8 สุดยอดจุดชมแปะก๊วยในคันไซ แปะก๊วยสีทองอร่ามแบบนี้ ได้รูปสวยกลับมาแน่นอน!

เมื่อพูดถึงฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น หลายคนอาจนึกถึงภาพของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยใบเมเปิลสีแดง แต่จริงๆ แล้วฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นยังมีอะไรมากกว่านั้น นอกจากต้นเมเปิลแล้ว ต้นแปะก๊วยที่มีใบสีทองก็สวยน่าชมไม่แพ้กัน หากใครมีแผนจะเดินทางไปคันไซในฤดูใบไม้ร่วง ก็อย่าลืมหาโอกาสไปแวะชมความงามของต้นแปะก๊วยที่ 8 จุดแนะนำสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีกันด้วยล่ะ!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

โอซาก้า

Midosuji (御堂筋)

"มิโดซูจิ (Midosuji)" เป็นถนนสี่เลนยาว 4 กิโลเมตร กว้าง 44 เมตร เป็นหนึ่งในถนนสายหลักในโอซาก้าที่เชื่อมย่านธุรกิจสองย่าน คือ อุเมดะกับนัมบะเข้าด้วยกัน มีธนาคาร, ร้านอาหาร, ศูนย์การค้า ฯลฯ อีกมากมายตั้งอยู่บนสองข้างทางของถนนสายนี้ หากมองไปทางทิศใต้จากห้างสรรพสินค้าฮันชิน จะพบกับต้นแปะก๊วยกว่า 900 ต้นเรียงรายอยู่บนสองฟากถนน ในฤดูใบไม้ร่วงต้นแปะก๊วยเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นสีทองสวยงามจนผู้คนที่กำลังเร่งรีบก็ยังต้องหยุดเพื่อชื่นชม

เมื่อฤดูหนาวมาถึง ต้นไม้เหล่านี้จะประดับไปด้วยแสงไฟ เมื่อตกกลางคืนก็จะเห็นภาพทิวทัศน์แสนโรแมนติกที่แตกต่างไปจากบรรยากาศตอนกลางวันโดยสิ้นเชิง

Osaka Castle Park (大阪城公園)

"สวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park)" สวนในตัวเมืองที่ตั้งล้อมรอบปราสาทโอซาก้า เป็นที่ตั้งของมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ 13 อย่าง และยังมีซากโบราณสถานอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อฤดูกาลเปลี่ยน ความสวยงามของสวนพลัมและสวนนิชิโนะมารุ (Nishinomaru Garden) ที่อยู่ภายในก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ต้นแปะก๊วยขนาดใหญ่ที่อยู่หน้าหอคอยปราสาทถูกคาดการณ์ว่ามีอายุกว่า 300 ปี และยังมีต้นที่อายุน้อยกว่าเรียงรายอยู่รอบนอกของสวนในทิศตะวันออกซึ่งยาวทั้งสิ้นกว่า 1 กิโลเมตร

เมื่อเข้าสู่ต้นเดือนพฤศจิกายน ใบของต้นแปะก๊วยจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง สวนที่เคยเป็นเพียงจุดพักผ่อนของคนในพื้นที่ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในทันที

เกียวโต

Horikawa Street (堀川通)

"ถนนโฮริคาวะ (Horikawa Street)" ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าคามิกาโมะ (Kamigamo Shrine) ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ถนนโฮริคาวะเป็นถนนยาว 8 เมตรที่มุ่งหน้าลงทิศใต้จากสะพานมิโซโนะ (Misono Bridge) ไปยังถนนฮาจิโจ (Hachijo Street) มีต้นแปะก๊วยปลูกอยู่ข้างทางในช่วงอิมาเดกาวะ (Imadegawa) ถึงชิเมโดริ (Shimei-dori) รวมถึงตามเกาะกลางถนน โดยบางส่วนของเกาะกลางถนนเหล่านี้ยังออกแบบให้เป็นทางเท้าที่สามารถขึ้นไปเดินได้อีกด้วย คุณสามารถชื่นชมแปะก๊วยสีทองที่ร่มรื่นนี้ได้ทั้งจากมุมล่างโดยเดินบนทางเท้า หรือจากมุมสูงโดยเดินผ่านสะพานที่อยู่ด้านบน

Nishi Honganji Temple (西本願寺)

"วัดนิชิฮงกันจิ (Nishi Honganji Temple)" หนึ่งในมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของยุคโมโมยามะ (ค.ศ. 1568-1603) จุดที่ไม่ควรพลาดชมในฤดูใบไม้ร่วงคือต้นแปะก๊วยยักษ์สูง 16 เมตร อายุกว่า 300 ปี ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารมิเอโด สิ่งที่ทำให้ต้นแปะก๊วยนี้พิเศษก็คือ กิ่งก้านที่แตกแขนงออกไปทางด้านข้างและด้านบนราวกับจะมุ่งสู่ฟ้า ทำให้ได้รับการสมญานามว่าเป็น "แปะก๊วยกลับหัว (逆さ銀杏)" (เพราะกิ่งก้านเหล่านั้นดูเหมือนรากของต้นไม้ที่แผ่ไปบนฟ้านั่นเอง) มีตำนานหนึ่งกล่าวว่าเมื่อครั้งที่วัดเกิดไฟไหม้ ต้นแปะก๊วยนี้ได้ปล่อยน้ำออกมาเพื่อช่วยดับไฟ ทำให้แปะก๊วยต้นนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ "แปะก๊วยพ่นน้ำ" ด้วยเช่นกัน

แปะก๊วยยักษ์ต้นนี้เหมาะที่จะไปรับชมมากที่สุดในช่วงปลายตุลาคมถึงกลางธันวาคม รวมเป็นระยะเวลาถึงหนึ่งเดือนครึ่ง ซึ่งถือว่ายาวนานกว่าที่อื่นๆ มาก ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวระยะสั้นและผู้ที่ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปชมที่อื่น

 

Higashi Honganji Temple (東本願寺)

"วัดฮิกาชิฮงกันจิ (Higashi Honganji Temple)" หรือชื่ออย่างทางการ คือ ชินชูฮงเบียว (真宗本廟) อยู่ในเขตชิโมะเกียว (Shimogyo-ku) เมืองเกียวโต นอกจากจะเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมในช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายนแล้ว ยังมีชื่อเสียงในฐานะวัดเจ้าสำนักแห่งนิกายชินชูโอทานิ (真宗大谷派) อีกด้วย สามารถพบเห็นต้นแปะก๊วยจำนวนมากได้ตามส่วนต่างๆ ของวัด ตัวอย่างเช่น ริมถนนคาราซุมะ (Karasuma Street) ที่เชื่อมต่อไปยังประตูหลัก หรือรอบๆ น้ำพุที่อยู่หน้าอาคารโกเอโด (Goeido) และบริเวณขวามือหลังจากที่ผ่านหน้าอาคารโกเอโดไป หากอยู่ในวัดและมองไปทางทิศใต้ จะมองเห็นวิวแสนสวยของต้นแปะก๊วยสีทองคู่กับเกียวโตทาวเวอร์ได้อีกด้วย!

นารา

Klook.com

Nara Park (奈良公園)

"สวนสาธารณะนารา (Nara Park)" ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในอนุสรณ์ทางธรรมชาติของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนารา มีพื้นที่กว้างถึง 5,110,000 ตารางเมตร เป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่และสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) ศาลเจ้าคาซุกะไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine) พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา (Nara National Museum) และคลังสมบัติโชโซอิน (Shosoin Repository) นอกจากนี้ สวนสาธารณะนารายังโด่งดังจากการที่มีกวางป่าอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง นักท่องเที่ยวจะพากันมารวมตัวเพื่อชมใบแปะก๊วยและใบเมเปิลหลากสีสัน โดยมีภูเขาวาคาคุสะ (Mount Wakakusa) เป็นฉากหลังอันสวยงาม

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

เฮียวโกะ (Hyogo)

แนวต้นแปะก๊วยบนถนน Otemae Street East (大手前通り)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นมรดกโลกที่ได้รับการแต่งตั้งโดยองค์การยูเนสโกและเป็นสมบัติชาติของญี่ปุ่น อาจกล่าวได้ว่าปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ปราสาทนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า "ปราสาทกระสาขาว" เนื่องจากตัวปราสาทจะเป็นสีขาวนวลราวกับนกกระสาขาวที่กำลังสยายปีกบิน โดยสามารถมองเห็นปราสาทหลังนี้ได้ทันทีหลังจากที่เดินออกมาจากประตูหลักของสถานี JR ฮิเมจิ (JR Himeji) ส่วนถนนซึ่งมุ่งตรงไปสู่ตัวปราสาทนั้นมีชื่อว่า "ถนนโอเตะมาเอะ (Otemae Street)" และจากหน้าสถานีใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการเดินไปถึงปราสาท

แนวต้นแปะก๊วยบนถนนโอเตะมาเอะนั้นช่วยแต่งแต้มบริเวณนี้ให้งดงาม ไม่ว่าคุณจะอยู่ภายในหรือภายนอกปราสาท วิวที่ได้รับชมก็น่าตื่นตาไม่แพ้กัน

The Great Ginkgo of Sayo (佐用の大イチョウ)

ภายในวัดมังกันจิ (Manganji Temple) ในจังหวัดเฮียวโกะ เป็นที่ตั้งของต้นแปะก๊วยขนาดยักษ์สูง 28 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 9 เมตร ซึ่งยืนหยัดมากว่าพันปี มีฐานะเป็นทั้งสัญลักษณ์ของเมืองซาโย (Sayo) และอนุสรณ์แห่งชาติประจำจังหวัดเฮียวโกะ

ข้างต้นไม้มีป้ายบอกเล่าเรื่องราวว่า "ในยุคเฮอันสถานที่นี้ถูกเรียกว่า หมู่บ้านคามิมังกันจิ ปกครองโดยตระกูลมังกันจิที่ทรงอำนาจ ... เหตุการณ์กบฏคาคิตสึในปี ค.ศ. 1441 ได้ทำลายอาคารที่อยู่ในบริเวณนี้จนเกือบหมดสิ้น แต่ต้นแปะก๊วยนี้ก็ยังคงรอดพ้นมาได้ อีกกว่าพันปีต่อมา รากของมันก็ยังคงแผ่ขยายอย่างไม่หยุดหย่อน กิ่งก้านก็แข็งแรงมั่นคงกว่าเดิม ทนทานแม้แต่สภาพอากาศที่เลวร้าย ..."

แปะก๊วยใหญ่นี้จะดูน่าเกรงขามเป็นพิเศษในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สร้างเฉดสีทองครอบคลุมทั่วเมืองที่มีความเป็นชนบท หากมีโอกาสได้เดินทางมาบริเวณนี้ ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาเคารพต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ดูสักครั้ง

หากเปรียบต้นเมเปิลเป็นเหมือนตัวเอกที่ร้อนแรงของฤดูใบไม้ร่วง แปะก๊วยก็คงเป็นผู้รับบทเพื่อนที่คอยสนับสนุนพระเอก เพราะแปะก๊วยมีความถ่อมตัวแต่ก็งดงามในแบบของตัวเอง หากถูกใจสถานที่ไหนที่แนะนำไปในบทความนี้ ก็อย่าลืมเริ่มวางแผนการเดินทางไว้แต่เนิ่นๆนะคะ จะได้ไม่พลาดฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึงกัน!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

Title Image: EMSTINOON / Shutterstock

มนต์เสน่ห์คันไซ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Fuchi
Fuchi Pan
เกิดที่ไต้หวัน ปัจจุบันอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ใฝ่ฝันที่จะใช้ชีวิตโดยห้อมล้อมไปด้วยภาชนะแฮนด์เมดและสิ่งที่ชื่นชอบ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร