที่เก่าที่สุดในญี่ปุ่นและมีเครื่องเล่นมากมายสำหรับเด็กจึงเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัวใน Asakusa คุณจะได้เพลิดเพลินกับฉากเสมือนจริงใน Asakusa ที่ล้อมรอบสวนสนุกให้คุณได้รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในยุค Showa
22. Kamiya Bar (神谷バー)
บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ 1 Chome 1 Banchi ใน Asakusa ตั้งแต่ปี 1880 เป็นบาร์ที่ให้กำเนิดสุราแบรนด์ Denki Buran และเป็นที่รู้จักกันดีว่านักเขียนชื่อดังระดับอาจารย์ของญี่ปุ่นมาที่บาร์แห่งนี้เพื่อลิ้มรสความอร่อย มีลักษณะเป็นตึกสามชั้นประกอบด้วยลานเบียร์ ภัตตาคารและเคาท์เตอร์ร้านอาหาร ขวดแบรนด์ Denki Buran จะวางเรียงอยู่ที่เคาท์เตอร์ซึ่งคุณสามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้
23. Kappabashi Kitchen Town (かっぱ橋道具街)
ย่านช็อปปิ้งแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าสำหรับมือโปรในร้านอาหารเพราะจำหน่ายอุปกรณ์ใช้สอยในครัวมากมาย สินค้าที่วางเรียงรายมากมายนั้นน่าประทับใจจนอาจทำให้คนที่แค่ชื่นชอบการทำอาหารต้องซื้อกลับไปหลายชิ้น สิ่งที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเข้ามาคือ ร้านที่จำหน่ายโมเดลรูปอาหารต่าง ๆ บางร้านอาจให้คุณลองทำเองได้
24. Asakusa Engei Hall (浅草演芸ホール)
โรงมหรสพแห่งแรงของ Asakusa เปิดในปีเดียวกับ Tokyo Olympics คือปี 1964 เป็นโรงมหรสพที่จัดแสดง Rakugo ตลอด 365 วันโดยไม่เคยพลาด คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงอันหลากหลายนอกเหนือจาก Rakugo ได้ เช่น การแสดงตลก Manzai ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือสามารถเข้าไปและเพลิดเพลินได้นานเท่าที่คุณต้องการตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องออกมาเพราะเปลี่ยนการแสดง เป็นโรงมหรสพที่มีนักแสดงตลกของญี่ปุ่นมากมายเข้าร่วมแสดง เพราะฉะนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด
25. รถลากที่ Jidaiya
หนึ่งในภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Asakusa คือ รถลากอันเก่าแก่ คนลากรถผู้กล้าที่จะคอยนำทางผู้โดยสารไปตามถนนเส้นต่าง ๆ ของ Asakusa โดยเล่าประวัติศาสตร์และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับจุดชมวิวไปด้วย บริเวณหนึ่งของ Asakusa จะมีเส้นทางสำหรับรถลากโดยเฉพาะ แนะนำให้ใส่ชุด Kimono แล้วลองนั่งรถลากชมเมืองดู
26. Asakusa Imahan (浅草今半)
ร้านอาหารญี่ปุ่นใน Asakusa ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1985 เป็นร้านที่ใช้เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีเมนู Sukiyaki และ Shabu shabu ที่ใช้เนื้อ Black Wagyu ด้วยสไตล์ญี่ปุ่นล้วน ๆ บวกกับสวนญี่ปุ่นที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจึงได้รับความนิยมอยู่เสมอและควรจองล่วงหน้าก่อนมาที่ร้าน
27. Nakamise-doori (仲見世通り)
จุดเริ่มต้นของ Nakamise-doori คือ Nakamise หรือร้านค้าที่เรียงรายบนถนนมุ่งหน้าสู่ศาลเจ้า Shinto สร้างขึ้นสำหรับผู้ที่มาสักการะให้มุ่งหน้าไปที่วัด Sensoji ในยุค Edo ประมาณปี 1700 ที่นี่มีร้านค้า 89 ร้านในระยะทาง 250 เมตร คุณจะเห็นวัด Sensoji อยู่ท้ายสุดของถนนและการตกแต่งอันสวยงามตามฤดูกาลที่มาพร้อมกับทางเดินหินซึ่งเป็นภาพที่งดงามที่สุดภาพหนึ่งของญี่ปุ่น มีร้านแปลกตามากมายที่นี่ ลองหาเวลามาเดินเล่นได้นะ
28. Sushiya Nohachi (すし屋野八)
หากคุณกำลังมองหาที่ดีๆ สักทีสำหรับหลบความวุ่นวายจากวัด Sensoji และ Kaminarimon อยู่ล่ะก็ให้ลองมาที่ Sushiya Nohachi ที่มี Sushi ที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน Sushi นี้เรียกว่า "Hitotsubu sushi" หรือ "Sushi หนึ่งเมล็ด" ร้าน Sushi หลายร้านใน Shitamachi (ย่านของกลุ่มผู้ใช้แรงงานของเมือง) จะมีธรรมเนียมทำ Sushi ขนาดจิ๋ว เพื่อฉลองวันเกิดให้ลูกสาวหรือทารกที่เกิดมา ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัวร้าน Nohachi ก็ได้นำธรรมเนียมนี้มาเป็นเมนู Sushi จิ๋วที่ทำจากวัตถุดิบบนเมล็ดข้าวแล้ว (ทำให้ได้ Sushi ที่น่าถ่ายรูปเป็นอย่างมาก)
29. Asakusa Hoppy-doori (浅草ホッピー通り)
หากคุณเดินเข้ามาด้านข้างถนนที่ Asakusa คุณจะพบ Hoppy-doori ถนนที่มีอาหารรถเข็นสไตล์ Izakaya เรียงรายเต็มไปหมด รู้จักกันอีกชื่อคือ Nikomidoori ต้องขอบคุณภาพผู้คนที่กำลังเพลิดเพลินกับ Motsuyaki (เครื่องในย่าง) และ Yakitori (ไก่ย่าง) ตั้งแต่กลางวัน Hoppy Beer ที่ได้ชื่อมาเพราะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หลายตระกูลชื่นชอบในยุค Showa ต้องขอบคุณจริงๆ เพราะนั่นทำให้ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านที่มีผู้คนมาเข้าคิวยาวเหยียดและคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบเป็นกันเองของกลุ่มคนใช้แรงงานใน Shitamachi ได้อีกด้วย
30. Asakusa tempura (浅草天ぷら)
Asakusa ซึ่งแต่เดิมเป็นย่านธุรกิจในยุค Edo เป็นที่ตั้งของร้าน Tempura ร้านแรก ๆ ในญี่ปุ่นเมื่อปี 1837 เป็นที่รู้กันว่าหากพูดถึงงานเลี้ยง Edo แสดงว่ากำลังพูดถึง Tempura จากปลาตัวเล็กที่จับได้บริเวณชายฝั่ง ชุบด้วยแป้ง ทอดในน้ำมันงาและนำมาขายตามรถเข็นกลายเป็นความนิยมที่ล้นหลาม ปัจจุบัน Tempura-don (ข้าวหน้า Tempura ราดซอสหวาน-เค็ม) ยังคงเป็นที่นิยมอย่างมากและร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดก็มีผู้คนมาต่อแถวยาวสุดลูกหูลูกตา
31. Namiki Yakisoba (並木薮蕎麦)
ถนนที่เรียงรายไปด้วยร้าน Yakisoba ซึ่งมักจะมีผู้ที่กำลังเดินทางกลับบ้านหลังชมการแสดงที่ Asakusa Engei Hall ผ่านไปมา ร้านที่มีชื่อเสียงในบรรดาร้านเหล่านี้คือ Namiki Yakisoba ซึ่งเริ่มกิจการมาตั้งแต่ยุค Taisho รสชาติเรียบง่ายแต่โดดเด่นทำให้ดึงดูดผู้คนทุกเพศทุกวัย มีขนาดสำหรับสุภาพสตรีและเด็กด้วย
32. Water Bus Himiko
Himiko คือเรือโดยสารที่ออกแบบโดยปรมาจารย์แห่งแอนิเมชั่นและการ์ตูนญี่ปุ่น Leiji Matsumoto ภายในให้บรรยากาศเหมือน Galaxy Express 999 ยานพาหนะที่มีดีไซน์ล้ำยุค คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง
33. Ueno Military Shops
Ameyoko ย่านที่จำหน่ายสินค้าที่มาจากกองกำลังทหารอเมริกาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ใกล้กับบริเวณร้านค้ามากมายที่ขายของเกี่ยวกับทหารตั้งแต่มีตลาดมืดหลังสงคราม คุณสามารถซื้อตราเลียนแบบกองกำลังป้องกันตนเองประเทศญี่ปุ่น ปืนลม และสินค้าอื่น ๆ เกี่ยวกับทหารได้ ที่นี่จึงได้รับความนิยมจากคนที่เป็นแฟนเสื้อผ้าและของใช้แนวทหาร
34. ร้านเครื่องหนังที่ Asakusabashi (浅草橋)
ย่าน Asakusabashi โด่งดังเรื่องร้านค้ามากมายที่คุณสามารถพบเครื่องหนังและงานฝีมือได้ไม่ยากในราคาย่อมเยา ทำไมไม่ลองแวะหาของที่ระลึกสำหรับการมาเที่ยวครั้งนี้ดูล่ะ ? เสน่ห์ที่ดึงดูดของที่นี่คือบรรยากาศที่คุณสามารถพูดคุยและสอบถามช่างฝีมือเกี่ยวกับงานของพวกเขาได้ นอกจากนี้ยังมีงานฝีมืออีกมากมาย เช่น เสื้อผ้า ของกระจุกกระจิกและเครื่องประดับโลหะ
35. สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ Jidaiya (時代屋)
เมื่อคุณมาญี่ปุ่น คุณอาจจะอยากลองสัมผัสประสบการณ์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยตนเอง ถ้าคุณคิดแบบนั้นล่ะก็ต้องไปที่ Jidaiya เลย เพราะที่นี่มีคอร์สต่าง ๆ ให้เรียน เช่น Sadou (ศิลปะการชงชา) Shodo (การคัดตัวอักษร) Wataiko (กลองญี่ปุ่น) และคอร์สอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณเข้าร่วมได้ง่าย ๆ ถ้าคุณมีเวลาทั้งวันสามารถลงได้หลายคอร์ส กิจกรรมนี้แนะนำสำหรับคนที่อยากสร้างความทรงจำที่มากกว่าของฝาก
36. ย่านสินค้า Handmade ขายส่งใน Asakusa
หนึ่งในย่านของ Asakusabashi ที่เป็นย่านสินค้าขายส่ง เช่น ของเล่นหรือเครื่องเขียนและตอนนี้ได้กลายเป็นย่านที่ได้รับความนิยมจากสาวๆ ซึ่งคุณจะพบลูกปัดและของตกแต่งกระจุกกระจิกมากมาย ร้าน Kiwa Seisakujo ที่จำหน่ายงานฝีมือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็อยู่ที่นี่เช่นกัน คุณสามารถทำเครื่องประดับสำหรับตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อทุกอย่างหลายชิ้นแบบราคาส่ง
37. คาเฟ่นก
ญี่ปุ่นนั้นมีชื่อเสียงเรื่องคาเฟ่แมวและสุนัขซึ่งคุณสามารถเข้ามาเล่นกับสัตว์เหล่านี้ได้ แต่ที่คาเฟ่แห่งนี้ใน Asakusa คุณจะได้สัมผัสกับนกมากมาย ที่นี่มีนกหลากหลายชนิด เช่น นกแก้ว นกฮูกและเหยี่ยวให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับมัน หากเหนื่อยจากการช็อปปิ้งแล้วแวะมาที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะ
38. Asakusa samba carnival
Samba carnival เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นที่ Asakusa ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม เป็นงานที่ได้รับความนิยมและจัดมานานกว่า 30 ปีโดยทุกปีจะมีผู้คนมาชมถึง 500,000 คน ทีมแต่ละทีมจากทั่วญี่ปุ่นจะมาแสดงและแข่งขันกันด้วยพลังและความสามารถทั้งหมดของพวกเขา ความรักและความมุ่งมั่นเหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นของงานเลยทีเดียว งานนี้มีความเป็น Asakusa มาก ๆ ซึ่งพัฒนาและก้าวผ่านการผสมผสานวัฒนธรรมและชนชาติไปได้
39. Ueno - Asakusa Butsudan-doori (上野・浅草仏壇通り)
ในยุค Edo Shogun ได้รวบรวมวัดหลายแห่งไว้ที่ Ueno และ Asakusa ดังนั้นย่านจำหน่ายสิ่งของหรืออุปกรณ์สำหรับสักการะของศาสนาพุทธจึงตั้งอยู่ที่นี่เพื่อส่งสิ่งของที่จำเป็นให้วัดต่าง ๆ ที่ Butsudan-doori มีร้านค้ากว่า 50 ร้านที่จำหน่ายแท่นบูชาในบ้าน สิ่งของและอุปกรณ์ทางศาสนา ตั้งอยู่ทางทิศใต้เพื่อไม่ให้แท่นบูชาโดนแดดเผาจากแสงอาทิตย์
40. ศาลเจ้า Yushima Tenmangu (湯島天神)
สร้างขึ้นในปี 1355 เพื่อสักการะ Sugawara no Michizane นักวิชาการและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยุค Heian เนื่องจากสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพแห่งวิชาความรู้ ในช่วงสอบจึงมีนักเรียนมากมายเข้ามาสักการะ ด้านล่างมีซุ้มประตู Torii ทำจากทองแดงและ Enki hyoujinsekia หินที่เชื่อกันว่ามีพลังอำนาจที่จะช่วยพาให้เราพบกับสิ่งที่ทำหายไป ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปีจะมีเทศกาลต้นพลัม
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่