แนะนำ 7 ที่เที่ยวน่าไปในคุมาโมโตะ เมืองที่กำลังฟื้นตัวหลังแผ่นดินไหวใหญ่!!
จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) ในคิวชู เป็นจังหวัดที่มีจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากมาย เช่น Kurokawa Onsen ใน Aso หรือปราสาทคุมาโมโตะ เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์และมีของกินแสนอร่อยอยู่มากมาย แต่ทว่า ในปี 2016 กลับประสบเหตุแผ่นดินไหวคุมาโมโตะ ทำให้สิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์พังเสียหาย จนจำนวนนักท่องเที่ยวลดน้อยลงอย่างมาก แต่ที่จริงแล้วงานฟื้นฟูยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องและจำนวนนักท่องเที่ยวก็เริ่มฟื้นกลับขึ้นมาเรื่อยๆ เช่นกัน คุมาโมโตะมิได้สูญเสียเสน่ห์ไปแต่อย่างใด ตอนนี้ก็ยังมีที่ให้ไปชมอยู่มากมายเลยล่ะ!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ปราสาทคุมาโมโตะ [สถานี Kumamoto Castle / City Hall]
"ปราสาทคุมาโมโตะ" กล่าวได้ว่าเป็นดั่งสัญลักษณ์ของคุมาโมโตะ ได้รับความเสียหายขนาดใหญ่จากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 2016 ปัจจุบันก็ยังคงถูกซ่อมแซมฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง จึงอาจจะยังมีส่วนที่ไม่สามารถผ่านหรือเข้าชมได้อยู่บ้าง แต่การมีตัวตนของปราสาทอันสง่างามนี้ก็ยังคงหนักแน่น หากมาเยือนคุมาโมโตะแล้วละก็ ที่นี่คือสถานที่แห่งแรกที่ควรมาเลยทีเดียว
ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงประมาณต้นเดือนเมษายน จะสามารถชมดอกซากุระในบริเวณรอบๆ ปราสาทคุมาโมโตะได้ ซากุระที่มีอยู่ราวๆ 800 ต้นจะส่งมอบความงามที่ดีที่สุดให้ได้ชม การเปิดไฟประดับช่วงกลางคืนก็สวยงามน่าอัศจรรย์มากเช่นกัน
2. Sakuranobaba Johsaien [สถานี Kumamoto Castle / City Hall]
"Sakuranobaba Johsaien" ตั้งอยู่ติดกับปราสาทคุมาโมโตะ เป็นพื้นที่รวมร้านขายของฝาก มีลักษณะเด่นคืออาคารบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายแบบเมืองใต้ปราสาทในสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1867) มีทั้งศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว และพิพิธภัณฑ์ "Wakuwakuza" ที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ปราสาทคุมาโมโตะและวัฒนธรรมของคุมาโมโตะได้ตั้งอยู่ด้วย เป็นสถานที่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่ในการท่องเที่ยวคุมาโมโตะเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ ที่ Sakuranokomichi (ตรอกซากุระ) ยังมีของฝากของที่ระลึกของคุมาโมโตะมากมายหลากหลายประเภทให้ได้ซื้อหากันอีกด้วย คุมาโมโตะเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งเพาะปลูกสตรอเบอร์รี่ จึงมีซอฟท์ครีมและน้ำแข็งไสที่ใช้สตรอเบอร์รี่แบบจัดเต็มมาจำหน่ายแบบจำกัดช่วงเวลาด้วย เหมาะสำหรับการเดินเล่นในฤดูที่มีอากาศร้อนเป็นอย่างยิ่ง
3. Nabegataki [Aso]
Nabegataki นั้นว่ากันว่าก่อตัวขึ้นจากลาวาของภูเขาไฟที่ระเบิดเมื่อ 9 หมื่นปีก่อน ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งมีทิวทัศน์อันสวยงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในคุมาโมโตะ แม้จะมีความสูงเพียง 10 เมตรแต่มีความกว้างถึง 20 เมตร จึงดูราวกับผ้าม่านแสนสวยที่ทำจากน้ำเลยทีเดียว เนื่องจากที่นี่ยังมีชั้นดินอ่อน ในปัจจุบันจึงยังคงเปลี่ยนรูปอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปด้านในน้ำตกได้อีกด้วย สิ่งที่ได้เห็นจะแตกต่างจากที่มองจากด้านหน้าแน่นอน แต่ระวังพื้นลื่นง่ายจึงควรสวมรองเท้ากันลื่นไปด้วย ช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการเปิดไฟประดับเพื่อแต่งแต้มสีสันให้กับน้ำตกด้วยเช่นกัน
4. Daikanbo [Aso]
"Daikanbo" คือภูเขาที่อยู่ในอำเภอ Aso จากจุดชมวิวที่มีความสูง 936 เมตรจากระดับน้ำทะเลจะสามารถชม Aso-Gogaku (ยอดเขาทั้งห้าของ Aso) ได้ โดยข้างใต้มีเมืองที่อยู่บริเวณเชิงเขา Aso แผ่ขยายออกไปทั่วบริเวณ ที่จุดชมวิวมีร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกด้วยเช่นกัน การได้ลิ้มลองซอฟท์ครีมแสนอร่อยไปพร้อมกับชมทิวทัศน์อันงดงามก็ทำให้รู้สึกดีมากๆ เลยทีเดียว
นอกจากนี้จากที่นี่ยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อีกด้วย แต่จำเป็นต้องอยู่ในช่วงที่เวลา สภาพอากาศและเงื่อนไขต่างๆ นั้นเหมาะสมลงตัวเท่านั้น ช่วงเวลาที่แนะนำคือตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงประมาณ 9 โมงเช้า โดยตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นถือเป็นช่วงเวลาที่ขอแนะนำเป็นพิเศษ แม้จะไม่เห็นทะเลหมอกแต่ก็ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นอันสวยงามแน่นอน
5. Suizen-ji Joju-en [สวน Suizen-ji]
"Suizen-ji Joju-en" เป็นสวนญี่ปุ่นแสนสวยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานราวๆ 380 ปี น้ำที่อยู่ในบ่อน้ำเป็นน้ำที่ไหลมาจาก Aso หากเปลี่ยนมุมในการมองจะสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่แตกต่างกันได้ด้วยนะ สามารถดื่มด่ำไปกับความงามของธรรมชาติที่มีอยู่ตามแต่ละฤดูกาลทั้งสี่ได้เลยทีเดียว
"Kokindenjunoma" สิ่งก่อสร้างหลังคามุงจากซึ่งอยู่ภายในสวน ที่นี่มีสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งกำหนดโดยจังหวัดอยู่ด้วย จะชมสวนก็ดี หรือจะดื่มชาเขียวมัทฉะพร้อมรับประทานขนมที่ที่นั่งในพิธีชงชาก็สามารถทำได้เช่นกัน (ที่นั่งแบบญี่ปุ่น 650 เยน ที่นั่งแบบเก้าอี้ 550 เยน)
6. ASO NATURE LAND [Aso]
ที่ "Aso Nature Land" คุณสามารถทดลองเล่นร่มร่อนพาราไกลดิ้งหรือบอลลูนลมร้อนได้ เรียกได้ว่าสามารถสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่ได้ทำบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนวิเศษของ Aso และสบายใจได้เพราะมีคำแนะนำอย่างสุภาพโดยครูผู้สอนระดับมืออาชีพ
บอลลูนลมร้อนจะสามารถปล่อยได้เฉพาะเช้าที่ไม่มีฝนและลมเท่านั้น โดยจะขึ้นไปที่ความสูงประมาณ 40 เมตรจากพื้นดิน วิวทิวทัศน์จากตรงนั้นสุดยอดมากๆ เลยทีเดียวเชียวล่ะ! มาเพลิดเพลินกับประสบการณ์สุดพิเศษตลอดระยะเวลาลอยฟ้าราวๆ 5 นาทีบนบอลลูนกันดีกว่า!
7. Kurokawa Onsen [Aso]
"Kurokawa Onsen" ของคุมาโมโตะเป็นเมืองออนเซ็นที่อยู่กลางภูเขา มีออนเซ็นเรียวกังเรียงราย อาคารและทิวทัศน์ของเมืองที่น่าดึงดูดนี้ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเช่นกัน จะพักแรมก็ดี หรือจะมาเพลิดเพลินกับออนเซ็นเพียงอย่างเดียวแบบวันเดียวกลับก็ได้ อนึ่ง หากซื้อ "ตั๋วแช่บ่อน้ำร้อน (ผู้ใหญ่ 1,300 เยน (รวมภาษี))" ที่ออกโดยสหกรณ์เรียวกังเพื่อการท่องเที่ยว Kurokawa onsen จะสามารถลงบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งที่อยู่ใน Kurokawa Onsen ได้ 3 แห่ง ซึ่งถือว่าคุ้มมากๆ เลยทีเดียว
ไม่เพียงแค่การลงแช่ในบ่อน้ำร้อนเท่านั้น จะเดินเล่นชมเมืองก็เพลิดเพลินไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีการจำหน่าย "ไข่ออนเซ็น" ที่ทำจากน้ำร้อนออนเซ็นในจุดจำหน่ายหรือหน้าสถานที่พักแรม เรียกได้ว่าหาซื้อได้แทบทุกที่เลยทีเดียว จะกินเล่นตอนท้องว่างหลังขึ้นจากการแช่น้ำร้อนก็อร่อยสุดๆ ไปเลยล่ะ
เราได้คัดสรรแหล่งท่องเที่ยวเด็ดๆ ในจังหวัดคุมาโมโตะมาแนะนำให้รู้จักกันแล้ว! แม้จะอยู่ในช่วงฟื้นฟูจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ที่นี่ก็ยังมีสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินจนเต็มอิ่มในแบบคุมาโมโตะและญี่ปุ่นอยู่เต็มไปหมด มาสนุกกับธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของคุมาโมโตะกันเถอะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่