8 จุดท่องเที่ยวฤดูร้อนที่น่าไปเยี่ยมชมในฮอกไกโด
ที่ฮอกไกโดอาจจะขึ้นชื่อในเรื่องฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาว แต่จริงๆ แล้วฮอกไกโดในช่วงฤดูร้อนที่หิมะละลายแล้วนั้น ก็เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามตระการตาที่คอยเวลาเผยตัวออกมาเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติที่แท้จริงบนผืนแผ่นดินฮอกไกโด ในครั้งนี้เราจึงขอเขียนบทความแนะนำ "8 จุดท่องเที่ยวฤดูร้อนที่น่าไปเยี่ยมชมในฮอกไกโด" เพื่อให้ทุกคนได้เปลี่ยนมุมมองการท่องเที่ยวธรรมชาติของฮอกไกโด - ดินแดนที่ไปเที่ยวได้ทั้งครอบครัวในทุกฤดู!
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. สวนสัตว์ Asahiyama
Sendai Blog/Flickr mount/Flickr hayami/Flickrสวนสัตว์ Asahiyama (旭川市旭山動物園) นั้นเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อมอบความรักให้แก่สัตว์ทั้งหลาย คาดว่าในตอนนี้เป็นสวนสัตว์ที่โด่งดังไปทั่วประเทศถึงขั้นที่ไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อสวนสัตว์นี้ก็ว่าได้เลยทีเดียว
เสน่ห์อย่างหนึ่งของสวนสัตว์แห่งนี้ก็คือการมาชมสวนสัตว์ได้ทั้งสองฤดูกาลนั่นเอง ในช่วงโกลเด้นวีค (ต้นเดือนพฤษภาคม) ไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม สวนสัตว์แห่งนี้จะเปิดเป็นธีมฤดูร้อน ซึ่งคุณจะได้เห็นตั้งแต่หมีขั้วโลกว่ายน้ำเล่นในน้ำที่เย็นฉ่ำ และสัตว์ชนิดอื่นๆ อีกมากมายที่พร้อมต้อนรับคุณด้วยความกะปรี้กะเปร่า
เว็บไซต์: www.city.asahikawa.hokkaido.jp/asahiyamazoo/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Kuranuma, Higashiasahikawacho, Asahikawa City, Hokkaido 078-8205 (Google Map)
2. ทะเลสาบ Mashu
ที่ทะเลสาบ Mashu (摩周湖) แห่งนี้มีจุดชมวิวอยู่ด้วยกัน 3 จุด โดย "จุดชมวิวที่แรก" จะเปิดให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าชม เสน่ห์ของทะเลสาบ Mashu ซึ่งก็คือวิวทิวทัศน์ของทะเลหมอกอันสวยงาม หมอกทั้งหนาและแผ่ออกไพศาลปกคลุมไปทั่วป่าเขา ที่นี่จึงถูกเรียกว่าเป็น Mashu ทะเลสาบแห่งหมอก (霧の摩周湖) นอกเหนือจากนี้ทะเลสาบกลางปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ยังโด่งดังในเรื่องความใสของน้ำ ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในโลกเท่านั้นที่จะมีน้ำที่ใสเท่านี้
ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนจะเป็นช่วงเวลาที่ทะเลสาบแห่งนี้มีทิวทัศน์สวยงามที่สุด หลายๆ ครั้งที่ทะเลหมอกจะปรากฏขึ้นและจางหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับทะเลสาบสีน้ำเงินโผล่หน้าออกมาอย่างสง่างามให้เราได้ชมกัน การสังเกตการณ์การเปลี่ยนแปลงของทะเลหมอกที่เกิดขึ้นอย่างลึกลับก็เป็นจุดดึงดูดเช่นเดียวกัน
เว็บไซต์: www.masyuko.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Teshiga Genya, Kawakami District, Hokkaido 088-3222 (Google Map)
3. Goryokaku
Goryokaku โกเรียวคาคุ (五稜郭) เป็นป้อมปราการดีไซน์ฝรั่งเศสที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ป้องกันผู้บุกรุกจากทางด้านทิศเหนือในช่วงปลายยุคสมัยเอโดะ ที่นี่ก็เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ Hijikata Tojizou (土方歳三) แห่งโชกุนกลุ่ม Shinsengumi ก็มาเสียชีวิตในศึกที่ Goryokaku แห่งนี้
หากมองจากหอคอย Goryokaku Tower คุณจะสามารถเห็นลักษณะโดยรวมของป้อมปราการที่เป็นเหมือนรูปดาวได้ ทัศนียภาพของที่นี่จะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาล เราแนะนำว่าคุณสามารถไปเยี่ยมชม Goryokaku ได้ตลอดทั้งปี ในช่วงหน้าร้อน วิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนจะกระจ่างใสสวยงามเป็นพิเศษ จึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวกัน
เว็บไซต์: www.goryokaku-tower.co.jp/html/index/en.html
เว็บไซต์: www.goryokaku-tower.co.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Goryokaku-cho 44, Hakodate City, Hokkaido 040-0001 (Google Map)
4. หมู่บ้านทานตะวันที่ Hokuryu
หมู่บ้านทานตะวันที่ Hokuryu (北竜のひまわりの里) แห่งนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "ทุ่งทานตะวันอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น" มีเมล็ดทานตะวันทั้งสายพันธุ์ Harurinzo (春りん蔵) Natsurinzo (夏りん蔵) และสายไฮบริดผสม ฯลฯ รวมกันกว่า 1 ล้าน 5 แสนต้นเบ่งบานอยู่ในทุ่ง
ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะจัดเทศกาลดอกทานตะวัน ซึ่งมีทั้งจุดชมวิว เขาวงกต และมุมดอกทานตะวันทั่วโลกที่จัดแสดงดอกทานตะวันมากกว่า 30 สายพันธุ์ให้ทุกท่านได้ชมได้เล่นอย่างเพลิดเพลิน มีบริการรถชมวิวที่พาทุกท่านนั่งไปรอบๆ เพื่อชมทุ่งดอกทางตะวันได้อีกด้วย ฉะนั้นที่นี่จึงเป็นจุดท่องเที่ยวในฤดูร้อนที่คุณจะพลาดไม่ได้เลย
เว็บไซต์: hokuryu-kankou.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Itaya 143-2, Hokuryu-cho, Uryugun, Hokkaido 078-2511 (Google Map)
5. ภูเขา Yotei
ที่ภูเขา Yotei (羊蹄山) นั้นมีคอร์สปีนเขาให้เลือก 4 คอร์สด้วยกัน โดยแต่ละคอร์สนั้น ไม่ว่าจะพาเด็กๆ มาก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการปีนเขาได้ ภูเขา Yotei แห่งนี้เป็นหนึ่งในบรรดา 100 ภูเขาชื่อดังของญี่ปุ่น จัดว่าเป็นตัวแทนภูเขาจากเกาะฮอกไกโดก็ว่าได้เลย
บางคนอาจเรียกภูเขานี้ว่า Ezo Fuji (蝦夷富士) เพราะว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับภูเขาไฟฟูจิ ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมไปจนถึงต้นสิงหาคมจะเป็นช่วงที่ต้นไม้กว่าหลายร้อยชนิดที่หาพบได้แค่ตามภูเขาสูงจะออกดอกเบ่งบานสวยงาม จึงเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการปีนเขาชมธรรมชาติ
เว็บไซต์: www.town.kutchan.hokkaido.jp/tourism/yoteizan/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: บริเวณทางตอนใต้ของเขต Shiribeshi, Hokkaido (Google Map)
6. ภูเขา Showa-shinzan
ภูเขา Showa-shinzan (昭和新山) ที่ได้รับการบันทึกเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประเทศ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตแปลกๆ มากมาย ในช่วงต้นของยุคโชวะได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ทำให้พื้นดินที่เคยราบยกขึ้นมา ในภายในเพียงแค่ 2 ปีก็กลายเป็นลักษณะเช่นนี้ ปัจจุบันยังมีภาพลักษณ์โดดเด่นว่าเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยควันลอยพวยพุ่ง ราวกับพร้อมจะปะทุอยู่ตลอด
ภูเขา Showa-shinzan พร้อมด้วยภูเขาอื่นรอบๆ อย่างเช่นภูเขา Usu ได้ถูกบันทึกเป็น Global Geopark หรืออุทยานทางธรณีวิทยาอีกด้วย แน่นอนว่าที่นี่ก็เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งจุด ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว อาทิเช่น โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ฯลฯ อยู่ครบครัน เหมาะสำหรับการมาเยี่ยมเยียนในช่วงฤดูร้อนเป็นอย่างยิ่ง
เว็บไซต์: www.bes.or.jp/showa/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Sobetsu-cho, Usu-gun, Hokkaido (Google Map)
7. ทะเลสาบ Shikotsu
เดินทางจากเมืองซัปโปโรไปได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง สถานที่นั้นก็คือทะเลสาบแห่งความลึกลับในฮอกไกโด ทะเลสาบ Shinkotsu (支笏湖)
ประวัติของทะเลสาบ Shinkotsu นั้นเริ่มมาตั้งแต่สี่หมื่นปีก่อน กล่าวกันว่าแรกเริ่มแล้วทะเลสาบไม่ได้มีลักษณะแบบปัจจุบัน แต่จะเป็นวงกลม เป็นทะเลสาบแห่งความสงบเสงี่ยม ทราบกันดีว่าเป็นทะเลสาบที่จะไม่กลายเป็นน้ำแข็งแม้ในฤดูหนาว สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันกว้างใหญ่ที่ซ่อนเสน่ห์ไว้มากมายตลอดทั้งสี่ฤดูกาล ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองไปไม่ไกลเลย ฉะนั้นในช่วงฤดูร้อนเองจึงมีผู้คนมากมายมาตั้งแคมป์ที่ทะเลสาบแห่งนี้ และทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน
เว็บไซต์: shikotsukovc.sakura.ne.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Chitose City, Hokkaido (Google Map)
8. ทุ่งดอกลาเวนเดอร์แห่ง Furano
หากพูดถึงฤดูร้อนที่ฮอกไกโดแล้วล่ะก็ สถานที่ที่ต้องไปให้ได้เลยก็คือ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์แห่ง Furano (富良野のラベンダー畑) นั่นเอง ดอกลาเวนเดอร์ที่ว่ากันว่าเพาะพันธ์ุได้ยากนั้น การจะได้ชมมันเต็มตาเต็มสวนคงเป็นเรื่องยาก และสถานที่ที่ทั้งสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศเอื้ออำนวยให้เป็นไปได้ ก็คงมีแต่ที่ Furano ที่นี่เท่านั้น
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมทุ่งลาเวนเดอร์ก็คือช่วงกลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงสิ้นเดือน เพราะว่าช่วงเวลาที่ชมทุ่งนั้นค่อนข้างสั้น เราจึงแนะนำว่าคุณควรจะวางแผนท่องเที่ยวให้ดี เพื่อจะได้มาชมความสวยงามและกลิ่นดอกได้อย่างเต็มที่ในวันที่อากาศดีฟ้าโปร่งใส รับรองว่าจะต้องเป็นช่วงเวลาที่สุดยอดแน่นอน
เว็บไซต์: www.furanotourism.com/jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ที่ตั้ง: Nakafurano, Sorachi-gun, Hokkaido (Google Map)
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่