เที่ยวคันไซกันเถอะ!! 60 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำที่แวะไปได้จากโอซาก้า
ถ้าเราอยากที่จะแวะไปแหล่งท่องเที่ยวที่กระจายตัวอยู่ทั่วญี่ปุ่นให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องทำอย่างไร? สำหรับบทความนี้ เราจะขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 60 แห่งที่สามารถเดินทางไปได้โดยมีโอซาก้าเป็นจุดเริ่มต้น มีทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ และค้างแค่คืนเดียว จะพื้นที่ทะเล พื้นที่ภูเขา อาหารกลางวัน หรือแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีก็มีทั้งหมด ขอบอกว่าห้ามพลาดทุกที่!!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
21.ลองทานเนื้อมัตสึซากะ (松阪牛レストラン)【จังหวัดมิเอะ】
เมื่อพูดถึงย่านมัตสึซากะในจังหวัดมิเอะ ก็ต้อง 'เนื้อมัตสึซากะ' หนึ่งในสุดยอดเนื้อวัวที่แข่งกันเป็นที่หนึ่งที่สองในญี่ปุ่น หลังจากเที่ยวชมซากปราสาทมัตสึซากะ (松坂城跡) แล้วเราขอแนะนำให้ลองทานเนื้อมัตสึซากะ ร้านชื่อดังที่บรรยากาศดีและเป็นร้านเก่าแก่ "วาดะคิน (和田金)" กับร้าน "กิวกิน (牛銀)"
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษมุ่งหน้าไปเกาะคาชิโกะจิมะ จากสถานีโอซาก้านัมบะ การรถไฟคินเท็ตสึ แล้วลงรถที่สถานีมัตสึซากะ (松阪駅) (ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที) สามารถเดินเท้ามาจากสถานีมัตสึซากะได้ (ประมาณ 15 นาที)
22.นางาชิมะรีสอร์ท (ナガシマリゾート)【จังหวัดมิเอะ】
ในจังหวัดมิเอะมีรีสอร์ทที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งอยู่ใกล้ๆ นาโกย่า เช่นกัน โดยมีเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวมากมายที่ "นางาชิมะสปาแลนด์ (ナガシマスパーランド)" ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับฟูจิคิวไฮแลนด์ของฝั่งตะวันออกเลยค่ะ อีกทั้งยังมี "ยุอามิโนะชิมะ (湯あみの島)" ที่ให้บริการออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับสุดหรูหรา และเอาท์เล็ทขนาดใหญ่ "มิตสึอิเอาท์เล็ทปาร์ค แจ๊สดรีมนางาชิมะ" กล่าวกันว่ามีผู้มาใช้บริการที่นี่รองจากโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท (東京ディズニーリゾート) และ USJ (Universal Studios Japan) เลยทีเดียว
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษมุ่งหน้าไปนาโงย่าจากสถานีโอซาก้านัมบะ การรถไฟคินเท็ตสึ แล้วลงรถที่สถานีคุวานะ (桑名駅) (ประมาณ 2 ชั่วโมง) แล้วนั่งรถบัสจากสถานีคุวานะประมาณ 20 นาที
23.เขาโกไซโชและยุโนะยามะออนเซ็น (御在所岳と湯の山温泉)【จังหวัดมิเอะ】
เป็นออนเซ็นและยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดมิเอะ แม้ว่าจะเป็นภูเขาที่มาปีนเขาได้ แต่ก็มีโรปเวย์ที่มีความยาวรวม 2.1 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 780 เมตร ซึ่งเชื่อมเส้นทางระหว่างสวนสาธารณะบนภูเขาและยุโนะยามะออนเซ็นที่เชิงเขา มีเสาค้ำสีขาวขนาดใหญ่ยักษ์โดดเด่น สำหรับที่สวนสาธารณะบนภูเขาก็มีร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ อยู่มากมายบนสภาพภูมิประเทศที่ราบเรียบจากทิศตะวันออกไปถึงตะวันตกเป็นระยะ 600 เมตร อีกทั้งยังมีลิฟต์ที่ไปถึงยอดเขาที่ความสูง 1,212 เมตรจากระดับน้ำทะเลอยู่ด้วย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษมุ่งหน้าไปนาโกย่าจากสถานีโอซาก้านัมบะ การรถไฟคินเท็ตสึ แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายยุโนะยามะ (湯の山線) ที่สถานีคินเท็ตสึยคคะอิชิ (近鉄四日市駅) แล้วลงรถที่สถานียุโนะยามะออนเซ็น (湯の山温泉駅) (ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีจากโอซาก้า) จากนั้นจะสามารถขึ้นรถบัสจากสถานียุโนะยามะออนเซ็นไปถึงยุโนะยามะออนเซ็นได้
24. อิกะ (伊賀)【จังหวัดมิเอะ】
ที่นี่เป็นหมู่บ้านนินจาที่เป็นที่คุ้นเคยกันนั่นเอง ที่พิพิธภัณฑ์นินจาสายอิกะ (伊賀流忍者博物館 / Ninja MUSEUM of Igaryu) มีทั้งการให้ลองสัมผัสประสบการณ์และสาธิตการเป็นนินจาอยู่ด้วย อีกทั้ง อิกะไม่ได้มีเฉพาะอะไรที่เกี่ยวกับนินจา แต่ยังมีปราสาทและ "โอคุโนะโฮโซมิจิ (奥の細道 / The Narrow Road to the Deep North)" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นแดนกำเนิดของมัตสึโอะ บาโช (กวีไฮกุชื่อดัง) ขอแนะนำให้ลองไปสัมผัสบรรยากาศเมืองปราสาทและปราสาทอิงะอุเอโนะ (伊賀上野城) รวมถึงมาเยือนบ้านเกิดของบาโชเช่นกัน
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษจากสถานีโอซาก้าอุเอะฮมมาจิ (大阪上本町駅) การรถไฟคินเท็ตสึ แล้วลงรถที่สถานีอิกะคัมเบ (伊賀神戸駅) (75 นาที) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟอิกะ (伊賀鉄道) แล้วลงรถที่สถานีอุเอโนะชิ (上野市駅) (25 นาทีจากอิกะคัมเบ)
25. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (伏見稲荷)【เกียวโต】
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทัศนียภาพประตูโทริอิสีแดงที่เรียงซ้อนกันทอดยาวไป กับภูเขาอินาริซึ่งเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นภาพที่งดงาม เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดิน ทั้งยังอยู่ใกล้กับสถานี ไม่มีค่าเข้าชม และไม่มีเวลาปิดให้เข้าชมอีกด้วย ซึ่งจากการที่มีสาเหตุที่ทำให้มีประตูโทริอิตั้งเรียงรายกันอยู่มากมายเช่นนี้เป็นเพราะว่าคนทั่วไปถวายประตูโทริอิให้กับศาลเจ้านั่นเอง
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าเคฮัง (京阪電車) จากรถไฟฟ้าเคฮัง สถานีโยโดยะบาชิ (淀屋橋駅) แล้วลงรถที่สถานีฟุชิมิอินาริ (伏見稲荷駅) (ประมาณ 50 นาที) แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 5 นาที
26.อาราชิยามะ (嵐山)【เกียวโต】
อาราชิยามะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาสัมผัสบรรยากาศแบบเกียวโตและญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง สามารถเพลิดเพลินไปกับถนนช็อปปิ้งที่มีร้านรวงต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่รอบๆ สะพานโทะเก็ตสึ (渡月橋) ก็ดี หรือจะไปเดินเล่นตามถนนหนทางในขณะที่ชมป่าไผ่ที่ขึ้นอยู่หนาแน่นในซางาโนะก็ทำให้จิตใจสงบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในบริเวณรอบๆ ยังมีวัดที่สามารถเพลิดเพลินไปกับซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงที่กระจายตัวอยู่เป็นจุดๆ อีกด้วย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฮันคิวสายเกียวโต จากสถานีฮันคิวอุเมดะ แล้วไปเปลี่ยนขบวนเป็นสายอาราชิยามะ (嵐山線) ที่สถานีคาสึระ (桂駅) แล้วลงรถที่สถานีอาราชิยามะ (嵐山駅) (ประมาณ 50 นาที) แล้วเดินเท้าจากสถานีอาราชิยามะเป็นเวลา 10 นาทีแล้วออกมาทางด้านหน้าสะพานโทะเก็ตสึ เมื่อข้ามสะพานโทะเก็ตสึแล้วเลี้ยวซ้ายระหว่างทางตรงพื้นที่ที่มีร้านรวงตั้งเรียงรายอยู่ แล้วทะลุผ่านป่าไผ่มาก็จะพบพื้นที่ซางาโนะ (嵯峨野)
27.วัดเรียวอันจิ (龍安寺)【เกียวโต】
วัดเรียวอันจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมวาบิซาบิ (สิ่งที่เรียบง่ายและเงียบสงบเป็นสิ่งสวยงาม) ของญี่ปุ่น ด้วยรูปร่างที่เรียบง่ายและไม่ฉูดฉาดนี้เองที่ครองใจผู้คนมาได้ ผู้คนที่มาเยือนวัดเรียวอันจินั้นจะมานั่งที่ฮิโระเอ็น (広縁 หมายถึง เฉลียงไม้กระดานแบบญี่ปุ่นอย่างกว้างหรือระเบียงทางเดินอย่างกว้าง) เพื่อชมสวนหิน แล้วนั่งชมสวนอยู่เงียบๆ ครู่หนึ่ง สวนหินนี้ถูกเรียกว่าสวนคาเระซันซุย (枯山水庭園 หมายถึง สวนญี่ปุ่นที่แสดงทิวทัศน์ธรรมชาติอย่างเรียบง่ายโดยการจัดวางก้อนหิน) โดยจะจัดวางหิน 15 ก้อนลงบนทรายขาวโดยจัดเป็น 5-2-3-2-3 ซึ่งรั้วดินที่อยู่รอบๆ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของสวนเช่นกัน
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฮันคิวสายเกียวโตจากสถานีฮันคิวอุเมดะ ลงรถที่สถานีโอมิยะ (大宮駅) (ประมาณ 45 นาที) แล้วเดินเท้า 5 นาทีไปที่รถไฟฟ้าเคฟุกุ (京福電鉄) สถานีชิโจโอมิยะ (四条大宮駅) ขึ้นรถไฟฟ้าเคฟุกุจากสถานีชิโจโอมิยะแล้วไปลงรถที่สถานีเรียวอันจิ (龍安寺駅) (ประมาณ 30 นาที) จากนั้นเดินเท้าต่อ 7 นาที
28.วัดคินคาคุจิ (金閣寺)【เกียวโต】
วัดคินคาคุจิ วัดทองตัวแทนแห่งสถาปัตยกรรมอันเป็นประกายแห่งญี่ปุ่น ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ชื่ออย่างเป็นทางการของวัดนี้คือ วัดโรคุอนจิ (鹿苑寺) ด้วยอาคารประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่เปล่งประกายเป็นสีทอง (คินคาคุ) นั่นเอง ทำให้วัดนี้ได้รับเรียกชื่อว่าวัดคินคาคุจิ ซึ่งแตกต่างจากวัดกินคาคุจิ (วัดเงิน) ที่เป็นสไตล์วาบิซาบิ (เงียบสงบและเรียบง่าย) โดยสิ้นเชิง กล่าวกันว่าได้มีการสร้างที่นี่ขึ้นมาเพื่อแสดงอำนาจของอาชิคางะ โยชิมิตสึ ในสมัยมุโรมาจิโดยอาคารประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนั้น เป็นอาคาร 3 ชั้นที่สร้างขึ้นในสไตล์สถาปัตยกรรมที่ต่างกันอยู่ 2 ชั้น ส่วนชั้น 3 สร้างขึ้นมาอย่างหรูหราด้วยการปิดทองคำเปลวลงบนงานเคลือบเงา
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าสาย JR เกียวโตจากสถานี JR โอซาก้า ลงรถที่สถานีเกียวโต (ประมาณ 30 นาที) จากนั้นขึ้นรถบัสในเขตเทศบาลเมืองเกียวโตจากสถานีเกียวโตแล้วไปลงรถหน้าวัดคินคาคุจิ
29. หมู่บ้านภาพยนตร์โทเอ อุสึมาสะ (東映太秦映画村)【เกียวโต】
สตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์ของโทเอที่ผลิตภาพยนตร์ย้อนยุคของญี่ปุ่นที่เป็นที่คุ้นเคยกันด้วยชัมบาระ (チャンバラ หมายถึง การใช้ดาบฟันต่อสู้กัน) ออกมามากมายนั้น ตั้งอยู่ที่ย่านอุสึมาสะในเกียวโตนั่นเอง และยังอยู่ใกล้กับอาราชิยามะอีกด้วย ที่นี่คือ "หมู่บ้านภาพยนตร์โทเอ อุสึมาสะ" ธีมปาร์คที่อยู่ติดกับสตูดิโอที่จำลองบรรยากาศสมัยเมจิ และเอโดะ ด้วยการเซ็ตฉากในภาพยนตร์ขึ้นมา ที่นี่ได้รับความนิยมจากผู้ที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก โดยไม่เฉพาะอยู่แค่แฟนๆ ที่ติดตามภาพยนตร์เท่านั้น อาทิเช่น การมาเที่ยวชมบรรยากาศการถ่ายทำภาพยนตร์ย้อนยุคที่มีการเซ็ตฉากในภาพยนตร์ขึ้นมา เป็นต้น
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าสาย JR เกียวโตจากสถานี JR โอซาก้า ลงรถที่สถานีเกียวโต (ประมาณ 30 นาที) จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปขึ้นสายหลัก JR ซันอิน (JR山陰本線) จากสถานีเกียวโต แล้วไปลงรถที่สถานีอุสึมาสะ (太秦駅) (ประมาณ 13 นาทีจากสถานีเกียวโต) จากนั้นเดินเท้าต่อเป็นเวลา 5 นาที
30. พระราชวังเกียวโต (京都御所)【เกียวโต】
ประเทศญี่ปุ่นในสมัยก่อนมีเกียวโตเป็นเมืองหลวงกว่า 800 ปี นั่นก็หมายความว่าพระจักรพรรดิเคยประทับอยู่ที่เกียวโต และสถานที่ประทับก็คือพระราชวังเกียวโตแห่งนี้ที่เป็นสถานที่ที่เทียบได้กับพระราชวังหลวง (皇居) ในโตเกียวนั่นเอง พระราชวังนี้ตั้งอยู่ในสวนเกียวโตเกียวเอ็น (京都御苑 หรือสวนในพระราชวังเกียวโต) ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในเกียวโต แม้ว่าการเที่ยวชมจะสามารถทำได้โดยต้องจองล่วงหน้า หรือไม่ก็มาในช่วงที่เปิดให้เข้าชมทั่วไปในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงก็ตาม แต่แค่เพียงได้เดินเล่นแล้วชมสวนในพระราชวังจากข้างนอกก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การชมแล้วล่ะค่ะ
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฮันคิวสายเกียวโตจากสถานีฮันคิวอุเมดะ ลงรถที่สถานีคาราสึมะ (ประมาณ 45 นาที) จากนั้นไปขึ้นรถไฟใต้ดินเทศบาลเมืองเกียวโต (京都市営地下鉄) แล้วลงรถที่อิมาเดะงาวะ (今出川) จากนั้นเดินเท้าต่อประมาณ 5 นาที
31.ถนนปรัชญา (哲学の道)【เกียวโต】
ชื่อนี้มาจากจากการที่นิชิดะ คิทาโร่ นักปรัชญาชื่อดังได้มาเดินเล่นและจดจ่อกับการใช้ความคิดที่นี่นั่นเอง ถนนเส้นนี้เป็นถนนเลียบทางส่งน้ำซึ่งทอดยาวไปทางทิศใต้ของวัดกินคาคุจิตรงเชิงเขาฮิงาชิยามะ (東山) และยังได้รับการเลือกสรรเป็น 1 ใน 100 ถนนชั้นนำแห่งญี่ปุ่น ความยาวโดยรวมอยู่ที่ 1.5 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สามารถเพลิดเพลินไปกับซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงได้อีกด้วย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าสาย JR เกียวโตจากสถานี JR โอซาก้า ลงรถที่สถานีเกียวโต (ประมาณ 30 นาที) จากนั้นขึ้นรถบัสในเขตเทศบาลเมืองเกียวโตจากสถานีเกียวโต แล้วไปลงรถที่หน้าวัดกินคาคุจิ
32. วัดกินคาคุจิ (銀閣寺)【เกียวโต】
วัดกินคาคุจิ หรือวัดเงินแห่งนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดจิโชจิ (慈照寺) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย ซึ่งอาชิคางะ โยชิมาสะสร้างที่นี่ขึ้นมาเป็นบ้านพักตามชายเขา จนได้รับการชื่อว่าเป็นวัดกินคาคุจิเมื่อสมัยเอโดะ แต่ก็ไม่มีร่องรอยการปิดเงินเปลวแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีทฤษฎีต่างๆ นานาที่บ้างก็ว่าเป็นเพราะปัญหาด้านงบประมาณแต่ก็ยังคงเป็นปริศนา แต่การเคลือบสีดำนั้นก็ได้ทำเหมือนกัน
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าสาย JR เกียวโตจากสถานี JR โอซาก้า ลงรถที่สถานีเกียวโต (ประมาณ 30 นาที) จากนั้นขึ้นรถบัสในเขตเทศบาลเมืองเกียวโตจากสถานีเกียวโต แล้วไปลงรถที่หน้าวัดกินคาคุจิ
33.ศาลเจ้ายาซากะ (八坂神社)【เกียวโต】
ตรงสุดทางไปทางทิศตะวันออกของถนนชิโจที่แสนจะครึกครื้นนั้นมีศาลเจ้ายาซากะตั้งอยู่ ที่นี่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมของเขตกิองซึ่งเป็นย่านบันเทิงอันดับหนึ่งในเกียวโต และด้วยความที่สามารถเข้าไปในช่วงกลางคืนได้เช่นเดียวกับศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ ท่านจึงสามารถแวะมาเยือนได้แบบสบายๆ ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 แต่การเรียกชื่อว่าศาลเจ้ายาซากะนั้นเริ่มกันในสมัยเมจิ โดยก่อนหน้านั้นเรียกกันว่าศาลเจ้ากิอง (祇園社) และยังมีช่วงหนึ่งที่เกิดการหลอมรวมกันระหว่างศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ โดยได้รับอิทธิพลมาจากวัดเฮเอซัง-เอนเรียคุจิ (比叡山延暦寺)
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฮันคิวสายเกียวโตจากสถานีฮันคิวอุเมดะ ลงรถที่สถานีคาวาระมาจิ (河原町駅) (ประมาณ 45 นาที) เดินเท้าจากสถานีคาวาระมาจิ 10 นาที หรือไปขึ้นรถไฟสายเคฮัง (京阪線) จากสถานีเคฮังโยโดยะบาชิ (京阪淀屋橋駅) แล้วลงรถที่สถานีกิองชิโจ (祇園四条駅) (ประมาณ 50 นาที) จากนั้นเดินเท้าจากสถานีกิองชิโจเป็นเวลา 5 นาที
34.วัดคิโยมิสึเดระ (清水寺)【เกียวโต】
เมื่อมุ่งไปทางทิศใต้จากศาลเจ้ายาซากะ ก็จะพบกับพื้นที่ที่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแบบเกียวโต ไม่ว่าจะเป็นวัดโคไดจิ (高台寺) หรือเนินซันเน็นซากะ (三年坂) ซึ่งตรงด้านหน้านั้นเองที่มีวัดคิโยมิสึเดระตั้งอยู่ ซึ่งสำหรับญี่ปุ่นแล้วจะมีสำนวนที่แสดงออกถึงการตัดสินใจทำอะไรแบบไม่ลังเลว่าเป็น "การตั้งใจจะกระโดดลงจากระเบียงวัดคิโยมิสึ (เป็นการเปรียบเทียบเนื่องมาจากระเบียงวัดคิโยมิสึนั้นมีความสูงมาก จึงต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดหากจะกระโดดลงไป)" ระเบียงบนพระอุโบสถหลักตั้งอยู่บนเนินสูง สามารถมองภายในเมืองเกียวโตได้ทั่วถึง และรอบๆ ระเบียงวัดแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีสันจากดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฟ้าสาย JR เกียวโตจากสถานี JR โอซาก้า ลงรถที่สถานีเกียวโต (ประมาณ 30 นาที) จากนั้นขึ้นรถบัสในเขตเทศบาลเมืองเกียวโตสาย 206 หรือสาย 100 จากสถานีเกียวโต ลงรถที่สถานีโกโจซากะ (五条坂駅) แล้วเดินเท้าต่อ 10 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสในเขตเทศบาลเมืองเกียวโตสาย 207 จากสถานีฮันคิวคาวาระมาจิ (阪急河原町駅) หรือสถานีเคฮังกิองชิโจ (京阪祇園四条駅) ลงรถที่คิโยมิสึมิจิ (清水道) แล้วเดินเท้าต่อ 10 นาที
35.กิอง (祇園)【เกียวโต】
กิอง คือพื้นที่จากทิศใต้ไปเหนือตั้งแต่แม่น้ำคาโมงาวะ (鴨川) ที่ถนนชิโจ ไปจนถึงถนนฮิงาชิโอจิ และศาลเจ้ายาซากะ มาจากการที่เป็นเมืองรอบศาลเจ้ายาซากะที่ถูกเรียกชื่อว่าศาลเจ้ากิองจนถึงสมัยเมจินั่นเอง เขตพื้นที่นี้เป็นย่านเกอิชาที่มีน้อยจนนับจำนวนได้ในเกียวโต ซึ่งแม้แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีทั้งโอชายะ (お茶屋 หมายถึงร้านที่ให้เกอิชามาคอยบริการอาหารให้ลูกค้า) ภัตตาคารญี่ปุ่น และบาร์ที่มีเกอิชาเดินเข้าเดินออกกระจายตัวกันอยู่มากมาย บรรยากาศที่นี่ดูดีมีสไตล์ มีบ้านที่มีไม้ระแนงขัดแตะตั้งเรียงราย ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และได้รับอนุรักษ์เรื่อยมา
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฮันคิวสายเกียวโตจากสถานีฮันคิวอุเมดะ ลงรถที่สถานีคาวาระมาจิ (ประมาณ 45 นาที) แล้วเดินเท้า 5 นาทีจากสถานีคาวาระมาจิเข้าสู่เขตกิอง หรือไปขึ้นรถไฟสายเคฮังจากสถานีเคฮังโยโดยะบาชิ แล้วลงรถที่สถานีกิองชิโจ (ประมาณ 50 นาที) ซึ่งสถานีตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของเขตกิอง
36. พอนโตะโจ (先斗町)【เกียวโต】
PIXTA
พอนโตะโจเป็นซอยที่ทอดยาวไปทางทิศเหนือจากสุดฝั่งตะวันตกของสะพานชิโจโอฮาชิ (四条大橋) ที่พาดผ่านแม่น้ำคาโมงาวะ ซึ่งมีพวกบาร์ ร้านอาหารแบบง่ายๆ รวมถึงภัตตาคารเก่าแก่ที่มีพื้นยกระดับเหนือแม่น้ำคาโมงาวะตั้งเรียงรายอยู่มากมาย เรียกได้ว่าเป็นย่านบันเทิงชื่อดังในเกียวโต ถ้ามีเวลาสัก 1 ชั่วโมงก็สามารถกลับไปโอซาก้าได้แล้ว เพราะฉะนั้นมาดื่มกินแบบเบาๆ แล้วค่อยกลับไปก็น่าสนใจดีนะคะ
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟฮันคิวสายเกียวโตจากสถานีฮันคิวอุเมดะ ลงรถที่สถานีคาวาระมาจิ (ประมาณ 45 นาที) แล้วจะถึงทันที
37. วัดโทไดจิ (東大寺)【นารา】
เมื่อพูดถึงนาราก็ต้องนึกถึงพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และอาคารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้ก็คือพระอุโบสถในวัดโทไดจิที่เรียกว่าไดบุตสึเด็น (大仏殿) นั่นเอง ในบรรดาสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในช่วงหลังมานี้จะมีสถาปัตยกรรมไม้ขนาดใหญ่ยักษ์ที่สร้างขึ้นมาจากการเชื่อมไม้สังเคราะห์ด้วยโลหะ ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ขึ้นโครงด้วยไม้แบบแท้ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วก็คงถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกแล้วล่ะค่ะ โดยพระจักรพรรดิโชมุได้ออกพระราชโองการให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้ขึ้นมาเมื่อปี 741 เพื่อทำให้ความวิตกหวั่นไหวทางการเมืองและสังคมสงบลงด้วยพลังแห่งพระพุทธศาสนา
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟคินเท็ตสึมุ่งหน้าไปนาราจากสถานีโอซาก้านัมบะ แล้วลงรถที่สถานีคินเท็ตสึนารา (近鉄奈良駅) (ประมาณ 40 นาที) ขึ้นรถบัสรอบเมืองแล้วลงรถที่ป้าย "ไดบุตสึเด็น คาซุกะไทฉะ-มาเอะ (大仏殿春日大社前)" แล้วเดินเท้าต่อ 5 นาที หรือเดินเท้าจากสถานีคินเท็ตสึนาราเป็นเวลา 20 นาที
38.สวนสาธารณะนาราและกวาง (奈良公園と鹿)【นารา】
เมื่อพูดถึงนาราก็ต้องนึกถึงกวางในสวนสาธารณะนารา ภาพของกวางที่คุ้นชินกับผู้คนแล้วออกมาโค้งทักทายเช่นนี้ เรียกได้ว่าแปลกตามากๆ แม้จะดูเหมือนว่ากวางที่นี่ถูกเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย แต่ที่จริงแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ถ้าเป็นกวางที่ป่วยหรืออันตรายจะถูกนำไปดูแลในเขตพื้นที่พิเศษ และแม้ว่ากวางที่นี่จะไม่หนีและไม่บุกเข้ามาทำร้ายผู้คน แต่ถ้ามีคนที่กำลังกินอะไรอยู่ บางทีกวางอาจจะโผล่หน้าขึ้นมาจากทางด้านหลังแบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้ ขอให้ระวังให้ดีด้วยนะคะ
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟคินเท็ตสึมุ่งหน้าไปนาราจากสถานีโอซาก้านัมบะ แล้วลงรถที่สถานีคินเท็ตสึนารา (ประมาณ 40 นาที) จากนั้นเดินเท้าจากสถานีคินเท็ตสึนาราไปทางตะวันออกประมาณ 10 นาที ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่นับจากฝั่งใต้ของที่ว่าการจังหวัดไปจนถึงวัดโทไดจิ และบริเวณรอบๆ ภูเขาวาคาคุสะยามะ (若草山)
39.ศาลเจ้าคาซุกะไทฉะ (春日大社)【นารา】
เฮโจเกียว (平城京) คือเมืองที่สร้างขึ้นอย่างเต็มรูปแบบถัดจากฟูจิวาระเกียว (藤原京) โดยมีต้นแบบมาจากเมืองฉางอานในสมัยราชวงศ์ถัง โดยศาลเจ้าคาซุกะไทฉะเป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นมาด้วยจิตภาวนาที่มีต่อความมั่งคั่งของประชาชนและการปกปักษ์รักษาเฮโจเกียวแห่งนี้ โดยยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันและได้กลายเป็นมรดกโลกอีกด้วย อีกทั้ง ยังมีเรื่องเล่าที่ว่าจากการที่ได้ประดิษฐานเทพคาชิมะโนะคามิ (鹿島神) (ทาเคมิคาสึจิ-โนะ-มิโคโตะ เชื่อกันว่าเป็นเทพผู้ส่งสารให้เทพอาเมะโนะคาคุโนะคามิซึ่งเป็นกวาง) ซึ่งย้ายมาจากศาลเจ้าคาชิมะ (鹿島神社) ในจังหวัดอิบารากิ จึงมีเทพที่ได้ขี่กวางมาที่นี่ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของกวางนารานั่นเอง นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีอาคารประดิษฐานพระประธานสีแดงสดและโคมไฟที่มีอยู่นับจำนวนไม่ถ้วน รวมถึงดอกฟูจิ (วิสทีเรีย) ที่สวยงามตราตรึงใจอยู่ด้วย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟคินเท็ตสึมุ่งหน้าไปนาราจากสถานีโอซาก้านัมบะ แล้วลงรถที่สถานีคินเท็ตสึนารา (ประมาณ 40 นาที) ขึ้นรถบัสรอบเมืองจากสถานีคินเท็ตสึนารา แล้วลงรถที่ป้าย "คาซุกะไทฉะ โอโมเตะซันโด (春日大社表参道)" แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 10 นาที หรือจะเดินเท้าจากสถานีคินเท็ตสึนารา ผ่านสวนสาธารณะนาราเป็นเวลาประมาณ 25 นาทีก็ได้
40.นารามาจิ (ならまち)【นารา】
เมื่อพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งสุดเก๋และแหล่งอาหารอร่อยในนาราก็ต้องที่ "นารามาจิ" แห่งนี้เลย ด้วยความที่อยู่ติดกับสถานีคินเท็ตสึนาราทางทิศใต้เลยจึงสะดวกสบายมาก ทิวทัศน์เมืองของที่นี่เป็นเมืองที่คงเหลือกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นโบราณที่มีบ้านที่มีไม้ระแนงขัดแตะเรียงรายอยู่ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารกลางวันแบบเบาๆ รวมถึงร้านขายส่วนประกอบอาหารและสินค้าจิปาถะที่เกี่ยวกับนาราอยู่ด้วย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟคินเท็ตสึมุ่งหน้าไปนาราจากสถานีโอซาก้านัมบะ แล้วลงรถที่สถานีคินเท็ตสึนารา (ประมาณ 40 นาที) แล้วเดินเท้าจากสถานีคินเท็ตสึนาราไปทางทิศใต้ประมาณ 10 นาที
หน้าต่อไป : แหล่งท่องเที่ยวแนะนำจากโอซาก้า อันดับที่ 41-60
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่