[รีวิว] 10 กระเป๋า anello® ที่ขายดีที่สุดในช็อปเปิดใหม่ "anello® TOKYO"

ความเป็นมา กระเป๋า anello®

กระเป๋าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในประเทศไทย anello® ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเป็นแบรนด์มาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกระเป๋า anello® ที่รู้จักกันอยู่ทุกวันนี้ เริ่มขายแบรนด์ anello® มาตั้งแต่ปี 2005 แต่ทางตัวบริษัทเองนั้นมีอายุยาวนานกว่า 30 ปีแล้ว โดยบริษัทใหญ่อยู่ที่โอซาก้า และตอนนี้แบรนด์ anello® ก็ได้ขยายสาขาไปทั่วโลกแล้ว

เนื่องจากกระเป๋ามีราคาไม่แพง ทุกคนสามารถจับต้องได้ รวมถึงยังมีการออกแบบและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ได้รับความนิยมสูงไม่ว่าจะเป็นแถบยุโรป อเมริกา หรือเอเชีย รวมถึงที่ประเทศไทยด้วย บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมยังต้องไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นอีก ถ้าอยากรู้เหตุผลก็มาตามดูกันได้เลย

เปิดตัว anello® TOKYO ช็อปแรกใน "โตเกียว"

ล่าสุด anello® แบรนด์กระเป๋าชื่อดังจากญี่ปุ่น ขวัญใจคนไทย ได้เปิดแฟลกชิปสโตร์ใหม่ anello® TOKYO ที่ "ฮาราจูกุ" จังหวัดโตเกียว ในวันที่ 12 ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา ยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ เป็นช็อปที่กว้างขวางบนพื้นที่สี่แยกใหญ่ฮาราจูกุ

ช็อปนี้มีด้วยกันทั้งหมด 2 ชั้น มีกระเป๋าให้เลือกสรรมากมาย แบ่งสินค้าออกเป็น ชั้นที่ 1 จะรวบรวมสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่น และสินค้าออกใหม่ไว้ทั้งหมด ส่วนของชั้นที่ 2 จะเป็นสินค้าที่มีวางขายอยู่ทั่วไป รวมถึงสินค้ารุ่นคลาสสิคด้วยเช่นกัน

มาเริ่มกันที่ชั้นที่ 2 กันดีกว่า ทางขึ้นชั้นสองจะอยู่ด้านข้างของร้าน (ไม่สามารถเดินขึ้นจากด้านในของชั้นหนึ่งได้) เมื่อเปิดประตูเข้ามาที่ชั้นสองก็จะพบกับเจ้ากระเป๋าผ้า anello® แบบออริจินัล สีคุ้นตาที่วางเรียงรายกันอยู่มากมาย และที่คุ้นตามากที่สุดก็คงจะเป็นสีไหนไปไม่ได้นอกจากสีทริปเปิลสุดฮิต (ขาว, กรม, แดง) ซึ่งใครเห็นก็ต้องรู้ทันทีว่านี่แหละ anello®

กระเป๋าของ anello® มีให้เลือกมากมายหลายแบบ เพื่อให้ตอบสนองทุกความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น แบคแพคหลากหลายขนาดที่มีดีไซน์โดดเด่น บ่งบอกความเป็น anello® ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ก็ยังมีกระเป๋าคาดอก กระเป๋าคาดเอว กระเป๋าถือ และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าหากต้องการหากระเป๋าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง เพียงแวะเข้ามาที่ anello® ก็รับรองว่าได้กระเป๋ากลับไปใช้งานอย่างแน่นอน

นอกจากกระเป๋าผ้าแล้ว anello® ยังมีกระเป๋าหนัง (เทียม) ให้เลือกช็อปกันอีกด้วย ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบ หลากหลายขนาดตามการใช้งานเช่นกัน แต่ราคาก็จะสูงกว่าแบบกระเป๋าผ้าเล็กน้อยเนื่องจากว่าสามารถใช้งานได้ในหลายโอกาสมากกว่านั่นเอง

ในร้านยังมีผ้าตัวอย่างของกระเป๋าแต่ละสีให้เลือกชมแบบเก๋ๆ อีกด้วย ถ้าอยากลองดูสีของกระเป๋าแบบไหน ก็สามารถเลือกดูที่ตัวอย่างสีนี้ได้เลย

แถวระดับตำนาน เรียกได้ว่าในโซนที่เห็นด้านบนนี้คือรุ่นคลาสสิกที่ทำให้ anello® เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ และรุ่นนี้ก็ยังคงขายดีอยู่จนถึงปัจจุบัน ถ้าแวะมาที่แฟลกชิปสโตร์ใหม่ anello® TOKYO ที่ "ฮาราจูกุ" โตเกียว ล่ะก็มีให้ช็อปกันอย่างหนำใจเลยทีเดียว

แบคแพคมินิ รุ่นสุดฮิต (สีขาว, กรม, แดง) ที่ออกวางขายมายาวนานเกินกว่า 5 ปีแล้ว และยังคงขายดีอยู่ในปัจจุบัน สมัยแรกๆ ที่วางขายบอกได้เลยว่าหาตัวจับยากสุดๆ กว่าจะได้มาต้องต่อสู้ฟาดฟันกันไม่น้อย ใครได้มาสะพายต้องบอกเลยว่าเก๋สุดๆ แถมใช้งานง่ายอีกด้วย

กระเป๋าคาดอกลายคาโม่ ตัวนี้ก็คลาสสิคสุดๆ เป็นกระเป๋าคาดอกรุ่นแรกๆ ที่ออกมาในตลาด ใบใหญ่แต่น้ำหนักเบา เก็บของได้เยอะ และเท่ห์สุดๆ ไปเลย

ไปดูในส่วนของชั้นที่ 1 กันบ้าง ตามที่บอกตอนต้นว่า ชั้น 1 จะรวบรวมของที่เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น และของออกวางขายใหม่ไว้เท่านั้น ก้าวแรกที่เดินเข้าไปบอกได้เลยว่ารู้สึกตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเหมือนเข้าร้าน anello® ที่ไม่เหมือนกับ anello® ที่เราเคยรู้จัก มีกระเป๋าหน้าตาแปลกใหม่ และสีใหม่ๆ ที่สะดุดตาไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงกระเป๋ารูปด้านบนสีขาวเนื้อตัดกับสีดำ ที่เป็นตัวลิมิเต็ดอิดิชั่นวางขายเฉพาะที่สาขาแฟลกชิปสโตร์ใหม่ที่ "ฮาราจูกุ" โตเกียว เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมี เป้สะพายข้างขนาดมินิทรงคลาสสิค ที่เหมือนนำเอากระเป๋าเป้รุ่นคลาสสิคไปย่อส่วนและใส่สายสะพายข้างให้สาวๆ ได้ช็อปไปสะพายกันเก๋ๆ อีกด้วย

สมแล้วที่เป็นแบรนด์ที่ตามเทรนด์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เทรนด์ปีนี้ "สีพาสเทล" ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์

สมแล้วที่เป็นแบรนด์ที่มีการตามเทรนด์และอัพเดทกระเป๋าดีไซน์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ในปีนี้สีพาสเทลมาแรงมากๆ anello® ก็ออกกระเป๋าเป้ในสีพาสเทล ซึ่งดีไซน์และสีสันดูสะดุดตาสุดๆ สายแบคแพคเกอร์ต้องโดน เมื่อได้ลองจับยกดูแล้วถึงกับตกใจว่า "น้ำหนักเบา" จริงๆ และเมื่อได้ลองสะพายก็บอกได้เลยว่าดูกะทัดรัดสุดๆ ใช้เดินทาง หรือปีนเขาน่าจะสะดวกมาก

10 อันดับกระเป๋า anello® ขายดีประจำ anello® TOKYO

1. RE:MODEL Hinge Clasp Mini Shoulder Bag [Japan Limited] 3,500 เยน (ไม่รวมภาษี)

กระเป๋าเป้ไซส์มินิที่ย่อส่วนจากกระเป๋าทรงคลาสสิกลงมา และเพิ่มสายสะพายข้างให้ได้สะพายกันเก๋ๆ ในราคาเบาๆ อีกด้วย

2. ATELIER Mini Shoulder Bag 2,900 เยน (ไม่รวมภาษี)

กระเป๋าทรง 2-way สีโทนชมพู จะถือก็ดี จะสะพายข้างก็ได้ ใช้งานสะดวก สามารถถอดสายสะพายได้ (พนักงานแอบกระซิบมาว่าสีโทนชมพูฮิตมาก)

3. CHUBBY 2WAY Boston Bag Regular 2,900 เยน (ไม่รวมภาษี)

กระเป๋าโทนสีชมพูอีกใบหนึ่งที่ขายดีไม่แพ้ใบเมื่อสักครู่ ซึ่งใบนี้สามารถใช้เป็นกระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋าถือก็ได้เช่นกัน แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าและใส่ของได้มากกว่า

4. TOY TOTE 2WAY Tote Bag 2,900 เยน (ไม่รวมภาษี)

กระเป๋าช็อปปิ้งแบคใบใหญ่ใส่ของได้เยอะ เหมาะสำหรับใช้ไปซื้อของเยอะๆ หรือจะใช้ไปจ่ายตลาดก็ได้ไม่ว่ากัน

5. NOSTALGIC Multifunctional Backpack 6,500 เยน (ไม่รวมภาษี)

ถึงจะเป็นแบคแพคที่พึ่งวางขายใหม่ได้ไม่นาน แต่ด้วยดีไซน์ และสีสันที่สวยงามน่าใช้ แถมยังสามารถนำไปใช้ได้ตลอดเวลาในราคาเบาๆ จึงทำให้แบคแพคใบนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว

6. RETRO Hinge Clasp Backpack Regular 4,900 เยน (ไม่รวมภาษี)

กระเป๋าเป้ทรงคลาสสิคจากหนังเทียมสีแดงเลือดหมูที่ฮิตมาตั้งแต่วางขายแรกๆ และยังขายดีอยู่ในปัจจุบัน

7. RE:MODEL Faux Leather Hinged Clasp Boston Bag medium [Japan Limited] 4,200 เยน (ไม่รวมภาษี)

กระเป๋า 2-way อีกใบที่ได้รับความนิยม ใบนี้จะเป็นหนังเทียมสีขาว เนื่องจากสามารถถือหรือสะพายก็ได้ จึงทำให้สะดวกในการใช้งาน แถมยังเป็นสีขาว จะใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป หรือจะถือออกไปงานก็สามารถทำได้เช่นกัน

8. EXPAND2 Hinge Clasp Backpack R [Official Limited] 6,500 เยน (ไม่รวมภาษี)

เป้แบคแพคทรงคลาสสิคอีกใบหนึ่งที่ขายดีสุดๆ เนื่องจากใบนี้เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีขายเฉพาะที่ช็อปออฟฟิเชียลเท่านั้น บวกกับสีฟ้าที่ดูโดดเด่นสะดุดตา ไม่แปลกเลยที่ใบนี้จะเป็นสินค้าขายดี

9. ATELIER Daypack 3,500 เยน (ไม่รวมภาษี)

กระเป๋าเป้ขนาดมินิ ทรงกลมมน สียีนส์ใบนี้ ก็เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ เนื่องจากขนาดที่กระทัดรัดนั่นเอง

10. EXPAND2 Backpack [Official Limited] 6,900 เยน (ไม่รวมภาษี)

แบคแพคไซส์ใหญ่รุ่นใหม่ที่ออกแบบให้มาคู่กับกระเป๋าพ็อกเก็ตเล็กๆ ซึ่งห้อยไว้ด้านหลัง สำหรับหยิบใช้ของเล็กๆ น้อยๆ ได้สะดวกและง่ายขึ้น

กระเป๋าแนะนำจากพนักงาน

กระเป๋าที่ได้รับการแนะนำมากที่สุดจากพนักงานของ anello® TOKYO ก็คือ แบคแพคสีโดดเด่นใบนี้นี่เอง เนื่องจากสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวันทั่วไป หรือจะเก็บกระเป๋าออกเดินทาง ขึ้นเขา ลงห้วย ก็สามารถนำใบนี้ไปใช้งานได้ตลอด แถมยังมีน้ำหนักเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุดๆ กับราคาเพียง 6,500 เยน (ไม่รวมภาษี) แนะนำเลย!! ถ้าหากได้มีโอกาสได้มาเที่ยวที่โตเกียว ก็อย่าลืมแวะมาช็อปกันที่ anello® TOKYO ฮาราจูกุกันสักครั้ง

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !