7 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในทตโตริที่ไม่ไปแล้วจะเสียใจ!
เมื่อไล่ไปทางภูมิภาคชูโคคุในทิศตะวันตกของเกาะญี่ปุ่น เราจะพบกับจังหวัดทตโตริ (Tottori) ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ แห่งหนึ่งทั้งในเชิงธรรมชาติและเชิงประวัติศาสตร์ ตัวจังหวัดอยู่ติดทะเลและแวดล้อมไปด้วยหาดทรายสวยๆ สำหรับใครที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นก็นับว่าเป็นจุดหมายที่น่าสนใจทีเดียว และเราก็ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในทตโตริทั้ง 7 แห่งมาไว้ให้ในบทความนี้แล้ว! เตรียมตัวไปพบกับท้องทะเลสีครามและหาดทรายขาวกว้างสุดลูกหูลูกตากันได้เลย!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. Tottori Sand Dunes (ทตโตริ)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดในทตโตริ เป็นเนินทรายยาวสุดสายตาที่หันหน้าเข้าสู่ทะเลญี่ปุ่น ลวดลายบนผืนทรายจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามกระแสลมที่พัดผ่านมา เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามจับตาและไม่สามารถหาได้ที่ไหนอีกแล้วในประเทศญี่ปุ่น ในวันที่อากาศดีก็จะมองออกไปเห็นทะเลได้ชัดแจ๋ว
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลายรูปแบบตั้งแต่การขี่อูฐไปจนถึงการเล่นร่มร่อน (Paraglide) บนหาดทรายบางจุดก็จะมีน้ำขังอยู่เป็นบ่อเล็กๆ ให้บรรยากาศเหมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายอีกด้วย
2. Sand Museum (ทตโตริ)
พิพิธภัณฑ์ที่มีคอนเซ็ปต์ว่าท่องโลกไปกับทราย เป็นที่ที่เราจะได้เห็นกับประติมากรรมจากทรายในแบบต่างๆ ซึ่งเป็นผลงานของประติมากรจากทั่วโลก ตัวพิพิธภัณฑ์อยู่ทางตะวันออกของเนินทรายทตโตริ และมีการเปลี่ยนธีมของผลงานที่จัดแสดงทุกๆ ปี จะไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อแน่นอน
การจัดแสงในอาคารจะแตกต่างกันในช่วงกลางวันและกลางคืน บรรยากาศที่ได้ในแต่ละช่วงจึงมีเสน่ห์แตกต่างกันไปเช่นกัน ทางเดินภายในโดยส่วนมากจะใช้ทางลาดแทนการใช้บันได ใครที่จำเป็นต้องใช้รถเข็นก็สามารถเข้าชมได้โดยไม่ติดขัด นอกจากนี้ยังมีบริการให้ยืมรถเข็นและรถเข็นเด็กอีกด้วย
3. Ame no Manai (โยโดเอะ)
น้ำตกขนาดใหญ่ที่ตีนเขาไดเซ็น (Daisen) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทตโตริ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และน้ำก็ใสขนาดที่มองลงไปเห็นปลาเทราต์สายรุ้ง (ปลาวงศ์เดียวกับปลาแซลมอน) แหวกว่ายอยู่ได้ นอกจากนี้รสชาติของน้ำเองก็อร่อยมากๆ ด้วย!
ที่น้ำตกจะมีกังหันน้ำเก่าแก่ที่มีมอสเกาะอยู่เต็มไปหมดอยู่ด้วย เป็นสถานที่ที่ให้บรรยากาศสงบๆ จะเดินชิลๆ ชมนกชมไม้เข้ามาก็ได้ หรือถ้าใครเอารถมาก็มีที่จอดรถให้บริการเช่นกัน
4. Kyusho Park / Tottori Castle Ruins (ทตโตริ)
หนึ่งในจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมที่สุดในทตโตริ โดยสามารถชมซากุระกันได้ราวๆ ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน และในช่วงกลางคืนก็จะมีการจุดโคมไฟด้วย ใครที่อยากเห็นซากุระสวยๆ ก็ไม่ควรพลาด หรือถ้าใครมานอกฤดูกาล จะหาวันที่ฟ้าใสๆ มาเดินเล่นสักหน่อยก็ให้ความรู้สึกที่ดีไม่แพ้กัน
สวนสาธารณะแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในที่ของปราสาททตโตริ จึงยังมีซากปรักหักพังของตัวปราสาทให้เห็นอยู่บ้างประปราย โดยจะรู้จักกันในชื่อของ Tottori Castel Ruins ใครที่สนใจก็สามารถไปปีนเขาระยะสั้นๆ ที่ภูเขา Kyusho ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทเก่าได้
5. Mitokusan Sanbutsu Temple (คุราโยชิ)
วัดเก่าแก่บนเขา Mitoku ที่อยู่สูงถึง 899.9 เมตรจากระดับพื้นดิน ต้องปีนขึ้นไปเองเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้เห็น และ Nageire-do ซึ่งเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นนั้นก็อยู่สูงขึ้นไปอีก การเดินทางอาจจะลำบากไปบ้าง แต่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ปีนเขาอยู่บ้างแล้วล่ะก็ ต้องขอบอกว่าไปเถอะ มันดีกับคุณ! ถ้าใครกังวลว่ารองเท้าจะพังหรือเดินไม่สะดวกก็สามารถซื้อรองเท้าแตะสานสำหรับปีนเขามาใช้ได้ กฎการเข้าชมวัดค่อนข้างเข้มงวด และที่สำคัญคือไม่อนุญาตให้เดินทางคนเดียว ดังนั้นถ้าใครจะมาแวะชมก็ควรจับกลุ่มมาก่อนอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป
Monju-do จะอยู่ประมาณกลางๆ ระหว่างทางไป Negeire-do ตัววัดสร้างอยู่บนหน้าผาและมีพื้นที่ให้เดินชมวิวสวยๆ รอบๆ สามารถถอดรองเท้าไปเข้าชมได้ จุดที่ต้องระวังคือถึงที่นี่จะมีพื้นให้เดิน แต่ไม่มีรั้วกั้นหรือที่จับใดๆ ดังนั้นก็พยายามเปิดหูเปิดตาระวังตัวไว้จะดีที่สุด
6. Misasa Onsen (คุราโยชิ)
Misasa Onsen เป็นเมืองบ่อน้ำร้อนของทตโตริ โดยทั่วไปหลายคนคงจะถามหาออนเซ็นเวลาที่ต้องการพักผ่อนเงียบๆ แต่บรรยากาศสบายๆ ชิลๆ ของบ่อน้ำร้อนในเมืองก็เป็นอะไรที่ดีต่อใจไม่แพ้กัน หลังจากแช่น้ำจนสบายใจแล้วก็สามารถออกไปเดินเล่นริมถนน เพลิดเพลินไปกับแสงไฟสลัวๆ และบรรยากาศในเมืองได้ด้วย
ในบริเวณนี้มีที่พักอยู่หลายแห่ง หรือถ้าใครแค่อยากแช่น้ำร้อนก็สามารถจัดทริปแบบวันเดียวกลับได้เช่นกัน อย่างที่บ่อน้ำร้อน Seiryuso ก็จะมีทั้งบ่ออาบน้ำสาธารณะกว้างๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ และบ่อกลางแจ้งแบบส่วนตัวให้ได้ใช้บริการ
7. Amedaki Fall (ทตโตริ)
น้ำตก Amedaki เป็นน้ำตกที่มีต้นน้ำอยู่ที่เขา Oginosen มวลน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลลงจากเขาเกิดเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจับตา และทางเดินไปยังน้ำตกก็ต้องผ่านป่าดึกดำบรรพ์ที่ให้ความรู้สึกดีไม่แพ้กัน ใครอยากจะสัมผัสธรรมชาติของทตโตริแบบเต็มๆ ก็ต้องที่นี่เลย!
จุดเด่นของ Amedaki คือมีน้ำตกทั้งน้อยใหญ่อยู่รวมถึง 48 แห่งด้วยกัน ระหว่างที่เดินผ่านป่าก็จะได้ยินเสียงน้ำตกจากทั่วทุกสารทิศ ต่อให้เป็นช่วงหน้าร้อนก็ยังอากาศเย็นสบาย นอกจากนี้ถ้าไปในฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีโอกาสได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ด้วยเช่นกัน
ทตโตริขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้เราได้ไปสัมผัสกับทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้กันอย่างเต็มอิ่ม ถ้ามีโอกาสได้แวะไปก็อย่าลืมแบ่งเวลาไปให้สถานที่ที่เราแนะนำสักหน่อย รับรองว่าไม่เสียเที่ยวแน่นอน!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่