ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับผมสวยเสกได้ในร้านทำผมที่โตเกียว
ในโตเกียวคับคั่งไปด้วยร้านทำผมมากกว่าสองหมื่นร้าน ทำให้การหาร้านทำผม 'ที่ใช่' ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้เราเลยชวนคุณมารู้จักหลักการง่ายๆ ที่จะทำให้ภารกิจการเข้าร้านทำผมในญี่ปุ่นของคุณราบรื่นขึ้นมาได้ในพริบตา (บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก TOKYO BEAUTY STARS)
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ตามหาร้าน 'ที่ใช่'
ถ่ายภาพโดย TOKYO BEAUTY STARSหากคุณเป็นคนรักการเดินทาง คุณอาจจะเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นรอบๆ เมืองต่างแดน ไปกับเป้หนึ่งใบ ดื่มด่ำกับทิวทัศน์แปลกตา เสียงสนทนาภาษาแปลกหู สอดส่องสายตาหาร้านทำผมที่น่าสนใจ และเปิดประตูเข้าไปเสี่ยงดวงกับประสบการณ์แปลกใหม่ อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่คุณจะไม่ได้คิวทำผมในทันที จนอาจจะกระทบกับแผนการเดินทาง และวิธีนี้ก็ไม่รับประกันว่าคุณจะได้เจอกับร้านทำผม 'ที่ใช่'
ถ้าคุณรู้สึกสนุกกับการเดินเข้าร้านทำผมแม้จะไม่มั่นใจว่าจะสื่อสารกับช่างทำผมรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน เราขอชื่นชม และแน่ใจว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
แต่ถ้าคุณอยากจะหาร้านทำผมที่สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ ลองเข้าไปดูรีวิวในเว็บไซต์ เช่น TripAdvisor หรือ Yelp หรือสังคมออนไลน์อื่นๆ อย่างเพจใน Facebook หรือ Instagram ที่แนะนำเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น สำหรับคนที่พักในโรงแรมก็สามารถถามจากพนักงานในโรงแรมได้เช่นกัน
อีกหนึ่งแหล่งข้อมูลคือเว็บไซต์ TOKYO BEAUTY STARS ซึ่งออกแบบมาสำหรับการนัดร้านทำผมโดยเฉพาะ ให้บริการหลากหลาย ทั้งจองเวลาทำผมออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนลดพิเศษ รับบริการจัดผมหรือแพ็กเกจทรีตเมนต์แบบพิเศษ ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าบริการล่วงหน้า
TOKYO BEAUTY STARS
หรือถ้าใครขี้เกียจเปิดแท็บอื่นไปหาข้อมูล ทางเราก็ได้รวบรวมร้านทำผมที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวในโตเกียวมาให้คุณแล้วถึง 11 ร้านด้วยกัน :
11 ร้านทำผมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวก็เข้าได้
2. จองร้าน 'ที่ใช่' อย่างไรไม่ให้หลุดมือ!
ถ่ายภาพโดย Derek A., Flickrแม้จะได้พบกับร้านทำผมที่ถูกใจ แต่ก็มีโอกาสน้อยนิดมากที่คุณจะได้ทำผมทันที ส่วนใหญ่คุณมักจะต้องรอ หรือที่แย่กว่านั้นคือร้านอาจจะมีนัดจนเต็มหมดทั้งวันหรือทั้งสัปดาห์ ในกรณีเช่นนั้นคุณอาจจะสามารถนัดทำผมในวันถัดไปหรือสัปดาห์ถัดไปได้ ขึ้นอยู่กับว่าร้านได้รับความนิยมหรือมีงานยุ่งมากแค่ไหนในช่วงเวลานั้นๆ ถ้าหากสุดท้ายแล้ว ร้านนั้นไม่มีคิวว่างเลยจนถึงวันที่คุณต้องขึ้นเครื่องบินกลับ อย่าเสียใจไป จงอย่าลืมว่าในโตเกียวมีร้านทำผมร้านอื่นให้คุณเลือกอีกมากกว่า 20,000 ร้าน!
แม้ร้านทำผมบางร้านจะโฆษณาตัวเองว่าสามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่คุณก็ยังอาจจะพบกับความติดขัดอยู่ดีหากเลือกจะติดต่อผ่านโทรศัพท์ เนื่องจากคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะรู้สึกไม่มั่นใจที่จะพูดภาษาอังกฤษ ดังนั้นการจองผ่านเว็บไซต์ หรือ ฝากให้พนักงานที่โรงแรมช่วยติดต่อทางร้านให้ น่าจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจกว่าอย่างแน่นอน
3. พกอะไรเข้าไปในร้าน 'ที่ใช่'
ถ่ายภาพ โดย TOKYO BEAUTY STARS"เอ่อ..." และ "อ่า.." คือคำตอบยอดนิยมของลูกค้า สำหรับคำถามที่ว่า "ทำทรงอะไรดีคะ" จากช่างทำผมหน้าตายิ้มแย้ม
คนส่วนใหญ่มักจะลังเลว่า จะเซอร์ไพรส์เพื่อนและครอบครัวโดยการเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนลุคไปโดยสิ้นเชิง หรือควรจะตัดทรงเดิมๆ ที่แม้จะน่าเบื่อแต่มั่นใจได้ว่าตัดแล้วจะไม่พังแน่ๆ
ไม่ว่าคุณจะเลือกทรงไหนก็ตาม การพกรูปทรงผม หรือสีผมที่คุณอยากได้ไปด้วย ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเสมอ นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้ว ก็ยังช่วยให้ช่างทำผมเข้าใจความต้องการของคุณได้โดยไม่ต้องพยายามข้ามกำแพงภาษามากนัก ...ดังคำกล่าวที่ว่า "ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดได้นับพัน" ขอแสดงความยินดีด้วยที่ในหนึ่งพันนั้นก็มีคำอธิบายทรงผมของคุณรวมอยู่เช่นกัน
ถึงจะเลือกไปทำผมยังร้านที่สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ การดาวน์โหลดแอพพลิเคชันแปลภาษาติดโทรศัพท์ของคุณไปด้วยก็ยังคงเป็นความคิดที่ดีกว่า มันจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวทันทีถ้าช่างทำผมสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้น้อยกว่าที่คาดไว้ แอพพลิเคชันแต่ละตัวก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับแอพพลิเคชันที่ใช้ง่ายและครอบคลุมที่สุด เราขอแนะนำ Google Translate ที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะแปลภาษาจากเสียงพูดโดยตรง หรือจะแสกนข้อความด้วยกล้อง หรือถ้าไม่ถูกใจก็ลองเผื่อเวลาสักนิดมานั่งอ่านรีวิวและทดลองหาแอพพลิเคชันแปลภาษาที่ถูกใจตัวเองที่สุดเตรียมไว้ก่อนออกจากบ้าน เพราะนอกจากจะช่วยตอนไปร้านทำผมแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ตลอดทัั้งการเดินทางอีกด้วย
4. บอกความต้องการของคุณ
ถ่ายภาพ โดย David Pursehouse, Flickrขั้นแรกให้ลองถามพนักงานดูว่ามีรายการการให้บริการ และแคตาล็อกสีผมเป็นภาษาอังกฤษหรือไม่ รายการเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพตัวเลือกและชื่อเรียกสีได้ชัดเจน และคุณกับช่างทำผมก็จะตกลงความยาว สีผม และทรงผมได้สะดวกขึ้นมาก และถ้าคุณพกรูปภาพทรงผมในฝันไปด้วย จังหวะนี้แหละที่ควรจะเปิดมันออกมาใช้เป็นไพ่ตาย
สำหรับคนที่มีอาการแพ้ หรือเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีฝังใจ อย่าลังเลที่จะแจ้งอาการให้ช่างทำผมทราบ แอพพลิเคชันแปลภาษาที่ดาวน์โหลดไว้ก็จะได้ออกโรงตอนนี้เอง ภาษากายอาจจะเพียงพอสำหรับการบอกทรงผมหรือความยาวที่ต้องการ แต่ในกรณีของชื่อสารเคมีที่คุณมีอาการแพ้ ควรใช้คำศัพท์ที่ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจเป็นอันตรายได้
เกร็ดเล็กๆ ที่น่าสนใจข้อหนึ่ง คือร้านทำผมในญี่ปุ่นมักจะมีการบริการพิเศษเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ และรู้สึกสบายมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ก่อนและหลังการตัดผมจะมีบริการสระผมแบบเต็มสูตรบนเก้าอี้ที่เอนหลังได้จนสุด เรียกว่า เก้าอี้ยูเมะ (ยูเมะ แปลว่า ความฝัน) ให้ลูกค้าสามารถผลอยหลับไปอย่างผ่อนคลายได้ระหว่างที่รับบริการอันแสนใส่ใจ หลังจากการตัดและทำสีผมอันยาวนานจนหลายคนอาจจะรู้สึกกระหายน้ำ ร้านบางร้านก็จะมีบริการเครื่องดื่มฟรีให้อีกด้วย
สิ่งเหล่านี้ทำให้การไปทำผมใช้เวลายาวนานกว่าที่คุณคุ้นเคย ดังนั้นควรจะเผื่อเวลาไว้ให้มากพอ จะได้ไม่ต้องรีบร้อนวิ่งออกจากร้านไปเที่ยวที่อื่นต่อระหว่างที่ยังย้อมผมไปได้แค่ครึ่งหัว
5. วัฒนธรรมและมารยาทแบบญี่ปุ่น
ถ่ายภาพ โดย TOKYO BEAUTY STARSคนญี่ปุ่นไม่คุ้นชินกับการไม่ตรงเวลา ร้านทำผมส่วนใหญ่จะยกเลิกการจองของคุณทันทีหากคุณไปสายมากกว่า 15 นาที โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทางที่ดีพยายามไปถึงก่อนเวลานัดสักประมาณ 5 ถึง 10 นาที มันอาจจะดูนานเกินไปสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับความตรงเวลาของประเทศนี้ แต่ลองมองว่ามันเป็นการศึกษาวัฒนธรรมของประเทศดู แล้วคุณอาจจะรู้สึกสนุกกับการวางแผนเวลาเป๊ะๆ ในการเดินทางไปกับตารางรถไฟและคนอื่นๆ ที่ตรงเวลาเป๊ะๆ เช่นกัน
ถ้าคุณมาเที่ยวกับเพื่อนหลายคนและเพื่อนในกลุ่มไม่ได้สนใจจะทำผม แนะนำให้แยกไปร้านทำผมเฉพาะกลุ่มที่อยากจะลองทำผมจริงๆ เพราะร้านทำผมที่แน่นขนัดอาจจะไม่มีที่พร้อมรับรอง หากมีเพื่อนมากกว่าหนึ่งคนมานั่งรอระหว่างคุณทำผม
นอกจากนี้ การต่อราคาไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทำในสังคมญี่ปุ่นโดยเฉพาะในโตเกียว ยกเว้นกรณีพิเศษ เช่น ช่างทำผมย้อมสีหน้าผากของคุณไปด้วยระหว่างทำสีผม ในกรณีที่ทางร้านให้บริการผิดพลาดจริงๆ คุณสามารถต่อรองราคาลงได้ หรือบางครั้งอาจจะได้รับบริการฟรีเลยด้วยซ้ำไป
PIXTAโตเกียวเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน บางครั้งคุณอาจจะได้เจอเรื่องไม่คาดคิดตามถนน แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณต้องการ ผู้คนก็ยินดีจะให้ความช่วยเหลือเต็มที่เสมอ แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดภาษาอังกฤษสักคำเลยก็ตาม
ขอให้มีความสุขกับผมทรงใหม่ และการเดินเล่นในเมืองโตเกียวนะ ;')
เขียน โดย Ai Faithy Perez
สนับสนุน โดย TOKYO BEAUTY STARS
บทความอื่นที่น่าสนใจ
บทสนทนาในร้านทำผม : คุยกับช่างญี่ปุ่นยังไงให้ได้ทรงผมที่ต้องการ?
11 ร้านทำผมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวก็เข้าได้
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่