8 จุดท่องเที่ยว "วิวงามห้ามพลาด" ที่เดินทางจากโตเกียวได้ในวันเดียว!
ถ้าพูดถึงโตเกียวแล้ว ทุกท่านคงจะนึกภาพมหานครใหญ่ที่ห่างไกลจากทัศนียภาพอันงดงามตามธรรมชาติใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้วหากมีเวลาสักวัน ที่รอบๆ โตเกียวนั้นมีสถานที่ที่มีความงดงามตระการตาอยู่มากมายเลยล่ะค่ะ คราวนี้เราจะมาแนะนำ 8 สถานที่ที่งามจนต้องตะลึง ไปดูกันเลยค่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. เกาะอาโองะชิมะ (青ヶ島)
T hino/Flickr“อาโองะชิมะ” เป็นเกาะซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ห่างจากโตเกียว 358 กม. ด้วยจำนวนประชากรชาวเกาะที่มีเพียง 160 คนทำให้ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรน้อยที่สุดในญี่ปุ่น มีเฮลิคอปเตอร์ที่ออกเดินทางไปยังอาโองะชิมะเพียงวันละ 1 เที่ยวและมีเพียง 9 ที่นั่งเท่านั้น ทำให้การไปยังเกาะนี้ออกจะยากสักหน่อย แต่ที่เกาะนี้ก็มีภาพที่หาชมที่อื่นไม่ได้อยู่มากมาย เช่น แอ่งภูเขาไฟที่ซ้อนเป็นสองชั้นซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความอัศจรรย์ระดับโลก หรือหอดูดาวที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ นอกจากนี้อาโองะชิมะยังมีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่น ทั่วทั้งเกาะนี้ไม่มีการกำหนดที่อยู่หรือบ้านเลขที่ และมีร้านอิซากายะเพียง 2 ร้านเท่านั้น ลองไปสัมผัสเสน่ห์ของอาโองะชิมะกันดูสักครั้งนะคะ
HP: www.vill.aogashima.tokyo.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Izu Island, Tokyo (Google Map)
2. ภูเขาทาคาโอะซัง (高尾山)
sakaki0214/Flickr“ทาคาโอะซัง” ที่มีความสูง 599 เมตรจากระดับน้ำทะเลได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติเมจิโนะทาคาโอะ (明治の森高尾国定公園) แม้จะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองแต่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และทิวทัศน์อันงดงามได้ ที่นี่มีเส้นทางขึ้นเขาให้เลือกได้ถึง 6 เส้นทาง แต่ละคนสามารถเลือกเส้นทางที่ชอบในการเดินเขาได้ ในบรรดาเส้นทางเหล่านี้เต็มไปด้วยจุดชมวิวอันงดงามมากมาย เช่น ที่ราบคันโตที่สามารถชมได้จากจุดชมวิวบนเส้นทางหมายเลข 4 หรือเส้นทางหมายเลข 6 ที่สามารถสัมผัสกับสายน้ำอันสดชื่นในฤดูร้อน และใบไม้แดงที่สามารถชื่นชนจากลิฟท์ได้ในฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น นอกจากนี้ จากยอดเขายังสามารถมองเห็นคาบสมุครโบโซ (房総半島) และเกาะเอโนะชิมะ (江ノ島) และในฤดูหนาวยังสามารถยลโฉมไดมอนด์ฟูจิ(ダイアモンド富士) ได้อีกด้วย วิวกลางคืนที่มองจากภัตตาคารบนยอดเขา (เบียร์การ์เด้น) ก็งามไม่แพ้จุดอื่นเช่นกัน
HP: www.takaotozan.co.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น มีฟังก์ชันแปลงภาษาอัตโนมัติ)
ที่ตั้ง: Hahioji-shi, Tokyo (Google Map)
3. ทุ่งเนโมฟิลลาที่สวนสาธารณะริมทะเลฮิตาชิ (国営ひたち海浜公園)
PRO芳蘭 徐芳蘭/Flickr<国営ひたち海浜公園のネモフィラ畑>
“สวนสาธารณะริมทะเลฮิตาชิ (Hitachi Sea Side Park)” เป็นธีมปาร์คขนาดยักษ์ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าดิสนีย์แลนด์ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว ที่นี่มีเครื่องเล่นต่างๆ มากมาย ตั้งแต่รถไฟเหาะ ไปจนถึงชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน ในขณะเดียวกันที่นี่ก็มีชื่อเสียงด้านความงามของธรรมชาติอีกด้วย พื้นที่เนินสูงต่ำมากมายที่สามารถชมความยิ่งใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิค ทั้งยังทรงเสน่ห์ด้วยสีสันตามธรรมชาติของทั้งสี่ฤดู โดยเฉพาะทิวทัศน์สีฟ้าสดสุดตระการตาในช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมที่ “ทุ่งดอกเนโมฟิลลา” (หรืออีกชื่อ รุริคาระคุสะ (瑠璃唐草)) จะทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างแน่นอน ต้องลองไปสักครั้งนะคะ
เวลาทำการ: 9:30 - 17:00
ราคา: ผู้ใหญ่ (15 ปีขึ้นไป) 410 เยน, ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 210 เยน, เด็ก (ประถม-มัธยมต้น) 80 เยน, เด็กเล็ก (ไม่เกิน 6 ปี) ไม่เก็บค่าผ่านประตู
วันหยุด: วันจันทร์
HP: hitachikaihin.jp/hana/nemophila.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 605 Mawatari, Hitachinaka-shi, Ibaraki (Google Map)
4. ผาจิโงคุโนโซกิ ที่เขาโนโกงิริยามะ (鋸山・地獄のぞき)
sakaki0214/Flickrที่ภูเขาโนโกงิริยามะซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดชิบะ มี “จิโงคุโนโซกิ (แปลว่า แอบมองขุมนรก)” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เต็มไปด้วยความหวาดเสียว ทิวทัศน์ที่มองจากหน้าผานั้นงดงาม จากที่นี่สามารถมองเห็นได้ทั้งอ่าวโตเกียว คาบสมุทรโบโซ ไปจนถึงภูเขาฟูจิเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงจาก “เฮียคุชาคุคันนอน (百尺観音 แปลว่า โพธิสัตย์ร้อยคืบ)” พระพุทธรูปที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งสร้างเสร็จในค.ศ.1966 โดยเฮียคุชาคุคันนอนนี้เป็นที่สักการะบูชาเพื่อความปลอดภัยในการคมนาคมทั้งทางบก น้ำ และอากาศ
HP: www.nihonji.jp/keidai/area05.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 184 Motona, Kiyonanmachi, Awa-gun, Chiba (Google Map)
5. น้ำตกฟุคุโรดะโนะทากิ (袋田の滝)
t.kunikuni/Flickr“น้ำตกฟุคุโรดะโนะทากิ” เป็นน้ำตกที่น่าตื่นตาด้วยความสูง 120 เมตรและความกว้างถึง 73 เมตร น้ำตกแห่งนี้คือหนึ่งในสามสุดยอดน้ำตกแห่งญี่ปุ่น (日本三名瀑) ด้วยความยิ่งใหญ่ของน้ำตกและหยาดน้ำที่กระเด็นขึ้นมาจากหน้าผาชันลงสู่แอ่งถึง 4 ชั้นทำให้มันถูกเรียกอีกชื่อว่า “ยงโดะโนะทากิ (四度の滝)” หรือน้ำตกสี่ระดับนั่นเอง ที่นี่มีจุดชมวิวแบ่งเป็นจุดที่หนึ่งและสองโดยแต่ละจุดสามารถชมความงดงามที่แตกต่างกันไปทั้งสี่ฤดูได้ น้ำตกในฤดูหนาวที่ประดับไฟงดงามเป็นภาพในฝันที่เราต้องบอกว่าพลาดไม่ได้จริงๆ
HP: www.town.daigo.ibaraki.jp/page/page001474.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: 3-19 Fukuroda, Daigomachi, Guji-gun, Ibaraki (Google Map)
6. สะพานแขวนโมมิจิดานิโอซึริบาชิ (もみじ谷大吊橋)
Nobuo Hayashi/Flickr“โมมิจิโอซึริบาชิ” สะพานแขวนที่ยาวถึง 320 เมตรนี้ทอดตัวอยู่ที่ปลายน้ำของหุบเขาชิโอบาระเคย์โคกุ (塩原渓谷) ระหว่างทางข้ามสะพานจะถูกปูด้วยเกรตติงทำให้สามารถมองลงไปเห็นหุบเขาลึกเบื้องล่างได้ นอกจากสะพานแขวนที่น่าหวาดเสียวแล้ว บริเวณใกล้ๆ ยังมีจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจากการผูกดวงให้สมหวังในความรักจนได้ชื่อว่าเป็น “แดนศักด์สิทธิ์แห่งคู่รัก” อีกด้วย ต้องลองพาแฟนไปเดินเล่นสั้นๆ สัก 20 นาที ข้ามสะพานชมความงามพิสูจน์รักแท้กันดูนะคะ
ราคา: 300 เยน
HP: www.city.nasushiobara.lg.jp/kankou/2199/002956.html (ภาษาญี่ปุ่น มีฟังก์ชั่นแปลงภาษาอัตโนมัติ)
ที่ตั้ง: 1425-60 Sekiya, Nasushiobara-shi, Tochigi (Google Map)
7. ทะเลสาบยุกามะที่ชิราเนะซัง (白根山・湯釜)
TANAKA Juuyoh (田中十洋)/Flickr“ชิราเนะซัง” เป็นภูเขาไฟกินบริเวณกว้างใหญ่ในเมืองคุซาซึจังหวัดกุนมะ (群馬県草津町) และยุกามะเป็นทะเลสาบที่เกิดจากพลังงานของภูเขาไฟที่นี่ มีชื่อเสียงในฐานะทะเลสาบที่มีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งหาได้ยาก ภูเขาไฟแห่งนี้มีการระเบิดจากการปะทุของก๊าซรูปแบบเฉพาะทำให้เกิดเป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟบนยอดเขาถึง 3 จุด ยิ่งกว่านั้นน้ำสีเขียวมรกตของทะเลสาบที่ตัดกับแนวปากปล่องภูเขาไฟยังเป็นทัศนียภาพที่ไม่อาจละสายตา และตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนสิงหาคม ที่นี่ยังเป็นจุดชมดอกไม้ที่ชื่อว่า “โคมะคุสะ (コマクサ)” ที่ได้ฉายาว่า “ราชินีแห่งที่ราบสูง” ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
HP: www.kusatsu-onsen.ne.jp/lang_common/?l=en
HP: www.kusatsu-onsen.ne.jp/lang_common/?l=tw (ภาษาจีน)
HP: www.kusatsu-onsen.ne.jp/hiking/detail/index.php?ccd=3 (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Kasatsu Shiranesan, Hoshimata, Tsumagoimura, Agatsuma-gun, Gunma (Google Map)
8. น้ำตกฟุคิวาเระโนะทากิ (吹割の滝)
“ฟุคิวาเระโนะทากิ” เป็นน้ำตกในเขตนุมาตะจังหวัดกุนมะ (群馬県沼田市) ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงจากสายน้ำเชี่ยวกรากที่ไหลมารวมกันจากสามทิศทางจนถูกขนานนามเป็น “ไนแองการ่าแห่งทิศอุดร” ที่นี่ ทุกคนจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ แค่มองตัวน้ำตกเองก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว แต่แนะนำให้ไปเยือนช่วงเดือนพฤษภาคมที่เปิดให้เข้าชมน้ำตกหลังสิ้นฤดูหนาว ซึ่งจะได้เห็นกับปริมาณน้ำมหาศาลจากหิมะละลายที่ยิ่งทำให้น่าตื่นตาขึ้นไปอีก
HP: www.city.numata.gunma.jp/kyouiku/bunkazai/ichiran/kuni/1000915.html (ภาษาญี่ปุ่น มีฟังก์ชันแปลงภาษาอัตโนมัติ)
ที่ตั้ง: Otsukai, Tonemachi, Numata-shi, Gunma (Google Map)
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่