8 จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิสุดตระการตา มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน!
"ภูเขาไฟฟูจิ" เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่านักท่องเที่ยวมากมายต่างเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมารับชมมรดกโลกสุดตระการตานี้ แล้วคุณล่ะคะ! จะพลาดได้อย่างไร วันนี้เราจึงขอเสนอจุดชมวิวฟูจิทั้ง 8 ที่ทั้งเดินทางสะดวก และสามารถเอารูปสวยๆ กลับไปโม้ที่ไทยได้เลยล่ะ!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. สวนอาราคุยามะ เซนเกน [จังหวัดยามานาชิ]
จุดที่ภูเขาไฟฟูจิทอดตัวยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ระหว่างจังหวัดยามานาชิและจังหวัดชิซูโอกะ ดังนั้นสวนอาราคุยามะ เซนเกน (Arakurayama Sengen Park) ในเมืองฟูจิ โยชิดะ จังหวัดยามานาชิ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่โด่งดังที่สุด
ภายในสวนแห่งนี้ มีเจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda) หรือที่คนไทยมักจะเรียกกันว่า 'เจดีย์แดง' เป็นเจดีย์สูง 5 ชั้นสีแดงและเขียวโดดเด่น ที่ตั้งอยู่ติดกับภูเขาไฟฟูจิสีขาวสวย ทำให้เวลาถ่ายภาพก็สามารถเก็บทั้ง 2 ทิวทัศน์ที่จะสื่อถึงญี่ปุ่นอย่างชัดเจนไว้ในเฟรมเดียวได้
ขอแนะนำให้แวะไปในช่วงต้นเดือนเมษายน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดอกซากุระจะบานสะพรั่ง ได้ภาพที่สวยสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นวิวสวยหลักล้านที่อยากให้เห็นด้วยตาตัวเองเลยล่ะค่ะ
วิธีการเดินทางไปยังสวนอาราคุยามะ เซนเกน จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีทาคาโอะ (Takao Station) ในโตเกียวตะวันตก นั่งรถไฟสายชูโอ ไปยังสถานีโอสึคิ (Otsuki Station)
2. เมื่อถึงสถานีโอสึคิแล้ว นั่งรถไฟสายฟูจิ คิวโค (Fuji Kyuko Line) ไปยังสถานีชิโมโยชิดะ (Shimoyoshida Station)
3. เมื่อถึงสถานีชิโมโยชิดะแล้ว เดินต่ออีก 10 นาทีไปยังศาลเจ้าอาราคุยามะ เซนเกน ขึ้นเนินต่ออีกประมาณ 5 นาทีแล้วคุณจะพบกับเจดีย์ชูเรโต
2. โอชิโนะ ฮัคไค [จังหวัดยามานาชิ]
อีกที่หนึ่งที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวของภูเขาไฟฟูจิได้เต็มตาก็คือหมู่บ้านโอชิโนะ ฮัคไค (Oshino Hakkai) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า 'หมู่บ้านน้ำใส' นั่นเอง ที่นี่ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลสาบทั้งห้ารอบภูเขาไฟฟูจิ ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อที่มีต้นน้ำมาจากภูเขาไฟฟูจิ (และมีหนึ่งบ่อคุณสามารถดื่มได้ค่ะ!)
ภายในหมู่บ้านนี้มีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งชื่อว่า Hannoki Bayashi Shiryokan ที่มีหลังคาสไตล์ฟาร์มแบบดั้งเดิมเป็นเอกลักษณ์ เรียกว่าเป็นวิวช่วยเสริมให้ภูเขาไฟฟูจิดูสวยงามและทรงพลังยิ่งขึ้น มองไปจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของตัวภูเขา ที่ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปยาวนานเท่าไรก็จะยังคงตั้งตระหง่านอยู่เสมอ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปเยือนหมู่บ้านโอชิโนะ ฮัคไค ก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงค่ะ เนื่องจากต้นไม้จะกลายเป็นสีสันสดใส ช่วยทำให้รูปถ่ายของคุณมีมิติมากยิ่งขึ้น!
วิธีการเดินทางไปยังหมู่บ้านโอชิโนะ ฮัคไค จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Highway Bus Terminal) และขึ้นบัสไปยังภูเขาไฟฟูจิ คุณสามารถตรวจสอบเวลาและราคาได้ที่นี่
2. ลงที่ป้ายบัส Oshino Hakkai
3. ทะเลสาบโชจิ [จังหวัดยามานาชิ]
ที่นี่เหมาะสำหรับนักเดินทางผู้ประสงค์ที่จะชื่นชมภูเขาไฟฟูจิอย่างเต็มตา ปราศจากสิ่งกีดขวางใดๆ รวมไปถึงนักเดินทางที่อยากเห็นภูเขาไฟฟูจิสะท้อนกับทะเลสาบ หากคุณอยากชมวิวนี้ ก็ขอเชิญมาเยือนที่ทะเลสาบโชจิเลยค่ะ!
ทะเลสาบโชจิ (Lake Shoji) เป็นหนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ คุณสามารถรับชมวิวของภูเขาไฟทั้งลูกตั้งแต่ฐานจนถึงยอดได้อย่างเต็มอิ่ม และสัมผัสความสงบเงียบทว่าทรงพลังไปด้วยกัน
ยังไม่พอ คุณยังสามารถเห็นวิวของภูเขาโอมุโระที่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย ตั้งอยู่หน้าภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย! เป็นวิวที่สวยสุดๆ ถ่ายรูปกลับไปอวดกันได้เลย!
วิธีการเดินทางไปยังทะเลสาบโชจิ จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Highway Bus Terminal) และขึ้นบัสไปยังภูเขาไฟฟูจิ คุณสามารถตรวจสอบเวลาและราคาได้ที่นี่
2. ลงที่สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) และขึ้นรถบัสสายสีน้ำเงิน มุ่งหน้าสู่ นารุซาวะ (Narusawa) ทะเลสาบโชจิ และทะเลสาบโมโทสึ
3. ลงที่ป้ายบัส Kodakifuji View Point ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีจากสถานีคาวากุจิโกะ
4. นิฮงไดระ [จังหวัดชิซูโอกะ]
ส่วนหนึ่งของภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ในจังหวัดชิซูโอกะ ดังนั้นมาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจุดชมวิวในจังหวัดนี้มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
หากคุณสนใจชมวิวภูเขาไฟฟูจิในมุมกว้าง ประกอบกับวิวเมือง เราแนะนำให้คุณไปที่ นิฮงไดระ (Nihondaira) เลยค่ะ
นิฮงไดระตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวซุรุกะ (Suruga Bay) ในตัวเมืองชิซูโอกะ ที่นี่มีจุดชมวิวที่สูงถึง 307 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้คุณสามารถเห็นท่าเรือชิมิซึ (Shimizu Port) คาบสมุทรอิซึ (Izu Peninsula) และภูเขาไฟฟูจินั่นเอง ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของที่นี่ถือว่าสุดยอดไปเลยค่ะ คุณจะเห็นแสงไฟระยิบระยับมากมาย ให้ลองคิดเล่นๆ ว่าชาวญี่ปุ่นใช้ชีวิตกันอย่างไรในวันธรรมดา โดยที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นหนึ่งในเทพเจ้าคุ้มครองชีวิต
วิธีการเดินทางไปยังนิฮงไดระ จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีโตเกียว ขึ้นชินกันเซ็น JR Tokaido ไปยังสถานีชิซูโอกะ
2. จากสถานีชิซูโอกะ ขึ้นรถบัสชิซูโอกะ นิฮงไดระ ไปยังสถานีนิฮงไดระที่เป็นสถานีปลายทาง ใช้เวลาประมาณ 35 นาที แล้วเดินไปยังนิฮงไดระ
5. มิโฮ โนะ มัตสึบาระ [จังหวัดชิซูโอกะ]
สำหรับใครที่ชอบธรรมชาติล้ะก็ห้ามพลาดมิโฮ โนะ มัตสึบาระ (Miho no Matsubara) เด็ดขาด! ที่นี่เป็นพื้นที่อันน่าหลงใหลในคาบสมุทรมิโฮะ ในเมืองชิซูโอกะ ทะเลสีน้ำเงินสดใสกับทิวทัศน์ของสนที่เรียงเป็นทิวแถวมากว่า 200 ปีแล้ว ทำให้วิวของภูเขาไฟฟูจิด้านหลังดูมีมิติและทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก
ภาพวิวทิวสนโบราณกับภูเขาไฟฟูจิของที่นี่ ถือว่าสวยขนาดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น Fujisan Cultural Site โดยยูเนสโกในปี 2013 เลยทีเดียวค่ะ
เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าพลาดที่จะมาสัมผัสพลังแห่งธรรมชาติที่นี่นะคะ ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งพร้อมๆ กับดื่มด่ำกับภูเขาไฟฟูจิและทิวสนแบบชิลล์ๆ กันดีกว่า
วิธีการเดินทางไปยังมิโฮ โนะ มัตสึบาระ จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีโตเกียว ขึ้นชินกันเซ็น JR Tokaido ไปยังสถานีชิซูโอกะ
2. จากสถานีชิซูโอกะ ขึ้นรถไฟสาย Tokaido ไปยังสถานีชิมิซุ (Shimizu Station)
3. จากสถานีชิมิซึ ขึ้น Shizutetsu bus มุ่งหน้าสู่ Tokai University Miho Aquarium คุณจะพบกับป่าสนในอีกประมาณ 25 นาทีข้างหน้าค่ะ
6. ท่าอากาศยานภูเขาไฟฟูจิ [จังหวัดชิซูโอกะ]
การดูเครื่องบินลำยักษ์ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นวิธีที่ดีสุดๆ ในการใช้เวลายามบ่าย แถมถ้าใครชอบเครื่องบินก็คงจะตื่นเต้นสุดๆ ถ้าได้เห็นเครื่องบินกับภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมๆ กัน ที่ท่าอากาศยานภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji Shizuoka Airport) มีจุดชมวิวที่ทำให้คุณสามารถทำได้ทั้ง 2 อย่างเลยล่ะค่ะ
ที่นี่คุณสามารถเปรียบเทียบ 2 วิวภูเขาไฟฟูจิ ที่จุดชมวิววัด Sekiun-in และจุดชมวิวภายในเทอร์มินอล คุณยังสามารถซึมซับเทคโนโลยีอากาศยานของชาวญี่ปุ่นได้พร้อมๆ กับเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิอันยิ่งใหญ่
วิธีการเดินทางไปยังท่าอากาศยานภูเขาไฟฟูจิ จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีโตเกียว ขึ้นชินกันเซ็น JR Tokaido ไปยังสถานีชิซูโอกะ
2. จากสถานีชิซูโอกะ ขึ้นรถ Shizutetsu Justline bus ไปยังสถานีสุดท้ายคือ ท่าอากาศยานภูเขาไฟฟูจิ (the Mt. Fuji Shizuoka Airport stop) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาบัสได้ที่นี่
7. ฮาโกเน่ โรปเวย์ [จังหวัดคานากาว่า]
หากคุณไม่มีเวลาเพียงพอในการไปถึงยามานาชิหรือชิซูโอกะ คุณก็ยังสามารถไปเยือนที่ชมวิวฟูจิที่ฮาโกเน่ได้ โดยเฉพาะที่ฮาโกเน่ โรปเวย์ (Hakone Ropeway) โรปเวย์ที่ยาวถึงสี่กิโลเมตร ที่จะพาคุณไปถึงเมืองรีสอร์ทแห่งฮาโกเน่ โดยเชื่อมระหว่างสถานีโซอุนซัง (Sounzan Station) และสถานีโทเก็นได (Togendai Station) ที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิแบบอลังการสุดๆ ทั้ง 2 สถานี
นอกจากนี้ เมื่อคุณขึ้นโรปเวย์จากสถานีโซอุนซัง โรปเวย์จะค่อยๆ ไต่ขึ้นเขาทีละน้อยๆ ทำให้คุณตื่นเต้นสุดๆ เหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่บนอากาศและเข้าใกล้ภูเขาไฟฟูจิขึ้นเรื่อยๆ เลยล่ะค่ะ
วิธีการเดินทางไปยังฮาโกเน่ โรปเวย์ จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีโตเกียว ขึ้นชินกันเซ็น JR Tokaido-Sanyo ไปยังสถานีโอดาวาระ (Odawara Station)
2. จากสถานีโอดาวาระ ขึ้นรถไฟฮาโกเน่ โทซัง ไปยังสถานีโกระ
3. จากสถานีโกระ ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ฮาโกเน่ โทซัง ไปยังสถานีโซอุนซัง แล้วจะถึงโรปเวย์
8. ทะเลสาบอาชิโนโกะ [จังหวัดคานากาว่า]
หากคุณไปถึงฮาโกเน่แล้ว ก็ต้องไปล่องเรือในทะเลสาบชมวิวภูเขาไฟฟูจิเต็มๆ ตา! เรือท่องทะเลสาบแห่งนี้จะพาคุณเดินทางไปรอบๆ ทะเลสาบอาชิโนโกะ (Lake Ashinoko) ซึ่งมีภูเขาไฟฟูจิมาช่วยเติมเต็มความสงบของทะเลสาบ คุณแค่นั่งเฉยๆ ก็สามารถเพลิดเพลินดื่มด่ำกับธรรมชาติได้เต็มที่แล้วค่ะ
แถมยังมีวิวเสาโทริอิสีแดงอันใหญ่ตั้งตระหง่าน ตัดกับสีขาวสวยของภูเขาไฟฟูจิ เป็นอีกจุดถ่ายรูปยอดนิยมเลยล่ะค่ะ
วิธีการเดินทางไปยังทะเลสาบอาชิโนโกะ จากโตเกียว:
1. ไปยังสถานีโตเกียว ขึ้นชินกันเซ็น JR Tokaido-Sanyo ไปยังสถานีโอดาวาระ (Odawara Station)
2. จากสถานีโอดาวาระ ขึ้นรถไฟฮาโกเน่ โทซัง ไปยังสถานีโกระ
3. จากสถานีโกระ ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ฮาโกเน่ โทซัง ไปยังสถานีโซอุนซัง แล้วขึ้นโรปเวย์กอนโดล่า
4. ลงที่สถานีโทเก็นได ซึ่งเป็นทิศเหนือของทะเลสาบ แล้วต่อแถวขึ้นเรือชมวิวฮาโกเน่
ภูเขาไฟฟูจินับว่าเป็นจุดดึงดูดสายตาของเหล่านักท่องเที่ยวตั้งแต่วินาทีแรกที่พวกเขาเห็นผ่านหน้าต่างเครื่องบินขณะเข้าสู่น่านฟ้าญี่ปุ่น ดังนั้น ทางทีมงาน tsunagu Japan จึงหวังว่าจุดชมวิวทั้งแปดนี้จะช่วยให้ทุกๆ คนได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากภูเขาไฟฟูจิได้เช่นกันนะคะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่