ยินดีต้อนรับสู่นรก! เที่ยวเหล่าบ่อน้ำพุร้อนแสนงดงามใน "เบปปุ" จังหวัดโออิตะ
ทิ้งภาพของ 'นรก' ที่คุณรู้จักกันไปให้หมด! ในประเทศญี่ปุ่น นรกหมายความถึงทั้งดินแดนเบื้องล่างและบ่อน้ำพุร้อนที่ร้อนมากจนสามารถทำได้แค่มองจากที่ไกลๆ เท่านั้น เราสามารถพบเห็น 'นรก' ที่ว่านี้ได้จำนวนมาก ณ เมืองเบปปุ (Beppu) ในจังหวัดโออิตะ ภูมิภาคคิวชู ถ้าอยากรู้จักนรกล่ะก็ลองอ่านกันต่อได้เลย!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ทัวร์นรกในเบปปุ (Beppu Jigoku Meguri) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวบรวมนรกจำนวนนับไม่ถ้วนในเมืองเบปปุ เขตโออิตะ ที่ซึ่งเราจะได้ชื่นชมแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่นี่มีทั้งรถประจำทางสำหรับนักท่องเที่ยว และโปรแกรมทัศนศึกษาที่จะวนไปตามบ่อน้ำพุร้อนต่างๆ ในเบปปุ
ทั้งทะเลนรก (Umijigoku), บ่อเลือดนรก (Chinoike Jigoku), นรกบ่อขาว (Shiroike Jigoku), และนรกทอร์นาโด (Tatsumaki Jigoku) ถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในวันที่ 23 กรกฎาคม 2009
ทุกคนรู้จักน้ำพุร้อนที่แค่มองก็รู้สึกเพลิดเพลินได้หรือเปล่า? บ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้พบเห็นได้มากในเมืองเบปปุและมีชื่อเรียกขานว่าเป็น 'นรก' และวันนี้เราจะมาแนะนำนรกหลากหลายแบบให้ทุกคนได้รู้จักกัน
เนื่องจากมีไอรอนซัลเฟต (Iron Sulfate) ผสมอยู่มาก น้ำในบ่อจึงมีสีฟ้าสดใส ถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในปี 2009 ถึงแม้ว่าสีจะดูเย็นสดชื่น แต่อุณหภูมิภายในบ่อนั้นสูงถึง 98 องศาเซลเซียส (หรือ 208.4 องศาฟาเรนไฮต์) เลยทีเดียว ที่นี่จะมีบ่อแช่เท้าในร่มให้ได้แวะเวียนกันไปใช้ได้แม้ในวันฝนตก
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการต้มไข่โดยน้ำพุร้อน และมีของขึ้นชื่อเป็นพุดดิ้งนึ่งน้ำพุร้อน (Hot Spring Mushiyaki Purin) ที่ทำด้วยไข่ นม และน้ำตาล อีกทั้งยังมีร้านต่างๆ ให้เราได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นโออิตะกันอีกด้วย
เว็บไซต์ : http://www.umijigoku.co.jp/
นรกที่มีกลุ่มอากาศร้อนผุดออกมาจากหลุมโคลนเบื้องล่าง เนื่องจากหลุมเหล่านี้ดูเหมือนศีรษะของพระ ที่นี่จึงถูกเรียกว่านรกของพระ (Monk Hell)
บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือจากปี 733 และถูกนับเป็นโบราณสถาน ตำนานกล่าวว่าแผ่นดินไหวเมื่อ 500 ปีก่อนได้ทำให้ศาลเจ้าแห่งหนึ่งจมลงสู่พื้นดิน และนรกแห่งนี้ก็เกิดขึ้นมาเหนือศาลเจ้าที่ว่านั่นเอง
เราสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ตลอดทั้งวัน และยังมีทั้งภัตตาคารและบ่อแช่เท้าให้ได้ไปใช้บริการกันอีกด้วย
เว็บไซต์ : http://www.beppu-jigoku.com/buozu/
ที่นี่เป็นบ่อน้ำพุที่ค่อนข้างจะธรรมดาเมื่อเทียบกับบ่ออื่นๆ หน้าตาจะเหมือนกับบ่อน้ำพุทั่วไปที่มีไอแก๊สลอยอยู่ ความร้อนจากที่นี่จะถูกใช้ในการเลี้ยงนกฟลามิงโก ฮิปโป และลิง
เว็บไซต์ : http://www.beppu-jigoku.com/yama/
ชื่อของที่นี่มาจากวัฒนธรรมของศาลเจ้า Kamado Hachiman หรือที่เรียกว่า Uchigamado ที่ชายขอบเบปปุซึ่งจะหุงข้าวศักดิ์สิทธิ์โดยใช้ไอร้อนจากน้ำพุ ตัวบ่อแผ่กว้างตั้งแต่หมู่ที่ 1 (1-chome) ไปจนถึงหมู่ที่ 6 (6-chome) และในแต่ละจุดก็จะมีสีสันและคุณภาพน้ำที่แตกต่างกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราสามารถเดินเล่นเพลิดเพลินไปกับบ่อน้ำพุร้อนได้ทุกส่วนนั่นเอง
เว็บไซต์ : http://www.beppu-jigoku.com/kamado/
Oniyama Jigoku (นรกหุบเขาปีศาจ)
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่านรกจระเข้เนื่องจากมีการนำน้ำอุ่นจากบ่อน้ำพุไปใช้เพื่อเลี้ยงสัตวเขตร้อนอย่างจระเข้ (crocodile) และจระเข้ตีนเป็ด (alligator) มาตั้งแต่ปี 1923 และในช่วงหลังนี้ก็ดูเหมือนว่าชื่อนรกจระเข้นี้จะเริ่มได้รับความนิยมแล้วซะด้วย น้ำในบ่อเป็นสีเขียวอ่อน และตัวสถานที่เองก็ตกแต่งแบบย้อนยุค มีร้าน Ono Store ที่ขายไอศกรีม รวมไปถึงมันฝรั่งและซาลาเปาเนื้อที่นึ่งด้วยน้ำจากนรกนี้ด้วย
เว็บไซต์ : http://www.oniyama.net/
ถึงแม้ว่าตัวน้ำในบ่อจะใสและไม่มีสี แต่ที่นี่ก็ถูกเรียกว่าบ่อขาวเนื่องจากหมอกที่เกิดขึ้นจากน้ำร้อนนั้นเป็นสีขาวปลอด ที่นี่ถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในปี 2009 และยังถูกใช้เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลาเขตร้อนอย่างปลาปิรันย่าและปลาอะราไพม่าด้วยเช่นกัน
ที่น่าสนใจคือนอกจากบ่อน้ำพุแล้ว ทีนี่ยังมี Kunisakitou (รูปปั้นหินที่สร้างเพื่อถวายบูชาพระสูตร) ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของเขตโออิตะให้เหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ได้แวะไปเยี่ยมชมกันด้วยล่ะ
เว็บไซต์ : http://www.beppu-jigoku.com/shiraike/
เป็นอีกที่หนึ่งที่ถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในปี 2009 และเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่มีชื่อบันทึกอยู่ในหนังสือ บันทึกเหตุการณ์บุงโก (Bungonokuni Fudoki) ซึ่งเขียนในปี 733 มีครีมบ่อเลือดซึ่งเป็นสินค้าที่ทำจากโคลนแดงในบ่อ มีผลช่วยรักษาโรคผิวหนังและแผลถูกของมีคม นอกจากนี้ยังมีภัตตาคารอาหารท้องถิ่นตั้งอยู่ด้วย
เว็บไซต์ : http://www.chinoike.com/
เป็นแหล่งของไกเซอร์ (Geyser: น้ำพุร้อนที่ปล่อยน้ำกับไอร้อนออกมาเป็นช่วงๆ) ที่จะพ่นน้ำเดือดออกมาทุกๆ 30 นาทีและพ่นได้สูงถึง 50 เมตรเลยทีเดียว เนื่องจากตัวน้ำพุไม่มีเวลาปล่อยที่แน่นอน หากต้องการจะชมนรกนี้ก็อาจจะต้องนั่งรอกันสักหน่อย ระหว่างรอก็ซื้อไอศกรีมเจลาโต้ที่ทำจากผลไม้ท้องถื่นมาลองทานกันได้
รถประจำทางสำหรับทัวร์นรก (2 เส้นทาง)
เว็บไซต์ : http://www.kamenoibus.com/teikikanko_01.php
[คอร์สทัวร์นรกในเบปปุ + คอร์ส Alum]
เว็บไซต์ : http://www.kamenoibus.com/teikikanko_11.php
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่