6 ที่เที่ยวในจังหวัดมิยากิสำหรับคนรักสัตว์ พักฮีลใจไปกับเจ้าตัวน้อยแสนน่ารักกัน!
บทความของเราในวันนี้จะขอมาเอาใจคนรักสัตว์กัน! เราจะมาแนะนำสถานที่เที่ยว 6 แห่งในจังหวัดมิยากิที่ทุกคนจะได้ไปใกล้ชิดกับสัตว์ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ เกาะและหมู่บ้าน!? ใครอยากเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดโดยที่มีบรรดาสัตว์ที่ชื่นชอบมาช่วยผ่อนคลายและฮีลใจ ตามไปอ่านในบทความนี้กันเลยค่ะ!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. เกาะ Tashiro (田代島)
มาเริ่มกันที่จุดเที่ยวสำหรับคนรักแมว เกาะ Tashiro แห่งนี้ไม่ใช่เกาะธรรมดา แต่เป็นเกาะแมวแห่งจังหวัดมิยากิ ที่ถูกตั้งชื่อนี้ก็เพราะบนเกาะแห่งนี้มีประชากรแมวอยู่เยอะมาก ทันทีที่ย่างเท้าลงบนเกาะ เราก็จะได้พบกับแมวเจ้าของเกาะที่เดินทอดน่องกันอย่างสบายอารมณ์ บางตัวก็นอนเอกเขนกกันตามร่มไม้ เห็นแล้วก็คันไม้คันมือ อยากเข้าไปลูบหัวลูบหางเกาคางให้น้องๆ เลยค่ะ
เดิมทีแมวเหล่านี้ถูกพาเข้ามาเพื่อกำจัดศัตรูพืช แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนตอนนี้มีมากกว่าจำนวนคนบนเกาะไปแล้ว เห็นได้จากการที่ไม่ค่อยจะมีบ้านคน หากเดินลึกเข้าไปก็จะมีแต่ป่าโปร่งๆ ริมสองข้างทาง นอกจากนี้ บนเกาะยังมีศาลเจ้าแมวและรีสอร์ทสำหรับตั้งแคมป์ซึ่งมีบ้านพักรูปแมวสีสันสดใส ตกแต่งด้วยรูปตัวการ์ตูนของนักวาดที่มีชื่อเสียงหลายท่าน
2. หมู่บ้าน Zao Fox (宮城蔵王キツネ村)
หมู่บ้านจิ้งจอกแห่งนี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาซาโอะ จังหวัดมิยากิ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสุนัขจิ้งจอกขนฟู ทั้งสีส้ม สีขาวและสีดำ ภาพความน่ารักของเหล่าจิ้งจอกที่คุณจะได้เห็นก็มีทั้งท่านอนที่มันจะขดหางฟูๆ เข้ามารองเป็นหมอน มองเห็นเป็นก้อนกลมๆ น่ารัก เราสามารถให้อาหารจิ้งจอกได้โดยซื้อจากพนักงานและนำไปให้ในจุดที่กำหนด อาจมีบางตัวกระโดดขึ้นมางับอาหารที่ร่วงลงไปจากมือเราด้วยค่ะ
สำหรับคนที่เห็นหางฟูๆ ของจิ้งจอกแล้วอยากเข้าไปลูบไปจับ ที่นี่ก็มีกิจกรรมให้ลองอุ้มและลูบสุนัขจิ้งจอกด้วยค่ะ ขอบอกว่าขนของจิ้งจอกนุ่มมากๆ ลูบเพลินมือสุดๆ เลย และนอกจากสุนัขจิ้งจอก ที่นี่ก็ยังมีสัตว์อื่นๆ อย่างแพะและกระต่ายอยู่ด้วย สามารถไปขอลองอุ้มหรือลูบขนน้องกระต่ายได้เช่นกัน ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการมาชมสุนัขจิ้งจอกที่นี่คือช่วงฤดูหนาว เพราะขนของสุนัขจิ้งจอกที่ปกติฟูอยู่แล้วจะฟูขึ้นกว่าเดิม และหากคุณโชคดีก็อาจได้เห็นภาพสุนัขจิ้งจอกท่ามกลางหิมะสีขาวโพลนอีกด้วย
3. คาเฟ่ Puchi Marry Cat (ぷちまりー)
มาต่อกันด้วยคาเฟ่แมว Puchi Marry Cat Cafe ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได เดินทางไปได้ง่ายๆ ด้วยการนั่งรถไฟใต้ดิน หน้าร้านดูโดดเด่นด้วยโลโก้รูปแมวสุดน่ารักและผนังกระจกที่สามารถมองเข้าไปเห็นเจ้าแมวเหมียวหลายตัวนอนเอกเขนกอยู่ เป็นร้านที่เด่นจนไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอเลยล่ะ
ร้านนี้มีแมวหลากหลายสายพันธุ์ให้เราเข้าไปทำความรู้จักและเล่นด้วย โดยทางร้านก็ได้เตรียมของเล่นมากมายเอาไว้ให้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นไม้ตกแมว, ลูกบอล, เสื้อผ้าเครื่องประดับสำหรับใช้แต่งตัวแมวน้อยทั้งหลาย สำหรับคนที่อยากให้อาหารแมวทางร้านก็มีจำหน่ายในราคาไม่แพงด้วย นอกจากนี้ ในร้านยังมีหนังสือการ์ตูน, เครื่องเล่น PS4, ปลั๊กไฟ, อินเทอร์เน็ต Wi-Fi ฟรีให้บริการ ทำให้เราเข้าไปนั่งพักผ่อนท่ามกลางฝูงแมวสุดน่ารักได้ทั้งวัน เป็นร้านที่ห้ามพลาดสำหรับทาสแมวเลยจริงๆ
4. คาเฟ่ With Dog (ウィズドッグ)
มีคาเฟ่แมวแล้วก็ต้องมีคาเฟ่หมา! ร้าน With Dog แห่งนี้นอกจากจะเป็นคาเฟ่น้องหมาแล้วยังเป็นร้านรับตัดขนสุนัขและเป็นร้านรับฝากสุนัขอีกด้วย เมื่อเข้าไปในร้านก็จะมีหมาน้อยหลายตัววิ่งเข้ามาต้อนรับ บอกเลยค่ะว่าน้องหมาร้านนี้อ้อนเก่งและขี้เล่นมากๆ เวลาเราไปนั่งที่โต๊ะก็จะชอบปีนขึ้นมานั่งตักด้วย เล่นได้ไม่มีเบื่อเลยล่ะค่ะ
อาหารและเครื่องดื่มของร้านนี้ก็ราคาไม่แพงแถมยังอร่อยมากๆ และข้อดีอีกอย่างของทางร้าน คือ ไม่จำกัดเวลานั่ง! หากใครอยากให้อาหารน้องหมาก็สามารถซื้อได้ที่ร้าน ซึ่งบอกเลยว่าว้าวมาก เพราะทางร้านจะตกแต่งอาหารของน้องๆ มาราวกับเป็นอาหารคนเลยล่ะค่ะ ใครที่มองหาร้านที่สามารถนั่งพักผ่อนได้แบบสบายๆ ไม่รีบร้อน รับประทานอาหารอร่อยๆ ไปพร้อมกับเหล่าน้องหมาผู้น่ารัก ร้านนี้คือคำตอบ!
5. คาเฟ่ Fukurou Café Ricky (ふくろうカフェRicky)
มีใครเคยจับขนนกฮูกบ้างคะ? รู้ไหมคะว่าขนนกฮูกน่ะนุ่มนิ่มสบายมือมากๆ หากใครอยากพิสูจน์ก็สามารถมาลองจับได้ที่คาเฟ่นกฮูกแห่งนี้เลย! ร้าน Fukurou Café Ricky แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนช็อปปิ้งกลางเมืองเซนได เดินทางไปได้อย่างสะดวกสบายด้วยการนั่งรถไฟใต้ดิน
ถึงแม้ชื่อจะบอกว่าเป็นคาเฟ่นกฮูก แต่นอกจากนกฮูกหลากหลายสายพันธุ์แล้วที่นี่ก็ยังมีสัตว์อื่นๆ ให้มาชมมาจับเล่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนกแก้ว, เป็ด, เมียร์แคท, เม่น, ตุ๊กแก ฯลฯ สำหรับนกฮูกที่เป็นดาวเด่นของทางร้านก็สามารถไปขอจับขอลูบขนนุ่มๆ ของพวกมันดูได้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้เราลองสั่งนกฮูกให้บินและกิจกรรมให้อาหารนกฮูกเวลา 15:00 และ 18:00 น. ของทุกวันด้วย ที่สำคัญคือกิจกรรมเหล่านี้เข้าร่วมได้ฟรี! จัดให้ขนาดนี้ พลาดไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
6. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Aqua Terrace Nishikigaoka (アクアテラス錦ケ丘)
เปลี่ยนบรรยากาศมาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันบ้างกับ Aqua Terrace Nishikigaoka ที่นี่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของห้าง Nishikigaoka Hill Side Mall คอนเซ็ปต์ของพิพิธภัณฑ์ คือ การใช้แสงสีในการจัดแสดงสัตว์ต่างๆ ดูสวยงามราวกับเดินอยู่ในงานนิทรรศการศิลปะเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนธีมจัดแสดงไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาลอีกด้วย
สัตว์ที่เราจะได้ชมที่นี่ คือ ปลาหลากหลายชนิด สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ทั้งเต่า, กิ้งก่า, งู รวมถึงสัตว์อื่นๆ อย่างนกฮูกและเม่นแคระด้วย เมื่อคุณย่างเท้าเข้าไป สิ่งแรกที่จะได้พบก็คือ บ่อ Touch Pool ที่เราสามารถลองจุ่มมือลงไปสัมผัสกับฝูงปลาข้างในได้ นอกจากนี้ ยังมีโซนให้เราลองจับนกฮูกและงู โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้อีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีวิธีการนำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่ ทำให้เราสามารถสนุกสนานไปกับการเดินเล่น ถ่ายรูปและลองสัมผัสสัตว์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่เลย
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว 6 แห่งที่เรานำเสนอไปในวันนี้ ใครชื่นชอบสัตว์ชนิดไหนเป็นพิเศษก็สามารถเลือกไปได้ตามใจชอบเลยนะคะ สิ่งเดียวที่เราอยากขอให้ระลึกไว้เสมอ คือ ต้องไม่ลืมปฏิบัติตามกฎและคำแนะนำของแต่ละสถานที่กันด้วย เพื่อความปลอดภัยทั้งของสัตว์ต่างๆ และของตัวเราเองด้วยค่ะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่