ขาเที่ยวโตเกียวต้องรู้ไว้! คู่มือสภาพอากาศในโตเกียวตลอดทั้งปี
สิ่งที่ต้องพึงระวังเมื่อมาเที่ยวกรุงโตเกียวเมืองหลวงของญี่ปุ่นก็คือ สภาพอากาศนั่นเอง อย่างในช่วงฤดูหนาวอากาศอาจหนาวกว่าที่คาดไว้ จนทำให้ทริปของเราต้องลำบากหรือหมดสนุกกันได้เลย แม้ว่าเรื่องของธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่เราก็อยากให้ทุกท่านทำความเข้าใจภาพรวมสภาพอากาศตลอดปีของญี่ปุ่นไว้ จะได้มาเที่ยวสนุกกันได้เต็มที่
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศแตกต่างกันอย่างมาก ตามแต่ละฤดูหรือตามแต่ละท้องที่ ดังนั้นทุกท่านอย่าลืมเตรียมตัวเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าสักประมาณ 1 เดือนก่อนที่จะมาเยี่ยมเยือนกรุงโตเกียวกันนะครับ
เดือนมกราคม
เดือนมกราคมเรียกได้เลยว่าเป็นเดือนที่อากาศในโตเกียวจะหนาวเย็นที่สุด อุณหภูมิต่ำสุดอาจลงมาถึง 1℃ แม้ในวันที่อากาศอบอุ่นแล้วก็ยังแค่ประมาณ 10℃ เท่านั้น อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 5～6℃ อีกทั้งยังเป็นเดือนที่มีปริมาณฝนตกน้อยที่สุดด้วย
แม้ในช่วงกลางวันที่แดดออก ชุดแต่งกายที่จำเป็นก็คือเสื้อโค้ทหรือว่าเสื้อแจ็คเก็ตหนายาวคุมเข่า ในตอนกลางคืนความหนาวเย็นจะคอยแทรกซึมตามร่างกายเรา ดังนั้นเราควรมีถุงมือติดตัวไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อท่านขึ้นรถบัส รถไฟ หรือว่าเข้าไปใช้บริการในห้างสรรพสินค้าและตึกต่างๆ ก็จะต้องเจอกับการเปิดฮีทเตอร์(เครื่องทำความอุ่น) ซึ่งในหลายๆ ที่ก็เปิดกันแรงน่าดู ดังนั้นควรเลือกเป็นชุดที่สามารถสวมใส่และถอดได้ง่ายจะดีกว่านะครับ
นี่คือภาพจากงานเทศกาลฮัตสึโมเดะ (初詣) ที่จัดขึ้นที่ศาลเจ้าเมจิในวันขึ้นปีใหม่ เป็นเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นจะเดินทางไปสักการะขอพรในวันขึ้นปีใหม่ ใครที่อยากสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นไม่ควรพลาดไปเทศกาลนี้
เดือนกุมภาพันธ์
เดือนกุมภาพันธ์ที่โตเกียวนั้นอากาศหนาวไม่ต่างจากเดือนมกราคมสักเท่าไหร่ อุณหภูมิเฉลี่ยเองก็ใกล้เคียงกัน หนาวจนผู้คนเริ่มเป็นห่วงว่าฤดูใบไม้ผลิจะมาถึงหรือยังนะ? แม้ว่าที่โตเกียวนั้นจะไม่ได้มีหิมะตกโหมหนัก แต่ก็มีบางครั้งที่หิมะทับถมจนทำให้รถไฟหยุดให้บริการหรือการจราจรติดขัดเช่นกัน
ทุกๆ เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดงานโตเกียวมาราธอน โดยเส้นทางการวิ่งจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ มากมาย จึงเป็นเทศกาลที่ชาวต่างชาตินิยมมาลงสมัครกัน ช่วงนี้ให้คาดไว้เลยว่าอากาศค่อนข้างหนาวมาก ดังนั้นอย่าลืมสวมเสื้อผ้าหนาๆ อุ่นๆ มาชมงานวิ่งมาราธอนกันนะครับ
เดือนมีนาคม
แม้จะใกล้เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เสื้อโค้ทอยู่นะครับ อากาศในเดือนมีนาคมนี้อุณหภูมิสูงสุด 14℃ ต่ำสุดอยู่ที่ 4℃ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19℃ ได้ หากเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์แล้วน่าจะลำบากน้อยกว่าหน่อย ช่วงนี้เองก็เริ่มมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่าลืมพกร่มติดตัวเผื่อไว้ระหว่างไปเที่ยวกันนะครับ
นี่คือภาพจากงานเทศกาล "เมืองดะรุมะ" (だるま市) ที่จัดขึ้นวันที่ 3,4 มีนาคมที่วัด จินไดจิ (深大寺) ณ เมือง โจฟุชิ ตุ๊กตาดะรุมะเป็นตุ๊กตาตั้งโต๊ะมีลักษณะรูปร่างกลมสีแดง และยังเป็นเครื่องรางนำโชคที่ผู้คนต่างก็มาขอพรกันมากมาย เทศกาลนี้เป็นเทศกาลยอดนิยมที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มฤดูใบไม้ผลิ ทุกๆ ปีร้านค้ากว่า 300 ร้านจะนำตุ๊กตาดะรุมะมาตั้งเรียงหน้าร้านกัน หากไปเที่ยวที่วัดจินไดจิก็อย่าลืมไปทานโซบะจินไดจิอร่อยๆ เป็นอาหารเที่ยงยอดฮิตของที่นั่นด้วยนะครับ
เดือนเมษายน
ที่โตเกียวเดือนเมษายนเป็นเดือนแห่งการชมซากุระบาน อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 19℃ ต่ำสุดประมาณ 9℃ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 14℃ เป็นเดือนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นในช่วงกลางวัน รู้ตัวอีกทีก็อากาศอุ่นแล้ว แต่ว่าในตอนกลางคืนอากาศยังคงเหลือความหนาวอยู่ ดังนั้นไม่ควรประมาทกันนะครับ
ในตัวเมืองมีจุดชมซากุระบานหลากหลายที่อย่างเช่น สวนอุเอโนะ สวนยานากะ สวนอาโอยาม่า สวนอิโนะคาชิระ เป็นต้น ช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเมษายนเป็นช่วงซากุระบานเต็มที่ที่สุด จึงเหมาะเป็นช่วงที่น่ามาเที่ยวมากที่สุด ยิ่งเป็นวันที่แดดออกล่ะก็ต้องไปชมซากุระกันให้ได้เลยนะครับ
เดือนพฤษภาคม
พอเริ่มเข้าเดือนพฤษภาคม จะเริ่มรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 18℃ สูงสุดอยู่ที่ 23℃ ได้ แต่ก็ยังมีบางครั้งที่อุณหภูมิลงไปต่ำสุดที่ 10℃ ดังนั้นยังควรใส่เสื้อแขนยาวกันไว้ก่อนนะครับ หากพกเสื้อคลุมหรือว่าเสื้อแจ็คเก็ตติดตัวไปด้วยจะช่วยให้ท่านรับมือกับสภาพอากาศ ต่างๆ ได้ดี
ช่วงนี้ที่ศาลเจาอาซากุสะจะมีงานเทศกาลชื่อดังเรียกว่า "ซันจะมัตสึริ" (三社祭) เป็นเทศกาลฉลองสำหรับผู้คนในตัวเมืองที่แสนรื่นเริง และยังได้สัมผัสกับบรรยากาศยุคสมัยเอโดะอีกด้วย แค่ได้ไปดูผู้คนช่วยกันแบกศาลเจ้าวนรอบเมือง พร้อมๆ กับตะโกนเสียงเรียกพละกำลัง เท่านี้ก็คุ้มค่าที่ได้ไปชมแล้ว
เดือนมิถุนายน
เดือนมิถุนายนนั้น เป็นช่วงหน้าฝนในโตเกียว จึงห้ามลืมร่มเด็ดขาด อุณหภูมิโดยทั่วไปก็สูงขึ้น สูงสุดอยู่ที่ 25℃ ต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 18℃ อุณหภูมิฌเฉลี่ยจะประมาณ 21℃ นอกจากนี้แล้วความชื้นก็ยังสูงอีกด้วย จึงอาจทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวสักเท่าไหร่ ชุดที่ใส่ควรเป็นเสื้อแขนสั้นแล้วสวมเสื้อคลุมคาร์ดิแกนบางๆ ทับเอาจะสะดวกสบายกว่านะครับ
ที่เทศกาล "บุงเคียวอะจิไซ" (文京あじさいまつり) ช่วงเดือนมิถุนายนนี้จะเป็นช่วงที่ดอกไม้บานมากที่สุด มีดอกไฮเดรนเยียบานกว่า 30,000 ดอกให้ท่านได้ชื่นชมดอกไม้พร้อมกับวิวทิวทัศน์สวยงาม ช่วงนี้เองร้านข้างทางต่างๆ ก็จะตั้งต้นไม้กระถางไว้สำหรับค้าขายกันมากมาย มีทั้งดอกไฮเดรนเยียสวยๆ สีชมพู สีฟ้าต่างๆ นานา ซึ่งจะมีให้เห็นได้แค่ในช่วงนี้เท่านั้น
เดือนกรกฎาคม
เดือนกรกฎาคมก็ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ช่วงฤดูฝนจะสิ้นสุดที่ประมาณช่วงกลางเดือน หลังจากนั้นแล้วจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนอย่างเต็มตัว อุณหภูมิอากาศจะสูงขึ้น สูงสุดอยู่ที่ 29℃ ต่ำสุดอยู่ที่ 22℃ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25℃ จะต้องเริ่มใช้เสื้อยืดกับหมวกกันแล้ว ที่ต้องพึงระวังอย่างมากก็คือโรคลมแดด ทุกๆ ท่านระวังตัวอย่าให้ร่างกายขาดน้ำกันนะครับ
สัญลักษณ์ประจำช่วงนี้ก็คือ เทศกาลพลุดอกไม้ไฟริมแม่น้ำสุมิดะที่จัดขึ้นทุกปีนั่นเอง เป็นเทศกาลพลุขนาดใหญ่ที่ท่านสามารถชมพลุอลังการ และยังได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศงานสไตล์ญี่ปุ่นสมัยเก่าอีกด้วย
เดือนสิงหาคม
เมื่อเข้าสู่เดือนสิงหาคม จะมีหลายวันที่อุณหภูมิสูงสุดจะเลย 30℃ แม้แต่อุณหภูมิต่ำสุดของวันก็อยู่ที่ประมาณ 23℃ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 26℃ ที่โตเกียวนั้นมีลักษณะชื้นเป็นพิเศษ ดังนั้นจะทำให้เรารู้สึกร้อนอบอ้าวกว่าอุณหภูมิจริง เพราะอย่างนี้แม้แต่ในตอนกลางคืนก็ยังรู้สึกร้อนอยู่ดี
เทศกาลเต้นรำ "โคเอ็งจิอาวะโอโดริ"(東京高円寺阿波おどり) ที่โตเกียว นั้นเป็นเทศกาลขนาดใหญ่กินเนื้อที่ทั้งตัวเมืองรอบๆ วัดโคเอ็งจิ จะมีผู้คนกว่าหนึ่งหมื่นคนมาเต้นรำพร้อมกับจังหวะกลองไทโคะ สร้างความสนุกสนานและความตื่นตาตื่นใจ เรียกได้ว่าเป็นขบวนพาเหรดที่มีสีสันที่สุดในโตเกียวเลยก็ว่าได้
เดือนกันยายน
พอเริ่มเข้าเดือนกันยายน ความร้อนระอุก็ค่อยๆ ลดลง อุณหภูมิสูงสุดของเดือนนี้จะอยู่ที่ราว 27℃ ต่ำสุดราว 20℃ อุณหภูมิเฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 23℃ นอกจากนี้ช่วงเดือนกันยายนยังเป็นช่วงที่มีพายุไต้ฝุ่นพัดผ่านญี่ปุ่นอีกด้วย จึงเป็นอีกเดือนหนึ่งที่มีฝนตกหนัก ท่านที่มาเที่ยวช่วงนี้ หากดวงไม่ดีต้องพบกับพายุไต้ฝุ่นล่ะก็ต้องระมัดระวังกันด้วยอย่าหักโหมเที่ยวจนเกินไปนะครับ แนะนำว่าให้เปลี่ยนไปเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวในร่มแทนก็สนุกไม่แพ้กัน
นี่คือเทศกาลประจำศาลเจ้าเน็ตสึ (根津神社) ในเขตบุงเคียวของโตเกียว โดยจะมีเหล่าหนุ่มๆ ญี่ปุ่นรวมพลังกันแบกศาลเจ้าหรือรถลอยเดินขบวนไปรอบตัวเมือง ที่ลานกว้างภายในศาลเจ้าก็จะมีเต๊นท์ตั้งเรียงขายอาหารและของพื้นเมือง เป็นบรรยากาศเป็นเทศกาลครึกครื้นและมีเสน่ห์
เดือนตุลาคม
แม้จะย่างเข้าเดือนตุลาคมแล้ว แต่ก็ยังมีบางวันที่พายุไต้ฝุ่นเข้าเช่นกัน ช่วงนี้ข้างนอกจะอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 22℃ ต่ำสุดประมาณ 14℃ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 18℃ แนะนำว่าให้เตรียมเสื้อแขนยาวไว้ใส่ได้เลย หากพกเสื้อแจ็คเก็ตหรือเสื้อคลุมคาร์ดิแกนด้วยจะดีมาก
ย่านขายของอุปกรณ์เครื่องมือแถวคัปปะบาชิ (かっぱ橋道具街) ซึ่งอยู่ห่างจากวัดอาซากุสะไม่ไกลนั้น จะมีงานเทศกาลขายอุปกรณ์เครื่องมือ ร้านที่ย่านนี้จะทำการจำหน่ายทั้งอุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่น วัตถุดิบอาหารต่างๆ ตั้งเรียงติดต่อกันยาวต่อเนื่องไปในซอย มีชาวต่างชาติมาเดินช็อปปิ้งกันมากมาย ดูเหมือนว่าของที่นิยมมาตามหากันก็คือมีดทำครัว ในช่วงงานเทศกาลนี้จะมีอุปกรณ์เครื่องมือวางขายเป็นจำนวนมากมายจนน่าตกใจ แถมยังราคาถูกอีกด้วย เพราะฉะนั้นจะพลาดไม่ได้เลย
นอกจากนี้ยังมี งานเทศกาลน้ำชาประจำโตเกียว (東京大茶会) ที่จัดขึ้นทุกปีที่สวนฮามาริคิว (浜離宮庭園) ท่านสามารถลองสัมผัสประสบการณ์ชงชาซึ่งเป็นวัฒนธรรมโบราณของญี่ปุ่น และยังได้สัมผัสกับประเพณีและดนตรีพื้นเมืองอีกด้วย
เดือนพฤศจิกายน
พออากาศเย็นลงอีกหน่อยก็มาถึงฤดูใบไม้ร่วงกันแล้ว อุณหภูมิสูงสุดในช่วงนี้อยู่ที่ 16℃ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 8℃ เฉลี่ยแล้วประมาณ 12℃ ตลอดเดือน เริ่มจำเป็นต้องหยิบแจ็คเก็ตหรือเสื้อโค้ทมาใส่กันแล้ว
ช่วงนี้ หลายๆ สถานที่ในโตเกียวจะมีใบไม้แดงสวยๆ ให้ทุกท่านได้ชมกัน อย่างสวนในศาลเจ้าเมจิ (明治神宮外苑) สวนฮิบิยะ (日比谷公園) หรือสวนริคุกิ (六義園) ก็เป็นจุดชมใบไม้แดงยอดนิยมเช่นกัน ใบไม้จะค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนสีทีละนิดๆ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และจะสีแดงสวยงามเต็มที่ในช่วงต้นเดือนธันวาคมให้เราได้ชื่นชมเพลิดเพลินกัน
เดือนธันวาคม
พอเข้าเดือนธันวาคมแล้ว ก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มที่ อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 12℃ ต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 4℃ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8℃ เป็นตัวเลขที่ดูแล้วก็รู้สึกหนาวกันเลยทีเดียว เป็นฤดูที่จะขาดเสื้อคลุมแจ็คเก็ต หมวกไหมพรม ถุงมืออุ่นๆ หรือผ้าพันคอไม่ได้เลย แต่ละปีอาจมีหิมะตกด้วยนะครับ
ในเดือนสุดท้ายของปี เทศกาลหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับต้อนรับปีใหม่ก็คือเทศกาลสั่นระฆังท้ายปี (除夜の鐘) นั่นเอง ซึ่งจะจัดงานเทศกาลตามวัดต่างๆ เช่นวัดอาซากุสะ ในวันส่งท้ายปีเก่าหรือวันที่ 31 ธันวาคมเวลาเที่ยงคืนจะมีการสั่นระฆังเป็นจำนวน 108 ครั้งดังกังวานไปทั่วเมือง ดังนั้นเองในวันนี้จึงมีรถไฟวิ่งตลอดทั้งคืน
ในช่วงฤดูร้อนที่โตเกียวนั้นร้อนระอุเพราะอากาศชื้นด้วยทำให้แม้แต่ตอนกลางคืนก็ร้อน! พอฤดูหนาวเข้ามาก็ต้องเจอกับความหนาวที่คอยแทรกแซงตามร่างกายของเราอยู่ตลอด แต่ถ้าหากเราคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าก่อน แล้วเตรียมเสื้อผ้ามาให้พร้อมล่ะก็ ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าหนาว เราก็จะได้เที่ยวอย่างสบายและเพลิดเพลินอย่างแน่นอนครับ ขอให้เที่ยวโตเกียวให้สนุกกันนะครับ!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
เกี่ยวกับนักเขียน
