รวมวิธีเดินทางเที่ยวโอกินาว่า หมู่เกาะเขตร้อนแห่งญี่ปุ่น!

1. วิธีเดินทางไปโอกินาว่า

บินไปโอกินาว่า: วิธีที่ได้รับความนิยมและประหยัดเวลาที่สุด

เนื่องจากโอกินาว่าเป็นจังหวัดที่เป็นเกาะและถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำ วิธีปกติที่สุดในการเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดนี้จึงเป็นทางเครื่องบิน เกาะหลักของโอกินาว่ามีสนามบินอยู่แห่งหนึ่งในเมืองนาฮะซึ่งเป็นเมืองหลวง ตามเกาะรอบนอกที่มีขนาดใหญ่พอประมาณก็มีสนามบินเล็กๆ อยู่บ้างเช่นกัน ในส่วนนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับสนามบินในจังหวัดโอกินาว่าที่นักเดินทางสามารถใช้บริการได้อย่างสบายๆ

・บินจากโตเกียว: สนามบินนาฮะ สนามบินไพนุชิมะ อิชิงากิ หรือ สนามบินมิยาโกะ ชิโมจิชิมะ
・บินจากโอซาก้า: สนามบินนาฮะ สนามบินไพนุชิมะ อิชิงากิ หรือ สนามบินมิยาโกะ ชิโมจิชิมะ
・บินจากพื้นที่อื่นในญี่ปุ่น: สนามบินนาฮะ หรือ สนามบินไพนุชิมะ อิชิงากิ
・บินจากต่างประเทศ: สนามบินนาฮะ หรือ สนามบินไพนุชิมะ อิชิงากิ

      

・สนามบินนาฮะ (Naha Airport)

สนามบินนาฮะ เปรียบเสมือนสนามบินหลักของโอกินาว่า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโอกินาว่ากับส่วนอื่นๆ ของญี่ปุ่น ประเทศรอบข้าง และเกาะรอบนอกของโอกินาว่าเอง

สนามบินนี้ให้บริการเที่ยวบินทั้งในและนอกประเทศ มีทั้งสายการบินหลักๆ อย่าง ANA และ JAL รวมถึงสายการบินราคาประหยัดอย่าง Peach และ Jetstar ด้วยเหตุที่เป็นสนามบินหลักของโอกินาว่า จึงยังมีสายการบินอื่นๆ อยู่อีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน

สายการบินใหญ่ๆ จะมีหลายเที่ยวบินทั้งในและนอกโอกินาว่าเปิดให้บริการทุกวัน มีเส้นทางเชื่อมโยงกับสนามบินใหญ่ๆ ทั่วญี่ปุ่น หากคุณบินไปหรือมาจากโตเกียว สนามบินฮาเนดะมักมีเที่ยวบินให้เลือกมากกว่านาริตะ ทางด้านสนามบินคันไซในโอซาก้าเองก็มีตัวเลือกมากมายเช่นกัน ส่วนสนามบินอื่นๆ แม้จะมีเที่ยวบินไป-กลับจากนาฮะ แต่ก็มักมีเพียง 1-2 เที่ยวต่อวันเท่านั้น

การบินระหว่างสนามบินนาฮะกับฮาเนดะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 30,000 เยนขึ้นอยู่กับวันและฤดูกาล (เว็บไซต์สายการบินญี่ปุ่นอย่าง ANA และ JAL มักมีบริการให้คุณเลือกเที่ยวบินจากตารางเวลาเพื่อดูราคาก่อน)

นอกจากนี้ สายการบินนานาชาติกว่า 14 สาย ไม่ว่าจะเป็นจากเกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์และไทย ก็มีเที่ยวบินเดินทางมายังสนามบินนี้เช่นกัน คุณจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางมาจากญี่ปุ่นเท่านั้น แต่สามารถเลือกให้โอกินาว่าเป็นจุดหมายปลายทางได้เลย หรือจะเลือกให้เป็นจุดเริ่มต้นทริปเที่ยวญี่ปุ่นของคุณก็ยังได้!

แม้ว่าจะมีสายการบินราคาประหยัดให้บริการทั้งขาไปและขากลับจากสนามบินนาฮะ แต่ก็มีเที่ยวบินให้เลือกน้อยกว่าสายการบินหลักๆ อยู่มาก แม้จะมีราคาถูกกว่า แต่เราก็ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเอาไว้ด้วย เนื่องจากสายการบินเหล่านี้มักเข้มงวดเรื่องเวลาและมีโอกาสดีเลย์มากกว่าพวกสายการบินหลัก

นอกจากนี้ สายการบินราคาประหยัดยังบินออกจากเทอร์มินอลที่ต่างไปจากสายการบินในประเทศและนานาชาติ ซึ่งจำเป็นต้องนั่งชัทเทิลบัสจากสนามบินไป

หลายคนอาจเห็นว่าสนามบินบนเกาะเล็กๆ ไม่น่าจะจำเป็นต้องเร่งรีบมากนัก แต่จริงๆ แล้ว เวลาที่คุณใช้เดินทางไปเกตอาจคลาดเคลื่อนได้ ขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ว่าในขณะนั้นสนามบินมีคนมากน้อยแค่ไหน การเผื่อเวลาไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง (โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องโหลดสัมภาระ)

ระยะเวลา:

จากโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ): ประมาณ 2.5 ~ 3 ชั่วโมง
จากโอซาก้า (สนามบินคันไซ): ประมาณ 2 ~ 2.5 ชั่วโมง
จากสนามบินอื่นๆ และต่างประเทศ: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

ค่าโดยสาร: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

จุดห้ามพลาด: ถนนโคคุไซโดริ, ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ, สวนสาธารณะปราสาทชูริ, พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์โอกินาว่า, สวนฟุคุชูเอน

                

・สนามบินไพนุชิมะ อิชิงากิ (Painushima Ishigaki Airport)

อิชิงากิ (Ishigaki) เป็นหนึ่งในเกาะรอบนอกของโอกินาว่าที่มีขนาดใหญ่พอประมาณ เป็นที่รู้จักจากหาดทรายบริสุทธิ์และทิวทัศน์ธรรมชาติอันสง่างาม รอบๆ เกาะอิชิงากิมีหมู่เกาะเล็กๆ ที่สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ไปได้ หนึ่งในนั้นก็คือ ทาเคโทมิ (Taketomi) เกาะที่มีชื่อเสียงจากความงามของโอกินาว่าในแบบพื้นเมืองและรถที่เทียมด้วยวัว ด้วยความที่อิชิงากิมีประชากรค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเกาะรอบนอกอื่นๆ จึงทำให้ที่นี่เป็นที่ตั้งของสนามบินเล็กๆ ซึ่งให้บริการเที่ยวบินทั้งในและนอกประเทศ

สายการบินหลักๆ ที่ให้บริการอยู่ในสนามบินนี้ ได้แก่ ANA ซึ่งมีเที่ยวบินไปยังฮาเนดะ, นาโกย่า, คันไซ, ฟุกุโอกะ และนาฮะ ในขณะที่สายการบิน Japan Transocean Air กับ Ryukyu Air Commuter (สายการบินในเครือ JAL) ซึ่งให้บริการเที่ยวบินไปยังฮาเนดะ, คันไซ, นาฮะ, เกาะมิยาโกะ และเกาะโยนากุนิ

ส่วนราคานั้นก็จะแตกต่างไปตามวันและสนามบินที่ออกเดินทาง โดยปกติแล้วตั๋วเที่ยวเดียวจะราคาประมาณ 10,000 - 30,000 เยน

ทางด้านเที่ยวบินจากสายการบินราคาประหยัดก็ประกอบไปด้วย Solaseed Air ที่ให้บริการจากนาฮะ และ Peach ที่ให้บริการจากคันไซและนาริตะ

ในส่วนของเที่ยวบินต่างประเทศ สามารถเดินทางจากไทเป (สนามบินเถาหยวน) ด้วยสายการบิน China Airlines และจากฮ่องกงด้วยสายการบิน Hong Kong Express

ระยะเวลา:

จากสนามบินนาฮะ: ประมาณ 1 ชั่วโมง
จากโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ): ประมาณ 3.5 ชั่วโมง
จากโอซาก้า (สนามบินคันไซ): ประมาณ 2.5 ~ 3 ชั่วโมง
จากสนามบินอื่นๆ และต่างประเทศ: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

ค่าโดยสาร: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

จุดห้ามพลาด: อ่าวคาบิระ, ถ้ำหินปูนเกาะอิชิงากิ, ประภาคารฮิราคุโบซากิ, จุดชมวิวทามาโทริซากะ

                   

・สนามบินมิยาโกะชิโมจิชิมะ (Miyako Shimojishima Airport Terminal)

มิยาโกะจิมะ เป็นอีกหนึ่งเกาะรอบนอกขนาดใหญ่ของโอกินาว่าที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวชม เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดสนามบินเล็กๆ ที่รองรับเที่ยวบินภายในประเทศขึ้น ปัจจุบันมีเที่ยวบินของ ANA, JAL, และเครือ JAL (JTA, RAC) ซึ่งบินให้บริการไป-กลับระหว่างโตเกียว (ฮาเนดะ), โอซาก้า (คันไซ), นาฮะ, อิชิงากิ และเกาะเครามะในโอกินาว่า ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีเที่ยวบินจากต่างประเทศให้บริการ

เกาะแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติ ทั้งวิวทิวทัศน์ อาหารพื้นเมืองแสนอร่อย และหนึ่งในสะพานที่มีวิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น

จากสนามบินนาฮะมีเที่ยวบินมากมายให้เลือกบินมายังมิยาโกะจิมะ ในขณะที่ฮาเนดะและคันไซนั้นมีเพียงแค่วันละเที่ยวเท่านั้น หากจะบินมาจากโตเกียวหรือคันไซก็ขอให้ระวังเรื่องเวลาไว้ด้วย

ระยะเวลา:

จากสนามบินนาฮะ: ประมาณ 45 นาที
จากโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ): ประมาณ 3 ชั่วโมง
จากโอซาก้า (สนามบินคันไซ): ประมาณ 2 ~ 2.5 ชั่วโมง
จากสนามบินอื่นๆ: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

ค่าโดยสาร: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

จุดห้ามพลาด: แหลมฮิกาชิเฮนนะ, สะพานคุริมะ, หาดโยฮานะมาเอะฮามะ

นั่งเรือไปโอกินาว่า

                      

・นั่งเรือจากเกาะหลักญี่ปุ่นไปโอกินาว่า - วิธีแนะนำสำหรับผู้ที่มีเวลามากพอ

แม้จะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็สามารถไปโอกินาว่าผ่านทางคาโกชิม่า จังหวัดตอนใต้สุดของคิวชูได้เช่นกัน การเดินทางนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งวันเต็ม โดยจะไปจอดลงที่ท่าเรือโมโตบุ (ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาว่า) และท่าเรือนาฮะ (ทางตอนใต้ของเกาะโอกินาว่า)

ตั๋วมีตั้งแต่ "ชั้นพิเศษ" ไปจนถึง "ชั้นสอง" โดยราคาจะลดหลั่นกันไปตามระดับชั้น ไล่ตั้งแต่ 34,830 เยนไปจนถึง 13,930 เยนสำหรับตั๋วเที่ยวเดียว

หากคุณมีเวลาว่างมากกว่า 25 ชั่วโมง และเป็นคนที่ชื่นชอบทะเล การนั่งเรือเฟอร์รี่ท่องมหาสมุทรแปซิฟิกไปสู่แดนสวรรค์เขตร้อนของญี่ปุ่นก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

・แวะโอกินาว่าระหว่างทริปล่องเรือนานาชาติ

ท่าเรือหลายแห่งในโอกินาว่า เช่น ท่าเรือนาฮะและท่าเรืออิชิงากิ ล้วนแต่เป็นจุดแวะยอดนิยมของทริปล่องเรือนานาชาติที่มาจากประเทศใกล้เคียงอย่างฮ่องกงและไต้หวัน

ทริปเรือสำราญเหล่านี้มักกินเวลาหลายเดือน คุณจะได้เดินทางไปยังสถานที่สวยงามหลายๆ แห่งในมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างช้าๆ พลางผ่อนคลายไปกับความหรูหราต่างๆ ที่มีอยู่บนเรือ

2. ท่องเที่ยวในโอกินาว่า

แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นที่รู้จักจากระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ แต่ในกรณีของโอกินาว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากที่คุณมาถึงโอกินาว่าแล้ว การเดินทางไปยังส่วนอื่นๆ จะทำได้ค่อนข้างยาก ด้านล่างนี้คือวิธีการเดินทางทั่วไปที่ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวใช้ในการเดินทางไปมาในจังหวัดหมู่เกาะแห่งนี้

โอกินาว่าโมโนเรล (The Okinawa Urban Monorail)

รถสายนี้เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า "ยูอิเรล (Yuirail)" เป็นโมโนเรลที่วิ่งอยู่ในเมืองนาฮะและเมืองอุราโซเอะที่อยู่ใกล้ๆ กัน ปัจจุบันเป็นระบบรถไฟเพียงสายเดียวในโอกินาว่า และยังเดินทางได้ไม่ทั่วถึงทั้งเกาะ

จุดจอดแรกอยู่ที่สนามบินนาฮะ โดยเชื่อมกับเทอร์มินอลของเที่ยวบินภายในประเทศ จากจุดนี้โมโนเรลจะวิ่งผ่านนาฮะ ผ่านจุดท่องเที่ยวหลักๆ มากมาย และไปสิ้นสุดที่สถานีเทดาโกะอุรานิชิ (Tedako-Uranishi) ในเมืองอุราโซเอะ

ตั๋วของโมโนเรลสายนี้มีจำหน่ายที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติบริเวณประตูตรวจตั๋วของทุกสถานี ตั๋วแบบใช้ครั้งเดียวมีราคาตั้งแต่ 230 เยนไปจนถึง 370 เยนขึ้นอยู่กับระยะทางและสถานีที่คุณขึ้น ยูอิเรลยังจำหน่าย One Day Open Ticket หรือตั๋วแบบหนึ่งวันที่มีอายุการใช้งาน 24 ชั่วโมง (ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 400 เยน) และ Two Day Open Ticket ตั๋วแบบสองวันที่มีอายุการใช้งาน 48 ชั่วโมง (ผู้ใหญ่ 1,400 เยน เด็ก 700 เยน) เครื่องจำหน่ายตั๋วเหล่านี้มีภาษาอังกฤษรองรับ แถมยังมีพนักงานประจำอยู่ที่สถานีเพื่อให้ความช่วยเหลือด้วย

ในอดีตจะมีแต่ "บัตร Okica" ซึ่งเป็น IC Card เฉพาะตัวของโอกินาว่าเท่านั้นที่ใช้ขึ้นโมโนเรลได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ IC Card อื่นๆ ของญี่ปุ่นอย่าง PASMO และ Suica ก็สามารถใช้กับเครื่องจำหน่ายตั๋วของยูอิเรลได้แล้วเช่นกัน

หากคุณต้องการซื้อ Okica จะมีค่าใช้จ่าย 500 เยน จากนั้นก็สามารถเติมเงินใส่บัตรได้เรื่อยๆ บัตรนี้สามารถใช้ขึ้นรถบัสได้ด้วย เพียงแค่นำมันไปแตะที่ครื่องอ่านบัตรตอนขึ้นและลงรถเท่านั้น

ลายบนบัตร Okica เป็นรูปของสิ่งที่น่าสนใจในโอกินาว่า ดีไซน์น่ารักเหมาะสำหรับเก็บไว้เป็นที่ระลึกมากๆ

ขับรถเช่าเที่ยวไปทั่ว

เมื่อพูดถึงญี่ปุ่นคุณอาจนึกถึงระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับโอกินาว่า ที่นี่เป็นที่รู้จักกันในนาม "สังคมรถยนต์" เสียมากกว่า ผู้คนส่วนใหญ่ใช้รถเป็นพาหนะในการเดินทางมากกว่ารถไฟ เป็นวิธีการเดินทางที่ประหยัดเวลาได้มากที่สุด เนื่องจากไม่จำเป็นต้องคอยดูตารางเวลา และสามารถขับไปยังจุดหมายที่ต้องการได้ในทีเดียว

นอกจากนี้ รถยนต์ยังจะช่วยให้คุณเข้าถึงจุดอื่นๆ ของโอกินาว่าที่ระบบขนส่งสาธารณะไปไม่ถึงได้ด้วย การเช่ารถจึงเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจโอกินาว่าให้ครบทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างยิ่ง แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันก็อาจจะทำให้เสียเวลามากกว่า หากคุณขับไปเจอพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างจุดเชื่อมถนนสายหลัก หรือไปเจอรถติดในชั่วโมงเร่งด่วน

มีบริษัทเช่ารถหลายแห่งเปิดให้บริการอยู่ในโอกินาว่า เจ้าใหญ่ที่สุด ได้แก่ Times Car Rental, Toyota Rent-a-Car และ Nippon Rent-a-Car บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีสาขาหลักอยู่ในเมืองนาฮะ และมีแผนที่แสดงตำแหน่งสาขาอื่นๆ ให้ตรวจสอบได้อยู่บนทางเว็บไซต์

รถเช่าเกือบทั้งหมดในญี่ปุ่นจะมาพร้อมกับ GPS ที่สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ ได้ ส่วนใหญ่หลังจากที่จัดการเรื่องเอกสารเสร็จสิ้น คุณก็จะได้รับหนังสือเล่มเล็กๆ (มักมีหลายภาษารวมทั้งภาษาอังกฤษ) ที่บอกรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงรวมถึงบริเวณที่แนะนำ ตำแหน่งในหนังสือนี้จะมาพร้อมกับรหัส ที่คุณสามารถใส่ลงไปใน GPS ของรถเพื่อเริ่มต้นการนำทางได้เลย

ร้านบางสาขา (โดยเฉพาะพวกที่อยู่ตามย่านที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน) จะมีแม่เหล็กติดรถที่เขียนว่า "ขับโดยชาวต่างชาติ" ให้บริการอยู่ สิ่งนี้สะดวกมากในการบอกให้รถคันอื่นๆ รู้ว่าคุณไม่คุ้นกับเส้นทาง บางครั้งพนักงานจะมอบสติ๊กเกอร์เหล่านี้ให้เลยโดยไม่ต้องสอบถาม แต่หากพนักงานไม่ได้ให้แต่คุณต้องการ ก็สามารถขอได้ตลอดเวลา แม้ว่าชาวต่างชาติจะสามารถใช้บริการรถเช่าได้เหมือนกับชาวญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ควรลืมเช็กว่าคุณมีใบขับขี่ที่สามารถใช้ในญี่ปุ่นได้หรือไม่ด้วย

ละแวกยันบารุ (ตอนเหนือของเกาะโอกินาว่า)

ระยะเวลา: จากนาฮะ (โดยรถยนต์) ประมาณ 1~2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)

จุดห้ามพลาด: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอุมิ, สวนสับปะรดนาโงะ, ซากปราสาทนาคิจิน

นั่งรถบัสเที่ยวรอบเกาะ

โอกินาว่ามีระบบรถบัสที่กว้างขวางเพื่อทดแทนรถไฟที่ไม่ทั่วถึง แต่เอาเข้าจริงรถบัสเหล่านี้ก็มักจะวิ่งไม่ค่อยตรงตามตารางเวลา ทำให้คนในพื้นที่พูดกันอย่างติดตลกว่าเป็นรถบัสที่วิ่งตาม "นาฬิกาโอกินาว่า"

รถบัสหลายสายวิ่งให้บริการอยู่ทั่วเกาะหลัก ประกอบไปด้วย Naha City Bus (วิ่งภายในเมืองนาฮะและบริเวณใกล้เคียง), Highway Bus (วิ่งภายในตัวเมืองและขึ้นทางด่วนไปยังจุดหลักๆ), รถบัสของสนามบิน (จอดหลายจุดตั้งแต่นาโงะบนส่วนเหนือของเกาะไปจนถึงสนามบินในนาฮะ) และรถบัสทัวร์สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ อย่างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอุมิ นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์นำทางการเดินทางด้วยรถบัส (มีภาษาอังกฤษ) ซี่งระบุข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและเส้นทาง รวมถึงบอกผู้ใช้ให้ทราบว่ารถบัสที่รออยู่นั้นอยู่ตรงจุดไหนแล้ว

ภายในรถบัสมีจอภาพแสดงจุดหมายที่ใกล้จะถึงในภาษาญี่ปุ่น, อังกฤษ, จีนและเกาหลี ในกรณีของรถบัสทั่วไป คนขับจะบอกชื่อป้ายเป็นภาษาญี่ปุ่น การคอยมองจอไว้และกดปุ่มจอดเมื่อเห็นจุดหมายของคุณจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่หากเป็นรถบัสสำหรับท่องเที่ยวก็จะมีการอัดเสียงในภาษาอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้ทันทีว่าใกล้ถึงที่หมายแล้ว

รถบัสรับการชำระเงินด้วย IC Card แต่ก็ควรตรวจเตรียมเหรียญเงินเผื่อไว้ด้วยในกรณีที่ยอดเงินในบัตรไม่เพียงพอ ในส่วนของค่าโดยสารตายตัวตามรถบัสสำหรับท่องเที่ยว มักจะมีการเก็บค่าโดยสารก่อนที่จะออกรถ แต่ในกรณีของรถบัสทั่วไป ค่าโดยสารจะแตกต่างกันไปตามระยะทาง หากจ่ายด้วยบัตร IC Card คุณต้องนำบัตรไปแตะที่เครื่องอ่านทั้งตอนขึ้นและลงรถ หากจ่ายด้วยเงินสด ต้องต้องหยิบตั๋วในขณะโดยสารและใส่มันลงไปในเครื่องพร้อมกับเงินตอนลงจากรถ แม้ว่าเครื่องนี้จะแตกแบงค์ 1,000 เยนได้ (รถบัสส่วนใหญ่ไม่รับแบงค์ 5,000 หรือ 10,000 เยน) แต่ก็ไม่มีบริการแลกเหรียญ จึงควรเตรียมเหรียญ 10 เยนติดตัวไว้ด้วย

ละแวกชาตัน (ส่วนกลางของเกาะโอกินาว่า)

ระยะเวลา: จากนาฮะ (โดยรถบัส) ประมาณ 1 ชั่วโมง

ค่าโดยสาร: ประมาณ 740 ~ 840 เยน

จุดห้ามพลาด: หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ, หาดอาราฮะ, ร้านรองเท้า OKICHU

ละแวกอิโตมัน (ตอนล่างของเกาะโอกินาว่า)

ระยะเวลา: จากนาฮะ (โดยรถบัส) - ประมาณ 1 ~ 2 ชั่วโมง

ค่าโดยสาร: ประมาณ 900 ~ 1,070 เยน

จุดห้ามพลาด: พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพโอกินาว่า, พิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิเมยูริ, สวนอนุสรณ์สันติภาพโอกินาว่า

3. เดินทางไปยังเกาะรอบนอก

หาดทราย ทิวทัศน์ และการให้บริการที่ไม่ด้อยไปกว่าเกาะหลัก ทั้งหมดทำให้เกาะรอบนอกของโอกินาว่าควรค่าแก่การแวะไปชมเช่นกัน บางเกาะยังทำให้คุณได้เข้าใจวิถีชีวิตแบบโอกินาว่าดั้งเดิมมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากผู้คนมักผูกพันอยู่กับวัฒนธรรมพื้นเมืองมากกว่าคนในเกาะหลัก คุณจะได้เห็นอาคารแบบบ้านๆ หลังคาสีแดงตั้งเรียงรายกันและพบกับผู้คนที่ชอบการเฮฮาสังสรรค์

เนื่องด้วยเหตุผลด้านจำนวนประชากร เกาะเล็กๆ หลายแห่งจึงไม่มีสนามบิน แต่ถึงมีก็รองรับเที่ยวบินได้ไม่มาก ด้วยเหตุนี้ วิธีเดินทางที่ง่ายที่สุดจึงหนีไม่พ้นการเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่

เกาะเหล่านี้มีชื่อเสียงมาจากหาดทรายและทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามที่ยังไม่ถูกมนุษย์รุกล้ำ ในขณะเดียวกัน แต่ละเกาะก็จะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วย

นั่งเครื่องบินเที่ยวสั้นๆ

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เกาะรอบนอกของโอกินาว่าบางเกาะก็มีสนามบินเล็กๆ (เช่น สนามบินของอิชิงากิและมิยาโกะจิมะ) ด้านล่างนี้คือตัวอย่างบางส่วนของสนามบินในเกาะรอบนอกที่มีไว้ให้บริการระหว่างเกาะด้วยกันโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินสั้นๆ ไปยังเกาะที่คุณต้องการหรือบินต่อไปยังเกาะที่อยู่ห่างไกลก็สามารถทำได้

・สนามบินคุเมะจิมะ (Kumejima Airport)

คุเมจิมะ ตั้งอยู่ห่างจากนาฮะไปทางตะวันตกไม่ถึง 100 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักกันดีจากหาดทรายบริสุทธิ์และน้ำที่ใสสะอาดเช่นเดียวกับเกาะรอบนอกอื่นๆ มีจุดท่องเที่ยวดังๆ เป็นทาทามิอิชิ (หินริมหาดที่ดูคล้ายกระดองเต่า) หน้าผาฮิยาโจบันตะและซากปราสาทอุเอกุซุคุ (Uegusuku Castle Ruins)

แม้ว่าจะเป็นที่รู้จักไม่มากเท่าเกาะอื่นๆ แต่คุเมจิมะก็เป็นที่ตั้งของสนามบินเล็กๆ ที่ให้บริการเที่ยวบินหลายเที่ยวต่อวัน

สนามบินคุเมจิมะมีแค่สายการบิน JAL ให้บริการเพียงสายการบินเดียวเท่านั้น ส่วนสายการบินที่ให้บริการระหว่างเกาะจะเป็นสายการบินในเครือเดียวกันที่ชื่อว่า JTA และ RAC เส้นทางบินมายังคุเมจิมะมีแค่ระหว่างสนามบินคุเมจิมะกับสนามบินนาฮะเท่านั้น

ระยะเวลา:

จากสนามบินนาฮะ: ประมาณ 30 นาที
จากท่าเรือโทมาริ (นาฮะ): ประมาณ 3 ~ 4 ชั่วโมง (โดยเรือเฟอร์รี่)

ค่าโดยสาร: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

จุดห้ามพลาด: ลานหินทาทามิ, หน้าผาฮิยาโจะบันจะ, ซากปราสาทอุเอกุซุคุ

                    

・สนามบินโยนากุนิ (Yonaguni Airport)

เกาะโยนากุนิโด่งดังด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามแสนสวย เป็นที่นิยมมากในหมู่นักประดาน้ำ ที่นี่เป็นที่ตั้งของโบราณสถานใต้น้ำที่เกิดจากการทับซ้อนกันของหินทรงเรขาคณิตก้อนโตซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักประดาน้ำ สำหรับผู้ที่ชอบเที่ยวบนบก โยนากุนิยังเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงม้าแคระอีกด้วย

ตัวสนามบินสะท้อนให้เห็นถึงขนาดที่ไม่ใหญ่โตมากของเกาะ ประกอบไปด้วยเทอร์มินอลและทางวิ่งเล็กๆ มีสายการบินให้บริการอยู่เพียงสายเดียว คือ Ryukyu Air Commuter โดยให้บริการเที่ยวบินไป-กลับนาฮะ 1 เที่ยวต่อวัน และระหว่างอิชิงากิ 3 เที่ยวต่อวัน

ระยะเวลา:

จากสนามบินนาฮะ: ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
จากสนามบินอิชิงากิ: ประมาณ 30 นาที

ค่าโดยสาร: ตรวจสอบได้จากทางเว็บไซต์ของสายการบิน

จุดห้ามพลาด: อนุสรณ์โยนากุนิ, จุดตะวันตกสุดของญี่ปุ่น, แหลมอิริซากิ

นั่งเรือเฟอร์รี่

・ควรแวะไปเกาะไหนดี?

เกาะรอบนอกของโอกินาว่าส่วนใหญ่จะมีท่าเรือที่รองรับเรือเฟอร์รี่ที่เดินทางไปมาระหว่างเกาะหลัก รวมถึงระหว่างเกาะรอบนอกด้วยกันเอง จุดที่ง่ายที่สุดในการเดินทางไปยังเกาะรอบนอก คือ ท่าเรือนาฮะ (Naha Port) เนื่องจากเกาะเหล่านี้มักตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด

เกาะที่เดินทางจากท่าเรือนาฮะได้สะดวก ได้แก่ ซามามิ, อากุนิ, โทคาชิกิและโทนากิ โดยสามารถนั่งเรือต่อจากโทนากิไปยังคุเมจิมะได้อีกด้วย

เกาะรอบนอกเหล่านี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเล็กๆ แต่หากเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่สุดในหมู่เกาะก็จะมีบริการเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะย่อยด้วย ตัวอย่างของเกาะใหญ่ๆ เหล่านี้ ได้แก่ ซามามิ, มิยาโกะจิมะและอิชิงากิ ในส่วนของอิชิงากิยังมีเส้นทางไปยังจุดดำน้ำยอดฮิตของโยนากุนิด้วย

ด้านท่าเรือโมโตบุก็จะมีเส้นทางที่เชื่อมต่อโดยตรงกับเกาะอิเอะและเกาะอิเซนะ สามารถมองเห็นได้จากตอนเหนือของเกาะหลักโอกินาว่าในวันที่ฟ้าโปร่ง

เกาะซามามิ
ระยะทาง: จากท่าเรือโทมาริ (นาฮะ) ประมาณ 50 นาทีโดยเรือด่วน / ประมาณ 2 ชั่วโมงโดยเรือเฟอร์รี่
ค่าโดยสาร: ประมาณ 4,090 เยน (ตั๋วไป-กลับสำหรับผู้ใหญ่)
จุดห้ามพลาด: หาดฟุรุซามามิ, จุดชมวิวภูเขาทาคาสึกิยามะ

4. หนีความวุ่นวายไปพักใจที่โอกินาว่า แดนสวรรค์เขตร้อนของญี่ปุ่น!

แม้โอกินาว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น แต่ที่นี่ก็เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในพื้นที่อื่นของประเทศ ทั้งวัฒนธรรมที่เปี่ยมสีสัน ธรรมชาติและบรรยากาศดีๆ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดท่องเที่ยวในฝันของผู้คนทั้งจากในและนอกประเทศ

แม้การเดินทางในจังหวัดนี้อาจจะดูลำบากอยู่บ้าง แต่เรารับรองว่าจังหวัดที่เป็นหมู่เกาะแห่งนี้จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำได้อย่างแน่นอน

Title image credit (clockwise from top left): rphoto7 / Shutterstock.com, bbipic / Shutterstock.com, TAKAHIRO KUBO / Shutterstock.com, Masami.K /Shutterstock.com

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !