50 ที่เที่ยวและกิจกรรมน่าทำเมื่อมาเที่ยว “ญี่ปุ่น”
50 สถานที่และกิจกรรมที่ต้องสัมผัสให้ได้เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น! ทั้งวิวจากบนยอดภูเขาไฟฟูจิ ใส่กิโมโนเดินชมเมืองเก่าของเกียวโต แวะเมดคาเฟ่ที่อากิฮาบาระในโตเกียว และอื่นๆ อีกมากมาย หากคุณขี้เกียจวางแพลนเที่ยวญี่ปุ่นหรือหมดไอเดียใหม่ๆ อุ่นใจได้เลยเพราะว่าบทความนี้จะมีอะไรให้คุณทำที่ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ปีนภูเขาไฟฟูจิ [ชิซูโอกะ, ยามานาชิ]
PIXTA
ภูเขาไฟฟูจิ หนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้จักกันดี อีกทั้งองค์กร UNESCO ยังจัดให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย แค่มองดูเฉยๆ ก็สวยแล้ว หากได้ลองปีนดูก็จะยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก! ช่วงเวลาที่เปิดให้ปีนเขาคือตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนกันยายน
2. เล่นกับลิงที่สวนลิงอิวาตายามะ อาราชิยามะ [เกียวโต]
ในเกียวโตมีสถานที่ซึ่งคุณสามารถเล่นกับลิงป่าได้ ที่แห่งนั้นก็คือสวนลิงอิวาตายามะ ที่อาราชิยามะ (Arashiyama Monkey Park Iwatayama) มีลิงป่ากว่า 120 ตัวอยู่ที่นี่ให้คุณได้ให้อาหารหรือเล่นกับพวกมัน นอกจากลิงแล้วก็ยังมีนกและกวางป่าอยู่อีกด้วย เหมาะกับคนรักสัตว์เป็นอย่างยิ่ง
3. ร้องเพลงที่คาราโอเกะ
PIXTA
ในปัจจุบัน "คาราโอกะ" เป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วโลก คุณภาพของคาราโอกะในญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่าดีที่สุด ความเพียบพร้อมของอุปกรณ์ก็ไม่ต้องพูดถึง ทั้งยังมีเทคโนโลยีเก็บเสียงของตู้คาราโอเกะที่ได้รับการพัฒนาก้าวหน้าไปไกลกว่าที่อื่นๆ ในโลก นอกจากนี้ ลิสต์เพลงภาษาอังกฤษก็ยังมีอยู่อย่างครบถ้วนเช่นกัน
ในทัวร์คาราโอเกะยามค่ำคืนในโตเกียวโดย MagicalTrip คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์คาราโอเกะแบบญี่ปุ่นไปกับไกด์ท้องถิ่น
ร่วมแจมนักคาราโอเกะขาประจำและโชว์พลังเสียงของคุณ! คาราโอเกะได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ว่าจะมากับเพื่อนหรือมาคนเดียว แถมคาราโอเกะแบบญี่ปุ่นยังแตกต่างไปจากที่อื่นๆ มีทั้งห้องส่วนตัว อุปกรณ์ไฮเทค เครื่องดื่ม สนุกมันส์กับเพื่อนๆ ร้องให้สุดเสียงแบบไม่ต้องกังวลว่าคนด้านนอกจะได้ยิน!
4. นั่งรถไฟชินคันเซ็น
PIXTA
ชินคันเซ็น หรือรถไฟหัวกระสุนเป็นช่องทางการคมนาคมความเร็วสูงของญี่ปุ่น แม้จะวิ่งด้วยความเร็วถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ตลอดประวัติศาสตร์กว่า 50 ปีของชินคันเซ็นก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเลยแม้แต่ครั้งเดียว จึงโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องของความปลอดภัย แถมยังนั่งชินคันเซ็นชมวิวสวยๆ ได้อีกด้วยนะ
5. สัมผัสวัฒนธรรมโอตาคุในอากิฮาบาระ [โตเกียว]
PIXTA
อากิฮาบาระ ในโตเกียวเรียกได้ว่าเป็นแดนสวรรค์ของ "โอตาคุ" ทั่วโลก เนื่องจากทีแรกอากิฮาบาระเป็นย่านเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก่อน ที่นี่จึงเป็นอีกที่ที่เหมาะกับการหาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่นคุณภาพสูงอีกด้วย ทั้งยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอนิเมะ และได้รับความนิยมอย่างสูงจากเหล่านักท่องเที่ยว
หนึ่งในวิธีเที่ยวอากิฮาบาระและสัมผัสกับวัฒนธรรมโอตาคุที่น่าสนุกที่สุดก็คือ การเข้าร่วมทัวร์จากไกด์ประจำถิ่น! อาจจะยากสักหน่อยหากจะหาร้านเกมและเมดคาเฟ่ดีๆ ได้ด้วยตัวเอง Akihabara Anime & Game Tour จะพาคุณไปพบกับร้านเกมเจ้าถิ่นที่คุณไม่สามารถหาได้ด้วยตัวเอง และพาไปเมดคาเฟ่ดีๆ ที่คุณจะคาดไม่ถึง!
6. ลองเล่นปาจิงโกะ
ปาจิงโกะ เกมที่ลูกบอลสีเงินจำนวนมากจะถูกยิงออกจากปืน และคุณจะต้องทำให้ลูกบอลตกลงในช่องที่เจาะจงไว้ให้ได้มากที่สุด คุณสามารถแลกลูกบอลสีเงินดังกล่าวเป็นเงินรางวัลได้ นับว่าเป็นกิจกรรมฆ่าเวลาที่น่าลองอย่างยิ่งเมื่อได้มาญี่ปุ่น (แต่ระวังอย่าใช้เงินมากเกินไปล่ะ!)
7. กินราเมง
PIXTA
ราเมงของญี่ปุ่นไม่ใช่แค่อาหารที่มีต้นกำเนิดจากจีน แต่ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเองขึ้นมา คุณสามารถรับประทานราเมงหลากหลายประเภทได้จากทุกแห่งหนทั่วญี่ปุ่น หากคุณเข้าร้านหนังสือ คุณก็จะพบนิตยสารราเมงให้ลองอ่านหาข้อมูลล่วงหน้าก่อนที่จะแวะไปชิมอีกด้วย
8. ดื่มชาที่เมดคาเฟ่
“เมดคาเฟ่” คือร้านที่ลูกค้าจะได้สวมบทบาทเป็นนายใหญ่ของบ้าน และมีพนักงานเสิร์ฟสวมบทบาทเป็น "เมด" คอยให้บริการอยู่ เมดจะเรียกลูกค้าว่า "นายท่าน" หากคุณสนใจในวัฒนธรรม "โมเอะ" ของญี่ปุ่นล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองแวะไปดื่มชาที่นี่ดูสักครั้ง
9. ลองใช้พุริคุระ
“พุริคุระ” คือเครื่องถ่ายรูปสติ๊กเกอร์สัญชาติญี่ปุ่น สามารถตกแต่งรูปได้ หรือแม้แต่ถ่ายรูปโดยแต่งคอสเพลย์ก็สามารถทำได้เช่นกัน ลองมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อยไหม
10. ออกไปฮานามิ
ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงเมษายน ญี่ปุ่นจะเบ่งบานไปด้วยดอกซากุระ และจะมีผู้คนมากมายพากันออกไปฮานามิ (ชมดอกไม้) กันบริเวณใต้ต้นไม้ ฮานามิแบบทั่วไปคือการที่คุณชมดอกไม้พลางรับประทานอาหารและดื่มสังสรรค์กันกับเพื่อนๆ แต่ซากุระในตอนกลางคืนก็สวยงามเช่นกัน จะไปชมดอกไม้ยามค่ำคืนพลางดื่มแอลกอฮอล์ก็น่าสนุกสุดๆ
11. รับชมคาบุกิ
คาบุกิ คือการแสดงพื้นบ้านรูปแบบหนึ่งของญี่ปุ่นที่องค์การ UNESCO จัดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม คาบุกิที่ได้รับสืบทอดกันมาจากยุคเอโดะนี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการลองไปรับชมดูสักครั้ง องค์ประกอบที่มีสีสันสดใสและการแสดงที่ออกท่าทางแบบเต็มร้อยจะทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินอย่างแน่นอน
12. ออกไปเดินเที่ยวชมปราสาท
PIXTA
เมื่อพูดถึงสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตมโหฬารในญี่ปุ่น ปราสาทมักจะเป็นสิ่งที่คนทั้งในและนอกประเทศนึกถึงเป็นอันดับแรก แม้ว่าจะผ่านการซ่อมแซมมาหลายต่อหลายครั้ง ปัจจุบันก็ยังมีส่วนต่างๆ ของสิ่งก่อสร้างจากเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้วหลงเหลือให้รับชมอยู่มากมาย ที่อยู่ในรูปภาพด้านบนนี้คือปราสาทฮิเมจิที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาจนสวยงามเหมือนก่อน นอกจากนี้แล้ว ปราสาทนาโกย่าและปราสาทโอซาก้าก็ยังมีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กัน
หากคุณวางแผนที่จะแวะไปเที่ยวปราสาทโอซาก้า เราขอแนะนำให้ลองไกด์ปั่นจักรยานทั่วโอซาก้ากับไกด์ท้องถิ่นดู ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น คุณจะได้เที่ยววนรอบโอซาก้า และแวะชมสถานที่ลับๆ ที่มีแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่จะรู้จัก
13. ถ่ายภาพที่ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ [ฮิโรชิม่า]
PIXTA
ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่องค์การ UNESCO จัดให้เป็นมรดกโลก ตัวศาลเจ้าสีแดงสดที่ปรากฏอยู่บนผิวน้ำนี้มีความสวยงามจนยากที่จะบรรยาย นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั้งในและนอกประเทศต่างหลั่งไหลกันมาเยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งนี้ หากได้มาถ่ายรูปที่นี่แล้ว รับรองได้ว่าจะกลายเป็นความทรงจำที่แสนวิเศษอย่างแน่นอน
หากคุณไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีในช่วงกลางคืนในฮิโรชิม่า เราขอแนะนำให้ลองเข้าร่วม ทัวร์ตะลุยบาร์ในฮิโรชิม่ายามค่ำคืน และเพลิดเพลินไปกับอาหารดีๆ และเหล้าแสนอร่อยแนะนำโดยคนท้องที่
14. ใส่ชุดกิโมโน
PIXTA
กิโมโนเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเครื่องแต่งกายดั้งเดิมของญี่ปุ่น หากคุณสนใจก็สามารถหาซื้อกิโมโนสักชุดได้ แต่ก็มีอยู่หลายร้านทั่วญี่ปุ่นที่คุณสามารถลองสัมผัสประสบการณ์ใส่ชุดกิโมโนได้ด้วย ในเกียวโตเองก็มีร้านเช่ากิโมโนอยู่มากมาย ใส่กิโมโนเดินเมืองเก่าในเกียวโต รับรองได้รูปสวยๆ เพียบ!
15. ช็อปปิ้งที่ถนนทาเคชิตะในฮาราจูกุ [โตเกียว]
"ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street)" ย่านช็อปปิ้งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และมักจะคึกคักไปด้วยผู้คนอยู่ตลอดเวลา ทุกตรอกซอกซอยในสองฝั่งของถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นมากมาย ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฮาราจูกุ จึงทำให้เดินทางเข้าถึงได้สะดวกเป็นอย่างยิ่ง
ที่ฮาราจูกุมีร้านแฟชั่นและขนมหวานอยู่มากมาย จนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลือกร้านดีๆ ได้อย่างถูกต้อง ด้วยเหตุนี้เองเราจึงขอแนะนำให้คุณลอง ทัวร์เดินเที่ยวฮาราจูกุ
ไกด์ชาวท้องถิ่นจะช่วยนำทางคุณไปพบกับป๊อปคัลเจอร์และเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของโตเกียว คุณจะได้สัมผัสกับไฮไลท์มากมายของฮาราจูกุในทัวร์ที่ใช้เวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้น!
16. สวมบทบาทเป็นนินจา
นินจา หนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่ผู้คนมักนึกถึงเมื่อกล่าวถึงญี่ปุ่น “Ninja no Mori Akame Sijuhachitaki” ในจังหวัดมิเอะ เป็นสถานที่ที่คุณจะได้ลองสวมบทบาทเป็นนินจา แน่นอนว่าทางร้านจะมีชุดนินจาที่สมจริงให้คุณยืมใส่ คุณสามารถลองฝึกนินจาและเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์อื่นๆ ที่หลากหลายอีกมากมายได้ที่นี่
17. สัมผัสประสบการณ์ทำโซบะ
PIXTA
โซบะ เป็นหนึ่งในอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น โซบะประเภทที่คุณรับประทานโดยจุ่มเส้นลงไปในน้ำซุปนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คุณสามารถลองทำและรับประทานโซบะดังกล่าวนี้ได้ด้วยตัวเอง มีเวิร์คช็อปทำโซบะมากมายกระจายตัวอยู่ทั่วญี่ปุ่น ลองเช็กดูนะว่าพอจะมีร้านที่แวะไปได้บ้างไหม!
18. ดื่มด่ำไปกับอาหารในโดทงโบริ [โอซาก้า]
ย่านโดทงโบริในโอซาก้ามีชื่อเสียงมากเพราะคุณสามารถ "กินอิ่มจนท้องแตก" ได้ ในถนนชื่อดังสายนี้มีร้านฟาสต์ฟู้ดแผงลอยอร่อยๆ มากมายให้คุณรับประทานจนไม่หวาดไม่ไหว นอกจากนี้ ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาแบบโอซาก้าได้อีกด้วย
สัมผัสประสบการณ์โดทงโบริอย่างแท้จริงโดยเดินเที่ยวชมในพื้นที่ไปกับไกด์! ทัวร์ ทัวร์เดินกินอาหารเที่ยงที่โดทมโบริ นี้จะพาคุณไปยังทั้งจุดดังๆ และจุดลับๆ ที่อยู่ในละแวกโดทงโบริ รวมไปถึงการแวะชิมอาหารข้างทางอร่อยๆ และสัมผัสประสบการณ์ลองทำอาหารด้วยตัวเองอีกด้วย!
19. นั่ง Hakone Tozan Railway [คานากาว่า, ฮาโกเน่]
รถไฟสายนี้เองก็เป็นรถไฟญี่ปุ่นเหมือนที่อื่นๆ แต่ด้วยสีสันที่ดึงดูดตาของมัน ทำให้ Hakone Tozan Railway รถไฟวิ่งขึ้นภูเขาฮาโกเน่ขบวนนี้มีโดดเด่นอย่างสุดๆ เป็นรถไฟสายที่ต่างกับรถไฟในตัวเมืองเนื่องจากคุณจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ที่สองข้างทางของรถไฟสายนี้จะถูกแต่งแต้มสีสันไปด้วยดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่ง
20. ลองนั่งรถไฟที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน
ญี่ปุ่นเรียกได้ว่าโด่งดังระดับโลกในเรื่องความแออัดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รถไฟในช่วง 7 โมงเช้าถูกเรียกว่า "มังนินเดนชะ" (รถไฟอัดกระป๋อง) แม้ว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนของญี่ปุ่นจะมองว่ามันจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สำหรับผู้ที่ได้ลองสัมผัสเป็นครั้งแรกแล้ว รับรองว่าจะต้องช็อกอย่างแน่นอน
อ่านต่อ: 21-40 สถานที่และกิจกรรมน่าสนใจในญี่ปุ่น
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่