ย้อนเวลาสู่ยุคซามูไรที่ Aizu - Wakamatsu! เมืองซามูไรแห่งฟุคุชิมะ
หากคุณชอบเมืองญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างเกียวโต เราขอแนะนำให้คุณลองไปเยือนเมือง Aizu-Wakamatsu (会津若松) จังหวัดฟุคุชิมะที่มีประวัติยาวนานให้ได้สักครั้ง! ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักประวัติศาสตร์ของเมืองซามูไรแห่งนี้, สิ่งที่ห้ามพลาด, วิธีการเดินทาง ตามไปดูกันว่าทำไมทุกคนถึงควรแวะที่นี่เมื่อเดินทางมาจังหวัดฟุคุชิมะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ!
*บทความนี้ถูกเขียนขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากจังหวัดฟุคุชิมะ
รู้จักเมือง Aizu - Wakamatsu
เมือง Aizu-Wakamatsu เป็นเมืองหลักในเขต Aizu ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดฟุคุชิมะ เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนี้ และยังเป็นอดีตเมืองปราสาทที่ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งซามูไร" เนื่องจากมีการสืบทอดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับซามูไรเอาไว้มากมายเพื่อให้ผู้คนในยุคปัจจุบันได้ไปสำรวจ พื้นที่ของเมืองนี้เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งจากภูเขาบันได (Bandai) และทะเลสาบอินะวะชิโระ (Inawashiro) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีประโยชน์ต่อการเติบโตและความสำเร็จของอุตสาหกรรมการทำเหล้าสาเกของเมืองนี้ด้วย
วิธีการเดินทางจากโตเกียว
สถานีโตเกียว → โทโฮคุชินคันเซ็น (1 ชั่วโมง 25 นาที) → สถานี Koriyama
สถานี Koriyama → JR สาย Banetsu West Line (1 ชั่วโมง 15 นาที) → สถานี Aizu-Wakamatsu
สิ่งที่ห้ามพลาดใน Aizu - Wakamatsu
กินดื่มบนถนนสาย Nanokamachi (Nanukamachi)
คนส่วนใหญ่ที่เคยไป Aizu-Wakamatsu มาแล้วจะต้องเคยไปถนนชื่อดังอย่าง Nanokamachi (เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนน Nanukamachi) ซึ่งถนนยาว 1.9 กิโลเมตรจากสถานี Nanukamachi แห่งนี้ก็มีชื่อเสียงด้านทัศนียภาพย้อนยุคที่ได้จากสิ่งปลูกสร้างแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารและร้านขายเครื่องดื่มมากมาย รวมไปถึงร้านเหล้าสาเก หากไม่ได้มาที่ถนนนี้จะเรียกได้ว่ายังมาไม่ถึง Aizu-Wakamatsu เลยล่ะค่ะ
ตอนที่พวกเราไปเมืองนี้ เรารู้แค่ว่าจะต้องมากินดื่มที่ถนนนี้ให้ได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรเริ่มที่ตรงไหน พวกเราจึงจองทัวร์กินที่จะพาไปยังร้านที่ดีที่สุดในย่าน ซึ่งผลที่ออกมาก็น่าพอใจมากทีเดียว มาดูกันเลยค่ะว่าพวกเราได้ไปที่ไหนมาบ้าง
→ ร้าน Shibukawa Donya
ร้าน Shibukawa Donya เป็นร้านอาหารชื่อดังบนถนน Nanokamachi ที่เน้นเสิร์ฟอาหารท้องถิ่นแบบดั้งเดิม
ตัวอาคารเกิดจากการผสมผสานอาคารญี่ปุ่นโบราณหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน เช่น คูระ (โกดังญี่ปุ่นโบราณ) ที่สร้างขึ้นในสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 – 1912) และบ้านไม้ในสมัยไทโช (ค.ศ. 1912 – 1926) อาคารแห่งนี้เคยได้รับรางวัลด้านความสวยงามทางสถาปัตยกรรมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตอนไปถึง พวกเราก็รู้สึกทึ่งกับหน้าร้านอันสวยงาม แต่เมื่อเข้าไปด้านในก็ยิ่งรู้สึกประทับใจเพราะที่นี่มีการตกแต่งภายในแบบญี่ปุ่นโบราณ แถมยังมีเตาอิโรริ (Irori เตาหลุมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ใช้ให้ความอบอุ่นในบ้านและประกอบอาหาร) อยู่ด้วย
ในทัวร์นี้ คอร์สอาหารที่เราได้ทาน คือ คอร์ส Tsuru (2,200 เยน) ประกอบด้วยอาหารพื้นเมืองมากมายที่พวกเราไม่เคยทานมาก่อน หลายจานเป็นอาหารที่ทำด้วยปลาแห้ง ซึ่งเป็นสินค้าหลักของเมือง Aizu-Wakamatsu มาอย่างยาวนานเนื่องจากเมืองนี้อยู่ห่างจากทะเล อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบที่ร้าน Shibukawa Donya แห่งนี้ชำนาญเป็นพิเศษ เพราะเคยเป็นร้านขายส่งปลาแห้งมาก่อนในสมัยเมจิ การตากแห้งจะช่วยเพิ่มความกลมกล่อม ทำให้ปลารสชาติดีขึ้น
อีกเมนูที่กลุ่มเราชอบมาก คือ เทมปุระที่มีเนื้อแป้งกรอบเบา แค่รสสัมผัสอย่างเดียวก็อร่อยอยู่แล้ว ยิ่งถูกยกระดับด้วยการจิ้มเกลือชาเขียวก็ยิ่งสุดยอด ไกด์ของเราบอกว่านี่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความหรูหราของร้านอาหารญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ
สำหรับร้านนี้บอกเลยว่าได้อิ่มเอมทั้งอาหารตาและอาหารใจ ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารมีสไตล์ในราคาที่จับต้องได้ ไม่ควรพลาดร้านนี้เลยนะคะ
→ Rakutenka
Rakutenka เป็นร้านอิซากายะ (ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น) ที่โดดเด่นด้วยรูปปั้นทานูกิ (แร็กคูนญี่ปุ่น) ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ถึงแม้ภายนอกจะดูมืดอยู่สักหน่อย แต่ด้านในกลับสว่างสดใสและบรรยากาศดีกว่าที่คิด
ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1987 และได้รับความนิยมในหมู่คนท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีราคาที่สมเหตุสมผล พนักงานเป็นมิตรน่ารัก แล้วยังมีเมนูเครื่องดื่มมากมายหลายชนิดให้เลือกด้วย ไหนๆ ก็มาร้านเหล้ากันแล้วพวกเราเลยสั่งสาเกญี่ปุ่นจากในเมนูมาลองกันหลายๆ แบบ แต่บอกเลยว่าทีเด็ดของร้านนี้อยู่ที่ "บาซาชิ" (Basashi ซาชิมิเนื้อม้าดิบ!)
เพื่อนร่วมทัวร์หลายคนไม่เคยทานบาซาชิมาก่อน และหลายคนก็เลือกที่จะไม่ทานเลยเพราะกลิ่นฉุนรุนแรงของมัน แต่บาซาชิของร้านนี้เสิร์ฟคู่กับซอสมิโซะเผ็ดสูตรพิเศษที่เมื่อทานคู่กันแล้วอร่อยจนหยุดไม่ได้ ไกด์ของเราบอกว่าเคล็ดลับความอร่อยของซอสมิโซะแบบ Aizu อยู่ที่ "กระเทียม" ที่ใช้ในส่วนผสมนั่นเอง เราทุกคนชอบจนต้องซื้อกลับบ้านเป็นของฝากเลยล่ะค่ะ
→ Kura
คาเฟ่เก่าแก่นี้ตั้งอยู่ในคูระเก่า (โกดังญี่ปุ่นโบราณ) ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1879 แต่บอกเลยว่าแค่นี้ยังเจ๋งไม่พอ เพราะด้านในยังตกแต่งเป็นสไตล์เรโทรด้วยของโบราณหลากหลายชนิด แถมยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสูง 4 เมตร ตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของคาเฟ่ด้วย นอกจากนี้ หน้าต่างหลายบานก็ยังทำจากกระจกสีด้วยค่ะ!
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเข้าไปในร้านเราก็ได้พบกับเมนูของหวานที่มีให้เลือกมากมายละลานตาไปหมด เมนูยอดนิยมของร้านนี้ คือ ทาร์ตแอปเปิ้ล (450 เยน) ที่ทำจากแอปเปิ้ลฟุคุชิมะที่มักจะขายเมื่อผลของมันสุกงอมเต็มที่ ทำให้ตัวแอปเปิ้ลมีรสหวานกว่าแอปเปิ้ลญี่ปุ่นพันธุ์อื่นๆ แต่นอกจากแอปเปิ้ลแล้วผลไม้อื่นๆ ที่อยู่ในขนมหวานและเครื่องดื่มที่พวกเราสั่งก็ทั้งสดและอร่อยมากๆ เช่นกัน
การทานของหวานที่ร้าน Kura ถือเป็นการจบวันที่ดีมากๆ สำหรับพวกเรา หากคราวหน้ามีโอกาสมาอีกก็อยากจะกลับมาทานเมนูพิเศษที่มีเฉพาะช่วงกลางวันของที่นี่ด้วย
เราได้โอกาสไปทานทั้ง 3 ร้านนี้กับคุณไกด์อารมณ์ดีที่คอยอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับ Aizu-Wakamatsu ให้เราฟังเป็นภาษาอังกฤษไปตลอดเวลาที่ทานอาหาร ไม่เพียงแต่จะทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เกี่ยวกับเมืองนี้เท่านั้น แต่เรายังได้ทานเมนูอาหารหลากหลายชนิดที่ไม่สามารถหาทานได้ในประเทศอื่น หรือแม้แต่พื้นที่อื่นๆ ของญี่ปุ่นด้วย ทริปนี้ถือเป็นการพบปะผู้คนและการสำรวจพื้นที่ที่น่าตื่นเต้น (และอร่อย) มาก บอกเลยว่าจะต้องหาโอกาสกลับมาอีกแน่นอน!
สำรวจบ้านซามูไรที่ Aizu Bukeyashiki (会津武家屋敷)
Aizu Bukeyashiki เป็นบ้านพักของเหล่าซามูไรชั้นสูงใน Aizu ถึงแม้เราจะใช้คำว่า “บ้าน” แต่ที่จริงแล้ว “บ้าน” แห่งนี้ก็ไม่ได้เล็กเลย เพราะ Aizu Bukeyashiki แห่งนี้ถือเป็นบ้านซามูไรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น บริเวณที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้ประกอบไปด้วยห้องใหญ่ในอาคารหลักจำนวน 38 ห้อง, โรงน้ำชา, โรงสีข้าว, ห้องนิทรรศการ ฯลฯ สาเหตุที่บ้านซามูไรต้องใหญ่ขนาดนี้ ก็เพราะไม่ได้มีเพียงแต่ข้าหลวงของเมือง Aizu และครอบครัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นี่ แต่ยังมีลูกน้องและข้ารับใช้คนอื่นๆ ด้วย
แค่การสำรวจแต่ละห้องและอาคารภายในบริเวณบ้านอย่างเดียวก็กินเวลาไปอย่างน้อยครึ่งวันแล้ว แต่หากคุณยังอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อยก็สามารถไประบายสีของเล่นยุคซามูไรอย่าง "อาคาเบโกะ" (Akabeko ตุ๊กตาวัวแดงสำหรับใช้ไล่ผี) ในบริเวณกิจกรรมเวิร์กชอป หรือไปเดินชิมอาหารพื้นเมืองในย่านร้านอาหารก็ได้เช่นกัน
เดินเล่นในสวน Oyakuen (御薬園 ) : สวนที่สวยที่สุดใน Aizu-Wakamatsu
เมื่อเดินจาก Aizu Bukeyashiki ไปเล็กน้อยก็จะพบกับสวน Oyakuen ซึ่งเป็นสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์แห่งชาติในปีค.ศ. 1932 ชื่อของสวนแปลว่า “สวนสมุนไพร” เพราะที่นี่มีพืชสมุนไพรปลูกอยู่กว่า 400 ชนิด นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าไปนั่งดื่มด่ำกับเซ็ตชาเขียวในอาคาร “Ochayagoten” ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขุนนางแห่ง Aizu เคยมาในอดีตด้วย
หากใครเบื่อความเร่งรีบของบรรยากาศใจกลางเมือง Aizu-Wakamatsu แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองมาพักผ่อนที่สวน Oyakuen ดูค่ะ สวนแห่งนี้ล้อมรอบบ่อน้ำที่จะทำให้คุณสามารถเห็นเงาสะท้อนของต้นซากุระในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้ ทำให้สวนนี้มีสีสันสดใสตลอดทั้งปี และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมขุนนางของ Aizu ในสมัยก่อนถึงรักสวนแห่งนี้กันนัก ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานแสนนาน แต่สวนแห่งนี้ก็ยังทำให้ผู้คนตกหลุมรักได้จนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ
ชิมเหล้าระดับแชมป์สาเก ณ โรงกลั่นเหล้า Suehiro
โรงเหล้า Suehiro ถูกก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1850 และถือเป็นหนึ่งในโรงกลั่นเหล้าชั้นนำของภูมิภาคโทโฮคุ เหล้าสาเกของที่นี่เคยชนะรางวัลมามากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สิ่งที่ทำให้สาเกของที่นี่รสชาติดีก็คือ กระบวนการกลั่นแบบพิเศษที่ผ่านการขัดเกลามานานนับร้อยปี, ข้าวและน้ำคุณภาพสูงจากเขต Aizu, ลักษณะภูมิประเทศที่ห่างไกลจากทะเลและสภาพอากาศที่หนาวเย็นนั่นเอง
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการทัวร์โรงกลั่นเหล้าซึ่งมีไกด์ที่คอยบรรยาย อธิบายขั้นตอนต่างๆ และเล่าประวัติการกลั่นเหล้าให้ผู้ชมได้รับฟังด้วย และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสาเกญี่ปุ่น ทุกคนจะมีเวลาชิมและซื้อเหล้าสาเกกลับบ้านได้ในช่วงท้ายของทัวร์ หรือจะไปลองทานขนมหวานผสมเหล้าสูตรพิเศษของทางร้านที่ขายในร้านกาแฟของโรงกลั่นเหล้าแห่งนี้ก็ได้เช่นกัน!
แช่น้ำพุร้อนบำบัดที่ Higashiyama Onsen (東山温泉)
หมู่บ้านออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปีแห่งนี้ เป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ เนื่องจาก Higashiyama Onsen อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Aizu-Wakamatsu เราขอแนะนำให้มานอนเรียวกัง (โรงแรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น) และแช่ออนเซ็นดูสักครั้งค่ะ
ขุนนาง กวี และนักเขียนชื่อดังในสมัยก่อนมักจะมาที่ Higashiyama Onsen เพื่อพักผ่อน น้ำที่นี่มีคุณภาพสูงสุดในภูมิภาค เชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนังหลายชนิด ประกอบกับทัศนียภาพที่งดงามซึ่งจะช่วยให้ผู้มาเยือนได้พักผ่อนคลายกันอย่างเต็มที่ นอกจากการเดินช็อปปิ้งและแช่ออนเซ็นแล้ว เมืองนี้ยังมีซุ้มยิงปืนอัดลมชิงรางวัล และการแสดงเกอิชาที่คุณสามารถจองบัตรเพื่อชมที่โรงแรมหรือเรียวกังของคุณได้ด้วย
สัมผัสจิตวิญญาณแห่งซามูไรที่ Aizu - Wakamatsu
เมือง Aizu-Wakamatsu เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์อันยาวนานซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจเป็นอย่างมาก ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของซามูไรและสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น หากได้มาเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุก็อย่าลืมแวะมาที่นี่กันบ้างนะคะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่