เหนื่อยนักก็พักหน่อย ! ณ 9 อันดับโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองน้ำพุร้อน “คิโนซากิ ออนเซ็น” จังหวัดเฮียวโกะ
สำหรับใครที่มีชื่นชอบน้ำพุร้อนหรือ "ออนเซ็น" แล้วโอกาสได้มาท่องเที่ยวแถบคันไซ เราไม่อยากให้คุณพลาด "คิโนซากิ ออนเซ็น" เมืองน้ำพุร้อนอันโด่งดังของจังหวัดเฮียวโกะ! ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่าการแช่น้ำพุร้อนเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าอีกแล้ว แถมคุณยังสามารถใช้เวลาอย่างไม่เร่งรีบสักคืน เพื่อดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันน่าผ่อนคลายได้ ณ ที่พัก 9 อันดับที่เราคัดสรรมาให้คุณโดยเฉพาะ แพ็คกระเป๋าแล้วตามเรามาได้เลย !
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ทำความรู้จัก คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
ตั้งแต่ยุคเฮอัง (พ.ศ. 1337 - พ.ศ. 1728 หรือ ค.ศ. 794 - ค.ศ. 1185) ได้มีการค้นพบแหล่งน้ำพุร้อนมากมาย ณ เมืองโทโยโอคะ (Toyooka) จังหวัดเฮียวโกะ โดยถูกเรียกรวมกันว่า "คิโนซากิ ออนเซ็น" ในบริเวณประกอบด้วยที่พักพร้อมน้ำพุร้อน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจ ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศ และใช้เวลาทั้งคืนได้อย่างเพลิดเพลิน
ภูมิทัศน์ของเมืองสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยเหล่าเรียวกัง (โรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม) ที่ตั้งเรียงรายไปตามแนวแม่น้ำโอตานิ (Otani-gawa) ซึ่งเชื่อมต่อกับโรงน้ำพุร้อนสาธารณะทั้ง 7 แห่ง เป็นที่มาของกิจกรรมที่เรียกว่า "โซโตะ ยู เมกูริ (Soto-yu Meguri)" ซึ่งหมายถึงการสวมชุดยูกาตะและตระเวนเที่ยวไปตามบ่อน้ำพุร้อน จากแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งจนครบ ตามความเชื่อที่ว่าโรงน้ำพุร้อนสาธารณะเป็นที่พำนักของเหล่าเทพ และการแช่ตัวในน้ำทีละแห่งให้ครบนั้นจะนำมาซึ่งโชคลาภ
นอกเหนือจากทิวทัศน์ที่สวยงามและความผ่อนคลายของสถานที่นี้แล้ว คิโนซากิ ออนเซ็นยังได้ความนิยมอย่างมากด้วยทำเลที่ตั้งสุดแสนสะดวก ที่ทำให้คุณสามารถเดินทางจากโอซาก้า โกเบ หรือเกียวโตมาได้อย่างง่ายดาย เพียง 2 - 3 ชั่วโมง โดยรถบัสและรถไฟด่วนพิเศษ โดยแทบจะไม่ต้องเปลี่ยนสายเลย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเดินทางจากโอซาก้า ตรงไปถึงคิโนซากิ ออนเซ็น ด้วยรถไฟภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง
และหากคุณเข้าพัก ณ เรียวกังแห่งใดแห่งหนึ่งในพื้นที่คิโนซากิ ออนเซ็น คุณจะได้รับบัตรผ่านประตูเข้าโรงน้ำพุร้อนสาธารณะทั้ง 7 แห่ง ฟรี ! อย่ารอช้า มาดูที่พักที่ดีที่สุดในย่านนี้ด้วยกันเลยดีกว่า !
1. โมริซูยะ (Morizuya)
ที่ไหนเล่าจะสบายเท่าที่บ้าน... ที่นี่ไง Morizuya ! เพราะที่พักแสนสบายแห่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกราวกับอยู่บ้าน แถมด้วยการดูแลอย่างดีจากพนักงาน ที่ตั้งใจมอบประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับคุณ ตั้งแต่พิธีชงชาต้อนรับ จนไปถึงบริการรถรับส่งฟรีถึงสถานีรถไฟ
ห้องพักถูกจัดตกแต่งไว้อย่างสวยงามและสะอาดสะอ้านตามสไตล์ญี่ปุ่น ห้องอาบน้ำของที่นี่เป็นแบบส่วนรวม แต่คุณจะได้รับชุดอุปกรณ์อาบน้ำฟรี และเครื่องอำนวยความสะดวกอื่นๆ ตามที่คุณต้องการ นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นเล็กๆ ในร่มหลายจุดภายในที่พัก ซึ่งเปิดให้จองเพื่อเข้าใช้ได้ครั้งละ 40 นาทีในวันธรรมดา
อาหารของที่นี่ก็น่าประทับใจไม่แพ้ห้องพักเลยทีเดียว ! ตามตำรับโรงแรมญี่ปุ่น คุณจะได้พบกับไคเซกิ (Kaiseki ชุดอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) ซึ่งในหนึ่งมื้อประกอบด้วยอาหารอันโอชะหลากชนิด เริ่มตั้งแต่ อาหารทานเล่น, ซาชิมิ (ปลาสด), ซุปมิโซะ, ข้าว, เนื้อสัตว์, จนไปถึงของหวาน โดยส่วนผสมที่ใช้ล้วนแต่ถูกคัดสรรมาอย่างดี เช่น เนื้อวัวทาจิมะ (Tajima วัวดำญี่ปุ่นสายพันธุ์ที่นำมาทำเนื้อโกเบ) และเนื้อปูมัตสึบะอวบๆ
เมื่อคุณมาถึง คิโนซากิ ออนเซ็น แล้ว คุณคงไม่อยากพลาดโอกาสเดินชมเมืองแห่งน้ำพุร้อนในชุดยูกาตะอย่างแน่นอน ! ทางโรงแรมมีบริการให้ผู้เข้าพักยืมชุดยูกาตะโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้คุณสามารถเลือกยูกาตะแบบที่คุณชื่นชอบ และออกตระเวนเที่ยวน้ำพุร้อนทั้ง 7 แห่งได้เลย !
2. คิโนซากิ ยามาโมโตะยะ (Kinosaki Yamamotoya)
มาเที่ยวทั้งที ให้รางวัลตัวเองด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนับไม่ถ้วนจากโรงแรม Kinosaki Yamamotoya แห่งนี้กันเถอะ ! เพราะนอกจากห้องพักพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมาย ออนเซ็นอุ่นสบาย และอินเตอร์เน็ตไร้สายที่สามารถใช้บริการฟรีแล้ว ที่พักแห่งนี้ยังมีที่จอดรถไว้บริการหากคุณนำรถมาด้วย หรือหากคุณอยากดื่มด่ำกับเบียร์สดสูตรพิเศษของทางโรงแรม และรับบริการนวดเพื่อเติมเต็มค่ำคืนที่ผ่อนคลายที่สุดของคุณ ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องก้าวออกจากที่พักเลย
อีกทั้งคุณยังสามารถเช่าหรือแม้กระทั่งซื้อยูกาตะสักตัวจากที่นี่ได้เลยด้วย ทางที่พักได้จัดสรรยูกาตะคละสีคละแบบกว่าหนึ่งร้อยชุดาไว้ให้คุณเลือกสรรได้ตามใจชอบ
และถ้าคุณอยากสัมผัสกับประสบการณ์แช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติอย่างเป็นส่วนตัว นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ ! หรือจะเลือกแช่ออนเซ็นแบบปกติ แยกผู้ชายผู้หญิง ก็สามารถทำได้ภายในที่พักตามอัธยาศัย
สำหรับใครที่ไม่เคยเข้าออนเซ็นแบบฉบับญี่ปุ่นมาก่อนก็ไม่ต้องกังวลใจไป ทางที่พักมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้คอยให้คำแนะนำ เพื่อที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการแช่น้ำพุร้อนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมได้อย่างเต็มที่
3. คิโนซากิ ออนเซ็น ฮานาโกจิ ไซเก็ทสึ (Kinosaki Onsen Hanakoji Saigetsu)
เก็บตัวเลือกนี้ไว้ หากคุณต้องการดำดิ่งสู่ความเป็นญี่ปุ่นสุดๆ ! เพราะเรียวกังแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นจากอาคารเก่าแก่ ก่อนจะถูกปรับปรุงใหม่โดยรักษาลักษณะดั้งเดิมอันสวยงามเอาไว้ทั้งหมด และด้วยข้อบังคับที่ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่าชั้นมัธยมเข้าพัก ทางเรียวกังจึงตั้งใจที่จะมอบความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยววัยผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ด้วยบริการสุดประทับใจ ทั้งออนเซ็นส่วนตัว และห้องอาหารที่ให้คุณลิ้มรสเนื้อวัวทาจิมะและปูย่างเตาถ่านได้อย่างเต็มอิ่ม
ถึงแม้จะเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม แต่คุณจะได้หลับอย่างเต็มอิ่มบนเตียงแสนสบายในห้องเสื่อทาทามิสุดกว้างขวาง ซึ่งการันตีด้วยฟูกที่นอนจาก Slumberland
เครื่องเรือนและของตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นที่วางอยู่ทั่วทุกมุมภายในที่พัก ทำให้ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหน ก็ทำให้สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึกสุดๆ เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้ ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งเลยทีเดียวล่ะ !
4. มิกูนิยะ (Mikuniya)
ถ้าคุณอยากลองทำอะไรใหม่ๆ นอกเหนือไปจากการสวมใส่ชุดยูกาตะ แช่ตัวในน้ำพุร้อน และลิ้มรสอาหารชุดไคเซกิจานเด็ดแล้วล่ะก็ คุณสามารถเข้าร่วมชั้นเรียนโชโด (Shodo การวาดตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น) และเรียนรู้วิธีเขียนชื่อของคุณเป็นตัวอักษรคันจิ ณ Mikuniya แห่งนี้ได้
ห้องพักทั้งหมดของที่นี่เป็นห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับการใช้ชีวิต รับประทานอาหาร อาบน้ำ จนไปถึงการนอนแบบคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว ภายในห้องพักประกอบด้วยห้องน้ำส่วนตัว เครื่องเล่นดีวีดี ตู้เย็น และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ที่ Mikuniya นี้ คุณจะพบกับห้องอาบน้ำส่วนตัว 3 แบบ ซึ่งสามารถจองได้ฟรี หนึ่งในนั้นมาพร้อมทัศนียภาพอันสวยงามของสวนเล็กๆ เหมาะสำหรับผู้เข้าพักที่อาจรู้สึกไม่คุ้นชินกับห้องอาบน้ำแบบสาธารณะ โดยทางที่พักจะจัดเตรียมเครื่องอาบน้ำ เช่น แชมพู ครีมนวดผม สบู่ โลชั่นทาผิว รวมถึงไดร์เป่าผมไว้ให้ยืมอีกด้วย
5. คิโนซากิ ออนเซ็น สึบากิโนะ เรียวกัง (Kinosaki Onsen Tsubakino Ryokan)
ที่พักอันเก่าแก่แต่อบอุ่นนี้ มีชื่อเล่นว่า "Gallery Inn" หรือแปลว่าห้องจัดแสดงภาพ เนื่องจากคุณจะสามารถชื่นชมภาพศิลปะของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ (พระโพธิสัตว์ผู้คุ้มครองเด็กและนักเดินทาง) ได้ตามทางเดินในอาคารต่างๆ โดยภาพเหล่านั้นเป็นผลงานฝีมือเจ้าของที่พักแห่งนี้นั่นเอง ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนแยกชายหญิงให้บริการอยู่ ทั้งแบบอ่างหินจากุซซี่ และแบบอ่างไม้ไม้สนญี่ปุ่นที่มองไปเห็นสวนญี่ปุ่นเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนแบบพิเศษที่ต้องจองล่วงหน้าอีกด้วย ในรูปด้านบนคือหนึ่งในบ่อแบบพิเศษ เรียกว่า "ซาราสะ โนะ ยู" (Sarasa-no-Yu) เป็นน้ำพุร้อนที่มีฟองขนาดเล็กแทรกอยู่จนมีสีเหมือนน้ำนม ฟองเล็กๆ จะโอบล้อมร่างกายคุณให้รู้สึกเหมือนกำลังถูกห่อหุ้มด้วยผ้าไหม และทำให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี
ห้องพักที่นี่ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่น จึงทำให้แต่ละห้องนั้นปกคลุมไปด้วยบรรยากาศสุดแสนผ่อนคลายตามแบบฉบับเซน อีกทั้งห้องพักในอาคารเสริม ที่มีทางเชื่อมไปสู่ตัวอาคารหลักของโรงแรมผ่านทางเดินใต้ดินนั้น ยังหันไปในทิศทางที่เห็นทัศนียภาพของสวนสไตล์ญี่ปุ่นอันสวยงามได้อย่างชัดเจน
ที่ Kinosaki Onsen Tsubakino Ryokan นี้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นจานเด็ดที่มีกลิ่นอายความเป็นต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยวัตถุดิบประจำท้องถิ่น เช่น อาหารทะเลประจำฤดูกาลอย่างปูและกุ้ง, เนื้อวัวทาจิมะ, และผักสดจากภูเขารอบๆ เมืองคิโนซากิ
6. ชิโนโนเมโซ (Sinonomesou)
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของที่พักส่วนใหญ่ใน คิโนซากิ ออนเซ็น นั้นคือห้องอาบน้ำรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในร่มหรือกลางแจ้ง หรือแบบที่มาพร้อมกับวิวสวยๆ เพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ แต่ด้วยความพิเศษของ Sinonomesou แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับการแช่น้ำร้อนในบ่อหิน (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า iwa-buro) อันโด่งดังของชาวญี่ปุ่น ! โดยจะแยกเวลาให้บริการสำหรับผู้หญิงและผู้ชายไว้อย่างเหมาะสม
หลังจากที่ได้แช่ออนเซ็นผ่อนคลายในบ่อหินเรียบร้อยแล้ว คุณจะพบกับห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นแสนโอ่อ่า มาพร้อมเครื่องเรือนต้นตำรับดั้งเดิม เช่นฟูกญี่ปุ่นและเก้าอี้"ซสุ (Zaisu เก้าอี้แบบไร้ขาสำหรับนั่งกับพื้น) รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งนี้คุณยังสามารถเลือกจองห้องพักแบบที่มีห้องน้ำภายในตัวได้อีกด้วย แต่รีบหน่อยล่ะ เพราะห้องชนิดนี้มีจำนวนจำกัด !
หากคุณตัดสินใจเข้าพักที่นี่แล้วล่ะก็ เราแนะนำให้เตรียมท้องของคุณไว้ให้พร้อมสำหรับมื้ออาหารสุดพิเศษ ด้วยเมนูเด็ดจากเนื้อปูที่ทางโรงแรมเพาะเลี้ยงเองโดยเฉพาะ รับประกันความสดอร่อยได้เลย !
7. โรงแรมคาวากูจิยะ คิโนซากิ ริเวอร์ไซด์ (Kawaguchiya Kinosaki Riverside Hotel)
ใครจะรู้ว่าเรียวกังหลังใหญ่ที่มองเผินๆ อาจดูเหมือนโรงแรมทั่วไปนี้ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1916) และขึ้นชื่ออย่างมากด้านความงดงามของห้องอาบน้ำร้อนกลางแจ้ง ณ ชั้นบนสุดของที่พัก ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถจองห้องพักที่มีห้องอาบน้ำแบบเปิดโล่งในตัว ดังเช่นรูปด้านล่างนี้ได้ แถมทางที่พักจะตกแต่งด้วยดอกไม้ลอยน้ำหลากสีสันสำหรับโอกาสพิเศษให้อีกด้วย
ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบห้องพักบรรยากาศอบอุ่นแบบญี่ปุ่น หรือเก๋ไก๋ทันสมัยแบบตะวันตก โรงแรม Kawaguchiya Kinosaki Riverside จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะที่นี่มีห้องพักให้คุณเลือกทั้งสองสไตล์ ! และด้วยพื้นที่กว้างขวางของโรงแรม ทำให้คุณสามารถสนุกสุดเหวี่ยงไปกับกิจกรรมภายในที่พักได้ ไม่ว่าจะเป็นการปาร์ตี้สังสรรค์ หรือร้องคาราโอเกะ
หลังจากสนุกเต็มอิ่มกับการสังสรรค์และร้องคาราโอเกะในที่พักแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการออกตระเวนโรงอาบน้ำพุร้อนสาธารณะทั้ง 7 แห่งแบบ Soto-yu Meguri แล้วล่ะ ! โดยคุณสามารถยืมชุดยูกาตะ, เกตะ (รองเท้าแตะแบบเกี๊ยะที่ทำจากไม้), ถุงเท้า, และเครื่องประดับอื่นๆ ที่จะทำให้ลุคสุดญี่ปุ่นของคุณสมบูรณ์แบบ ก่อนจะขึ้นรถบัสเพื่อไปยังจุดศูนย์กลางของเมือง คิโนซากิ ออนเซ็น และเริ่มการเดินทางสู่โรงอาบน้ำร้อนทั้ง 7 ได้เลย !
8. โคยาโดะ เอน (Koyado Enn)
หากคุณรักในความสะดวกสบายล่ะก็ Koyado Enn แห่งนี้คือที่พักแห่งโชคชะตาของคุณ ! เพราะไม่เพียงแต่ทำเลที่ใกล้แสนใกล้ โดยสามารถเดินเท้าจากสถานีหลักอย่าง Kinosaki Onsen Station ในเวลาแค่ 3 นาที เรียวกังแห่งนี้ยังให้ความสำคัญอย่างมากเรื่องความสบายใจและความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก เช่น การจัดพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ไว้เป็นหลักแหล่ง หรือกระทั่งข้อปฏิบัติที่ห้ามพนักงานเข้าไปในพื้นที่ของผู้เข้าพักก่อนได้รับอนุญาต
ปัญหารักพี่เสียดายน้อง ห้องสไตล์ญี่ปุ่นก็ดูดี ห้องสไตล์ตะวันตกก็น่านอนนั้นจะหมดไป ! เพราะนอกจากห้องพักสองแบบนี้แล้ว ที่นี่ยังมีห้องพักแบบ Japanese-Western ให้คุณได้เลือกตามความชื่นชอบอีกด้วย มาพร้อมกับเตียงนุ่มๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในห้องแต่ก็ยังคงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น ที่สำคัญ คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนตลอดทั้งคืน เนื่องจากที่นี่อนุญาตให้ผู้ใหญ่เข้าพักเท่านั้น
และหากคุณเป็นสายนิยมรับประทานของหวานปิดท้ายอาหารจานหลักแล้วล่ะก็ ทางที่พักแห่งนี้ยังมีคาเฟ่เล็กๆ ภายในบริเวณ เพื่อให้ทุกมื้ออาหารของคุณสมบูรณ์แบบ ! ก่อนจะแช่น้ำร้อน ณ ห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่คุณสามารถครอบครองทั้งหมดคนเดียวได้ ด้วยกุญแจที่ล็อกจากด้านในห้อง รับรองว่าจะเป็นการจบวันหนึ่งวัน ณ เมืองคิโนซากิที่พิเศษที่สุดเลยล่ะ !
9. โรงแรมเซนโตะ โอตานิ (Sento Otani Hotel)
ถ้าคุณกำลังมองหาที่พักราคาไม่แพง และอยู่ไม่ไกลจากโรงน้ำพุร้อนสาธารณะทั้ง 7 แห่ง แถมด้วยบรรยากาศเงียบสงบนั้น คุณจะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน !
ด้วยความตั้งใจออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ชื่นชมความงามจากธรรมชาติของเมืองคิโนซากิอย่างเต็มอิ่มที่สุด โรงแรม Sento Otani จึงหันหน้าสู่ทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำมารุยามะ (Maruyama-gawa) และมีนาข้าวญี่ปุ่นรายล้อมอยู่ทั่วบริเวณ และถึงแม้จะไม่มีร้านอาหารหรือห้องอาบน้ำส่วนตัวภายในอาคาร แต่สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและการบริการด้วยใจของพนักงาน จะทำให้การเข้าพักที่นี่ของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย !
ห้องพักทุกห้องนั้นเป็นแบบตะวันตก มาพร้อมกับเครื่องใช้ต่างๆ ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น, อินเตอร์เน็ตไร้สาย, โทรทัศน์, อุปกรณ์ชงชา, และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือชุดยูกาตะ ! และถึงแม้จะไกลจากใจกลางเมือง แต่ด้วยทำเลที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟ ทำให้การเดินทางนั้นแสนสะดวก ด้วยราคาที่เหมาะสมและบรรยากาศชานเมืองญี่ปุ่นที่หาจากที่อื่นไม่ได้แบบนี้ ทำให้โรงแรม Sento Otani เป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่เราอยากให้คุณลองไปสัมผัสดูสักครั้ง !
ทั้งหมดนี้คือที่พัก 9 อันดับที่เราคัดสรรมาให้คุณ ตั้งแต่โรงแรมราคาเป็นมิตร จนไปถึงโรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ๆ ! และหากใครกำลังมองหาตัวช่วยเรื่องสุขภาพ ระบบย่อยอาหาร หรืออาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน เมืองน้ำพุร้อน คิโนซากิ ออนเซ็น อันโด่งดังแห่งนี้ คือจุดหมายปลายทางที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน ! เนื่องจากราคาทั้งหมดคือราคาโดยประมาณและอาจเปลี่ยนแปลงตามเทศกาล เราแนะนำให้คุณเข้าชมเว็บไซต์ทางการของแต่ละที่พัก ประกอบการตัดสินใจสำหรับทริปใหม่ของคุณ ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่