7 ราเมงท้องถิ่นแห่งคุมาโมโต้! ไม่ลองถือว่ามาไม่ถึง!
ภูมิภาคคิวชูแห่งนี้ มีชื่อเสียงทางด้านราเมงในแบบฉบับท้องถิ่นมาช้านาน โดยเฉพาะ ‘คุมาโมโตะราเมง (Kumamoto ramen)’ และ ‘ทามานะราเมง (Tamana ramen)’ ที่โด่งดังสุดๆ ด้วยน้ำซุปกระดูกไก่อันแสนเข้มข้น เส้นราเมงหนานุ่มกำลังดีและกระเทียมเจียวชั้นเลิศที่หอมฉุยจนใครๆ ก็อยากมาลิ้มลอง ยิ่งกว่านั้น! ร้านราเมงแต่ละร้าน ก็มีสูตรเด็ดประจำร้านของตนที่ทำให้ราเมงแต่ละชามแตกต่างกันไป ถ้ามาถึงคุมาโมโตะแล้ว ไม่ตระเวนชิมให้ครบก็ถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียว!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. คุมาโมโตะ ราเมง Kokutei สาขา Shimotori [Hanabatacho]
ร้านคุมาโมโตะราเมง Kokutei มีเมนูขึ้นชื่อเป็นราเมงใส่ไข่หรือ Tamago hairi Ramen ที่ใส่ไข่แดงถึง 2 ฟอง! ในราคาเพียง 900 เยน (รวมภาษี) วิธีรับประทานที่แนะนำก็คือทานไข่แดงสีส้มสวยที่เคลือบเส้นราเมงเหนียวนุ่มพร้อมไปกับชิมรสชาติเข้มข้นของน้ำซุปปรุงรสอย่างดีเมื่อรับประทานคำนี้เข้าไปแล้วคุณจะรู้สึกสดชื่นอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียวนอกจากไข่แดงแล้วในชามยังประกอบด้วยหมูชาชูชิ้นยักษ์และเห็ดหูเมฆที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์แถมยังแสนอร่อยให้คุณได้ลิ้มลองอีกด้วย
นอกจากนี้ทางร้านยังมีราเมงสไตล์ออร์ทอดอกซ์ราคาเพียง 680 เยน (รวมภาษี) ที่ขึ้นชื่ออีกด้วยน้ำซุปของราเมงนี้จะต่างจากราเมงใส่ไข่ตรงที่ใช้กระดูกหมูทำน้ำซุปแต่ยังคงเอกลักษณ์กระเทียมเจียวหอมกรุ่นและเส้นราเมงอันหนานุ่มรวมถึงหมูชาชูชิ้นโตไว้
2. Senryu Ramen [Tamana]
Senryu เป็นร้านราเมงสไตล์ทามานะที่เปิดให้บริการมายาวนานโดยมีผ้าม่านสีแดงเป็นสัญลักษณ์ประจำร้านน้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้นทั้งหวานทั้งมันและกระเทียมเจียวฝานบางๆ ถือเป็นส่วนผสมจานเด็ดของร้านนี้เลย
เส้นของร้านนี้จะบางและเล็กกว่าร้านแรกแต่ก็เป็นความเล็กที่พอดีคำ! ชามราเมงชามหนึ่งยังมีวัตถุดิบแสนอร่อยอย่างหมูชาชู ต้นหอมญี่ปุ่น เห็ดหูหมอกและหน่อไม้ที่ทำให้รสชาติดียิ่งไปอีกนอกจากราเมงจะมีชื่อเสียงแล้วเมนูอาหารจีนต่างๆ ของทางร้านก็ยังโด่งดังไม่แพ้กันถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปลองชิมดู!
3. Toen [Tamana]
Toen เป็นร้านราเมงสไตล์ง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครมารับประทานก็ติดใจกันทุกคน น้ำซุปของทางร้านเป็นซุปรสชาติพื้นฐาน เข้มข้นหวานมัน เส้นราเมงก็หนาหนุ่มพอดีคำ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใส่ไข่เพิ่มเป็นพิเศษ หรือเพิ่มกระเทียมเจียวสุดอร่อยได้ตามปริมาณที่ตนเองชอบได้อีกด้วย
เมนูเด็ดของร้านนี้ คือ ชาชูราเมง ราคา 880 เยน ที่ใส่หมูชาชูเยอะเต็มชามขนาดที่ว่าไม่เห็นเส้นเลยทีเดียว! ราเมงขึ้นชื่อนี้ก็ยังเพิ่มกระเทียมเจียวได้ตามต้องการเช่นกัน
4. Keika Ramen Kumamoto สาขาหลัก [Hanabatacho]
ร้าน Keika Ramen เป็นร้านราเมงเก่าแก่โบราณที่โด่งดังจนขยายสาขาไปถึงโตเกียวเลยทีเดียว เมนูดั้งเดิมขึ้นชื่อของร้านนี้คือ ราเมง Keika ที่มีน้ำซุปกระดูกไก่สีขาว ปรุงรสด้วยเกลือ Akasaka และหมูชาชูสูตรพิเศษของร้านที่จะทำให้จานนี้อร่อยยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ราเมงอีกชนิดที่ขึ้นชื่อก็คือ ทาโร่ราเมง (Taromen) ราเมงที่มีหมูชาชูยักษ์ 3 ชิ้นอยู่ในจาน แต่สิ่งที่แตกต่างจากราเมง Keika ก็คือรสชาติที่ถ้าไม่ชิมเองก็ไม่รู้!
5. Tengaiten สาขาหลัก [Suidocho]
'Tengaiten' เป็นอีก 1 ร้านราเมงขึ้นชื่อประจำถิ่นคุมาโมโตะ ร้าน Tengaiten นี้ เป็นร้านราเมงเล็กๆ ตั้งอยู่ในอาคารศูนย์การค้า Tsuruya ถึงจะมีแต่เคาน์เตอร์ ไม่มีโต๊ะแบบร้านปกติ แต่ลูกค้ามหาศาลก็ยังแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนร้านนี้กันอย่างไม่ขาดสาย ราเมงประจำร้านนี้ที่โด่งดังสุดๆ คือ ราเมงทงคตสึ ที่มีน้ำซุปกระดูกหมูและไก่ที่รสชาตินุ่มลิ้น รับประทานง่าย พร้อมด้วยเส้นราเมงตามแบบฉบับคุมาโมโตะ เส้นขนาดกลางหนาหนุ่มที่แสนอร่อย ใครมาชิมก็ติดใจ
นอกจากเมนูเด็ดประจำของร้าน 'ชาชูราเมง' ก็เป็นอีก 1 เมนูที่โด่งดังไม่แพ้กัน ด้วยหมูชาชูมหาศาลที่ใส่จนมองไม่เห็นเส้นราเมง! คุณๆ ท่านไหนที่อยากเน้นรสชาติของหมูเป็นพิเศษ ก็พลาดจานนี้ไปไม่ได้เลย
6. Daikoku Ramen [Ikeda]
ร้าน Daikoku Ramen มีสัญลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นตัวอักษรสีดำเขียนคำว่า 'Daikoku' ด้วยคันจิตัวยักษ์ นอกจากป้ายร้านที่สะดุดตาแล้ว ยังมีสุดยอดราเมงที่มากันเป็นเซต หรือ 'Ramen Setto' ประกอบไปด้วยราเมงทงคตสึ น้ำซุปกระดูกหมูอันเป็นของดีคุมาโมโตะ ซุปมิโสะที่ใส่เครื่องในชั้นดี ไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย และข้าวสวยร้อนๆ ให้คุณจะได้รับประทานจนอิ่มหนำกันเลยทีเดียว
ราเมงอีกอย่างที่แนะนำไม่แพ้กันก็คือ 'Men Tokumori Kuromaru Ramen' ราคา 750 เยน ที่เป็นราเมงพิเศษเพิ่มเส้น เพิ่มผักที่แค่เห็นก็ตื่นตาตื่นใจแล้ว ยิ่งกว่านั้น น้ำซุปยังสีดำเข้มข้น ประดุจครีมซุปที่รสชาติเยี่ยมสุดๆ ไปเลย
7. Hi no Kuni Bunryu สาขาหลัก [Musashizuka]
ร้าน Hi no Kuni Bunryu สาขาหลัก มีสัญลักษณ์ประจำร้านเป็นมังกรสุดเท่ห้อยลงมาจากหลังคาสังเกตได้ง่ายสุดๆ ขนาดที่ว่าจะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจไม่ได้เลยทีเดียว
เอกลักษณ์ของราเมงจากร้านนี้คือซุปอันเข้มข้นนั่นเองโดยเมนูแนะนำก็คือ ‘Tonkotsu Kuro Kotteri’ ราเมงรสชาติเข้มข้นในราคาเพียง 690 เยนเท่านั้นน้ำซุปอันเข้มข้นแต่ไม่ข้นจนหนืดจะผสมผสานไปกับรสชาติของเส้นราเมงจนได้มาซึ่งความกลมกล่อมของจานนี้อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ไม่สันทัดกับความข้นสุดๆ ของราเมงทางร้านก็มี Tokotsu Kuro Assari ราเมงรสชาติคล้ายกันที่ลดความเข้มลงมาให้ท่านได้ลิ้มลองในราคาเพียง 650 เยน
ในบทความนี้ได้นำเสนอราเมงร้านดังของคุมาโมโตะกันแล้ว อย่างไรก็ตามระหว่างการท่องเที่ยวคุมาโมโตะของคุณนั้นคุณจะได้เจอร้านแสนอร่อยอีกมากมายเลยทีเดียว ถ้าได้ลองแวะชิมร้านที่บังเอิญเจอ ลองเปรียบเทียบระหว่างราเมงคุมาโมโต้กับฮากาตะราเมง (ราเมงอีกชนิดที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น) ดูบ้างก็คงทำให้ทริปของคุณสนุกขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่